ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1291 พี่เลี้ยงบีน

เรือบรรทุกสินค้าขนาดหนึ่งพันตันขับเข้ามาในเมือง ฉินสือโอวยืนอยู่บนท่าเรือของเมือง บัตเลอร์ยืนอยู่บนหัวเรือ ทั้งสองคนมองหน้ากันแต่ไกล จากนั้นก็โบกมือเพื่อทักทายกัน
เมื่อเห็นแบบนี้ บูลที่อยู่ข้างๆ ก็พูดพึมพำออกมาว่า “มองไปแล้วอย่างกับการพบกันของสตาลินและโรสเวลต์เลย พวกคุณสังเกตเห็นไหมว่ากัปตันยิ่งอยู่ยิ่งมีราศีขึ้นทุกวัน?”
ชาร์คแจกถุงมือให้กับพวกชาวประมง พูดว่า “โอเคทุกคน เตรียมทำงานกันเถอะ คำพูดพวกนี้เก็บไว้พูดกับบอสตอนกินข้าวด้วยกันแล้วกัน เขาชอบฟังคำพูดแนวนี้ที่สุดแล้ว”
พวกชาวประมงจงใจพูดเสียงดังให้ฉินสือโอวได้ยิน ฉินสือโอวรู้ว่าพวกเขาจงใจพูดหยอก เขาไม่ได้ใส่ใจ เพียงยื่นมือไปข้างหลังชูนิ้วกลางให้พวกชาวประมงโดยไม่หันหน้ามอง
เรือบรรทุกสินค้าเทียบท่า ฉินสือโอวปีนขึ้นเรือไปถามว่า “เพื่อน นายเดินทางลำบากเลย พวกโลมาปลอดภัยดีใช่ไหม?”
บัตเลอร์พูดด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจว่า “การเดินทางลำบากจริงๆ นายรู้ไหม การขนโลมาเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศ ฉันพาพวกมันมาจากมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงแอตแลนติกเหนือยากพอๆ กับกองทหารของแมกอาเธอร์ถอนกำลังออกจากฟิลิปปินส์กลับไปฮาวายเลย ”
นีลเซ็นที่ตามขึ้นมาทีหลังถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “กองทหารของแมกอาเธอร์ถอยทัพกลับฮาวายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเหรอครับ? ไม่ใช่ว่าถอยทัพไปที่บาตานกับเกาะกอร์เรฮีดอร์เหรอครับ?”
บัตเลอร์กลอกตาแล้วพูดว่า “เฮ้ เพื่อน จริงจังทำไมกัน? ใครจะไปสนใจว่าเขาถอยทัพกลับไปที่ไหน? จะมีใครรู้จักเกาะอะไรของนายนั่นล่ะ? แต่ฮาวายกลับเป็นที่ที่ทุกคนรู้จัก”
ในคลังเรือเรียงรายไปด้วยกล่องเหล็กขนาดยาวสี่เมตร กว้างสี่เมตร สูงสองเมตร ในนั้นบรรจุน้ำทะเลไว้ มีเครื่องผลิตออกซิเจนต่อไว้กับกล่อง ปลาโลมาหางขาดอาศัยอยู่ในนี้นั่นเอง
ฉินสือโอวเดินดูทีละกล่อง ปลาโลมาพวกนี้ถือว่ามีเรี่ยวแรงไม่เบาเลย นี่เป็นเพราะพลังโพไซดอน เขาถ่ายพลังให้ปลาโลมาพวกนี้หลายครั้ง ทำให้พลังชีวิตแข็งแกร่งมากพอ
บัตเลอร์ตบอกแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “ฉันทำงานเองนายวางใจได้เลย เพื่อน วางใจได้! ปลาโลมาสี่สิบสองตัว ตอนขึ้นเรือมีสี่สิบสองตัว ตอนนี้ก็ยังมีสี่สิบสองตัว ระหว่างทางฉันดูแลพวกมันอย่างดี พวกมันอยู่สบายมากกว่าฉันเสียอีก!”
ฉินสือโอวพอใจจนหัวเราะออกมา เขาตบไปที่บ่าของบัตเลอร์ แล้วพูดว่า “ทำได้ดี พี่ชาย ครั้งนี้ฉันต้องพูดจริงๆ ฉันต้องรับความดีของนายไว้ ถือว่าฉันติดหนี้นายครั้งหนึ่งนะ”
บัตเลอร์ปัดมือออกด้วยท่าทีโอเวอร์แล้วพูดว่า “โอ้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะเนี่ย!”
ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ การที่บัตเลอร์พาโลมาพวกนี้ข้ามด่านศุลกากรของญี่ปุ่นกับแคนาดามาที่เกาะแฟร์เวล นี้เป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างน้อยๆ ก็เป็นเรื่องที่ฉินสือโอวทำไม่ได้ เพราะไม่ได้มีเส้นสายมากถึงขนาดนี้
บัตเลอร์ให้คนงานบนเรือเปิดดาดฟ้าเรือออก ฉินสือโอวสั่งการให้พวกชาวประมงใช้เครื่องยกยกกล่องเหล็กพวกนี้ขึ้นมาทีละใบ
ตอนนี้นี่เองที่รถของวินนี่และฮานี่ย์มาถึง หลังวินนี่ขึ้นเรือแล้วก็เข้าไปกอดบัตเลอร์ ยิ้มแล้วพูดว่า “ขอบคุณคุณจริงๆ บัตเลอร์ คุณเป็นคนที่จิตใจเต็มไปด้วยความรักคนหนึ่ง เกาะแฟร์เวลยินดีต้อนรับคุณตลอดไปค่ะ”
บัตเลอร์มองตาค้อนไปที่ฉินสือโอวทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “ดูสิ อย่างไรเสียคำพูดของภรรยานายก็ทำให้คนรู้สึกดีกว่า ไม่เหมือนนายที่เห็นฉันแล้วกลับเป็นห่วงแต่โลมาพวกนี้ นายต้องรู้ไว้นะ ว่าฉันเป็นเพื่อนร่วมรบคนสนิทของนาย เป็นหุ้นส่วนที่ไม่เห็นแก่ตัว ทำไมนายถึงลืมถามไถ่ฉันได้ล่ะ?”
ฉินสือโอวพูดอย่างเลือกไม่ได้ว่า “ไม่นะ เพื่อน ฉันถามไถ่นายแล้วนี่ ฉันพูดว่าเดินทางลำบากเลย!”
“อื้ม ใช่ เดินทางลำบาก ก็แต่นี่มันไม่ต่างอะไรกับไม่ได้พูดเลยไม่ใช่เหรอ?” บัตเลอร์จงใจพูดหาเรื่อง ราวกับกำลังร้องเพลงแร็ปอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นแบบนี้แล้วฉินสือโอวก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคนผิวดำเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ม้าในเมืองที่เหมาเหว่ยหลงอยู่ขึ้นมา หรือว่าคนดำทุกคนจะมีความสามารถในการร้องเพลงแร็ปตั้งแต่กำเนิดเหรอ? บัตเลอร์กับเจ้าของร้านผิวดำคนนั้นถือว่าเป็นระดับเทพในด้านนี้จริงๆ
หลังยกกล่องใส่โลมาขึ้นมาแล้วก็เทลงไปในทะเล แบบนี้โลมาแต่ละตัวจึงส่ายหางไปมาอย่างดีใจแล้วกลับไปสู่ทะเล หลายวันมานี้พวกมันอยู่ในกล่องเล็กๆ พวกนี้คงจะอุดอู้น่าดู
มีชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่มาตกปลารอบๆ ท่าเรือสังเกตเห็นโลมาพวกนี้ลงไปในน้ำ พวกเขาเดินเข้ามาดูที่ท่าเรืออย่างแปลกใจ มีคนถึงกับถามฉินสือโอวออกมาด้วยว่า “เฮ้ ฉิน ปลาโลมาพวกนี้คือยังไงกัน?”
ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผมให้เพื่อนพามาจากญี่ปุ่นน่ะ มือเพชฌฆาตที่สมควรตายพวกนั้น เพียงเพราะพวกเขาอยากจะฉลองงานล่าปลาโลมาอะไรนั่น เลยล่าโลมาแล้วตัดหางพวกมันออกไปครึ่งหนึ่ง!”
วินนี่ที่ไม่พูดอะไรมาตลอด ตอนนี้เริ่มทนไม่ได้แล้วพูดว่า “พวกเขาโหดร้ายขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?! โลมาพวกนี้ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทำไมต้องทารุณพวกมันแบบนี้ด้วย?”
ฉินสือโอวพูดว่า “สำหรับคนบ้าแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่มีเหตุผลทั้งนั้น ”
หลังจากคนบนท่าเรือเห็นโลมาพิการพวกนี้แล้วก็พากันก่นด่าขึ้นมา สำหรับประเทศที่สามารถโยงเรื่องรถม้าลากกับการทารุณสัตว์เข้ามาด้วยกันได้นั้น แน่นอนว่าการตัดหางโลมาต้องเป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้อยู่แล้ว
แม้ว่าจะได้กลับสู่ทะเลแล้วโลมาพวกนี้จะรู้สึกดีใจ แต่ว่าพวกมันกลับไม่สามารถว่ายน้ำได้อย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าจะสะบัดหางแรงแค่ไหน ก็สามารถว่ายออกไปได้เพียงช้าๆ เท่านั้น มีโลมาบางตัวที่ถึงขั้นไม่สามารถควบคุมสมดุลร่างกายได้
บีนที่กำลังว่ายหาพวกหอยอยู่บริเวณน่านน้ำตื้น ก็สังเกตเห็นพวกเดียวกันอย่างรวดเร็ว จึงรีบว่ายเข้ามาหาอย่างดีใจ โดยการโหม่งหัวเข้าไปในน้ำราวกับระเบิดน้ำอย่างไรอย่างนั้น
ฟาร์มปลาไม่มีโลมามาตั้งถิ่นฐาน แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีบ้าง แต่ตอนที่บีนเกยตื้นอยู่นั้นพวกมันไม่ได้มาช่วยเหลือ ทำให้บีนจอมใจแคบจำฝังใจ จึงไม่ได้ตามพวกมันไป
ปกติแล้ว ที่ฟาร์มปลาบีนจะเล่นกับไอซ์สเกตและบอลหิมะได้เท่านั้น และเมื่อถึงฤดูอย่างว่าแล้วมันก็ถึงขั้นต้องขี่ไอซ์สเกตเพื่อปลดปล่อยความใคร่อีกด้วย ตอนนี้เมื่อได้พบกับเพื่อนแปลกหน้าที่สายพันธุ์เดียวกันแถมยังเป็นมิตรอีกถึงสี่สิบกว่าตัว จะไม่ดีใจได้อย่างไร?
ฉินสือโอวได้ใช้พลังโพไซดอนเสริมสร้างร่างกายของบีนมาตลอด มันจึงมีชีวิตชีวาตลอดเวลา และตอนนี้เมื่อได้เห็นเพื่อนสายพันธุ์เดียวกันทำให้มันเกิดนึกสนุก ใช้ปากและหัวชนไปที่โลมาพวกนี้เพื่อหยอกเล่น
ตอนนี้แหละที่พวกโลมาพิการพากันปวดสมองขึ้นมา พวกมันเองก็อยากหยอกเล่นเหมือนกัน แต่ว่าพวกมันไม่สามารถทำแบบนั้นได้ จึงทำได้แต่ยอมให้บีนชนไปมาราวกับกำลังเดาะบอลอยู่
ในที่สุดบีนก็รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลนี้ ตาดวงโตที่ส่องประกายแวววาวของมันจ้องไปที่พวกเดียวกัน แล้วว่ายวนรอบตัวพวกมันอย่างรวดเร็วหลายๆ รอบ จึงพบว่าพวกมันไม่สามารถว่ายน้ำได้อย่างอิสระเหมือนกับตัวเอง
บีนโผล่หัวออกมาจากน้ำทะเลมองไปที่ฉินสือโอวอย่างร้อนรน จากนั้นก็อ้าปากในน้ำและว่ายวนเป็นวงกลม
นี่คือมันกำลังส่งเสียงร้องอยู่ แต่ว่าเสียงของโลมานั้นเป็นคลื่นความถี่ต่ำ หูของคนไม่ได้ยิน ฉินสือโอวจึงจำเป็นต้องลงจากท่าเรือไปลูบหัวเพื่อปลอบใจมัน ให้มันรู้ว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของมันดี
บีนโผล่หัวออกมาจากน้ำแล้วว่ายวนอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ดำลงไปในน้ำแล้วหายไปเลย
ไม่นานนัก ร่างกายที่เรียวยาวแข็งแรงของมันก็ปรากฏมาให้เห็นอีกครั้ง ปากยาวของมันคาบปลาหิมะเงินไว้ตัวหนึ่ง พุ่งตัวเข้าไปทิ้งไว้ด้านหน้าโลมาพิการตัวหนึ่ง แล้วก็ใช้ปากดันปลาไปตรงหน้าโลมาตัวนั้น
โลมาตัวนั้นกินปลาตายมาหลายวันแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เจอกับอาหารสดสักที จึงรีบอ้าปากแล้วกลืนลงไป
เมื่อเห็นมันกินลงไป บีนก็ยิ้มอย่างดีใจ เผยให้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มอันใหญ่โต จากนั้นก็ดำหายไปอีก
พอปรากฏตัวอีกครั้ง ปากของมันก็คาบปลากะพงญี่ปุ่นไว้อีกหนึ่งตัว จากนั้นก็ไปหาโลมาพิการอีกตัวแล้วส่งปลาให้
ฉากความรักนี้ทำเอาชาวเมืองและนักท่องเที่ยวบนท่าเรือมองดูอย่างไม่เชื่อสายตา จึงพากันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอไว้
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset