ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1607 หวานใจในวัยเด็ก

“ที่นี่เดินทางไม่ค่อยสะดวก หัวหน้า พวกเราล้วนพักกันอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ห่างจากที่นี่ไกลมากเลย”
“ศูนย์กลางย่านการค้านี้เพิ่งจะเริ่มเปิดใช้ อะไรหลายๆ อย่างยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์เลยค่ะหัวหน้า โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความปลอดภัย แม้แต่ยามรักษาการณ์ยังไม่เตรียมให้เลย พวกเราผู้หญิงเยอะขนาดนี้ อันตรายมากเลยนะคะ”
“ปัญหาเรื่องการกินข้าวจะจัดการอย่างไรครับ? หัวหน้า พวกเราไม่มีที่ให้กินข้าวเลย ข้าวเช้าข้าวกลางวันก็เป็นปัญหา บางทีต้องทำโอที ข้าวเย็นก็เป็นปัญหาด้วย”
“ใช่ๆๆ ปัญหาเรื่องกินข้าว นี่แหละที่เป็นปัญหาเร่งด่วน” คนมากมายเริ่มพูดสมทบ
ฉินสือโอวยังคงนั่งอยู่บนแท่นที่นั่งอย่างใจเย็น ฟังเหล่าพนักงานส่งเสียงเอะอะกันไปมาพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่เอ่ยปากพูดอะไร
ทิญาที่รับผิดชอบตำแหน่งเลขาที่นั่งอยู่ข้างๆ กระแอมเสียงเบาออกมาทีหนึ่ง เพื่อบอกให้ทุกคนรักษาความสงบด้วย เมื่อได้ยินเสียงกระแอมของเธอ เสียงที่เอะอะโวยวายก็เบาลงไปอย่างมาก เหล่าพนักงานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือออกมาจำนวนหนึ่ง อย่างเช่นในวันแรกที่พันธมิตรการประมงก่อตั้งขึ้นมาในออตตาวา ผู้อำนวยการหนุ่มคนนี้ก็ได้แสดงความโหดเหี้ยมที่ไม่เคยมีการก่อนในการไล่สมาชิกผู้ร่วมพันธมิตรออกไปด้วยกันหลายคน
ในปัจจุบันการหางานทำในแคนาดาไม่สู้ดีนัก อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในอัตราที่สูงมาตลอดไม่มีลดลงมาเลย เหล่าพนักงานจึงค่อนข้างหวงแหนงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันไม่น้อย หลังจากที่รู้ตัวว่าเสียงโวยวายของตัวเองค่อนข้างดังแล้ว คนส่วนมากจึงพากันเงียบปากลง
กฎในสนามแห่งการทำงานของแคนาดาก็คือ ความสามารถมีอำนาจสูงสุด คนคนหนึ่งสามารถทำประโยชน์ให้กับทีมได้มากแค่ไหน เสียงถึงจะดังได้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในสายงานของบริษัทเอกชนหรือว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ล้วนไม่รับเรื่องร้องเรียนทั้งนั้น หากว่าไม่พอใจก็ให้ไประบายกับสื่อมวลชนเอง ไม่สามารถนำมาพูดในสถานที่ทำงานได้
ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่ค่อยเท่าไร เขาโบกมือทำท่าทางบอกทิญาว่าไม่เป็นไรอยู่ใต้โต๊ะ อย่างไรเสียงานนั่งคุยกันนี้เป็นเขาที่เป็นคนเสนอขึ้นมาเอง ในงานนั่งคุยกันหากไม่ใช่เพื่อฟังเรื่องร้องเรียนแล้วจะให้ฟังอะไรล่ะ? ผลงานคุณงามความดีเหรอไง? คนงานในแคนาดาไม่มีนิสัยแบบนี้หรอก
รอจนทุกคนไม่พูดเรื่องปัญหาที่เจอแล้ว เขาก็หยิบสมุดบันทึกของวินนี่มาเปิดออกเพื่อแก้ปัญหาไปทีละข้อ พูดว่า “ก่อนอื่นเป็นเรื่องปัญหาการเดินทาง ก่อนหน้านี้ผมเห็นบันทึกของพนักงานแล้ว พนักงานกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนมีรถส่วนตัวกันใช่ไหม? ส่วนคนที่ไม่มีรถ ผมจะไปยื่นเรื่องกับทางกรมประมงเพื่อของบมาจัดทำรถรับส่งให้ เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?”
“เรื่องต่อมาคือเรื่องปัญหาความปลอดภัย เรื่องนี้ทุกคนวางใจได้ ระบบรักษาความปลอดภัยของเซนต์จอห์นจัดอยู่ในห้าอันดับแรกของทั้งแคนาดา ตัวผมเองก็ได้เลี้ยงสุนัขกู้ภัยที่เก่งที่สุดในโลกไว้สองตัวด้วย พวกคุณน่าจะรู้จักพวกมันใช่ไหมครับ? วันนี้ผมจะทำการรวบรวมกลิ่นของทุกคนให้พวกมันจำกลิ่นไว้ หากว่าพวกคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้น จะต้องได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงทีอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว ก็มีคนข้างล่างยิ้มออกมา เสน่ห์ของหู่จือและเป้าจือในเซนต์จอห์นไม่มีใครเทียบได้ มีสื่อมากมายที่ยกให้พวกมันสองพี่น้องเป็นดาราอันดับหนึ่งประจำท้องถิ่นไปแล้วด้วย
“ส่วนปัญหาเรื่องการกินข้าว เรื่องนี้จัดการได้ไม่ง่ายจริงๆ วันนี้หลังจากที่ผมมาถึงที่นี่แล้วก็ไปเดินดูบริเวณรอบๆ แล้ว พบว่าสถานที่ให้กินข้าวนั้นมีน้อยมากจริงๆ ในเมื่อพวกเรามีห้องทำงานเหลือว่างอยู่มากมาย ทำไมถึงไม่เปิดห้องอาหารขึ้นมาเองเสียล่ะ? อีกอย่างฟาร์มปลาของผมก็มีอาหารทะเลที่ดีที่สุดในโลกอยู่ด้วย ผมสามารถจัดสรรมาให้ในราคาถูกได้ ทุกคนเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”
สำหรับคำตอบนี้ เหล่าพนักงานต่างก็เห็นด้วยกัน ชื่อเสียงของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินได้เลื่องลือไปทั่วแคนาดาแล้ว แถมยังไม่ต้องพึ่งการโฆษณาจากสื่อหรือว่าพรีเซนเตอร์จากคนดังอีกด้วย พึ่งก็เพียงแต่รสชาติและสารอาหารของอาหารทะเลล้วนๆ หลังจากใช้แผนงานของบัตเลอร์แล้ว อาหารทะเลก็ได้ยึดตลาดอาหารทะเลระดับพรีเมียมในหลายๆ เมืองได้ในทันที
ภาพรวมของการจัดงานนั่งคุยกันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัว ฉินสือโอวถือว่าได้จัดการแก้ไขปัญหาของเหล่าพนักงานได้มากอยู่ ส่วนปัญหาเรื่องอื่นอย่างเช่นเงินน้อยเกินไป หรืองานลำบากเกินไปอะไรพวกนี้ เขาไม่สนใจเลย นี่คือได้คืบจะเอาศอกใช่ไหม? กินอิ่มแล้วจะหาเรื่องตื่นเต้นกันใช่ไหม? ไม่อยากทำก็ออกไป เขาเป็นคนตั้งเงินเดือนหรืออย่างไร? พันธมิตรยังไม่ทันได้เริ่มเลยก็บอกว่างานลำบากนี่หมายความว่าอย่างไรกัน?
ความจริงทิญามองออกแล้ว ที่หัวหน้าใหญ่วัยหนุ่มคนนี้จัดงานนั่งคุยกันอะไรนี้ขึ้นมา ไม่ได้เพราะคิดอยากจะแก้ปัญหาอะไรนั่นหรอก เขาน่ะก็แค่มาลิ้มรสความสะใจที่อำนาจนำมาให้เขาเท่านั้น
การคาดเดาของเธอถูกต้องมาก หลังจากงานนั่งคุยกันแล้วฉินสือโอวรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนตอนเป็นพนักงานให้กับบริษัท ไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดนั้น เป็นหัวหน้ากลุ่มของเขาคนเดียวที่ออกคำสั่งนู่นนี่ ในที่สุดวันนี้ก็ถึงตาเขาที่ได้สนุกสุดเหวี่ยงแล้ว
แต่ภายหลังพอเริ่มทำงานแล้ว เขาก็จริงจังและตั้งใจมาก เขาได้ทำการติดต่อบริษัทที่จำหน่ายพวกเครื่องจักรขนาดใหญ่ไปหลายเจ้า หลังจากเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าแล้ว ก็ทำการสั่งซื้อเครื่องจักรในไลน์ผลิตที่ตรงกับวัตถุประสงค์มาสี่เครื่อง เพื่อจะได้ทำการผลิตอาหารปลาจากสาหร่ายและพืชน้ำได้ ขอแค่ทางฟาร์มปลาต้าฉินส่งอาหารปลามาให้ การจะเพิ่มมาตรฐานคุณภาพของพันธมิตรการประมงก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว
เลิกงานแล้ว ฉินสือโอวกลับบ้านด้วยจิตใจที่เบิกบาน ตอนนี้วินนี่ได้กลับมาถึงบ้านก่อนแล้ว เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มเบิกบานของเขาแล้วก็ถามออกไปว่า “เป็นอย่างไรบ้าง คุณผู้อำนวยการ ทำงานวันแรกรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?”
“แน่นอนว่า รู้สึกดีมากเลย”
“ดีแค่ไหนคะ? เป็นความรู้สึกแบบไหนเหรอ?” วินนี่ถามหยอกออกไป
ฉินสือโอวเข้าไปใช้นิ้วแตะๆ คางของเธอ ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “อยากรู้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหนเหรอ? สาวน้อย คืนนี้ผมจะให้คุณได้ลิ้มรสสักทีหนึ่ง…”
วินนี่ปัดมือเขาออกไป พูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีว่า “พูดอะไรเนี่ย ลูกสาวอยู่ที่นี่นะคะ”
ฉินสือโอวยื่นหน้าไปมองดู หัวของยัยตัวเล็กโผล่ออกมาหลังโซฟา ตาดวงโตเปล่งประกายกำลังจ้องมาที่เขา
หมีโลลิที่หมอบอยู่ตรงเท้าของวินนี่ก็เอียงคอมองดูเขาด้วย ตอนที่วินนี่ปัดมือเขาออกนั้น หมีโลลิรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องแสดงความกล้าหาญของตัวเองออกมาแล้ว จึงยืนขึ้นมาอย่างองอาจ ยกมือที่นุ่มนิ่มผลักฉินสือโอว อ้าปากแล้วกรีดร้องออกมาว่า “อาวๆ! อาวๆ!”
ฉินสือโอวหัวเราะร้องไห้ไม่ออก พูดว่า “โอ้โห เจ้าหมอนี่ ชักเอาใหญ่แล้ว เพราะว่าผมอ่อนโยนกับมันมากเกินไปใช่ไหม ทำเอามันไม่รู้ว่าใครเป็นใหญ่ในบ้านหลังนี้? ไม่ได้ วันนี้ผมจะต้องสั่งสอนมันเสียหน่อยแล้ว”
ที่เขาพูดออกไปแบบนี้แน่นอนว่าแค่พูดเล่นเท่านั้น แต่ว่าดันมีคนลงมือแทนเขา
เมื่อเห็นหมีโลลิผลักคุณพ่อ ยัยตัวเล็กก็โกรธขึ้นมาในทันใด เธอโพล่งออกมาจากหลังโซฟา พุ่งตัวไปอยู่ด้านหน้าหมีโลลิอย่างรวดเร็ว แล้วก็เหมือนกับเป็นซูโม่ ที่แค่อุ้มเอวใหญ่ๆ ของหมีโลลิไว้ก็ทำให้มันล้มลงได้ จากนั้น หนึ่งคนกับหนึ่งโลลิก็เริ่มกลิ้งไปมากันบนพรมขึ้นมา
ยัยตัวเล็กออกหมัดราวกับตีกลอง ทุบตุบตับๆ ไปที่หมีโลลิ หมีโลลิเองก็ไม่ยอมแพ้ ใช้สองมือผลักยัยตัวเล็กออก ยืนขึ้นมาแล้วก็ร้องออกมาอย่างโกรธแค้น เตรียมจะจัดการยัยตัวเล็ก
หลังถูกผลักออกแล้ว เถียนกวาก็รู้ว่าตัวเองคนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมีโลลิ แม้ว่าจะเป็นหมีโลลิน่ารักในบรรดาหมีขั้วโลกเหนือก็เถอะ แต่หมีโลลิก็ยังเป็นหมีอยู่นะ พลังในการต่อสู้ของหมีขั้วโลกเหนือถือว่าเป็นที่หนึ่งไม่เป็นรองใครในตระกูลหมีเลย ถึงเป็นหมีสีน้ำตาลโคโลราโดก็ยังต้องยอมให้เลย
พอลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้ว ยัยตัวเล็กจ้องเขม็งไปที่หมีโลลิทีหนึ่ง จากนั้นก็ซอยขาสั้นๆ วิ่งออกไปทางประตูอย่างรวดเร็ว
หมีโลลิได้เปรียบแล้วทั้งที จะรามือง่ายๆ ได้อย่างไร? จึงวิ่งตามออกไปติดๆ มันส่งเสียงร้องอาวๆ อย่างได้ใจพร้อมกับวิ่งไล่ยัยตัวเล็กไป
ฉินสือโอวกับวินนี่รีบวิ่งตามออกไป หมีโลลิได้เติบโตเป็นหมีขั้วโลกเหนือครึ่งตัวแล้ว หากไม่ระวังแล้วล่ะก็สามารถอัดยัยตัวเล็กให้เป็นหมูสับได้เลย ฉายาราชาแห่งโลกหิมะน้ำแข็งนั้นไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย เป็นได้มาเพราะการสู้รบจริงๆ
หลังจากวิ่งออกไป ยัยตัวเล็กก็วิ่งตรงไปที่ชายทะเล หมีโลลิวิ่งตามไปติดๆ ไม่ลดละ แต่ไม่นานยัยตัวเล็กก็ไม่วิ่งแล้ว เพราะด้านหน้าได้มีแมวน้ำที่โตครึ่งตัวสองตัวกระโดดออกมาประจันหน้า พวกเขาพากันจ้องไปที่หมีโลลิด้วยสายตาอาฆาตแค้น…
…………………………
“ที่นี่เดินทางไม่ค่อยสะดวก หัวหน้า พวกเราล้วนพักกันอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ห่างจากที่นี่ไกลมากเลย”
“ศูนย์กลางย่านการค้านี้เพิ่งจะเริ่มเปิดใช้ อะไรหลายๆ อย่างยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์เลยค่ะหัวหน้า โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความปลอดภัย แม้แต่ยามรักษาการณ์ยังไม่เตรียมให้เลย พวกเราผู้หญิงเยอะขนาดนี้ อันตรายมากเลยนะคะ”
“ปัญหาเรื่องการกินข้าวจะจัดการอย่างไรครับ? หัวหน้า พวกเราไม่มีที่ให้กินข้าวเลย ข้าวเช้าข้าวกลางวันก็เป็นปัญหา บางทีต้องทำโอที ข้าวเย็นก็เป็นปัญหาด้วย”
“ใช่ๆๆ ปัญหาเรื่องกินข้าว นี่แหละที่เป็นปัญหาเร่งด่วน” คนมากมายเริ่มพูดสมทบ
ฉินสือโอวยังคงนั่งอยู่บนแท่นที่นั่งอย่างใจเย็น ฟังเหล่าพนักงานส่งเสียงเอะอะกันไปมาพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่เอ่ยปากพูดอะไร
ทิญาที่รับผิดชอบตำแหน่งเลขาที่นั่งอยู่ข้างๆ กระแอมเสียงเบาออกมาทีหนึ่ง เพื่อบอกให้ทุกคนรักษาความสงบด้วย เมื่อได้ยินเสียงกระแอมของเธอ เสียงที่เอะอะโวยวายก็เบาลงไปอย่างมาก เหล่าพนักงานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือออกมาจำนวนหนึ่ง อย่างเช่นในวันแรกที่พันธมิตรการประมงก่อตั้งขึ้นมาในออตตาวา ผู้อำนวยการหนุ่มคนนี้ก็ได้แสดงความโหดเหี้ยมที่ไม่เคยมีการก่อนในการไล่สมาชิกผู้ร่วมพันธมิตรออกไปด้วยกันหลายคน
ในปัจจุบันการหางานทำในแคนาดาไม่สู้ดีนัก อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในอัตราที่สูงมาตลอดไม่มีลดลงมาเลย เหล่าพนักงานจึงค่อนข้างหวงแหนงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันไม่น้อย หลังจากที่รู้ตัวว่าเสียงโวยวายของตัวเองค่อนข้างดังแล้ว คนส่วนมากจึงพากันเงียบปากลง
กฎในสนามแห่งการทำงานของแคนาดาก็คือ ความสามารถมีอำนาจสูงสุด คนคนหนึ่งสามารถทำประโยชน์ให้กับทีมได้มากแค่ไหน เสียงถึงจะดังได้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในสายงานของบริษัทเอกชนหรือว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ล้วนไม่รับเรื่องร้องเรียนทั้งนั้น หากว่าไม่พอใจก็ให้ไประบายกับสื่อมวลชนเอง ไม่สามารถนำมาพูดในสถานที่ทำงานได้
ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่ค่อยเท่าไร เขาโบกมือทำท่าทางบอกทิญาว่าไม่เป็นไรอยู่ใต้โต๊ะ อย่างไรเสียงานนั่งคุยกันนี้เป็นเขาที่เป็นคนเสนอขึ้นมาเอง ในงานนั่งคุยกันหากไม่ใช่เพื่อฟังเรื่องร้องเรียนแล้วจะให้ฟังอะไรล่ะ? ผลงานคุณงามความดีเหรอไง? คนงานในแคนาดาไม่มีนิสัยแบบนี้หรอก
รอจนทุกคนไม่พูดเรื่องปัญหาที่เจอแล้ว เขาก็หยิบสมุดบันทึกของวินนี่มาเปิดออกเพื่อแก้ปัญหาไปทีละข้อ พูดว่า “ก่อนอื่นเป็นเรื่องปัญหาการเดินทาง ก่อนหน้านี้ผมเห็นบันทึกของพนักงานแล้ว พนักงานกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนมีรถส่วนตัวกันใช่ไหม? ส่วนคนที่ไม่มีรถ ผมจะไปยื่นเรื่องกับทางกรมประมงเพื่อของบมาจัดทำรถรับส่งให้ เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?”
“เรื่องต่อมาคือเรื่องปัญหาความปลอดภัย เรื่องนี้ทุกคนวางใจได้ ระบบรักษาความปลอดภัยของเซนต์จอห์นจัดอยู่ในห้าอันดับแรกของทั้งแคนาดา ตัวผมเองก็ได้เลี้ยงสุนัขกู้ภัยที่เก่งที่สุดในโลกไว้สองตัวด้วย พวกคุณน่าจะรู้จักพวกมันใช่ไหมครับ? วันนี้ผมจะทำการรวบรวมกลิ่นของทุกคนให้พวกมันจำกลิ่นไว้ หากว่าพวกคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้น จะต้องได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงทีอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว ก็มีคนข้างล่างยิ้มออกมา เสน่ห์ของหู่จือและเป้าจือในเซนต์จอห์นไม่มีใครเทียบได้ มีสื่อมากมายที่ยกให้พวกมันสองพี่น้องเป็นดาราอันดับหนึ่งประจำท้องถิ่นไปแล้วด้วย
“ส่วนปัญหาเรื่องการกินข้าว เรื่องนี้จัดการได้ไม่ง่ายจริงๆ วันนี้หลังจากที่ผมมาถึงที่นี่แล้วก็ไปเดินดูบริเวณรอบๆ แล้ว พบว่าสถานที่ให้กินข้าวนั้นมีน้อยมากจริงๆ ในเมื่อพวกเรามีห้องทำงานเหลือว่างอยู่มากมาย ทำไมถึงไม่เปิดห้องอาหารขึ้นมาเองเสียล่ะ? อีกอย่างฟาร์มปลาของผมก็มีอาหารทะเลที่ดีที่สุดในโลกอยู่ด้วย ผมสามารถจัดสรรมาให้ในราคาถูกได้ ทุกคนเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”
สำหรับคำตอบนี้ เหล่าพนักงานต่างก็เห็นด้วยกัน ชื่อเสียงของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินได้เลื่องลือไปทั่วแคนาดาแล้ว แถมยังไม่ต้องพึ่งการโฆษณาจากสื่อหรือว่าพรีเซนเตอร์จากคนดังอีกด้วย พึ่งก็เพียงแต่รสชาติและสารอาหารของอาหารทะเลล้วนๆ หลังจากใช้แผนงานของบัตเลอร์แล้ว อาหารทะเลก็ได้ยึดตลาดอาหารทะเลระดับพรีเมียมในหลายๆ เมืองได้ในทันที
ภาพรวมของการจัดงานนั่งคุยกันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัว ฉินสือโอวถือว่าได้จัดการแก้ไขปัญหาของเหล่าพนักงานได้มากอยู่ ส่วนปัญหาเรื่องอื่นอย่างเช่นเงินน้อยเกินไป หรืองานลำบากเกินไปอะไรพวกนี้ เขาไม่สนใจเลย นี่คือได้คืบจะเอาศอกใช่ไหม? กินอิ่มแล้วจะหาเรื่องตื่นเต้นกันใช่ไหม? ไม่อยากทำก็ออกไป เขาเป็นคนตั้งเงินเดือนหรืออย่างไร? พันธมิตรยังไม่ทันได้เริ่มเลยก็บอกว่างานลำบากนี่หมายความว่าอย่างไรกัน?
ความจริงทิญามองออกแล้ว ที่หัวหน้าใหญ่วัยหนุ่มคนนี้จัดงานนั่งคุยกันอะไรนี้ขึ้นมา ไม่ได้เพราะคิดอยากจะแก้ปัญหาอะไรนั่นหรอก เขาน่ะก็แค่มาลิ้มรสความสะใจที่อำนาจนำมาให้เขาเท่านั้น
การคาดเดาของเธอถูกต้องมาก หลังจากงานนั่งคุยกันแล้วฉินสือโอวรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนตอนเป็นพนักงานให้กับบริษัท ไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดนั้น เป็นหัวหน้ากลุ่มของเขาคนเดียวที่ออกคำสั่งนู่นนี่ ในที่สุดวันนี้ก็ถึงตาเขาที่ได้สนุกสุดเหวี่ยงแล้ว
แต่ภายหลังพอเริ่มทำงานแล้ว เขาก็จริงจังและตั้งใจมาก เขาได้ทำการติดต่อบริษัทที่จำหน่ายพวกเครื่องจักรขนาดใหญ่ไปหลายเจ้า หลังจากเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าแล้ว ก็ทำการสั่งซื้อเครื่องจักรในไลน์ผลิตที่ตรงกับวัตถุประสงค์มาสี่เครื่อง เพื่อจะได้ทำการผลิตอาหารปลาจากสาหร่ายและพืชน้ำได้ ขอแค่ทางฟาร์มปลาต้าฉินส่งอาหารปลามาให้ การจะเพิ่มมาตรฐานคุณภาพของพันธมิตรการประมงก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว
เลิกงานแล้ว ฉินสือโอวกลับบ้านด้วยจิตใจที่เบิกบาน ตอนนี้วินนี่ได้กลับมาถึงบ้านก่อนแล้ว เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มเบิกบานของเขาแล้วก็ถามออกไปว่า “เป็นอย่างไรบ้าง คุณผู้อำนวยการ ทำงานวันแรกรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?”
“แน่นอนว่า รู้สึกดีมากเลย”
“ดีแค่ไหนคะ? เป็นความรู้สึกแบบไหนเหรอ?” วินนี่ถามหยอกออกไป
ฉินสือโอวเข้าไปใช้นิ้วแตะๆ คางของเธอ ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “อยากรู้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหนเหรอ? สาวน้อย คืนนี้ผมจะให้คุณได้ลิ้มรสสักทีหนึ่ง…”
วินนี่ปัดมือเขาออกไป พูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีว่า “พูดอะไรเนี่ย ลูกสาวอยู่ที่นี่นะคะ”
ฉินสือโอวยื่นหน้าไปมองดู หัวของยัยตัวเล็กโผล่ออกมาหลังโซฟา ตาดวงโตเปล่งประกายกำลังจ้องมาที่เขา
หมีโลลิที่หมอบอยู่ตรงเท้าของวินนี่ก็เอียงคอมองดูเขาด้วย ตอนที่วินนี่ปัดมือเขาออกนั้น หมีโลลิรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องแสดงความกล้าหาญของตัวเองออกมาแล้ว จึงยืนขึ้นมาอย่างองอาจ ยกมือที่นุ่มนิ่มผลักฉินสือโอว อ้าปากแล้วกรีดร้องออกมาว่า “อาวๆ! อาวๆ!”
ฉินสือโอวหัวเราะร้องไห้ไม่ออก พูดว่า “โอ้โห เจ้าหมอนี่ ชักเอาใหญ่แล้ว เพราะว่าผมอ่อนโยนกับมันมากเกินไปใช่ไหม ทำเอามันไม่รู้ว่าใครเป็นใหญ่ในบ้านหลังนี้? ไม่ได้ วันนี้ผมจะต้องสั่งสอนมันเสียหน่อยแล้ว”
ที่เขาพูดออกไปแบบนี้แน่นอนว่าแค่พูดเล่นเท่านั้น แต่ว่าดันมีคนลงมือแทนเขา
เมื่อเห็นหมีโลลิผลักคุณพ่อ ยัยตัวเล็กก็โกรธขึ้นมาในทันใด เธอโพล่งออกมาจากหลังโซฟา พุ่งตัวไปอยู่ด้านหน้าหมีโลลิอย่างรวดเร็ว แล้วก็เหมือนกับเป็นซูโม่ ที่แค่อุ้มเอวใหญ่ๆ ของหมีโลลิไว้ก็ทำให้มันล้มลงได้ จากนั้น หนึ่งคนกับหนึ่งโลลิก็เริ่มกลิ้งไปมากันบนพรมขึ้นมา
ยัยตัวเล็กออกหมัดราวกับตีกลอง ทุบตุบตับๆ ไปที่หมีโลลิ หมีโลลิเองก็ไม่ยอมแพ้ ใช้สองมือผลักยัยตัวเล็กออก ยืนขึ้นมาแล้วก็ร้องออกมาอย่างโกรธแค้น เตรียมจะจัดการยัยตัวเล็ก
หลังถูกผลักออกแล้ว เถียนกวาก็รู้ว่าตัวเองคนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมีโลลิ แม้ว่าจะเป็นหมีโลลิน่ารักในบรรดาหมีขั้วโลกเหนือก็เถอะ แต่หมีโลลิก็ยังเป็นหมีอยู่นะ พลังในการต่อสู้ของหมีขั้วโลกเหนือถือว่าเป็นที่หนึ่งไม่เป็นรองใครในตระกูลหมีเลย ถึงเป็นหมีสีน้ำตาลโคโลราโดก็ยังต้องยอมให้เลย
พอลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้ว ยัยตัวเล็กจ้องเขม็งไปที่หมีโลลิทีหนึ่ง จากนั้นก็ซอยขาสั้นๆ วิ่งออกไปทางประตูอย่างรวดเร็ว
หมีโลลิได้เปรียบแล้วทั้งที จะรามือง่ายๆ ได้อย่างไร? จึงวิ่งตามออกไปติดๆ มันส่งเสียงร้องอาวๆ อย่างได้ใจพร้อมกับวิ่งไล่ยัยตัวเล็กไป
ฉินสือโอวกับวินนี่รีบวิ่งตามออกไป หมีโลลิได้เติบโตเป็นหมีขั้วโลกเหนือครึ่งตัวแล้ว หากไม่ระวังแล้วล่ะก็สามารถอัดยัยตัวเล็กให้เป็นหมูสับได้เลย ฉายาราชาแห่งโลกหิมะน้ำแข็งนั้นไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย เป็นได้มาเพราะการสู้รบจริงๆ
หลังจากวิ่งออกไป ยัยตัวเล็กก็วิ่งตรงไปที่ชายทะเล หมีโลลิวิ่งตามไปติดๆ ไม่ลดละ แต่ไม่นานยัยตัวเล็กก็ไม่วิ่งแล้ว เพราะด้านหน้าได้มีแมวน้ำที่โตครึ่งตัวสองตัวกระโดดออกมาประจันหน้า พวกเขาพากันจ้องไปที่หมีโลลิด้วยสายตาอาฆาตแค้น…
…………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset