บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 1019 ช่วยจิ้งเหอออกมา

สีหน้าหมันเอ๋อเศร้าโศก ยื่นมืออยากดึงหยวนชิงหลิงไว้ แต่แล้วเลือดก็พุ่งออกมาเต็มปาก คนก็ค่อยๆล้มลงสู่พื้น
อะซี่อุ้มนางไว้อย่างตาไวมือไว ไม่ต้องล้มลงบนพื้น
หมันเอ๋อสลบไปไม่นาน หลังจากตื่นขึ้นมา ก็นั่งอยู่บนพื้นมือทั้งคู่กอดเข่าไว้ สีหน้าขาวซีดจนน่าตกใจ ยังสั่นเทาไม่หยุด แม่นมฉินกับหยวนชิงหลิงต่างเข้าไปกอดนางไว้ นางกัดริมฝีปากจนเป็นแผล น้ำตาไม่ไหลสักหยอด ตอนที่มองดูแม่นมฉิน น้ำตาเอ่อแต่ไม่ร่วงไหลลงมา
เกี่ยวกับที่นางถูกเลือดอาถรรพ์กับเรื่องราวทั้งหมด ยังไม่พูดอะไรสักคำ แต่หลังจากปรับอารมณ์แล้ว ก็ลุกขึ้นมาพูดกับหยู่เหวินเห้าว่า “องค์ชายรัชทายาท วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะฆ่าจวิ้นจู่จิ้งเหอ เพื่อเซ่นไหว้กู้จือสาวหมอผี ฟ้ามืดแล้วก็จะลงมือ ข้าน้อยรู้ว่าจวิ้นจู่จิ้งเหออยู่ที่ไหน ข้าสามารถนำทางพาไปได้”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา อ๋องอานกับอ๋องเว่ยกับทหารส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เชื่อถือนางแล้ว ก่อนหน้านี้นางพูดอย่างมั่นใจว่าสามารถเชื่อถือนางได้ กลับเกือบที่จะถูกนางทำร้ายให้ตายอยู่ในแดนหลงหาย
หยู่เหวินเห้ากับจิ้งถิงปรึกษากัน คิดว่าตอนนี้มีเพียงเชื่อมั่นหมันเอ๋อ ไม่เช่นนั้นเสียเวลาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์
ใช้คนไม่ต้องสงสัย คนที่สงสัยไม่ต้องใช้ หยู่เหวินเห้าพูดสั่งหยวนชิงหลิงอยู่หลายประโยค ให้พวกเขารออยู่ที่เดิม จากนั้นก็พาคนออกเดินทาง
หมาป่าหิมะเฝ้าอยู่ข้างกายหยวนชิงหลิง ตอนนี้มันสูงเท่าครึ่งคนแล้ว สง่าน่าเกรงขาม เหมือนดั่งสัตว์เทพในตำนาน
ตอนที่หมันเอ๋อไป ได้หันมามองดูหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง สายตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา กลับหันไปอย่างรวดเร็ว เดินโซเซตามไป
อะซี่ไม่ได้ตามไปด้วย มองดูอย่างทุกข์ทรมานใจ แต่ในขณะเดียวกันก็กลัว จึงถามหยวนชิงหลิงว่า “พี่หยวน หมันเอ๋อหายแล้วจริงๆหรือ?”
ในใจหยวนชิงหลิงก็ไม่มั่นใจ ไม่ค่อยรู้เรื่องเลือดอาถรรพ์ของหนานเจียง ในใจก็ค่อนข้างเป็นกังวล พร้อมพูดขึ้นว่า “หวังว่าจะหายดีแล้ว”
แม่นมฉินก็ไม่ได้ตามไปด้วย นางนั่งนิ่งอึ้งอยู่บนก้อนหิน มองดูเงาร่างของหมันเอ๋อ มีบางครั้งที่หมันเอ๋อยังคงหันกลับมา เห็นแม่นมฉินมองดูนาง ก็จะรีบหันหน้าไป ห่างไปไกลมากแล้ว ก็ยังทำให้รู้สึกว่าใบหน้าของนางยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

หมันเอ๋อนำพาขบวนใหญ่เดินมุ่งตรงไปข้างหน้า ถนนเส้นนี้เจอการซุ่มโจมตีน้อยมาก เจอเป็นบางครั้ง แต่ก็สามารถโจมตีจนถอยหนีอย่างรวดเร็ว เท่ากับเป็นการไล่ทุกคนไปยังถ้ำหมอผี
ก่อนจะถึงถ้ำหมอผี กองทัพทหารเจียงเป่ยสกัดกั้นไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาล่าถอยไป สุดท้ายทำได้เพียงเลือกที่จะต่อสู้
การเข่นฆ่าเริ่มขึ้นตรงหน้าถ้ำหมอผี อ๋องเว่ยมองเห็นจิ้งเหอที่ถูกมัดห้อยไว้ เท้าทั้งคู่ของนางลอยขึ้นจากพื้น แขวนอยู่บนกิ่งไม้ ด้านล่างเป็นหน้าผา ตกลงไปก็จะกลายเป็นศพไร้กระดูก เขามองดูอย่างร้อนรนใจ ยกดาบประทะศัตรู แต่ที่นี่ยากที่จะเอาชนะ ภายใต้การต่อสู้ที่วุ่นวาย ขึ้นไปไม่ได้กลับถูกบีบให้ล่าถอย
จวิ้นจู่จิ้งเหอฟื้นตื่นขึ้นมาหลังจากที่หยู่เหวิยเทียนถูกช่วยเหลือไป หมอผีจับนางห้อยขึ้นมา นางตกอยู่ในมือของคนเจียงเป่ย เดิมก็ไม่คิดที่จะมีชีวิตกลับไป ฆ่ากู้จือ นางไม่เคยเสียใจเลยสักนิด หากเพราะเหตุนี้แล้วต้องสูญเสียชีวิต นางถือว่าคุ้มค่า
แต่นางคิดไม่ถึงว่า เขาจะนำทหารมาช่วยนาง
แวบแรกที่มองเห็นเขา ยังคิดว่ามองคนผิด เขาเหมือนกับไม่เหมือนคนเดิมแล้ว ดำไปอย่างมาก และก็ดูตกอับอย่างมาก ไม่มีความกระฉับกระเฉง มีเพียงอย่างเดียวที่รู้สึกคุ้นเคย นั่นก็คือความฮึกเหิมในสายตา
พวกเขาไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว
ยังไงในใจก็ยังคงมีความเกลียดชัง แต่ก่อนตายได้เจอหน้าสักครั้ง ก็นับว่าหมดสิ้นทุกอย่างในชีวิตนี้แล้ว
นางรู้ ต่อให้สุดท้ายเขาได้รับชัยชนะ สามารถขึ้นมาถึงที่นี่ได้ แต่หมอผีฆ่านาง หรือโยนนางลงไป เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในทันที ยังไงนางก็หนีไม่พ้น
หมอผีบอกว่าจะใช้นางเซ่นไหว้กู้จือ แบบนั้นเจียงเป่ยถึงจะสามารถกำเนิดสาวหมอผีคนใหม่ขึ้นมาได้ นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญของเจียงเป่ย ต่อให้ต้องมีคนตายมากแค่ไหนก็ต้องทำให้สำเร็จ และวันนี้ก็เป็นวันเซ่นไหว้ เพียงรอจนถึงฟ้ามืด แสงยามเย็นสุดท้ายหายไป เมื่อความมืดมิดมาเยือน ก็สามารถฆ่านางได้
และตอนนี้ พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว

หมอผีเฒ่าสองคนก็ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มองดูการต่อสู้ แค่รอสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็จะลงมือทันที
การโจมตีไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้กองกำลังทหารเป่ยถังจะเหนื่อยล้าอ่อนแรง แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ได้อดกลั้นความโกรธไว้ วันนี้ในที่สุดก็ได้เผชิญหน้ากับศัตรูอย่างแท้จริง จึงฮึดสู้อย่างที่สุด
แต่คนเจียงเป่ยพวกนี้ ก็ผ่านการฝึกฝนมาอย่างพอสมควร และชำนาญการต่อสู้บนภูเขาเช่นนี้ ได้เปรียบตรงที่เป็นเจ้าถิ่น ชั่วขณะหนึ่ง กองทัพทั้งสองก็สังหารกันอย่างเต็มที่ ศัตรูกับคนของตนเองยากที่จะแยกออก
อ๋องเว่ยกับอ๋องอาน ในที่สุดทั้งสองคนก็สามารถได้ต่อสู้ร่วมกัน ทั้งสองคนยกดาบขึ้นแล้วก็มุ่งตรงไปหาจิ้งเหอ ฟ้ายังไม่มืดมนลง หมอผียังไม่ได้ตัดเชือก แต่ต่อสู้กับทั้งสองคนขึ้นมา
ถึงหมอผีจะดูแก่เฒ่า แต่ฝีมือการต่อสู้แข็งแกร่งมาก เพิ่งลงมือบีบจนทั้งสองคน ถอยหลังไปสองเก้าอย่างรวดเร็ว อ๋องเว่ยกระโดดลอยขึ้นในทันที คิดอยากที่จะข้ามผ่านทั้งสองคนกระโจนไปหาจวิ้นจู่จิ้งเหอ แต่หมอผีราวกับรู้วิชาบังคับลม หยุดเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากหยุดไว้แล้วก็ใช้ฝ่ามือโจมตี อ๋องเว่ย ทำได้เพียงหลบหลีกอย่างลำบาก กลับขยับเข้าไปใกล้ไม่ได้อีกสักก้าว
จวิ้นจู่จิ้งเหอเห็นถึงความอันตรายในสถานการณ์การต่อสู้ จึงอดไม่ได้ตะโกนพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องช่วยข้า พวกเจ้ากลับไปเถอะ”
อ๋องเว่ยยกดาบปะทะหมอผี ได้ยินเช่นนี้ก็รีบหันกลับไปมอง หมอผีรุกนำ ในระหว่างที่เขาเหวี่ยงดาบปะทะศัตรู ก็พูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ข้าไม่มีทางที่จะทิ้งเจ้าไว้ที่นี่เด็ดขาด”
การที่เขาเสียสมาธิ เกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด จิ้งเหอจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก มองรู้การต่อสู้นี้อย่างอกสั่นขวัญแขวน

ท้องฟ้าค่อยๆมืดมนลง แสงยามเย็นสุดท้าย ถูกความมืดมิดกลืนกิน
หมันเอ๋อตะโกนอยู่ด้านล่างว่า “ท่านอ๋อง ถึงเวลาแล้ว”
อ๋องเว่ยกำลังต่อสู้อยู่กับหมอผี ได้ยินเสียงตะโกนของหมันเอ๋อภายในความโกลาหล หันไปมองด้วยความตื่นตระหนก แล้วก็เห็นคนคนหนึ่งบินขึ้นไป ตัดเชือกที่มัดจิ้งเหอขาด จิ้งเหอตกลงไปในเหว
เมื่ออ๋องเว่ยหันไป มองดูด้วยหัวใจที่แตกสลาย กระโดดพุ่งไป สามารถดึงเสื้อผ้าของจิ้งเหอไว้ได้พอดี แต่หมอผีอยู่ข้างหลัง ใช้ดาบตัดแขนของเขา แขนหลุดลอยออกไป เลือดไหลเปื้อนร่างกายจิ้งเหอพอดี จิ้งเหอเห็นเช่นนี้ ร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง ในขณะที่ร่างกายหล่นลง มืออีกข้างของเขากลับดึงนางไว้แน่น
แขนที่ขาดแล้ว ตกลงไปในเหว เลือดที่ไหลไม่หยุดจากแขนที่ขาดกับใบหน้าขาวซีดของเขาปรากฏอยู่ในสายตาจิ้งเหอ นางเจ็บปวดสิ้นหวัง แทบจะเป็นลมตายไป
ดาบของหมอผีชูขึ้น กำลังที่จะตัดแขนอีกข้างของเขา อ๋องอานปลีกตัวออกมาขีดขวางไว้ แต่กลับละเลยที่จะระมัดระวังตัว ถูกหมอผีที่ต่อสู้อยู่กับเขาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บตรงไหล่
หยู่เหวินเห้ารีบพาคนต่อสู้มาอย่างรวดเร็ว หมอผีเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบล่าถอยเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว หินขนาดใหญ่ร่วงลง ตัดขาดกับทหารที่ไล่ติดตาม
หยู่เหวินเห้าดึงจวิ้นจู่จิ้งเหอขึ้นมา อ๋องเว่ยเห็นนางรอดพ้นจากอันตราย ค่อยปล่อยมือช้าๆ แล้วก็สลบไป
เลือดไหลอย่างรวดเร็ว ต้องจัดการบาดแผลอย่างเร่งด่วน ทุกคนถอยออกจากวงล้อม ให้หยู่เหวินเห้าจัดการบาดแผลห้ามเลือดให้กับอ๋องเว่ย
แขนถูกตัดห่างจากศอกไปหนึ่งนิ้ว รอยตัดเรียบมาก เส้นเลือดถูกตัดขาดทุกเส้น หยู่เหวินเห้าจำต้องใช้เชือกที่มัดจิ้งเหอเมื่อกี้ รัดแขนท่อนบนของเขาเพื่อห้ามเลือด แต่ก่อนที่จะหยุดเลือด ก็เสียเลือดไปมากแล้ว
อ๋องเว่ยเป็นลมไป ลมหายใจก็แผ่วเบาอย่างมาก
อ๋องอานกับหยู่เหวิยเทียนเห็นเช่นนี้ ดวงตาแดง ชักดาบขึ้นมาฆ่า ไม่สนใจว่าบนร่างกายจะมีบาดแผล อยากที่จะฆ่าคนพวกนี้ให้ตายทั้งหมด
หยู่เหวินเห้าแบกอ๋องเว่ยขึ้นมา หมันเอ๋อก็รีบวิ่งมา ประคองจวิ้นจู่จิ้งเหอ พวกเขาต้องถอยไปหาหยวนชิงหลิงก่อน ไม่เช่นนั้น อ๋องเว่ยจะไม่รอด

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset