บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – บทที่ 174 รูปแบบการเก็บเกี่ยวผักกุยช่าย

บทที่ 174 รูปแบบการเก็บเกี่ยวผักกุยช่าย

ประตูห้องลับรักษาเปิดออกช้าๆ ก่อนที่พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะออกมา

ฟางฉางมองเสิ่นเทียน แววตาเร่าร้อนและมีความหมายลึกซึ้ง “ศิษย์น้อง ไม่ต้องพูดอะไรมาก! ข้าฟางฉางจดจำบุญคุณในวันนี้ไว้แล้ว หากภายภาคหน้ามีอะไรให้ช่วย ศิษย์พี่จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด!”

บุตรพุทธะขู่ตัวข้างๆ เห็นในที่สุดฟางฉางก็ปลอดภัยแล้ว ทั้งยังได้โชคจากเคราะห์ร้ายทะลวงแก่นพลังทองรอบเก้า

เขาก็อดถอนหายใจโล่งอกมิได้ ก่อนจะหยิบของเหลวกายทองคำขวดนั้นออกมาจากอกเสื้อ “เดิมทีอาตมาว่าจะใช้ของเหลวกายทองคำขวดนี้รักษาฟางฉาง ตอนนี้ในเมื่อฟางฉางหายดีแล้ว เช่นนั้นของเหลวกายทองคำนี่ก็ให้ศิษย์พี่เสิ่นแล้วกัน! ถือว่าเป็นน้ำใจจากอาตมา”

เสิ่นเทียนเห็นบุตรพุทธะขู่ตัวมีสีหน้าจริงจังก็ผงะไปเลย นักบวชนี่สมองกลับหรือไร

ข้าใช้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานช่วยศิษย์ร่วมฝ่ายแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ต้องให้เจ้ามาขอบคุณด้วยหรือ

ทำไมกัน เจ้าเป็นญาติคนไข้ของเจ้าฟางฉางนั่นรึ

เสิ่นเทียนอยากจะปฏิเสธ แต่บุตรพุทธะขู่ตัวกลับยัดของเหลวกายทองคำใส่มือเขาเลย

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องเกรงใจ ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานของเจ้ามีค่าสูงกว่าของเหลวกายทองคำพวกนี้มาก ถ้าเจ้าไม่ให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเยอะขนาดนั้นละก็ ฟางฉางคงไปไม่รอด อาตมาจะต้องเสียใจมากแน่!”

บุตรพุทธะขู่ตัวจริงจังมาก เพราะในกลุ่มโอรสสวรรค์ของทั้งดินแดนบูรพา พวกเขาสองคนเป็นพวกเด็กไม่เอาไหน

มิตรภาพการปฏิวัติของสองคนแน่นแฟ้นมาก มีความผูกพันกันยิ่งกว่าคู่รัก!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวข้างๆ พูดอย่างเรียบนิ่ง “ของเหลวกายทองคำคือสมบัติล้ำค่าแห่งการหล่อหลอมพื้นฐานสูงสุดของศาสตร์หลอมกายเทพมาร แม้จะไม่อาจรักษาบาดแผลแห่งมหามรรคได้ แต่สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญระดับเหนือสามัญ มันมีประโยชน์ในด้านการขัดเกลากระดูก กายและจิตวิญญาณอย่างมาก

ถ้าใช้ของเหลวกายทองคำขัดเกลากาย ชะล้างกายหยาบ กายหยาบของศิษย์หลานเสิ่นเทียนจะพัฒนาขึ้นสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม”

บุตรพุทธะขู่ตัวก็พยักหน้าเช่นกัน “บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน เจ้าไม่ต้องเกรงใจข้าอีกแล้ว รับไว้เถอะ!”

เมื่อเห็นทุกคนโน้มน้าวให้เสิ่นเทียนรับของเหลวกายทองคำแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตข้างกายก็อิจฉาจนน้ำลายไหล นั่นต้องให้ยอดฝีมือฝ่ายพุทธสลายต้นกำเนิดพลังถึงจะรวมออกมาเป็นของเหลวกายทองคำอันน้อยนิดได้!

ถ้าตอนนั้นเขาได้สมบัติล้ำค่าชนิดนี้ ขนาดฝันก็คงยังหัวเราะออกมาได้เลย!

เจ้าหนูเสิ่นเทียนยังมาเกรงใจ เจ้าไม่เอาก็ให้ข้าสิ!

ต้องบอกว่านักพรตชราได้กลิ่นของมะนาวแล้ว!

“ในเมื่อศิษย์พี่ขู่ตัวเกรงใจเช่นนี้ ข้าแซ่เสิ่นก็จะไม่ปฏิเสธแล้วกัน”

เสิ่นเทียนหยิบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดหนึ่งออกมาจากแหวนเวหา “แต่ข้าก็จะรับไว้เฉยๆ ไม่ได้ ของเหลวกายทองคำมีค่ากับข้าจริงๆ ข้าใช้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแลกกับของศิษย์พี่ขู่ตัวดีหรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้างๆ พยักหน้าเล็กน้อย “ของเหลวกายทองคำเป็นสมบัติล้ำค่าของฝ่ายพุทธ มูลค่าเหนือกว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน แม้ของเหลวกายทองคำของบุตรพุทธะขู่ตัวจะมีเพียงขวดเล็ก แต่ก็บริสุทธิ์อย่างยิ่ง มีสิบกว่าชั่งเลย ถ้าคำนวณตามมูลค่าแล้วก็มีค่าประมาณของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานยี่สิบชั่ง”

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนจะแบ่งจากของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานออกมาสามสิบชั่ง

“ข้ากับศิษย์พี่ขู่ตัวพบกันครั้งแรกก็เหมือนรู้จักกันมานาน สามสิบชั่งแล้วกัน!”

เมื่อเห็นขวดที่เสิ่นเทียนส่งมาในมือตนแล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวก็อึ้งไป

แม้จะบอกว่าของเหลวกายทองคำมีค่าเท่ากับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานยี่สิบชั่ง แต่ความจริงน้อยกว่านั้นหน่อย เพราะมูลค่าของของเหลวกายทองคำหลักๆ จะเหมาะสมให้ผู้ฝึกบำเพ็ญศาสตร์หลอมกายเทพมารขัดเกลากายหยาบ มีวงจำกัดกว้างมาก

แต่ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน แม้จะขัดเกลากายหยาบให้ผลไม่เท่าของเหลวกายทองคำ แต่ก็มีประสิทธิผลทรงพลังอย่างรักษาบาดแผลแห่งมหามรรค

หากพกของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานไว้ขวดหนึ่งตลอด ยามจำเป็นจะช่วยชีวิตได้ มีประโยชน์กับผู้ฝึกเซียนอย่างมาก

บุตรพุทธะขู่ตัวกล้ามั่นใจเลยว่าถ้าเอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสามสิบชั่งนี้ไปแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี จะต้องแลกเป็นของเหลวกายทองคำสิบห้าชั่งขึ้นไป กระทั่งยี่สิบชั่งได้อย่างแน่นอน

เวลานี้ บุตรพุทธะขู่ตัวตะลึงไปกับความกล้าได้กล้าเสียของเสิ่นเทียน

“นี่…นี่จะไปได้อย่างไรกัน ไม่ได้”

แต่เสิ่นเทียนกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น ตอนนี้เขากำลังมีความสุข!

หลังจากเกาะโชคลิขิตของฟางฉางมาครั้งหนึ่ง ดวงชะตาเขาก็เพิ่มขึ้นจนปรากฏแสงสีแดง

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าการผูกมิตรกับพวกบุตรแห่งโชคสีทองคำพวกนั้นสำคัญเพียงใด

เสิ่นเทียนมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานในแหวนเวหาอีกเป็นแอ่งน้ำ กระทั่งใช้หน่วยวัดตันได้ ในทางตรงข้าม ของเหลวกายทองคำมีผลกับเสิ่นเทียนที่ตอนนี้เพิ่งทะลวงระดับเหนือสามัญอย่างยิ่ง

หากได้ของเหลวกายทองคำขวดนี้ คุณสมบัติกายของเสิ่นเทียนจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ภายภาคหน้าหากเจอโชคลิขิตจะมีทักษะการเอาตัวรอดดียิ่งขึ้นอีก

มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนยังเคยทดสอบมาว่าคนที่แบ่งปันโชคลิขิตให้จะมีดวงชะตาเพิ่มขึ้น เขาแบ่งของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานให้บุตรพุทธะขู่ตัว ดวงชะตาเขาก็น่าจะแกร่งขึ้นไม่น้อยเช่นกัน

ถึงตอนนั้นบุตรพุทธะขู่ตัวดวงชะตาแกร่งขึ้นก็ดีกับเสิ่นเทียนอีก จะมีโชคลิขิตขาดมือหรือ

อย่าจับปลาในสระน้ำแห้งขอด ให้เดินบนเส้นทางต่อยอดไปได้ต่างหากคือราชธรรม!

ต้องเกี่ยวต้นกุยช่ายไปทีละรอบๆ บางครั้งก็ต้องใส่ปุ๋ยลงไปด้วย

“บุตรพุทธะขู่ตัว เจ้ากับศิษย์พี่ฟางฉางสนิทสนมกันดั่งพี่น้อง ส่วนข้าก็มองศิษย์พี่ฟางฉางเป็นพี่ชาย ดังนั้นเจ้าคิดให้ดีๆ แซ่เสิ่นกับเจ้าจะเป็นเหมือนพี่น้องเช่นกันใช่หรือไม่ ในเมื่อเจ้ากับข้าสนิทสนมกันเหมือนพี่น้องแล้ว ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแค่นี้จะเกรงใจอะไรกัน!”

เสิ่นเทียนพูดพร้อมกับยัดของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานใส่ในมือบุตรพุทธะขู่ตัว

“ถ้ามีเยอะ ศิษย์พี่ก็แบ่งให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีได้ แดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้าเป็นมิตรกัน กับอีแค่ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานนิดหน่อย ศิษย์พี่ขู่ตัวไม่ต้องปฏิเสธเลย”

บุตรพุทธะขู่ตัวครุ่นคิด สุดท้ายก็รับไว้ด้วยความจำใจ ปากยังพึมพำละอายใจๆ

ตอนที่ขู่ตัวเก็บของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน เสิ่นเทียนยังตั้งใจสังเกตหน้าผากเขา

สีทองเหนือศีรษะบุตรพุทธะขู่ตัวสว่างไสวขึ้นจริงๆ!

เสิ่นเทียนตาเป็นประกายขึ้นมาในทันที เหมือนกับเห็นผักกุยช่ายในบ้านตนโตขึ้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็แบ่งของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานหลายสิบชั่งที่เหลือในขวดนั้น แบ่งไปขวดละเจ็ดแปดชั่ง เขาแบ่งเป็นสิบกว่าขวดให้คนอื่นๆ ในห้องลับ

ฉินอวิ๋นตี๋ จางอวิ๋นถิง จางอวิ๋นซี พวกจ้าวเฮ่าได้แบ่งไปคนละขวด

เวลานี้ เสิ่นเทียนรู้สึกว่าแสงสว่างทั้งห้องลับสว่างไสวขึ้นมาก

นั่นคือสีสันของผักกุยช่ายเติบโต นั่นคือสีแห่งความสุข!

ศิษย์สายตรงที่ได้รับของขวัญต่างตกใจที่ได้รับความเมตตาเกินคาด พวกเขาคว้าขวดไว้แน่นไปพลาง บอกปฏิเสธไปพลาง

“มันจะได้อย่างไรกัน ศิษย์พี่จะแบ่งโชคลิขิตให้ข้าเยอะเช่นนี้ได้อย่างไร!”

ผลคือทั้งห้องลับเต็มไปด้วยความสุข อบอวลไปด้วยแสงสว่างแห่งความกลมเกลียว

…..

ตอนนี้เอง จิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ในอกเสื้อสั่นไหวเบาๆ “นายท่าน มีแรงอาฆาตเจ้าค่ะ”

เสิ่นเทียนอึ้งไป ก่อนจะมองตามสัมผัสของจิ่วเอ๋อร์ไปเจอนักพรตชรา

ใช่ เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตนั่นเอง ตอนนี้เขามองเสิ่นเทียน ดวงตาเปล่งแสงสีเขียวมันขลับ

เสิ่นเทียนหนาวสั่นขึ้นมา แม่งเกือบทำให้ทางเดินลำบากแล้ว ให้ของขวัญจะลืมเหล่าผู้นำได้อย่างไร

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็หยิบของเหลวศักดิ์สิทธิ์อีกสามขวดมาจากแหวนเวหา

ถึงอย่างไรเขาก็มีสองร้อยกว่าขวด ไม่ได้ปวดใจเลยสักนิด

เสิ่นเทียนมอบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสามขวดให้พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สามคนด้วยความนอบน้อม

“อาจารย์ อาจารย์ลุง อาจารย์อา ศิษย์ขอมอบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสามขวดนี้ให้พวกท่าน”

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนที่ทำหน้าจริงใจแล้ว สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็สั่นกระเพื่อมเบาๆ

เขาเอ่ยนิ่งๆ ว่า “เทียนเอ๋อร์รู้เรื่องเช่นนี้ อาจารย์ปลื้มใจยิ่งนัก แต่เจ้าเก็บของเหลวศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ไว้เองเถอะ! ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าไว้เยียวยารักษา เทียนเอ๋อร์เองก็มีไม่มาก ไม่ต้องให้อาจารย์หรอก”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว เสิ่นเทียนก็ยิ้ม “นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของศิษย์! อาจารย์รับไว้เถอะ! ไม่ต้องเป็นห่วงศิษย์ ศิษย์ยังมีอีก!”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็หยิบขวดหยกเล็กมาจากแหวนเวหาอีกสิบขวด

กลิ่นหอมสดชื่นที่มีท่วงทำนองมรรคเหมือนกัน ขยับแสงสีเงินเหมือนกัน

เวลานี้ ทุกคนในห้องลับเงียบเป็นเป่าสาก

ทุกคนจ้องเสิ่นเทียนที่ยิ้มหน้าบานดูเหมือนถ่อมตัวชอบอยู่เงียบๆ

ตอนนี้พวกเขาอยากถามเสิ่นเทียนคำหนึ่ง ‘หมดรึยัง นี่เจ้ามีเท่าไรกันแน่!’

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองนักพรตชราเชิงหยอกล้อ สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหว

พูดความจริง ตอนนี้เขาอยากสัมภาษณ์ความรู้สึกของศิษย์พี่ใหญ่สักหน่อย

…..

ขณะเดียวกัน ในมุมแห่งหนึ่งของห้องลับ

เฉินจงเทียนที่กว่าจะทำใจได้มั่นคงอีกครั้งและฟื้นขึ้นมาเห็นภาพที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาเหลือก ร่างชักกระตุกไปทั้งตัว

ภาพหลอน ต้องเป็นภาพหลอนแน่!

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานอะไร ของปลอม เป็นของปลอมทั้งหมด!

พี่ข้าบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมีบุคลิกแห่งมหาจักรพรรดิ กดขี่อยู่เหนือศัตรูทุกคนในใต้หล้า

ไม่อยากเชื่อว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะใช้ภาพมายามาหลอกข้า รอข้าจุดเพลิงแห่งหกหน้าก่อน!

ข้าจะปกครองแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้พวกเจ้าเห็นดี อัดให้พวกเจ้าหมอบ!

ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ!

ผู้สรรเสริญนามแท้จริงของศิษย์พี่เซ่าเสวียนจะพบชีวิตนิรันดร์ในวัฏจักร

ข้าเห็นหนทางบรรลุเซียนในภาพฝันแล้ว ข้าจะเหาะขึ้นฟ้าแล้ว!

ขอพลังจงสถิตอยู่กับข้า!

……………….

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
Status: Ongoing
อ่านนิยายบุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนเพราะความสามารถพิเศษหลังข้ามมิติมา ทำให้เสิ่นเทียนกลายเป็นบุคคลนำโชคผู้เป็นที่ต้อนรับที่สุดในโลกบำเพ็ญเซียน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset