บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 550 เกี่ยวกับชีวิตคนคนหนึ่ง

หยงซือเหม่ยอารมณ์ไม่ดี จึงไปหาเพื่อนที่นิสัยไม่ดีออกไปเที่ยว และหนึ่งในนั้นก็มีโจวเมิ่งเจี๋ยลูกพี่ลูกน้องของเธอ

นายท่านหยงมีลูกชายหนึ่งคนลูกสาวหนึ่งคน หยงเหม่ยซินเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ลูกชายคนเดียวที่อยู่ข้างกาย หยงซือเหม่ยใช้ชีวิตกบคุณน้าหยงกั๋วอวี่กับน้าสะใภ้โจวซินตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าเธอคุ้นเคยกับคนตระกูลโจวเป็นอย่างมาก

เพียงแต่ว่า พวกเขาไม่เคยพาเธอไปสถานที่ที่ดีเลย แต่กลับพาเธอไปสถานบันเทิงสำมะเลเทเมา พอนานเข้า ทำให้หยงซือเหม่ยมีนิสัยไม่ดีเยอะมาก

“ซือเหม่ย เป็นยังไงบ้าง คุณชายลู่คนนั้น เธอตามจีบได้หรือยัง?”

โจวเมิ่งเจี๋ยเห็นหยงซือเหม่ยอารมณ์ไม่ดี จึงเป็นฝ่ายพูดคุยกับเธอ

หยงซือเหม่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็นึกถึงเรื่องที่ถูกลู่จิ้นยวนปฏิเสธ จู่ ๆ ก็สาดเหลล้าในมือไปที่ตัวโจวเมิ่งเจี๋ย “ฉันไม่พูด เธอก็หุบปากไม่ได้เหรอ?

จะพูดอะไรมากอะไรขนาดนั้น?

โจวเมิ่งเจี๋ยคิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ไว้หน้าตนเองต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แต่ก็ไม่สามารถโมโหเธอได้ ทำได้เพียงแค่อดทนไว้ แต่กลับพูดประจบประแจงหยงซือเหม่ย

“ไม่อย่างงั้น ฉันหาคนไปสั่งสอนผู้หญิงคนนั้นสักหน่อยก็สิ้นเรื่อง?

ในเมื่อที่นี่คือถิ่นของพวกเรา อยากจะลงมือกับผู้หญิงสักคน ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเหรอ?

หยงซือเหม่ยเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เธอเคยคิดวิธีนี้มาก่อน เพียงแต่ว่าถ้าหากเธอหาคนทำเรื่องแบบี้แล้วถูกนายท่านจับได้ งั้นเรื่องก็ต้องใหญ่แน่ ๆ

ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ โทรศัพท์ของหยงซือเหม่ยก็ดังขึ้น เป็นซ่งรั่วอวิ้นที่โทรมา

“อะไรนะ เธอตามหาไขกระดูกที่เข้ากันได้แล้วเหรอ?”

เมื่อได้ยินข่าวนี้ หยงซือเหม่ยก็เอ่ยปากขึ้นมา “ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้ คนคนนั้นเป็นใคร?

ให้เธอมาพบฉัน !”

ถ้าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่สุดที่จะใช้ข่มขู่เวินหนิง

หยงซือเหม่ยไม่อยากเที่ยวต่อในทันที จากนั้นก็บอกพวกเขา แล้วเดินออกไป โจวเมิ่งเจี๋ยปาขวดเหล้าในมือทิ้งไป

“หยงซือเหม่ย คิดจริง ๆ เหรอ ว่าตัวเองเป็นคุณหนูใหญญ่โตอะไร ก็แค่ของปลอมแค่นั้นแหละ บังอาจกล้าทำแบบนี้กับฉัน…”

โจวเมิ่งเจี๋ยกับน้าสะใภ้ของหยงซือเหม่ยความสัมพันธ์ดีมากมาตลอด สำเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่ผ่านมา เธอรู้ดีกว่าคนของตระกูลหยงด้วยซ้ำ

ตอนนั้น ตระกูลหยงสั่งให้คนไปเมืองเจียงเฉิงพาลูกของหยงเหม่ยซินกลับเมืองจิงเฉิง แต่โจวซินกลัวว่านายท่านจะลำเอียงรักลูกสาว จะแบ่งมรตกให้หลานสาวในอนาคตคนนี้มากกว่า จึงหาคนจากสถานเด็กกำพร้ามาเปลี่ยนตัว

ถึงเวลา วันที่นายท่านจะจากไป พวกเขาก็สามารถพูดเรื่องที่หยงซือเหม่ยไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับตระกูลหยงออกมาได้ เพื่อที่จะนำทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหยงใส่กระเป๋า

เพียงแต่ว่า ร่างกายของนายท่านหลายปีมานี้แข็งแรงเป็นอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะแบ่งมรดกตอนไหน ดังนั้น ตระกูลโจจึงทำได้เพียงวางแผนที่จะให้โจวเมิ่งเจี๋ยไปไหนมาไหนกับหยงซือเหม่ย ทำให้เธอกลายเป็นคนโง่เง่า ในเวลานั้นเธอจะได้ไม่มีความสามารถในการกอบโกยทรัพย์สิน

“หึหึ รอให้นายท่านของตระกูลของแกตายไป หยงซือเหม่ย ฉันจะต้องเหยียบแกอยู่ใต้ตีนของฉันแน่”

โจวเมิ่งเจี๋ยหน้าบูดหน้าบึ้ง ดูไปแล้วน่ากลัวมาก

หยงซือเหม่ยกลับมาที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็ว แต่ว่าเห็นเพียงแต่ซ่งรั่วอวิ้นอยู่คฤหาสน์คนเดียว “นี่มันเรื่องอะไรกัน  การตอบสนองแรกของเธอ ก็คือซ่งรั่วอวิ้นกำลังเล่นตลกกับตัวเองอยู่ เดินเข้ามาจะตบหน้าเธอ

“คนคนนั้นก็คือฉัน ฉันจับคู่กับเธอสำเร็จ”

ซ่งรั่วอวิ้นหลบมือของหยงซือเหม่ย พูดอย่างใจเย็น

แต่ในใจก็ยังมีความเศร้าอยู่บ้าง หลังจากที่หยงซือเหม่ยกับโจวเมิ่งเจี๋ยวเตร็ดเตร่ไปทั่ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่

เธออยากให้น้องสาวคนนี้กลับมาเดินถูกทาง แต่มักจะถูกเธอเข้าใจผิดว่าตัวเองอวดดีอะไร

“อะไรนะ?

จริงเหรอ?

หยงซือเหม่ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ซ่งรั่วอวิ้นมองดูผลรายงาน เธอจับคู่กับคุณแม่ของเวินหนิงสำเร็จจริง ๆ

หยงซือเหม่ยหรี่ตาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ตอนนี้หาคนที่สามารถช่วยแม่ของเวินหนิงได้ นี่สวรรค์ช่วยเธอชัด ๆ

เพียงแต่…หยงซือเหม่ยเชื่อซ่งรั่วอวิ้นไม่ได้ จึงเหลือบมองเธอ “เธอติดต่อกับเวินหนิงแล้วยัง?”

“ตอนนี้ยัง”

ซ่งรั่วอวิ้นยังไงก็เข้าข้างคนของครอบครัวตัวเอง จึงรายงานกับหยงซือเหม่ยก่อน

“งั้นก็ดี เธอไปบอกเวินหนิง ว่าไขกระดูกของคนที่สามารถเข้ากันได้ก็คือฉัน”

มีเพียงแบบนี้ หยงซือเหม่ยถึงจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ให้ได้มากที่สุด ให้เวินหนิงเลิกกับลู่จิ้นยวน

“นี่…”

“นี่ นี่อะไร?

ฉันให้เธอทำ เธอทำก็ถูกแล้ว หรือว่าเธอไม่เต็มใจ?”

“ได้สิ…แต่ว่าซือเหม่ย เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตคนคนหนึ่ง เธออย่าทำเรื่องร้ายแรงเกินไป”

หยงซือเหม่ยโมโห “ทำเหมือนกับตัวเองจิตใจงดงาม?

ฉันเพียงแค่อยากให้เธอเลิกกับลู่จิ้นยวน สำหรับชีวิตคุณแม่ของเธอ ฉันไม่สนใจหรอก”

พูดจบ หยงซือเหม่ยก็รีบกลับห้องของตัวเอง เธออยากจะวางแผนให้ดี ว่าจะใช้ประโยชน์จากโอกาสครั้งนี้ยังไง

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลหยงทุกเรื่อง เวินหนิงไม่ได้รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น

เมื่อวานลู่อันหรานแอบออกไปกินของกับลู่จิ้นยวน แต่กลับไม่ระวังกินของจนท้องเสีย ตอนนี้กำลังนอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียง

เวินหนิงทำถุงร้อนให้เขา ให้ลู่อันหรานกอดเอาไว้ก่อน เธอร้อนใจเป็นอย่างมาก

“คุณแม่ครับ ผมไม่เป็นไรใคร”

ลู่อันหรานใบหน้ารู้สึกผิด

หลายวันมานี้ เขาอยู่กับเวินหนิงที่นี่ตลอด จึงคิดว่าจะเพิกเฉยต่อพ่อของตัวเองไม่ได้ ตอนค่ำฉวยโอกาสตอนที่เวินหนิงเหนื่อยแล้วเข้านอนเร็ว จึงแอบออกไปหาลู่จิ้นยวน

เป็นไปไม่ได้ที่ลู่จิ้นยวนจะตามใจเขาแบบนี้ แต่ไม่กี่วันมานี้ไม่ได้อยู่กับลู่อันหราน แต่สำหรับลูกชายจอมซนคนนี้ก็ดูสนิทสนมขึ้นไม่น้อย จึงสัญญากับเขาว่าจะออกไปกินอาหารดึก

คิดไม่ถึงว่าลู่อันหรานไปกินของมั่ว ๆ ที่ถนนคนเดิน จึงท้องเสียเข้าจริง ๆ

“ไม่เป็นอะไรอะไรหละ ลูกดูหน้าลูก ซีดขาวขนาดนี้ ช่างเหอะ แม่พาลูกไปโรงพยาบาลเถอะ”

เวินหนิงเห็นลู่อันหรานยังคงโอ้อวด ทั้งร้อนใจทั้งโมโห คิดไปคิดมา ไปโรงพยาบาลจะปลอดภัยที่สุด จึงเปลี่ยนชุดให้กับลู่อันหราน จะอุ้มเธอไปโรงพยาบาล

ลู่อันหรานเกลียดโรงพยาบาลมากที่สุด แต่รู้สึกถึงความปวดเกร็งที่ท้อง ก็ไม่ดื้อดึงอีก แล้วปล่อยให้เวินหนิงอุ้มเขาขึ้นมาอย่างว่าง่าย

แต่ยังไงเขาก็เป็นเด็กห้าขวบ เวินหนิงผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเขาเดิน เปลืองแรงนิดหน่อยจริง ๆ

กว่าจะอุ้มเขาออกมาจากโรงแรมได้ ก็เจอช่วงเวลาไปทำงานที่รถติดมาก ๆ จึงเรียกรถแท็กซี่ได้ยาก

เวินหนิงปวดหัวในทันที เธอควรจะเรียนขับรถ ก่อนหน้านี้อยู่ที่เมืองเจียงเฉิงสามารถเรียกคนขับรถมารับตัวเองได้ทุกเมื่อ ตอนนี้หน้าถึงกับโง่เขลา

เวินหนิงมีความคิดที่จะกลับไปเรียนใบขับขี่ เวินหนิงมองดูลู่อันหราน “อันหราน อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว”

ลู่อันหรานมองเวินหนิงเหงื่อแตกจากความเหนื่อยล้า “คุณแม่ครับ ไม่อย่างงั้น เรียกคุณพ่อไปส่งพวกเราเถอะครับ”

เวินหนิงลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอรู้ว่าตอนนี้หาลู่จิ้นยวนค่อนข้างไว แต่ว่า…

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset