ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1165 กระแสปลาไข่

หลังจากวันวิคตอเรียผ่านไป ฉินสือโอวกับวินนี่ต้องมาเตรียมเรื่องงานหมั้นต่อแล้ว
งานเกี่ยวกับพวกงานเลี้ยงจะเป็นพ่อและแม่ของวินนี่ดูแล ส่วนงานอื่นๆ จะเป็นฉินสือโอวดูแล เขาต้องจองโรงแรมให้แขก และแขกที่มางานครั้งนี้หลายคนมีฐานะที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นเขาจึงวานเรคให้ช่วยติดต่อโรงแรมห้าดาวของเมืองเซนต์จอห์น ดูท่าแล้วสองวันนั้นคงต้องเหมาทั้งชั้น
ตอนเย็นถ้าไม่มีอะไรทำ ฉินสือโอวก็จะพาวินนี่ไปดูคลื่นทะเล ทั้งคู่เดินจูงมือนิ้วประสานกันไปบนชายหาดอย่างเงียบๆ ฟังเสียงคลื่นเพราะๆ กระทบชายฝั่ง มองดูแสงดาวสุกสกาวสีน้ำเงินบนท้องฟ้า ตอนนี้มักจะเป็นตอนที่ภายในใจของเขาสงบมากที่สุด
ในไม่ช้า กองกำลังหลักของฝูงปลาไข่ก็มาถึงแล้ว ฟาร์มปลาจึงคึกคักขึ้นมา
เช้าวันหนึ่ง อยู่ดีๆ ก็มีปลาตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือจำนวนนับไม่ถ้วนลอยมาตามคลื่นจนกระโดดมาอยู่บนชายหาดทราย พอคลื่นซัดมาอีกระลอก ก็จะพัดพาปลาจำนวนหนึ่งมาพร้อมๆ กับพาปลาจำนวนหนึ่งล่องลอยไป วนเวียนไปมาอยู่อย่างนี้…
เมื่อคืนฉินสือโอวมองเห็นฉากนี้ผ่านจิตสำนึกแห่งโพไซดอน แต่ยังห่างไกลกับตอนที่เห็นจริงๆ ที่น่าตกใจกว่ามาก ก็เหมือนกับตอนที่เขาบอกพวกชาวประมงตอนที่เห็นฉากนี้ครั้งแรกแบบนั้น ในความตกใจยังแฝงด้วยความน่ากลัว มหาสมุทรให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตมากมายขนาดนี้เลยเหรอ!
พวกชาวประมงต่างรอเวลานี้มาโดยตลอด หลังจากที่วันนี้มาถึง ทุกคนต่างก็มารวมตัวบนหาดทรายและท่าเรือ เพื่อมาดูฉากนี้
นกจมูกหลอดหางสั้นในป่าที่ฟาร์มปลากรูกันออกมา เจ้าพวกตัวอวบอ้วนพวกนี้บินอยู่ใกล้หาดทรายอย่างมีความสุข เพลิดเพลินกับอาหารมากมายก่ายกองมื้อนี้
ในขณะเดียวกันก็ยังมีปลาอื่นๆ ที่เพลิดเพลินไปกับมื้อนี้เช่นกัน กลุ่มคนที่ยืนตรงนี้เห็นทั้งฝูงปลาไข่ และยังมีฝูงปลาชนิดอื่นด้วย ในช่วงเวลานี้สามารถมองออกเลยว่าฟาร์มปลามีความอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน
ฝูงปลาไข่จำนวนมากว่ายนำคนอื่นมาก่อนจากทะเลลึก ดูเหมือนว่าน่านน้ำทะเลตื้นของฟาร์มปลาจะเดือดปุดๆ คลื่นน้ำหมุนวน ปลาไข่ถูกซัดจนว่ายกระเด็นออกจากผิวน้ำตลอด
บุชพุ่งลงมาจากอากาศ ปลาตัวหนึ่งเพิ่งกระโดดขึ้นมา กรงเล็บของมันก็จับไปที่ปลาตัวนั้นอย่างแม่นยำ หลังจากนั้นสองปีกที่แข็งแรงก็กระพือบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไป
ร่างของนิมิตส์ปรากฏขึ้น บุชปล่อยปลาที่เพิ่งจับได้เมื่อกี้ไป ปลาตัวนี้จึงขยับไปมาอยู่กลางอากาศด้วยความหวาดกลัว และก่อนที่จะตกลงสู่ผิวน้ำก็มีเงาๆ หนึ่งพุ่งผ่านไปอย่างว่องไว นกฟรีเกตใช้ความแม่นยำที่น่าทึ่งจับปลาตัวนั้นแล้วกลืนกินเข้าไป
บุชบินขึ้นบินลงครั้งแล้วครั้งเล่า จับปลาได้แล้วก็โยนทิ้ง ส่วนนิมิตส์บินไปมาอยู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว เพลิดเพลินไปกับของขวัญที่เพื่อนส่งมาให้
พ่อฉินและแม่ฉินเห็นฉากแบบนี้เป็นครั้งแรก คนสูงวัยทั้งสองทอดถอนใจแล้วพูดว่า “พระเจ้า นี่มันปลาจำนวนเท่าไรกันนี่! ปลาพวกนี้มาจากไหนกัน? ทำไมถึงกระโดดมาอยู่ตรงหาดทรายเต็มไปหมด คงไม่ได้ฆ่าตัวเองตายหรอกนะ?”
พี่สาวของฉินสือโอวและพี่เขยก็เห็นแบบนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน ครอบครัวมิแรนดาก็เหมือนกัน พวกเขาต่างตกตะลึง วินนี่อธิบายให้พวกเขาฟังถึงสถานการณ์ของปลาไข่ “ช่วงฤดูกาลแบบนี้ในทุกๆ ปี ปลาไข่จะว่ายน้ำมาจากส่วนน้ำลึกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือไปยังสถานที่ที่กระแสน้ำอาร์กติกเย็นและกระแสน้ำอุ่นที่อ่าวเม็กซิโกมาบรรจบกันเพื่อหาอาหาร”
“อาหารในฟาร์มปลาของเราอุดมสมบูรณ์มากที่สุด คุณภาพของน้ำก็ดีที่สุด จึงดึงดูดปลาไข่จำนวนมากให้มาที่นี่ พวกมันจะกินอิ่มหนำสำราญที่ฟาร์มปลาแล้วหลังจากนั้นก็เจริญเติบโตขยายพันธุ์ต่อไป”
จำนวนของปลาไข่ที่มาในปีนี้ยังมากกว่าปีที่แล้ว เพราะว่าปีที่แล้วฉินสือโอวเก็บปลาพวกนี้จำนวนมากให้อยู่ในฟาร์มปลา พอปลาพวกนี้ดูดซึมพลังโพไซดอนแล้วก็วางไข่ไว้มากมายทำให้ปลาไข่จำนวนมหาศาลอยู่ในบริเวณนอกชายฝั่ง
อย่างไรก็ตามหากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนดไว้ พวกมันก็จะไม่มาว่ายมาตรงหาดทรายเพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ ดังนั้นปกติก็จะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้
การมาของปลาไข่เหมือนเป็นสถานการณ์วินวินทั้งสองฝ่าย เพราะพวกมันก็จะกินแพลงก์ตอนและพวกสาหร่ายทะเลจำนวนมากในพื้นที่ฟาร์มปลาและยังคงใช้พลังงานต่อไปเพื่อให้กระบวนการสืบพันธุ์สมบูรณ์ และปลาที่อาศัยอยู่ในฟาร์มปลาอยู่แล้ว อย่างเช่นปลาจำพวก ปลาค็อด ปลาทูน่า เป็นต้นก็จะจับพวกมันกิน เพราะพวกนี้เป็นอาหารชั้นดีกว่าปลาแฮร์ริ่งและปลาซาบะ
ในขณะที่ฝูงปลาอัดแน่นอยู่ตรงผิวน้ำ การที่ยืนอยู่ตรงท่าเรือแล้วมองไปรอบๆ ก็ราวกับว่ายืนอยู่ท่ามกลางฝูงปลา
พวกนักล่าค่อยๆ ปรากฏตัวอย่างช้าๆ แล้วพวกมันยังรวมตัวกันเป็นกลุ่มด้วย
ปลาค็อดตัวใหญ่ยาวมากกว่า 1 เมตรแต่ละตัวลอยอยู่บนผิวน้ำ พวกมันไม่ได้กระจายตัวอยู่เหมือนปลาไข่ แต่กลับเรียงตัวแน่นเป็นลักษณะเหมือนเส้นยาว ราวกับงูไททันโอโบอาที่ยาวหลายกิโลเมตรและกว้างหลายร้อยเมตรปรากฏตัวขึ้น ฝูงปลารวมตัวกัน ต่างพยายามเบียดเสียดขึ้นมาเพื่อกินปลาไข่ที่อยู่โดยรอบ
พอเป็นแบบนี้พวกปลาค็อดก็ชะลอความเร็วอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ฝูงปลาบิดตัวไปมาตลอดเวลา ราวกับงูไททันโอโบอาตัวนั้นกำลังบิดตัวไปมาอย่างไรอย่างนั้น
ฉินสือโอวชี้ปลาจำนวนหนึ่งให้พ่อเขาดู ปลาเหล่านี้อวบอ้วนเป็นพิเศษ สีที่ส่วนบนของลำตัวจากสีน้ำตาลค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเทา ตรงส่วนท้องสีจะจางกว่าออกสีเทาขาว “นั่นก็คือปลาค็อดแอตแลนติกที่มีชื่อเสียง เมื่อก่อนเป็นปลาค็อดที่เจ๋งที่สุดของฟาร์มปลาของเรา มีจำนวนเยอะมหาศาล แต่ตอนนี้น้อยลงมากแล้ว”
พ่อฉินกล่าว “ปลาตัวนี้โตได้แค่ไหนเหรอ?”
”ยาวเมตรกว่า”
”มันใหญ่จริงๆ เลย” พ่อฉินอุทาน
เมื่อเขาพูดจบ ทันใดนั้นปลาตัวยักษ์ยาวสี่เมตรกว่าที่ดูน่ากลัวก็กระโดดขึ้นมาจากน้ำในจุดที่ไม่ไกลออกไป มันมีปากแหลมที่ยาวมากเป็นพิเศษ หลังจากที่โผล่พ้นน้ำมา ครีบหลังของมันกางออกแหวกว่ายอยู่บนผิวน้ำไป 5-6 เมตรก็ดำดิ่งลงไปในน้ำทะเลเช่นเดิม
“ปลากระโทงสีน้ำเงิน!” ฉินสือโอวตอบข้อสงสัยของพ่อไปก่อนล่วงหน้า แล้วก็เป็นดั่งคาด พ่อฉินอุทานต่อจากเขา “พระเจ้าช่วย นี่มันปลาอะไรเนี่ย? ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?”
ปลากระโทงสีน้ำเงินมีการกระจายพันธุ์ในน่านน้ำเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน พบเห็นได้น้อยได้ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ แต่ฟาร์มปลาต้าฉินอุดมไปด้วยอาหารมากมาย อีกทั้งในอาหารยังมีส่วนประกอบของพลังโพไซดอนซึ่งสามารถเปลี่ยนนิสัยของสายพันธุ์ได้ ดังนั้นแล้วปลาที่พบเห็นได้ยากบางชนิดจึงทยอยมาที่ฟาร์มปลาและอาศัยอยู่ที่นี่
ชนิดของปลาในมหาสมุทร โดยเฉพาะปลาตัวใหญ่ ส่วนมากจะชอบว่ายไปตามน่านน้ำรอบโลก พวกมันไล่ไปตามกระแสน้ำในมหาสมุทรและอาหารว่ายวนไปตามมหาสมุทร พอเจอที่ไหนที่เหมาะจะตั้งรกราก พวกมันก็จะอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นการชั่วคราว
หลังจากที่มีปลากระโทงสีน้ำเงินโผล่พ้นผิวน้ำมาหนึ่งตัว ก็มีปลาชนิดนี้กระโดดขึ้นมาอีกหลายตัว ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปเพื่อดูว่ากำลังมีฝูงปลากระโทงสีน้ำเงินมาหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าตอนนี้ใต้ทะเลวุ่นวายมาก จึงตรวจดูไม่ได้
พวกชาวประมงปรบมือดีใจ พวกเขานึกว่าจะมีฝูงปลากระโทงสีน้ำเงินมา ชาร์คถลึงตามองไปที่หนุ่มพวกนี้ “พวกนายยินดีเพื่อ พวกนี้เป็นศัตรูร้ายของฟาร์มปลาเรา!”
แม้ว่าปลากระโทงสีน้ำเงินจะไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นปลาใกล้สูญพันธุ์ แต่ว่าตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา พวกมันก็ถูกจัดอยู่ในหนังสือปกแดงทะเลโดยกรีนพีซ ตามกฎของแคนาดากำหนดไว้ว่าจะต้องปล่อยปลากระโทงสีน้ำเงินไปหากจับอยู่ในระยะ 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งทะเล ไม่สามารถจับปลากระโทงสีน้ำเงินพวกนี้ได้
ชาร์คเรียกพวกมันว่าศัตรูร้าย เพราะว่าพวกมันมีความสามารถในการล่าที่แข็งแกร่งเกินไป ลูกปลาจะกินพวกแพลงค์ตอน ไข่และลูกปลาชนิดอื่นๆ ที่คล้ายกัน แล้วค่อยๆ เจริญเติบโต พวกมันกินปลาได้หลากหลายชนิดมาก รวมไปถึงปลาซาบะ ปลาทูน่า ปลาหมึกและปลาตัวเล็กๆ ริมชายฝั่งพวกนั้น
พอพวกมันโตขึ้นอีกหน่อย พวกมันก็จะกินปลาโอขาว ปลาโอหลอดและปลาโอแถบ และรอจนมันเติบโตจนมีความยาว 3-4 เมตร ถึงตอนนั้นอาหารของมันจะยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม เพราะพวกมันสามารถกินปลากระโทงขาวตัวใหญ่ ปลาทูน่าครีบเหลืองและปลาทูน่าตาโตที่หนักถึง 45 กิโลกรัม แย่งทรัพยากรจากฟาร์มปลาไปหมด
ซีมอนสเตอร์ไม่เห็นด้วย “เพื่อน พวกมันไม่ได้อาศัยอยู่น่านน้ำบริเวณนอกชายฝั่งเสมอไป ไม่ช้าก็เร็วพวกมันก็จะคืนกลับไปสู่ทะเลลึก ถึงตอนนั้นพวกเราก็จับได้แล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
คนกลุ่มหนึ่งคุยไป ก็วางแผนไปว่าจะจับปลากระโทงสีน้ำเงินอย่างไร แล้วฝูงปลาจำนวนมากกว่าเดิมก็ปรากฏตัวขึ้น
…………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset