ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1777 กระต่าย กระต่าย

พวกสุนัขพิตบูลนั้นฉลาดมาก ฉินสือโอวชี้นิ้วออกไป พวกมันก็รู้ความหมายทันที พวกมันรีบเห่าออกมาพลางวิ่งไปข้างหน้า หาเล็กๆ ของมันสะบัดไปมา ร่างที่แข็งแกร่งและใหญ่โตทะยานไปข้างหน้า!
แต่ว่า ฉินสือโอวไม่รู้ว่าพวกมันจะสามารถไล่กระต่ายพวกนั้นได้ ในทางตรงกันข้ามกระต่ายถือว่าเป็นรถเอฟวันในสนามการแข่งขัน รถถังสามารถบดขยี้รถแข่งได้ในการแข่งขัน แต่ไม่มีทางที่จะไล่ตามทันได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตั๋วตั่วเห็นเหล่าพิตบูลวิ่งไล่ตามกระต่าย เธอก็ตะโกนตามหลังไปว่า “ต้าหวา เอ้อร์หวา พวกแกวิ่งช้าๆ หน่อย อย่าฆ่ากระต่ายเชียวนะ!”
วินนี่ที่อยู่ด้านหลังยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าเธอจะพอใจกับการสั่งสอนของตัวเองมาก
อันที่จริงแล้วตั๋วตั่วไม่ต้องตะโกนเตือนเลย เพราะแม้ว่าท่าทางของพวกพิตบูลจะดูร้ายกาจ แต่ว่าพวกมันตามไม่ทันกระต่ายอยู่แล้ว พวกพิตบูลมีแรงในการกัดที่มหาศาลเป็นอย่างมาก แต่ความเร็วของพวกมันไม่ได้โดดเด่น หลังจากที่พวกกระต่ายปรากฏตัวขึ้นพวกมันก็หายไป พวกพิตบูลนั้นจึงทำได้เพียงกลับมาอย่างไม่มีความสุข
แต่ว่าพิตบูลนั้นฉลาด พวกมันจับกระต่ายไม่ได้ แต่พวกมันนำซังข้าวโพดขนาดใหญ่กลับมา มันคาบซังข้าวโพดมาเต็มปากแล้วมาวางอยู่หน้าฉินสือโอว จากนั้นก็หัวเอาถูกับขากางเกงของเขาด้วยความเชื่อง
“เจ้าพวกนี้ฉลาดจริงๆ” ฉินสือโอวยิ้มพลางเอื้อมมือออกไปลูบคอของมัน พิตบูลตัวนี้นั่งลงที่พื้นด้วยท่าทีสบาย มันหรี่ตาลงและส่งเสียงร้อง ‘งิ๊งๆ ‘ ออกมา ส่วนพิตบูลอีกตัวนั้นเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจ มันจึงวิ่งไปคาบซังข้าวโพดมาบ้าง
เหมาเหว่ยหลงตะโกนออกมา ด้วยความโมโหว่า “รีบไปจับกระต่ายเร็วเข้าสิ!”
ฉินสือโอวโบกกางมือออกแสดงท่าทางหมดหนทางพร้อมกับพูดว่า “สุนัขของแกไม่แข็งแรงพอ ไม่สามารถหวังให้จับกระต่ายมาได้เหรอนะ?”
เหมาเหว่ยหลงลงมาจากรถแทรกเตอร์ แล้วพูดว่า “ฉันจัดการพวกมันเอง แกไปขับรถไล่กระต่ายออกมาแทนนะ”
รถแทรกเตอร์นั้นขับง่ายมาก ฉินสือโอวหมุนพวงมาลัยและขับไปรอบๆ ไร่อย่างไร้ทิศทางแน่นอน ไม่นานพวกกระต่ายก็ตื่นกลัวขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้พวกพิตบูลเข้าใกล้กระต่ายมากขึ้น พวกมันสับขาวิ่งไล่กระต่าย แต่ความเร็วของพวกมันเร็วไม่พอ แต่ก็ถือว่าทำได้ดี ไม่นานพิตบูลพวกนั้นก็ไล่ตามกระต่ายทัน
เมื่อเห็นว่าสุนัขพิตบูลกระโจนเข้าจับกระต่ายได้ เป็นผลให้กระต่ายพวกนั้นเปลี่ยนทิศทางหนีอย่างชาญฉลาด แต่เพราะว่าขนาดตัวของพิตบูลนั้นใหญ่ และอยากที่จะหยุดได้ทัน ร่างของพวกมันจึงพุ่งไปข้างหน้า ทำให้หัวของพวกมันทิ่มลงพื้น
เพราะแบบนี้ เหล่าพิตบูลจึงกลับมาด้วยความเขินอาย พวกมันก้มหัวซุกอยู่ที่ใต้ก้านข้าวโพด ก้นชี้โด่อยู่ที่พื้นไม่ขยับไปไหน หากไม่ใช่เพราะหางที่กำลังสะบัดไปมา เหมาเหว่ยหลงคงคิดว่าพวกมันหัวโม่งพื้นตายไปแล้ว
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “โคโกโร่แกเลี้ยงอะไรกันเนี่ย สุนัขพวกนี้ดุมากนะ แต่แม้แต่กระต่ายก็จับไม่ได้ มันจะมีอะไรที่เลวร้ายไปมากกว่านี้ไหม? หัวหน้าเป็นอย่างไรลูกน้องก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ…อ่า ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นต่างหาก”
เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาด้วยความโมโหว่า “แกนี่จะทำเกินไปแล้ว สุนัขของฉันจับกระต่ายเก่งมาก….”
ฉินสือโอวพูดอย่างเหนือกว่าว่า “แน่นอนสิ ฉันไม่ได้โม้นะ หู่จือและเป้าจือของฉัน จับกระต่ายได้อย่างราบรื่นเลยล่ะ อย่าว่าแต่กระต่ายเลย อันที่จริงถึงให้จับหมูป่าก็ไม่มีปัญหา คำเดียวที่จะอธิบายถึงพวกมันได้ก็คือ กล้ามาก!”
“ไปไกลๆ เลย สุนัขแกเก่งแค่ไหนก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไร มาคิดวิธีจับกระต่ายกันดีกว่านะ” เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น มาถึงตรงนี้เขาต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะว่าเขาเคยเห็นหู่จือและเป้าจือบนเขา แต่ว่าแลบราดอร์และพิตบูลนั้นถ้ามองในมุมถือว่าไม่ยุติธรรม พิตบูลไม่เหมาะที่จะจับกระต่ายอยู่แล้ว
ฉินสือโอวลงมาจากรถแทรกเตอร์ แล้วพูดว่า “ช่างเถอะ เรื่องนี้ฉันจัดการเอง แกไปขับรถเถอะ ไม่มีใครวิ่งทันกระต่ายได้หรอก”
เหมาเหว่ยหลงมองไปยังเขาด้วยความสงสัย “แกจะวิ่งไล่เองงั้นเหรอ? วิ่งไล่แบบสี่ขาน่ะเหรอ? ไม่ได้หรอก ต่อให้แกมีห้าขาก็ไม่สามารถวิ่งไล่พวกมันได้”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาพลางผลักเขาเบาๆ หนึ่งที “ไปเลย ลูกสาวฉันอยู่ที่นี่ อย่าพูดอะไรไร้สาระ แกไปเถอะ ฉันมีของ ดูฉันไว้นะ” พูดจบ เขาก็เอานิ้วเข้าปากและผิวปากออกมา
เสียงผิวปากดังขึ้น แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหมาเหว่ยหลงมองไปยังฉินสือโอว เถียนกวาก็มองไปยังปะป๊าของตัวเอง ตั๋วตั่วมองไปยังพ่อบุญธรรม มีเพียงวินนี่เท่านั้นที่อมยิ้มอยู่ข้างๆ
“แกทำอะไรน่ะ?” เหมาเหว่ยหลงสบถถามออกมา
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาแล้วตอบกว่า “ให้ตายสิ เฟอเรททั้งสองตัวของฉันอยู่ไหนเนี่ย? นับวันยิ่งไม่เชื่อฟังนะ เป็นลูกชายและลูกสาวที่ดื้อรั้นจริงๆ ชักจะโมโหแล้วสิ!”
พี่น้องเฟอเรททนไม่ได้กับคำสบประมาท พวกมันกำลังนอนอาบแดดอย่างสบายใจอยู่ข้างๆ วินนี่ทั้งสองข้าง สำหรับเสียงผิวปากของฉินสือโอวแล้วพวกมันไม่สนใจ เพราะว่ามันเป็นเสียงเรียกสุนัขเข้าใจไหม และพวกมันไม่ใช่สุนัข!
ฉินสือโอวชี้ไปที่พี่น้องเฟอเรทอ เถียนกวารีบวิ่งมาจับพวกมันไว้ทันที พี่น้องเฟอเรทหมุนตัวลุกขึ้น แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างว่าง่าย สิ่งที่จะช่วยลดความขมขื่นหลังจากที่ถูกจับได้
เถียนกวาส่งเฟอเรททั้งสองตัวให้ปะป๊าอย่างมีความสุข ฉินสือโอวลูบขนยาวๆ ของพี่น้องเฟอเรท สีหน้าของเขาดูอ่อนโยนมาก พี่น้องเฟอเรทรู้สึกดีประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกมันคิดว่าจะต้องมีการสมรู้ร่วมคิดอะไรบางอย่างกันอยู่แน่ๆ
และพวกมันก็เดาถูก เมื่อกระต่ายปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ฉินสือโอวก็ชี้ไปยังกระต่ายพวกนั้น แล้วตะโกนออกมาว่า “ไปจับมัน!”
พี่น้องเฟอเรทมีน้ำหนักหนึ่งกิโลกรัม แต่กระต่ายป่าพวกนั้นหนักห้าถึงหกกิโลกรัม ทางมุมมองทางกายภาพกระต่ายมีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก แต่ฉินสือโอวเชื่อใจในพวกมันเต็มเปี่ยม เฟอเรทแบลคฟุตเป็นนักล่ามือฉมัง แม้ว่าพวกมันจะชอบล่ากระรอกดินและหนูในป่าแต่ว่ากระต่ายพวกนี้พวกมันก็ไม่ปฏิเสธ เฟอเรทแบลคฟุตเป็นนักฆ่าที่ยอดเยี่ยม!
นอกจากพลังของพวกมันแล้ว ความเร็วและความยืดหยุ่นของเฟอเรทแบลคฟุตถือว่าน่ากลัวเป็นอย่างมาก พวกมันจับกระต่ายในพื้นที่ทุรกันดาร แม้ว่าจะไม่ได้จับมาเพื่อกิน แต่ก็เพื่อความสนุกสนานและเป็นการฝึกทักษะในการล่าสัตว์ พี่น้องเฟอเรทแม้ว่าจะไม่เคยจับกระต่ายมาก่อน แต่ทักษะการล่าสัตว์อันยอดเยี่ยมของพวกมันได้ถูกถ่ายทอดมาทางสายเลือด
ฉินสือโอวชี้ไปที่กระต่าย พี่น้องเฟอเรทก็รีบทะยานไปข้างหน้าตามคำสั่งทันที ร่างของพวกมันปรากฏขึ้นในอากาศอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไม่กี่วินาทีพวกมันก็ปรากฏตัวใกล้ๆ กับกระต่าย
โดยสัญชาตญาณแล้ว กระต่ายจะสลัดศัตรูที่อยู่ด้านหลังด้วยการเปลี่ยนทิศทาง แต่ว่าพวกเฟอเรทนั้นตัวค่อนข้างเล็ก การเปลี่ยนทิศทางจึงมีความคล่องตัวมากกว่า ยังดีที่กระต่ายตัวนี้ไม่หันกลับมา มันยังคงรักษาความได้เปรียบจากการวิ่งไปข้างหน้า การเปลี่ยนทิศทางในตอนนี้จะทำให้เสียเวลา จากนั้นเฟอเรทพี่ชายก็กระโดดขึ้นทันที ไม่นานกระต่ายป่าก็ล้มลงกับพื้น ปากเล็กๆ ของเฟอเรทพี่ชายอ้าออกจนเห็นเขี้ยวเล็กๆ มันสะบัดหัวไปมาหมายจะฉีกคอของกระต่าย…
กระต่ายดิ้นรนอย่างหนัก เฟอเรทพี่ชายไม่สามารถหยุดมันไว้ได้ แต่เพราะกระต่ายบาดเจ็บสาหัส ทำให้มันลุกขึ้นวิ่งนี้ได้ไม่กี่ก้าวก็เสียชีวิตลง เฟอเรทพี่ชายวิ่งไปลากคอกระต่ายกลับมา กระต่ายตัวนี้หนักมาก เฟอเรทตัวน้อยลากมันมาได้ไม่เท่าไรก็เหนื่อยจนต้องนั่งพัก มันหายใจแรงขึ้นเพราะเหนื่อย
จากนั้นกระต่ายอีกตัวก็ปรากฏตัวขึ้น ในฟาร์มมีกระต่ายพวกนี้อยู่จำนวนมาก ครั้งนี้เฟอเรทน้องสาวออกโรงบ้าง เพราะความเร็ว และความยืดหยุ่นของมัน ทำให้มันตามกระต่ายได้อย่างรวดเร็ว และมันก็ทำให้กระต่ายล้มได้ด้วยวิธีเดียวกัน
พี่น้องเฟอเรทลากกระต่ายมาไม่ไหว ฉินสือโอวไปหยิบกระต่ายป่าขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่เถียนกวาส่ายหัวไปมา “ไม่ใช่ๆ กระต่ายวิ่งได้ กระต่ายวิ่งได้!”
………………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset