ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 219 ปลูกสาหร่ายทะเล (2)

บทที่ 219 ปลูกสาหร่ายทะเล (2)
โดย
Ink Stone_Fantasy

ครั้งนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองที่มีแต่พืชผักล้วนๆ ไม่มีอาหารทะเล ทุกอย่างเป็นอาหารตะวันตกและอาหารจีน ฉินสือโอวและวินนี่ต่างแสดงฝีมือ ทำเอาครอบครัวของชาร์คและซีมอนสเตอร์ต่างชมไม่หยุดปาก
ผ่านไปอีกสองวัน ปลายเดือนกรกฎาคม วินนี่จะกลับไปที่โทรอนโตแล้ว ฉินสือโอวไปส่งเธอที่สนามบิน สองคนทั้งกอดและจูบกันอย่างดูดดื่มที่สนามบิน จนคนเดินทางที่รออยู่ในห้องโดยสารต่างมองเพลิน
พอฉินสือโอวกลับไปที่ฟาร์มปลา เตรียมที่จะปลูกสาหร่ายทะเลพอดี บริษัท ดิค พันธุ์พืชน้ำทะเลส่งคนงานมาปลูกพืช เขาไม่ต้องทำเอง เพียงแค่เซ็นชื่อบนเช็คก็พอ
เมื่อคนงานมาถึงฟาร์มปลา ก่อนอื่นเลยต้องติดตั้งแผงแพเพาะเลี้ยง ซึ่งแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ คือแผงเดี่ยวใหญ่แบบราวเดียวและแผงคู่ใหญ่แบบราวคู่ตามที่คนทั่วไปเรียกกัน ราวแขวนไม้ทั้งสองแบบมีทั้งข้อดีข้อเสีย ฉินสือโอวใช้ทั้งสองแบบ สลับกันใช้แผงแบบราวเดียวและแบบราวคู่
คนงานเพาะเลี้ยงติดตั้งทุ่นลอยที่ทำจากวัสดุโพลีเอทิลีนโฟมบนพื้นผิวน้ำทะเล จากการลอยตัวของทุ่นลอยทำให้สายโยงใยสลับกันไปมาทั้งแนวตั้งและแนวนอนในน้ำทะเล หลังจากนั้นตั้งแผงแพลงไปก็เรียบร้อย วัสดุส่วนมากที่ใช้ก็จะเป็นเชือกจากเส้นใยพืชและเส้นใยสังเคราะห์
พอติดตั้งโซนแผงเพาะเลี้ยงเสร็จ ก็สามารถแขวนต้นอ่อนสาหร่ายบนแผงได้
ด้วยวิธีนี้ แผงหนึ่งก็จะมีขนาด 40-50 เมตร โดยทั่วไป 30-40 แผงจะถือเป็นหนึ่งโซน ซึ่งระยะห่างในแต่ละโซนจะอยู่ประมาณ 40 เมตร และระยะห่างในแต่ละแผงจะอยู่ที่ประมาณ 8 เมตร
ใช้เวลาไปหนึ่งวันในการแบ่งแผงโซน ในวันที่สองจะมีเรือบรรทุกสินค้ามาส่งต้นอ่อนสาหร่าย คนงานปลูกพืชจะพายเรือเล็กออกไปที่แผงแพเพื่อแขวนต้นอ่อนสาหร่าย ต้นอ่อนสาหร่ายสีเขียวนุ่ม รอพวกมันดูดซึมแสงแดดและสารอาหารในทะเล ภายหลังก็จะเจริญเติบโตเป็นสาหร่ายที่มีขนาดใหญ่
หลังจากแขวนต้นอ่อนเสร็จ สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือให้ปุ๋ย นี่คือเหตุผลที่คำว่า ‘การเพาะเลี้ยง’ ถึงถูกใช้ในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลนอกชายฝั่งจริง เหมือนกับการปลูกพืชในสวน อยากให้สาหร่ายโตไว ก็ต้องให้ปุ๋ย โดยเฉพาะฟาร์มปลาในรัฐนิวฟันด์แลนด์ที่มีปริมาณไนโตรเจนอยู่น้อย
การให้ปุ๋ยในน้ำก็มีปัญหาอยู่ ซึ่งก็คือสาหร่ายทะเลจะดูดซึมได้น้อย ทิ้งเสียไปมาก ประสิทธิภาพของการให้ปุ๋ยก็จะต่ำ
ตามลักษณะพิเศษนี้ บริษัท ดิค พันธุ์พืชน้ำทะเลได้แนะนำกับฉินสือโอวให้ใช้ปุ๋ยถุงแบบแขวน คือนำถุงกระดาษที่ย่อยสลายได้ที่กรองได้ค่อนข้างดีแขวนเว้นระยะประมาณหนึ่งบนแผงแพ แล้วใส่ปุ๋ยที่ละลายยากไว้ด้านใน
ตามการกระเพื่อมของกระแสน้ำ ปุ๋ยที่อยู่ในถุงกระดาษก็จะค่อยๆละลาย เพราะถ้าหากละลายเร็วเกิน สาหร่ายทะเลก็จะดูดซึมไม่ทัน ก็จะเปลืองปุ๋ยเสียเปล่า ซึ่งถ้าใช้วิธีนี้ ก็จะสามารถเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ของสาหร่ายทะเลจากปุ๋ยได้มากขึ้นกว่าเดิมมาก
พอแขวนถุงปุ๋ยเสร็จ งานชุดแรกก็ตระเตรียมไปได้เยอะทีเดียว ขอเพียงแค่ผ่านไประยะเวลาหนึ่งแล้วแตกต้นอ่อนก็โอเคแล้ว บริษัท ดิค พันธุ์พืชน้ำทะเลรับผิดชอบดูแลทุกอย่าง ฉินสือโอวไม่ต้องทำงานอะไรของตัวเองทั้งนั้น
นี่ก็คือข้อดีของคนรวยในแถบอเมริกาเหนือ เลือกโครงการที่ทำ เงินก็สามารถงอกเงยเป็นเงินได้ต่อ แต่ละงานก็มีคนทำ ตราบใดที่คุณยินดีที่จะลงเงิน ก็จะมีคนหารายได้เพื่อคุณ
ยกตัวอย่างการปลูกสาหร่ายทะเล ฉินสือโอวต้องทำอะไรบ้าง? จัดที่เพาะเลี้ยงให้ เลือกชนิดสาหร่ายทะเล เซ็นเช็ค หาลูกค้า ที่เขาต้องทำก็คือพวกนี้ หลังจากนั้นตั้งแต่เพาะเลี้ยงไปจนถึงแปรรูปสาหร่าย และงานอื่นๆมีคนช่วยเขาทำทั้งหมด
ปลูกสาหร่ายทะเลเสร็จ ฉินสือโอวจะหาเวลาเตรียมสอบใบขับขี่ มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถขับรถได้ตราบใดที่ยังอยู่ที่เกาะแฟร์เวลนี้ ช่างรำคาญใจเสียจริง!
ในแคนาดา การจัดเวลาในการสอบข้อเขียนใบขับขี่ สามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือเมืองเล็กทุกที่ต่างมีศูนย์ทดสอบ น่าเสียดายที่เมืองแฟร์เวลมีคนน้อย จึงยังไม่มีศูนย์ทดสอบ ฉินสือโอวทำได้แค่ไปที่เมืองเซนต์จอห์น
เมื่อก่อนเขาเคยสมัครโรงเรียนสอนขับรถไปแล้ว มีชื่อว่า โรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส ตอนนั้นที่ฉินสือโอวถูกใจเพราะโรงเรียนนี้บอกว่าคุณครูของพวกเขาย้ายมาจากทางเอเชียตะวันออก สื่อสารสะดวก อีกทั้งบอกว่าหลังจากนี้ถ้าซื้อประกัน พวกเขามีวิธีในการลดราคาประกันด้วย
ในวันที่ 25 กรกฎาคม ฉินสือโอวออกเดินทางไปเมืองเซนต์จอห์น พอมาตรงถนนก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงเรียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอ็กซ์เพรสเลย
ตอนนั้นที่คนขับรถแท็กซี่ได้ยินว่าเขาจะไปโรงเรียนสอนขับรถนี้ แววตาแปลกๆ แต่ฉินสือโอวตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไร รีบไปที่นั่นด้วยความตื่นเต้น
พอถึงเขาก็ตะลึงงัน โรงเรียนสอนขับรถที่พูดนั้นเนื้อที่ก็ไม่น้อย ล้อมรอบด้วยที่โล่งๆ ข้างในมีรถและบ้านที่ทำจากสังกะสีหลากสีสันกระจายตัวอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะประตูทางเข้าเขียนอย่างชัดเจนว่า ‘โรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส’ เขายังนึกว่าเขามาที่เขตก่อสร้างด้วยซ้ำ
ป้ายหน้าประตูของโรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรสก็ทำได้มีสีสันมาก ทั้งหมดมี 8 ภาษา มีภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาไทย ภาษาอินโดนีเซีย เป็นต้น มีทุกภาษา
ย้อนกลับไปคิดถึงสีหน้าแปลกๆของคนขับรถนั่นตลอดทาง ฉินสือโอวในที่สุดก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงรีบโทรหาเออร์บัก ให้เขาช่วยเช็กว่า ‘โรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส’ ที่ว่านี้เป็นยังไงกันแน่
พอโทรเสร็จ ก็มีคนเดินออกมาจากห้องต้อนรับลูกค้า ถามด้วยความกระตือรือร้นว่า “มาสมัครสอบใบขับขี่ใช่ไหมครับ คุณผู้ชาย?”
ฉินสือโอวอธิบายว่า “ไม่ครับ ผมสมัครไว้แล้ว ตอนนั้นสมัครผ่านทางโทรศัพท์ เงินก็โอนให้เรียบร้อยแล้วครับ”
หลังจากฟังคำเขาบอก คนคนนั้นก็พยักหน้าอย่างผิดหวัง แล้วหันหลังเดินกลับไปที่ห้องต้อนรับ
ฉินสือโอวเห็นแบบนี้ก็ไม่ได้การ จึงรีบตามไปถาม “เมื่อวานผมโทรนัดทางโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว วันนี้มาสอบ G1 สอบถามหน่อยครับว่าไปทางไหน”
การสอบ G1 ก็คือการสอบข้อเขียน การสอบใบขับขี่ที่แคนาดาแบ่งเป็นสามขั้นตอน คือ G1 การสอบข้อเขียน G2 การสอบปฏิบัติบนท้องถนน  G3 การสอบปฏิบัติบนทางด่วน
อย่างฉินสือโอวที่มีใบขับขี่ในประเทศจีนอยู่แล้วสามารถไปสอบข้อเขียน G1 ได้โดยตรง วิธีการทดสอบคือการสุ่มเลือกคำถามสัญลักษณ์ป้ายจราจร 20 คำถามและคำถามทั่วไปเกี่ยวกับการขับขี่บนถนน 20 คำถามจากคลังข้อสอบ 1,000 ข้อ รวม 40 คำถาม ขอแค่คะแนนเฉลี่ยการตอบผิดน้อยกว่า 10% ก็จะถือว่าสอบผ่าน
คนคนนั้นมีใบหน้าเป็นชาวเอเชีย แต่ผิวค่อนข้างคล้ำ ดูๆ แล้วเหมือนคนอินโดนีเซีย เดิมทีฉินสือโอวก็ไม่มีความทรงจำที่ดีกับลิงที่อินโดนีเซียอยู่แล้ว แล้วเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ดูไม่ค่อยจะใส่ใจ นิ้วชี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็เดินเข้าห้องต้อนรับไป ทำให้ฉินสือโอวโกรธมาก
ฉินสือโอวเปิดประตูห้องต้อนรับ แล้วถามว่า “ขอโทษนะครับ คุณคือพนักงานที่นี่ใช่ไหม ผมอยากจะทราบว่าไปสถานที่ที่สอบ G1 อย่างไร รบกวนคุณช่วยบอกทางหน่อยครับ”
ชายคนนั้นมองบนแล้วพูดว่า “คุณจะไปสอบ แล้วยืนทำอะไรหน้าประตู? เข้าไปข้างในถามคนก็ได้ละ ผมจะไปรู้ได้อย่างไรว่าคุณสอบที่ไหน?”
ติดกับคนอินโดนีเซียคนนี้ ในห้องต้อนรับมีทั้งหมดสี่คน ล้วนเป็นวัยกลางคนที่มีสายตาเย็นชา สามคนที่เหลือห้อมล้อมคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องเล่นเกมอยู่ พอคนอินโดนีเซียตะโกนหน่อย ทั้งสามหันมาทางฉินสือโอวด้วยสีหน้าไม่ยินดีพร้อมกัน
ฉินสือโอวด่าในใจ หมาจริงๆเลย ถ้าเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองดวงซวยมาเจอโรงเรียนสอนขับรถไม่ดีอย่างนี้ เขาก็คงสมองพิการไปแล้ว
ตอนแรกที่เพิ่งมาถึงที่ประเทศแคนาดา เออร์บักเคยบอกเขาว่า ที่นี่มีประเภทบริษัท คนกลางที่ทำผิดกฎหมายอยู่เยอะ เอาแต่เงินแล้วไม่ดำเนินเรื่องให้ ให้เขาระมัดระวังเวลาหาที่แบบนี้ ตรวจสอบก่อนแล้วค่อยจ่ายเงิน จะได้ไม่โดนหลอก
ตอนที่สมัครสอบที่โรงเรียนนี้ เขาตัดสินใจเลือกหลังจากที่โพสต์ถามลงในกระทู้กลุ่มคนจีนบนอินเทอร์เน็ตแล้ว ตอนนั้นมีคนไม่น้อยที่แนะนำโรงเรียนนี้ให้เขา ตอนนี้มาคิดคิดดู คนพวกนั้นที่แนะนำต้องเป็นพวกที่ถูกจ้างมา แต่ที่น่าขำก็คือเขาก็ยังโง่จ่ายเงินไป
ฉินสือโอวยิ้มไม่ได้รู้สึกจริงจังอะไรเมื่อเห็นทั้งสี่คนตั้งท่าเหมือนพร้อมจะหาเรื่องถ้าไม่มาดีด้วย เขาปิดประตูแล้วก็เดินเข้าไปในโรงเรียน เขาไม่เชื่อว่าเขาจะซวยอีก
ด้านในโรงเรียน มีรถจอดอยู่มากมาย แต่ไม่ใช่รถป้ายทะเบียนขาวที่กระทรวงคมนาคมของประเทศแคนาดากำหนดไว้ให้เฉพาะกับโรงเรียนสอนขับรถ มีรถเก่าบางคันไม่มีป้ายทะเบียน ฉินสือโอวเห็นในรถมีคนเรียนขับรถอยู่จริง ดูเหมือนว่าโรงเรียนนี้ถึงจะไม่ได้ปกติ แต่ก็ไม่นับว่าเป็นโรงเรียนผิดกฎหมาย
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset