ถังซีมองหน้าเซียวเจี่ยนแล้วยิ้มมุมปาก “คุณคือ…”
เซียวเจี่ยนจ้องมองถังซีอย่างพิจารณา ลุกขึ้นยื่นมือออกไปหาเธอ “ผมเซียวเจี่ยน จากเซียวกรุปครับ”
“เซียวเจี่ยนเหรอคะ” ถังซียิ้ม จับมือกับเขา “สวัสดีค่ะ ลูกผู้พี่ คุณปู่เล่าเรื่องคุณป้าให้ฉันฟังเมื่อคืนนี้ ฉันคิดไว้ว่าจะไปเยี่ยมคุณป้าบ่ายวันนี้ แต่งานเป็นเรื่องด่วนฉันจึงมาที่นี่ก่อนเมื่อมาถึงเมือง A”
เซียวเจี่ยนดูท่าทางประหลาดใจ เขามองหน้าถังซี กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว “ผมรู้สึกคุ้นเคยกับคุณมากเมื่อเจอคุณที่สนามบินครั้งก่อน ปรากฏว่าเราเป็นญาติกันทางสายเลือดจริงๆ”
ถังซีชะงัก เพิ่งนึกออกว่าเธอพบกับพี่เจี่ยนตอนไปเมืองหลวงกับเฉียวเหลียงครั้งล่าสุด พระเจ้า! เธอลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง แล้วยังแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขาอีก!
ถังซีรีบแสร้งทำเป็นนึกขึ้นมาได้ “โอ จริงด้วยสิคะ ฉันพบคุณครั้งสุดท้ายตอนที่ฉันขึ้นเครื่องบินจากเมือง A ไปเมืองหลวง ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ฉันยุ่งมากเลยลืมไป โปรดอย่าถือสาเลยนะคะ ลูกผู้พี่”
เซียวเจี่ยนยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“เอาละ เรามาคุยธุระกันดีกว่า” เซียวเหยาขมวดคิ้ว
ถังซีหันไปมองเซียวเหยา เซียวเจี่ยนจึงรีบแนะนำเซียวเหยาและเซียวส่าให้ถังซีรู้จัก ถังซีทักทายคนทั้งสอง แล้วหันไปมองเฉียวเหลียง “เอาละค่ะ เริ่มเรื่องงานกันเถอะ”
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ถังซีนั่งอยู่บนเก้าอี้พลิกดูเอกสารเสนอซื้อกิจการ “นายวิลเลียมคนนี้ลึกลับมาก แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขา มีคนชื่อวิลเลียมมากมายเหลือเกินบนโลกใบนี้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวิลเลียมเป็นนามแฝงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าเราไม่ควรบุ่มบ่ามยื่นข้อเสนอกับเขา ก่อนที่เราจะรู้จักตัวตนที่แท้จริง”
เฉียวเหลิยงมองหน้าเธอและพยักหน้า “ผมเห็นด้วยกับประธานถัง จุดประสงค์ของเราคือซื้อฉินกรุป โดยไม่ให้กระทบกระเทือนบริษัทของเรา”
“ถ้าอย่างนั้นเราจะล้มเลิกแผนซื้อกิจการหรือเปล่า” เซียวเจี่ยนมองหน้าเฉียวเหลียง กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว “จู่ๆ ธนาคารบางแห่งก็ยกเลิกความร่วมมือที่มีกับบริษัทผมเมื่อเช้านี้ และโครงการบางอย่างที่เราร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ก็ยุติลงเหมือนกัน ผมคิดว่าฉินกรุปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
ถังซีหรี่ตามองหน้าเซียวเจี่ยน “เมื่อเช้านี้เหรอคะ”
เซียวเจี่ยนพยักหน้า ถังซีหันไปมองผู้ช่วยหวังทันที ผู้ช่วยหวังพยักหน้าแล้วออกไปโทรศัพท์ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมาและกระซิบกับถังซีว่า “ตามข้อมูลที่ฉันได้รับ ฉินกรุปเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าให้พวกเขา คนเหล่านั้นจึงยุติการให้ความร่วมมือกับเซียวกรุปค่ะ”
ถังซียิ้มมุมปาก แต่ดวงตาเธอเยือกเย็น เธอมองเซียวเจี่ยนและกล่าวอย่างใจเย็นว่า “กรุณาดำเนินโครงการเหล่านั้นต่อไปได้เลย เอ็มไพร์กรุปจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนของเซียวกรุปนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ทันใดนั้นผู้ช่วยเซียวเจี่ยนก็รีบร้อนเข้ามา “ท่านประธานครับ นักข่าวหลายคนมารออยู่หน้าบริษัทเรา ดูเหมือนว่ามีใครบางคนปล่อยข่าวลือ ว่าโครงการของเราไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะเครือข่ายเงินทุนยกเลิกการสนับสนุนเรา โปรดกลับไปดูด้วยเถอะครับ!”
เซียวเจี่ยนผุดลุกขึ้นทันที ถังซีก็ลุกขึ้นด้วยเช่นกัน เธอขมวดคิ้ว หันไปมองเฉียวเหลียง แล้วกล่าวว่า “ประธานเฉียวคะ ดูเหมือนเราจะต้องตัดเขี้ยวเล็บผู้ชายคนนี้ ก่อนจะสืบรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเสียแล้ว”
เซียวเจี่ยนกวาดตามองพวกเขา และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ผมจะกลับไปตรวจสอบดูก่อน”
เซียวเจี่ยนออกไปอย่างรวดเร็ว ถังซีหันกลับไปมองคนอื่นๆ “ถ้าเป็นแบบนี้ เราเริ่มลงมือจัดการซื้อฉินกรุปเลยดีกว่า เพราะคงต้องใช้เวลามากขึ้นอีกหน่อย”
ก่อนหน้านี้เฮ่อหว่านโจวรู้สึกผิดหวังที่พวกเขาไม่เริ่มซื้อฉินกรุปในทันที เพราะเขาเองต้องการใช้โอกาสในการครอบครองกิจการครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นนำเฮ่อซิงกรุปเข้าสู่เมืองหลวง เมื่อได้ยินว่าพวกเขาตัดสินใจจะดำเนินการเดี๋ยวนี้เขาก็ยิ้มอย่างยินดี “คุณมั่นใจได้ ด้วยศักยภาพของเอ็มไพร์กรุป เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป และเฮ่อซิงกรุปของเรา พวกเราสามารถเอาชนะอิทธิพลใดๆ ในแวดวงธุรกิจได้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงไรก็ตาม”
ถังซีมองหน้าผู้ช่วยหวัง ซึ่งส่งต่อคำสั่งของเธอทันที ถังซียิ้ม “แต่เราจำเป็นต้องแก้วิกฤตของเซียวกรุปก่อน”
ผู้ช่วยหวังมองหน้าถังซีด้วยสายตาเป็นคำถาม แต่ในไม่ช้าเธอก็รู้ว่าถังซีหมายถึงอะไร เธอลุกขึ้นทันที “ฉันจะติดต่อฝ่ายกลยุทธ์ ฝ่ายพัฒนาการลงทุน และฝ่ายการเงินทันทีค่ะ ฉันเชื่อว่าเราจะสามารถแก้วิกฤตของเซียวกรุปได้โดยเร็วที่สุด”
เฉียวเหลียงหันไปมองตากู้อวิ๋น กู้อวิ๋นลุกขึ้น กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปของเราก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเซียวกรุปด้วยเช่นกันครับ อย่างไรก็ตาม หากเซียวกรุปชนะ ฉินกรุปจะต้องได้รับความเสียหายร้ายแรง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหว่านโจก็กล่าวด้วยว่า “เมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเรามาร่วมมือกันลงสนามต่อสู้ระหว่างเซียวกรุปกับฉินกรุปกันเถอะ ผมเชื่อว่าเราจะชนะแน่นอน”
ถังซีลุกขึ้นยืน หันไปมองคนอื่นๆ รอบกายด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณมากนะคะ”
เซียวเหยาก็กล่าวด้วยเช่นกัน “ขอบคุณมากครับ”
เซียวส่าและเซียวจิ่งสบตากัน กล่าวกับพวกเขาพร้อมกันว่า “เราก็ขอขอบคุณมากๆ เช่นกัน”
จากนั้นทุกคนก็เสร็จสิ้นการประชุม และออกจากเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป
เซียวเจี่ยนนั่งอยู่ในรถ โทรหาแผนกประชาสัมพันธ์ของเซียวกรุป สั่งให้จัดการกับรายงานข่าวเกี่ยวกับบริษัท จากนั้นก็โทรหาผู้จัดการทั่วไป สั่งให้เขารับหน้านักข่าวที่รออยู่ที่บริษัท และยังติดต่อไปยังคู่ค้าคนหนึ่งด้วย…
อย่างไรก็ตามบุคคลนั้นหาข้อแก้ตัวและรีบวางสายไปอย่างรวดเร็ว เซียวเจี่ยนขมวดคิ้ว ผู้ช่วยมองหน้าเขา เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ท่านประธานเซียว เราไปหาพวกเขาด้วยตนเองดีไหมครับ”
เซียวเจี่ยนลูบหัวคิ้ว ส่ายศีรษะ “ไม่ ในเมื่อพวกเขาตัดสินใจไม่ร่วมมือกับเรา ก็แสดงว่าต้องมีใครสักคนเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าให้พวกเขา ถ้าเราไปหาด้วยตัวเอง คนพวกนี้จะบีบให้เราเสนอเงื่อนไขที่เราให้ไม่ได้ เรากลับไปที่บริษัทก่อนดีกว่า”
เขาคิดว่าวิธีการที่โหรวโหรวนำมาใช้นั้นถูกต้อง เป็นการไม่ถูกต้องที่จะยอมจำนนต่อผู้ที่แข็งกร้าวใส่เรา
นอกจากนี้คนพวกนั้นก็ทำร้ายครอบครัวเขาอย่างร้ายแรง ถ้าเขายอมจำนนต่อคนพวกนั้น ปล่อยเถาเยี่ยนกับครอบครัวให้รอดไปได้ เขาจะต้องดูถูกตัวเอง
ทันทีที่ไปถึงเซียวกรุป นักข่าวกลุ่มหนึ่งก็กรูกันเข้ามา
“ท่านประธานเซียวครับ มีข่าวออกมาว่าโครงการบลูซีเบย์ถูกระงับ เพราะนักลงทุนถอนการลงทุน จริงหรือเปล่าครับ”
“ท่านประธานเซียว เขาว่ากันว่าเครือข่ายเงินทุนของบริษัทคุณยกเลิกการสนับสนุน แล้วเซียวกรุปจะล้มละลายไหมครับ”
“ท่านประธานเซียว โปรดพูดอะไรหน่อยสิคะ!”
“ท่านประธานเซียวครับ โครงการของบริษัทคุณยุติการดำเนินการเกือบทั้งหมด เป็นเพราะคุณทำให้ใครบางคนขุ่นเคืองใช่ไหมครับ”
“ท่านประธานเซียว ช่วยพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเซียวกรุปหน่อยได้ไหมครับ”
เซียวเจี่ยนขมวดคิ้ว “ผมบอกพวกคุณได้เพียงว่า โครงการเหล่านั้นจะไม่ถูกยกเลิก สิ่งที่คุณได้ยินมาทั้งหมดคือข่าวลือที่เป็นเท็จ!”