บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 1165 ทุกอย่างเป็นเหมือนปกติ

อุตส่าห์อธิบายให้เขาฟังว่าอะซี่ตั้งครรภ์แล้ว เขายังไม่เชื่อ มองอะซี่แล้วก็ส่ายหัวอยู่ตลอด บอกว่าอะซี่ดื่มยาคุม ไม่ท้องแน่นอน
จนท่านย่าตระกูลหยวน ไม่สนใจว่าเขากำลังบาดเจ็บอยู่ กำมือเขกหัวเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าโง่ สิ่งของนั่นรับประกันได้หรือ?”
“ท่านย่า” อะซี่เป็นห่วง รีบปกป้องสามีพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าตีเขาทำไม? เดิมสมองก็ไม่ฉลาด เจ้ายังจะตีให้โง่เอง ข้าจะไปหาใครมาชดใช้?”
ทุกคนต่างก็หัวเราะขึ้นมา ท่านย่าตระกูลหยวน ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงพูดขึ้นว่า “เลี้ยงลูกสาวมา เพิ่งแต่งงานไปไม่กี่เดือน? ก็รู้จักปกป้องผู้ชายแล้ว เลี้ยงลูกสาวดีตรงไหน?”
หยู่เหวินเห้าค่อยๆพูดขึ้นว่า “จะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก หากว่าสวีอีกับอะซี่เช่นนั้น ข้ายอมที่จะมีลูกสาวอย่างอะซี่ ไม่เอาลูกชายอย่างสวีอี โง่เกินไป”
สวีอีเหมือนเพิ่งมองเห็นองค์ชายรัชทายาทก็อยู่ด้วย ท่าทีตื่นเต้นขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า “องค์ชายรัชทายาท หงเล่….”
“เขาพ่ายแพ้แล้ว” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
สวีอีพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “จริงหรือ? ดีมากเลย”
“สวีอี” หยวนชิงหลิงพูดเตือนว่า “ตอนนี้กำลังพูดถึงเจ้าเป็นพ่อคน”
สวีอีมองดูอะซี่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าหลอกข้า”
“หลอกอะไรเจ้า? เป็นความจริง อะซี่ตั้งครรภ์ลูกของเจ้า เจ้าจะเป็นพ่อคนแล้ว” หยวนหย่งอี้ยอมกับความซื่อของน้องเขยคนนี้อย่างมาก ดังนั้นจึงอดไม่ได้ตะคอกพูดกับเขา
“พี่สาว” อะซี่รีบพูดห้ามขึ้นว่า “เอาล่ะ ข้าพูดกับเขาเอง”
สวีอีค่อยเก็บอาการ นิ่งจ้องมองอะซี่ พร้อมพูดขึ้นด้วยริมฝีปากค่อนข้างสั่นเทาว่า “จริงหรือ?”
อะซี่กัดริมฝีปาก สีหน้าแดงระเรื่อ พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นเรื่องจริง ตั้งครรภ์แล้ว”

“อ้าก” ครั้งนี้สวีอีตื่นเต้นดีใจอย่างมากจริงๆ พยายามลุกขึ้นมันนั่งกอดอะซี่ พร้อมพูดขึ้นว่า “โอ้พระเจ้า เป็นไปได้อย่างไร ดื่มยาแล้วทำไมยังตั้งครรภ์ได้?”
สมองทื่อนี้ ไม่สามารถเข้าใจได้ในทันที แต่หยวนชิงหลิงเห็นเขามีชีวิตชีวาขนาดนี้ คิดว่าคงไม่เป็นอะไรแล้ว จึงไม่ตรวจให้กับเขา ให้ทั้งสองสามีภรรยามีความสุขกันให้พอ
หยวนชิงหลิงหัวเราะ จูงมือหยู่เหวินเห้าออกไป ท่านย่าตระกูลหยวนเห็นเช่นนี้ จึงก็พาทุกคนออกไป ให้พวกเขาสองสามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันสองคนตามลำพัง
ก่อนที่จะปิดประตู มองเห็นสวีอียิ้มหัวเราะจนปากจะฉีกถึงใบหูแล้ว
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้าว่า “ไปสู้รบศึกใหญ่กลับมา สวีอีเป็นพ่อคนแล้ว ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ สวีอีจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ข้ารู้สึกว่าเขายังเป็นคนซื่อที่วู่วามคนนั้น กลับจะได้เป็นพ่อคนแล้ว”
“เจ้าเองก็เป็นพ่อที่มีลูกห้าคนแล้ว” หยวนชิงหลิงหัวเราะเยาะเขา
“เพียงพริบตาเดียว เวลาผ่านไปเร็วมาก” หยู่เหวินเห้าหันกลับมากอดนางไว้ เหมือนหวนกลับไปตอนที่อยู่หอเฟิ่งหยี ตลอดทางที่เดินมานั้น มองย้อนกลับไปตอนนี้ ก็เป็นช่วงเวลาเพียงแป๊บเดียวเอง
หยู่เหวินเห้าไม่ได้อยู่ในพระที่นั่งนาน หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็พาหยวนชิงหลิงออกไป บอกว่าจะเข้าวัง ตอนที่อยู่ระหว่างทาง ค่อยเล่าสถานการณ์ของอ๋องอานให้ฟัง
อ๋องอานรักษาตัวอยู่ภายในวัง พระชายาอานกับลูก ก็ถูกส่งไปในวังแล้ว อาการอ๋องอานไม่ค่อยดี เสียเลือดมาก สะลึมสะลือ ยังไม่ฟื้นตื่นขึ้นมา
เสียเลือดก็ต้องให้เลือด โชคดีที่กล่องยาของหยวนชิงหลิง คุ้นเคยกับสิ่งพวกนี้ ทดสอบกรุ๊ปเลือดแล้วก็เริ่มให้เลือด
พระชายาอานกับลูกเฝ้าอยู่ด้านข้าง ครั้งนี้นางถูกลักพาตัวไปทำให้ตกใจไม่น้อย ร่างกายผ่ายผอมไปมาก แม้แต่ลูกก็ผอมไปมาก ตี๋กุ้ยเฟยไม่ให้นางอยู่เฝ้า ให้นางกลับไปพักผ่อน แต่นางไม่ยอมไป จะเฝ้าอ๋องอานให้ได้
หลังจากให้เลือดแล้ว อาการของอ๋องอานก็ดูค่อนข้างดีขึ้น หยวนชิงหลิงพูดกล่อมด้วยตนเอง รับประกันด้วยตนเอง  มีคำสั่งลงไปหลายคำสั่ง คำสั่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ให้อ๋องเว่ยเป็นแม่ทัพ ร่วมกับกองทหารสองกองใหญ่ มุ่งหน้าไปยังชายแดน

เรื่องที่เป่ยโม่สั่งสมกองกำลังทหาร เป็นที่รับรู้แต่แรกแล้ว แม่ทัพใหญ่ฮู่ได้นำกำลังไปเฝ้าอยู่ที่ชายแดน เกรงว่าหากเกิดการต่อสู้ขึ้นมา กองกำลังใหญ่ก็จะต้องรีบส่งไป
ก่อนที่อ๋องเว่ยจะออกเดินทาง ได้ไปหาจิ้งเหอ
เขาถามจิ้งเหอว่า “หากข้าได้ชัยชนะปลอดภัยกลับมา เจ้าจะยอมให้โอกาสข้าอีกครั้งไหม?”
จิ้งเหอรินน้ำชา ส่งให้ตรงหน้าเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าขอใช้ชาแทนเหล้า ขอให้แม่ทัพได้ชัยชนะปลอดภัยกลับมา”
เขาไม่ตอบรับ เพียงถามขึ้นอีกครั้งว่า “เจ้ายอมให้โอกาสข้าอีกครั้งไหม?”
จิ้งเหอก้มหน้าก้มตาลง ครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน แล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมามองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะไม่แต่งงานอีกไปตลอดชีวิต”
เขามองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นข้าก็จะไม่แต่งงานอีกไปตลอดชีวิต โล่โล่ ยังไงเจ้าก็อยู่ในใจข้า ข้ากระทำเรื่องที่ผิดต่อเจ้าอย่างมากมาย ที่จริงถ้าไม่มีสิทธิ์ร้องขอให้เจ้าให้อภัย สิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตนี้ คือการได้แต่งงานกับเจ้า สิ่งที่ไม่ดีที่สุดในชีวิตนี้ คือการที่ข้าปล่อยมือเจ้า”
จิ้งเหอพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ใช่สามีภรรยา ก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ เป็นญาติกันได้”
เขาพูดถึงด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ชั่วชีวิตนี้ข้าจะเฝ้าอยู่ข้างกายเจ้า เจ้ารังเกียจก็ดี เกลียดชังก็ดี ก็ไม่สามารถไล่ข้าได้ เจ้ารอข้ากลับมา”
เขาพูดเสร็จ แล้วก็สะบัดเสื้อคลุมเดินออกไปแล้ว
จวิ้นจู่จิ้งเหอจ้องมองดูเงาหลังของเขา ค่อยๆถอนหายใจ ที่จริงนางเป็นห่วงเขามาก แต่ไม่ใช่เพราะนางเล่นตัว ในขณะที่ยังปล่อยวางเขาไม่ได้ ก็ปล่อยวางสิ่งที่เขาเคยกระทำไม่ได้

คนเรามักจะสับสนจริงๆ
หลังจากที่เรื่องทุกอย่างสงบลงแล้ว ฮ่องเต้หมิงหยวนไปรับไท่ซ่างหวงกลับมาด้วยตนเอง อ๋องชินเฟิงอันสองสามีภรรยาก็ไปแล้ว ยังพาอ๋องผิงหนานซื่อจื่อไปด้วย ไท่ซ่างหวงเป็นคนอนุญาต ดังนั้นฮ่องเต้หมิงหยวนกับหยู่เหวินเห้าต่างก็ไม่ถาม ไม่ว่ายังไง ซื่อจื่อก็เคยหลอกใช้อ๋องผิงหนาน ส่วนอ๋องชินเฟิงอันสองสามีภรรยา รักใคร่อ๋องผิงหนานที่สุด จะไม่ปล่อยพวกที่เคยทำร้ายอ๋องผิงหนานไปง่ายๆแน่
อาการบาดเจ็บของหงเย่ก็ค่อยๆดีขึ้น หลังจากตื่นขึ้นมา ถือแกนพุทราแล้วก็เงียบไปนาน กลายเปลี่ยนเป็นคนที่เงียบขรึมยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า ตอนที่หยวนชิงหลิงตรวจอาการให้กับเขา เขามองดูหยวนชิงหลิง พร้อมหัวเราะพูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “รูปร่างหน้าตาของเจ้าเหมือนแม่ของข้ามาก”
“ดังนั้น?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“ไม่มีอะไรแล้ว ข้าไม่ร้องขอแล้ว วาสนาระหว่างคนเรานั้นมีจำกัด เมื่อหมดวาสนาแล้วก็ควรปล่อยวาง ข้าจะไม่ดื้อดึงอีกแล้ว” หงเย่พูดขึ้นด้วยเสียงเบา
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าเขาพูดถึงใคร ตอนที่อยากถาม เขากลับค่อยๆหลับตาลง
หันไปเห็นอะโฉ่ว จ้องมองดูหนังอย่างถมึงทึง หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องตื่นเต้น ข้าไม่ทำร้ายเขา”
“เจ้าทำร้ายเขาแล้ว” อะโฉ่วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา จากนั้นก็หยุดไปแล้วก็พูดขึ้นอีกว่า “เห็นแก่ที่เจ้าช่วยชีวิตเขากลับมา ข้าจะปล่อยเจ้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะตัดหัวของเจ้า”
หยวนชิงหลิงรู้ว่านางเป็นคนหัวรุนแรง จึงไม่พูดอะไรกับนางมาก เก็บของเสร็จก็ไปแล้ว
กลับมาถึงจวนอ๋องฉู่ ทังหยางได้เก็บกวาดเรียบร้อยหมดแล้ว สวีอีก็กลับไปพักรักษาตัว รู้ว่าทังหยางไปเป็นไส้ศึก เขาก็ตื่นเต้นมาก เกือบที่จะร้องไห้ออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่ใช่คนจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่า แต่พวกเจ้าชั่วร้ายมาก แม้แต่ข้าก็ยังปิดบัง”
“ข้าผิดไปแล้ว รอเจ้าหายดี ข้าเลี้ยงเหล้าเจ้า” ทังหยางยิ้มหัวเราะขึ้นมาอย่างอ่อนโยน
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว” สวีอีดึงมือของเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำตาว่า “ดีจริงๆ พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนแบบนั้นแล้ว เจ้ารู้มั้ยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ในใจข้าทุกข์ทรมานขนาดไหน?”
“เอาล่ะ จะเป็นพ่อคนอยู่แล้ว ดูแลตัวเองบ้าง” ทังหยางยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้น
สวีอีกลายเปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยน พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เจ้ารู้แล้วหรือ? ไอ๊หยา ข้าจะเป็นพ่อคนแล้ว ความรู้สึกนี้แปลกจริงๆ ใต้เท้าทัง ข้าจะเป็นพ่อคนแล้ว”
ทังหยางชักมือกลับ หันหน้าไป คนโง่จะสนใจอยู่ตลอดไม่ได้

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset