ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 177 ปิ้งย่างริมทะเลสาบ

บทที่ 177 ปิ้งย่างริมทะเลสาบ
โดย
Ink Stone_Fantasy

เหมาเหว่ยหลงไม่เชื่อ เขาจึงยืดอกแล้วพูดออกมา “ฉันไม่เชื่อ ปลานี่ตกใจถึงขนาดนี้แล้ว มันยังจะมีแรงโจมตีอะไรอีก?”
ฉินสือโอวตอบ “ก็เพราะว่าตื่นตกใจน่ะสิ ให้ตายเถอะ…”
พูดอะไรก็ได้อย่างนั้นจริงๆ ขณะที่เขากำลังเตือนเหมาเหว่ยหลงอยู่ ทางเหมาเหว่ยหลงก็เดินไปถึงหัวเรือแล้ว ซึ่งมันก็พอดีกับที่ปลาลิ่นท้องขาวตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาก่อนที่เสียงหางแหลมใหญ่จะตวัดไปโดนไหล่ของเหมาเหว่ยหลงดัง ‘ตุบ’
เดิมทีเรือเล็กที่โคลงเคลงไปมาทำให้เหมาเหว่ยหลงทรงตัวไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเจอกับการกระแทกคราวนี้เขาเลยตกลงไปในทะเลสาบน้ำจนก่อให้เกิดคลื่นน้ำกระเซ็นลูกใหญ่
หู่จือและเป้าจือเอียงคอมองดูเหมาเหว่ยหลงที่ตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำจากบนเรือแล้วส่ายหางไปมา ฉินสือโอวอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก นอกจากนี้เป้าจือยังหันมาเห่า ‘โฮ่งๆ’ ให้เขาเหมือนกำลังภาคภูมิใจอีกด้วย
ไม่รอให้ฉินสือโอวลงมือ อีวิลสันที่ไม่ได้ใส่เสื้อก็กระโดดลงไปรั้งเอวเหมาเหว่ยหลงแล้วส่งเขาขึ้นมา
เหมาเหว่ยหลงใช้มือปาดน้ำบนใบหน้าออกแล้วทรุดตัวอาเจียนอยู่บนหัวเรือดัง ‘อ๊อกๆ’
ฉินสือโอวตบหลังเขาพลางพูดปลอบโยน “พอแล้ว น้ำที่นี้ไม่ได้สกปรกหรอกนะ ถือว่าลงไปอาบน้ำละกัน”
เหมาเหว่ยหลงรู้สึกคับข้องใจ เขาอาเจียนไปสองทีก็ไม่มีอะไรออกมาแล้ว จากนั้นเขาก็เช็ดปากแล้วพูดขึ้น “นายก็พูดง่ายสิ นายก็ลองลงไปอาบน้ำเองสิ…”
ฉินสือโอวไม่พูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็กระโดดลงจากเรือไปทันทีก่อนจะจับขอบเรือแล้วก็ปีนขึ้นมา หู่จือและเป้าจือนึกว่าเขากระโดดน้ำเล่นก็กระโดดลงไปด้วย ขาสั้นๆ ทั้งสี่ตะกุยน้ำเล่นอยู่ในทะเลสาบ ขนสีทองลอยอยู่ในน้ำ ดูท่าจะเย็นสบายเป็นที่สุด
“คราวนี้พอใจแล้วใช่ไหม?” ฉินสือโอวหัวเราะ
เหมาเหว่ยหลงนั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือ “พอแล้ว นายก็ใจนักเลงจริงๆ”
ตกน้ำไปครั้งหนึ่ง เหมาเหว่ยหลงจึงระมัดระวังมากขึ้น เขามองไปที่เหล่าปลาตัวใหญ่ที่เขายิงไม่โดนหลายครั้งแล้วจึงปล่อยเลยตามเลยแล้วเริ่มยิงไปเรื่อยเปื่อยเพื่อลองดูว่าจะโชคดียิงโดนสักตัวหนึ่งไหม
ทางด้านฉินสือโอวก็ยังคงแม่นเสมือนจับวาง ขอเพียงถูกเขาเล็ง เมื่อเสียงธนูยิงปลาถูกปล่อยออกก็จะมีปลาตัวหนึ่งถูกยิงอย่างแม่นยำ
ในที่สุดลูกธนูก็ถูกยิงออกไปกว่าสี่สิบดอก สุดท้ายแล้วเหมาเหว่ยหลงก็ยิงโดนปลาคาร์ฟสีดำตัวหนึ่ง ปลาโชคร้ายตัวนี้ ถูกยิงผ่านเข้าไปทางปาก เหมาเหว่ยหลงดึงขึ้นมาดูแล้วก็ได้แต่หัวเราะได้ใจ “ดูสิ ฉันเป็นนักธนูระดับเทพใช่หรือเปล่า? อารมณ์ทะลุปากเป็นไงบ้างล่ะ?”
ฉินสือโอวเบ้ปากบอกนายสุดยอดจริงๆ การยิงปลาตัวนี้ได้ทำให้เหมาเหว่ยหลงกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง หลังจากพยายามอีกสักพักเขาก็ยิงปลาคาร์ฟได้อีกหนึ่งตัว
ทะเลสาบเฉินเป่ามีปลาคาร์ฟเอเชียไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับขั้นเบียดเสียดกัน ดังนั้นการยิงปลาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่สภาพร่างกายของฉินสือโอวดีเกินไป สายตาตรวจจับก็ดี เขาถึงได้เรียนรู้ทักษะจนกลายเป็นยอดฝีมือตั้งแต่การยิงปลาครั้งแรก
ฉินสือโอวขึ้นบกพร้อมลากปลาตัวใหญ่สิบสี่สิบห้าตัวมาด้วย ที่นี่ต่างก็มีแต่ผู้ชาย ดังนั้นพวกเขาจึงก็ถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกออกแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมปาร์ตี้ปิ้งย่าง
ฉินสือโอวบอกว่าในครั้งนี้ เขาจะทำปลาย่างสไตล์จีนแท้ พวกชาร์คที่ตามมาทีหลังต่างตั้งตารอคอย พวกเขาคิดว่าปลาย่างก็ต้องย่างบนเตาถ่านย่าง ดังนั้นเมื่อเห็นฉินสือโอวเตรียมหม้อถึงได้ตะลึงตาค้าง
ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น พระอาทิตย์ยังลอยเด่นอยู่บนฟ้า แต่มันก็เอียงไปทางตะวันตกมากแล้ว แสงอาทิตย์ก็ไม่ได้ร้อนแรงอีกต่อไป แสงที่สาดลงบนร่างกายของทุกคนมีเพียงความร้อนเล็กน้อยไม่ถึงกับทนไม่ได้
เหมาเหว่ยหลงยืนอยู่ข้างทะเลสาบและมองไปรอบๆ ทิศตะวันออกและทิศเหนือของทะเลสาบใหญ่เป็นภูเขาสูงใหญ่เขียวขจี ริมทะเลสาบมีพืชน้ำขึ้นอยู่มากมาย น้ำใสเป็นประกาย มีนกน้ำบินออกมาจากพงหญ้าและบินวนอยู่เหนือน้ำ เมื่อพวกมันจับปลาเล็กได้พวกมันก็จะบินจากไป
เมื่อถึงเวลานกบินกลับรังก็จะได้เห็นฝูงนกบินร่อนอยู่บนท้องฟ้าเข้าไปในป่า บางสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนก็จะมีกวางหมีลู่ กวางมูส กระต่าย และไก่ป่าตัวอื่นๆมาดื่มน้ำริมทะเลสาบ
แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนผืนน้ำแล้วสะท้อนแสงเป็นสีส้มแดงอันอบอุ่น ลมทะเลพัดมาจากทั่วทุกสารทิศ กิ่งไม้ใบไม้ของต้นเมเปิลและต้นหลิวบนบกพลิ้วไหวจนเกิดเป็นเสียง ‘ฮวาลาลา’ คล้ายเสียงเรียกเข้า
พาวลิสและคนอื่นๆ สี่คนสวมใส่กางเกงขาสั้นและกำลังเล่นอยู่ริมทะเลสาบ หู่จือและเป้าจือก็อยู่ในกลุ่มด้วย บางครั้งพวกมันก็สะบัดน้ำที่อยู่บนขนออกและหยอกล้อให้เด็กๆส่งเสียงร้องไม่หยุด ฉงต้านั่งกินผลเบอร์รีอยู่ริมทะเลสาบ ตัวเองกินลูกหนึ่งแล้วให้ต้าป๋ายบนไหล่กินอีกลูกหนึ่ง ดวงตาบนหน้ากลมอ้วนยิ้มจนเป็นเส้นตรงอย่างรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
หู่จือพุ่งเข้าไปข้างกายฉงต้าแล้วสลัดขนไปมาจนทำให้หยดน้ำมากมายหยดบนร่างฉงต้า จากนั้นฉงต้าก็ส่งเสียงร้องออกมาสองคำก่อนจะยกอุ้งเท้าอ้วนๆขึ้นโบกไปมาทำท่าจะตีหู่จือ
เห็นดังนี้หู่จือจึงรีบวิ่งไปยังทะเลสาบ ฉงต้ากลัวน้ำ เห็นแบบนี้เลยทำได้เพียงนั่งลงด้วยความโกรธ
พาวลิสและเชอร์ลี่ย์เห็นแบบนี้ก็ปรึกษาหารือกัน จากนั้นเด็กๆ ทั้งสี่คนขึ้นมาลากฉงต้าลงไปในน้ำ
เดิมทีฉงต้ายังเล่นกับพวกเขาอย่างมีความสุข แต่พอถึงริมน้ำมันก็ร้อนรนขึ้นมาแล้วส่งเสียงร้อง ‘อ๋าววูอ๋าววู’ ออกมา ดวงตาเล็กๆของมันเบิกกว้างพลางหันหน้าไปมองฉินสือโอวด้วยหน้าตาน่าสงสาร
ฉินสือโอวยกยิ้มแล้วเดินมาอุ้มฉงต้าขึ้น เขาใช้น้ำล้างขนให้ฉงต้าเพื่อให้มันรู้สึกได้ว่าน้ำอุ่นๆก็ไม่ได้น่ากลัว ฉงต้าถึงได้ไม่ดิ้นอีก
จากนั้นเขาก็วางฉงต้าลงข้างทะเลสาบแล้วไปดูปลาย่างต่อ
ฝั่งชาร์คและซีมอนสเตอร์เองก็เริ่มปิ้งย่างกันแล้ว ปลาย่างที่พวกเขาทำก็คือปลาย่างสไตล์อเมริกัน พวกเขานำเนื้อปลาส่วนที่หนาหนุ่มที่สุดมาหั่นเป็นชิ้นแล้วย่างบนเตาย่าง
ฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลงเองก็ยุ่งอยู่กับปลาย่างสไตล์เสฉวน เขาเลือกปลาซ่งขนาดพอเหมาะ ความยาวประมาณสี่สิบเซนติเมตรมาแล้วเอาเครื่องในกับเกล็ดออก จากนั้นก็นำล้างให้สะอาดแล้วใช้มีดผ่าตั้งแต่หัวปลา ส่วนท้องไปจนถึงส่วนหางปลา
จากนั้นใช้มีดทหารตัดก้างปลาใหญ่ภายในออก แบบนี้จะได้เอาไปวางบนถาดย่างอย่างเหมาะกับการย่างได้
ทางฝั่งฉินสือโวเริ่มทาเครื่องปรุงต่างๆบนตัวปลา ฝั่งเหมาเหว่ยหลงก็เตรียมผักแกล้ม ขึ้นฉ่าย แครอทหั่นชิ้น มันฝรั่ง รากบัวหั่นแผ่น หอมแดง ผักกาดหอมหั่นเส้น ต้นหอม ขิง กระเทียม ผักชี และพริกแดงสดสับละเอียด
ครั้งนี้เหมาเหว่ยหลงยังเอาพริกดองมาให้ฉินสือโอวด้วย และเพราะมีของพวกนี้ พวกเขาถึงสามารถทำปลาย่างสไตล์เสฉวนได้
นีลเซ็นขับรถฮาร์เล่ย์คู่ใจของเขาเข้ามาทางด้านหลัง บนรถยังมีไก่ป่าเฮเซลแขวนมาอีกสองตัวด้วย
ฉินสือโอว “นายไปล่าสัตว์ในป่ามาเหรอ?”
นีลเซ็นอธิบาย “ไม่ใช่ คือตอนที่ผมไปตรวจฟาร์มปศุสัตว์ก็เจอเข้ากับเจ้าสองตัวนี้ ผมเลยจับมาด้วย”
เออร์บักตำหนิ “ช่วงนี้เป็นฤดูผสมพันธุ์ของไก่ป่าเฮเซล วันหลังอย่าไปจับช่วงนี้อีก ทะเลสาบเฉินเป่ามีเป็ดกับห่านจำนวนไม่น้อย ถ้าพวกเราอยากกินก็มาจับทางนี้สักสองตัวก็ได้”
ไก่ป่าเฮเซลสองตัวนี้ยังไม่ตาย พวกมันเพียงแค่ถูกแขวนเอาไว้บนรถ ฉินสือโอวคิดถึงรสชาติของเจ้าพวกนี้ก็อยากอาหารขึ้นมาทันที แต่เขาไม่อยากขัดคำของเออร์บักจึงนำไก่ป่าเฮเซลไปปล่อยไว้ริมทะเลสาบ
นีลเซ็นยักไหล่ เขาคว้าเอาธนูของเหมาเหว่ยหลงขึ้นมาแล้วพาหู่จือกับเป้าจือไปเดินเล่นริมทะเลสาบ พลบค่ำเป็นเวลาที่นกน้ำคึกคัก จะจับสักตัวสองตัวจึงเป็นเรื่องง่ายดาย
ไม่นานเขาก็พบกับฝูงนกอีล้ำฝูงหนึ่ง นกชนิดนี้มีสีดำทั้งตัวและกระจายอยู่ทั่วโลก มักพบเห็นบริเวณทะเลสาบ แม่น้ำและลำธาร พวกมันบินไม่เก่งจึงต้องอาศัยแรงวิ่งบนน้ำระยะหนึ่งก่อนค่อยบิน นีลเซ็นไม่ต้องลงมือ หู่จือและเป้าจือก็พุ่งเข้าไปตะครุบได้ถึงสองตัว
ฉินสือโอวเริ่มเตรียมตัวทำปลา เขารอให้ปลาหมักได้ทีแล้วค่อยตั้งกระทะก่อนจะเทน้ำมันมะกอก ใส่พริกไทยและพริกแห้งลงไปผัดจนหอม จากนั้นค่อยใส่ต้นหอม ขิง กระเทียมผัดให้หอมแล้วค่อยใส่เครื่องปรุงปลาย่างที่เหมาเหว่ยเอามาลงไป
เขาผัดด้วยไฟแรงจนส่งกลิ่นหอม จากนั้นก็ใส่ผักสดลงไปผัดอีกก่อนจะเทน้ำสะอาดลงไปแล้วนำปลาที่หมักเสร็จแล้วใส่เข้าไปในหม้อเพื่อเริ่มต้ม
………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset