ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 232 หาง

บทที่ 232 หาง
โดย
Ink Stone_Fantasy

เมื่อขับเรือยอชต์นางนวลเข้ามา เหล่าชาวประมงก็พากันมองอย่างสงสัย เมืองกลอสเตอร์นั้นยังเป็นเมืองท่าสำหรับท่องเที่ยวอีกด้วย เนื่องจากมีอ่าวที่สวยงามและชายหาดที่ขาวสะอาด เรือยอชต์ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ของที่นี่แต่เรือยอชต์ที่มีชื่อภาษาจีนนั้นพบเห็นได้น้อยมาก
เหล่าชาวประมงคิดว่าฉินสือโอวมาเที่ยวเล่นแถวนี้ แต่หลังจากรอให้เรือเข้าเทียบท่า เรือกลับไม่หยุดที่ท่าเรือ แต่กลับแล่นไปยังบริษัทประมงแทน
นี่เป็นบริษัทประมงที่สองแล้วที่ฉินสือโอวเคยไป ซึ่งมันแตกต่างจากครั้งแรกที่เซนต์จอห์นอยู่ไม่น้อย ชาวประมงที่นี่ไม่ได้ต่อต้าน เพียงแค่อยากรู้อยากเห็นไม่ก็มองพวกเขาด้วยสายตาเบื่อหน่าย
ชาร์คเริ่มอธิบายให้ฉินสือโอวฟัง “ชาวประมงในเมืองกลอสเตอร์นั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่ละปีพวกเขามีเวลาในการจับปลาทูน่าประมาณสิบอาทิตย์ รายได้ของพวกเขาก็หลายแสนเลยล่ะ นอกจากนี้พวกเขาก็ยังจับปลาในช่วงเวลาปกติด้วย ถือได้ว่าพวกเขาเป็นชนชั้นกลางของอเมริกาเลย ซึ่งแตกต่างกับชาวประมงในเซนต์จอห์นที่เกือบจะล้มละลาย ดังนั้นถ้าจะให้พูดล่ะก็ ชาวประมงที่นี่นิสัยดีกว่านิดหน่อยและความรู้สึกเกลียดชังคนรวยก็น้อยกว่าด้วย”
ฉินสือโอวเพิ่งจะเข้าใจตรรกะนี้ เขานึกว่าชาวอเมริกันจะแย่กว่าชาวแคนาดาซะอีก
ฉินสือโอวไม่คุ้นเคยและไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การประมงของที่นี่ ดังนั้นเขาจึงเลือกบริษัทประมงที่มีเรือจอดอยู่เยอะที่สุดที่ชื่อว่า ‘บริษัทไทรเด้นท์ฟิชชิ่ง’
เมื่อเปรียบเทียบกับเซนต์จอห์น เมืองกลอสเตอร์นั้นมีขนาดเล็กกว่ามาก มีพื้นที่ไม่ถึง 4,000 เฮกตาร์และมีประชากรอาศัยอยู่เพียงพันกว่าคน
แต่บริษัทประมงที่ท่าเรือแห่งนี้กลับมากกว่า มองคร่าวๆ ด้วยสายตาก็มีไม่ต่ำกว่าสิบบริษัท ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเปิดไฟสว่างไสวรอรับซื้อปลา
เมื่อเรือของฉินสือโอวเข้าเทียบท่า ชาวประมงรอบๆ คิดว่าเขาจอดผิดที่จึงรวมตัวกันอยู่ข้างๆ รอจะหัวเราะเยาะ
พอบริษัทไทรเด้นท์ฟิชชิ่งโยนตะขอให้ฉินสือโอวนำตะขอไปเกี่ยวกับหางปลาและยกปลาทูน่าขนาดใหญ่ขึ้นมา
ชาวประมงที่อยู่รอบๆ ก็ส่งเสียงฮือฮากัน ฉินสือโอวชอบความรู้สึกของการได้ตีแสกหน้าคนแบบนี้
“เนื้อปลาเกรดเอ ราคา 14 ดอลลาร์ต่อปอนด์ น้ำหนักรวม 559 ปอนด์หักน้ำหนักของเชือกออก 4 ปอนด์ เหลือ 555 ปอนด์”จากนั้นชายชราผิวขาวตัวอวบอ้วนก็หันมาพูดกับฉินสือโอวว่า “ขอดูใบอนุญาตตกปลาของคุณหน่อย ราคานี้คุณตกลงไหม?”
ชาร์คยื่นใบอนุญาตยกปลาและหนังสือเดินทางให้ชายชรา เขาตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า เวลานั้นเองหญิงสาวผู้มีตาสีเขียวที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็ถามขึ้นมาว่า “ให้เราจ่ายเป็นเช็คหรือให้โอนเงินเข้าบัญชีดีคะ?”
ฉินสือโอวตอบว่า “ขอเป็นเช็คก็แล้วกันครับ”
เขายังไม่ได้เปิดบัญชีที่อเมริกาเลย แล้วถ้าจะให้โอนเงินข้ามประเทศจะยุ่งยากอีก
ชายชราคืนใบอนุญาตตกปลาและหนังสือเดินทางให้ชาร์คพร้อมพูดว่า “แอนเฟอร์นีคิดน้ำหนักให้เขาไป 560 ปอนด์เลยก็แล้วกัน”
ฉินสือโอวจับมือกับชายชราอย่างน้อบน้อมเพื่อขอบคุณ ชายชรายิ้มและแสดงความยินดีกับเขาที่จับปลาตัวใหญ่ได้และยังให้นามบัตรของตัวเองแก่ฉินสือโอวอีกด้วย ชายชราผู้นี้มีชื่อว่าเจมส์ ลูวิส เป็นผู้ดูแลบริษัทไทรเด้นท์ฟิชชิ่งเมืองกลอสเตอร์
กลุ่มชาวประมงจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก คนที่จับปลาทูน่าที่นี่ทุกปีก็มีกันอยู่เท่านี้และดูเหมือนว่าชาวประมงแต่ละคนก็มีบริษัทประมงเจ้าประจำของตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการหาลูกค้าจึงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับบริษัทประมงทุกบริษัท พอมีหน้าใหม่เข้ามาบริษัทประมงก็จะรีบคว้าโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้ทันที
หน้าใหม่จะจับปลาได้ไม่ได้ไม่สำคัญ อย่างมากก็เสียแค่นามบัตรใบเดียวใช่ไหมล่ะ?
ปลาตัวนี้ทำให้ฉินสือโอวมีเงินเข้าบัญชีอีกเกือบแปดพันดอลลาร์สหรัฐซึ่งเมื่อแปลงเป็นดอลลาร์แคนนาดาแล้วก็เกือบหมื่นเลยทีเดียว
ราคานี้ต่างกับราคาที่ชาร์คบอกว่าควรจะได้สองหมื่นดอลลาร์ แต่บริษัทประมงเกือบทั้งหมดก็รับซื้อกันอยู่ที่ครึ่งราคาอยู่แล้ว เพราะการขนส่งทางอากาศจากสหรัฐอเมริกาไปยังโตเกียวรวมถึงการชำระภาษีนั้นยังต้องใช้เงินอีกจำนวนหนึ่ง
ฉินสือโอวสะบัดเช็คที่ได้รับมา แล้วพาอีวิลสันกับพรรคพวกขึ้นฝั่ง ส่วนชาร์คคอยดูแลฉงต้ากับพวกหู่จืออยู่บนเรือ พวกมันไม่สามารถขึ้นฝั่งได้ ยิ่งไปกว่านั้นห้ามให้ใครเห็นด้วย
สำหรับคนแล้วแค่มีหนังสือเดินทางก็สามารถเดินทางเข้าออกระหว่างอเมริกากับสหรัฐได้อย่างไม่มีปัญหา แต่กับสัตว์นั้นไม่เหมือนกัน
หลังจากที่ฉินสือโอวกับพรรคพวกขึ้นฝั่งก็มีคนเดินตามพวกเขา ชายหนุ่มผมบลอนด์ช่างพูดคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาทักทายพวกเขา “เฮ้เพื่อน คนแคนาดาเหรอ? สวัสดี ฉันวิสเติล เป็นคนพื้นเมืองที่นี่”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘คนพื้นเมือง’ ฉินสือโอวก็ยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “สวัสดีเพื่อน พวกเรามาจากแลบราดอร์และนิวฟันด์แลนด์ ตั้งใจมาตกปลาโดยเฉพาะและไม่ค่อยคุ้นเคยกับเมืองนี้เท่าไร ช่วยแนะนำบาร์ดีๆ ให้เราหน่อยได้ไหม?”
วิสเติลโบกมือแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันจัดการให้ ตามฉันมาสิ ฉันจะทำให้พวกนายกินอิ่ม นอนหลับอย่างสุขสบายโดยเสียเงินไม่เท่าไร”
เขาคนนั้นขับรถกระบะจีเอ็มซี ส่วนฉินสือโอวเรียกแท็กซี่ พวกเขามุ่งหน้าไปที่เขตเล็กๆ เขตหนึ่งของเมืองที่อยู่ไม่ไกล
ระหว่างทาง วิสเติลเผยความตั้งใจที่แท้จริงของเขาแล้วพูดตรงๆ เรื่องการตกปลา “พวกนายสุดยอดไปเลย มาปุ๊บก็จับได้ปลาตัวใหญ่ ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ จริงสิเพื่อน พวกนายใช้เบ็ดกับเส้นเอ็นยี่ห้ออะไรเหรอ? ใช้เหยื่ออะไร? ปลาแฮร์ริ่ง ปลาหมึก ปลาแมกเคอเรลหรือว่าปลาแอนโชวี่?”
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความลับอะไร ฉินสือโอวจึงบอกเขาไปทีละอย่าง หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าจะทำให้หนุ่มหล่อแห่งอเมริกาคนนี้ผิดหวังไม่ได้จึงบอก ‘ความลับ’ ไปอีกนิดหน่อย “เหยื่อที่พวกเราใช้ไม่ใช่ปลาธรรมดาๆ นะเพื่อน ไม่ธรรมดาเลย”
ซีมอนสเตอร์กับนีลเซ็นหัวเราะเบาๆ เพราะรู้ว่าเจ้านายของพวกเขากำลังจะเริ่มเล่นละครแล้ว
วิสเติลได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้นและถามว่า “มีเคล็ดลับอะไรเหรอ?””
ฉินสือโอวตอบว่า “นายจะต้องหยดเลือดแกะเล็กน้อยลงบนเหยื่อที่ถูกแช่แข็งไว้ จำไว้นะว่าใช้เลือดวัวหรือเลือดหมูก็ไม่ได้ ต้องเป็นเลือดแกะเท่านั้น แน่นอนว่าต้องใส่น้ำมันงาในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย เหยื่อแบบนี้เป็นเหยื่อที่ปลาทูน่าชอบ”
ที่เขาพูดแบบนี้เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแกล้งหนุ่มหล่อคนนี้ แม้ว่าปลาทูน่าจะไม่กระหายเลือดเหมือนฉลาม แต่พวกมันก็ไวต่อกลิ่นเลือดเหมือนกัน ชาวประมงหลายคนก็ใส่เลือดสัตว์ลงไปในเหยื่อเพื่อดึงดูดปลาทูน่ากันทั้งนั้น
วิสเติลรับฟังแล้วพูดว่า “แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ฉันว่าที่นายพูดก็มีเหตุผล คนเอเชียอย่างพวกนายเก่งเรื่องลี้ลับ เรื่องแบบนี้ต้องยกให้พวกนายเลย”
เขตเล็กๆ ของเมืองนี้ใหญ่ราวกับตำบล หลังจากเลี้ยวไปสองสามทีก็มาหยุดที่อาคารสามชั้นแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นวิสเติลก็ช่วยฉินสือโอวยกกระเป๋าแล้วพูดว่า “โอเค ถึงแล้วเพื่อน บ้านของวิสเติล ฉันพนันได้เลยว่าพวกนายจะต้องชอบที่นี่”
ให้ตายสิ ฉินสือโอวไม่รู้ว่าจะดีใจหรือว่าเสียใจดี ใครจะไปคิดว่าครอบครัวของวิสเติลทำธุรกิจโรงแรม แบบนี้เรียกว่าเนื้อเข้าปากเสือได้รึเปล่า?
อาคารทั้งหมดถูกสร้างด้วยหินภูเขาและไม้เมเปิลขนาดไม่ใหญ่มาก ลักษณะภายนอกนั้นเรียบง่ายพอเข้าประตูไปก็พบว่าบ้านได้รับการทำความสะอาดอย่างดี
นำห้องรับแขกมาทำเป็นร้านอาหารที่มีโต๊ะอยู่เจ็ดแปดตัว มีบาร์เล็กๆ อยู่ที่มุมฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ และมีทีวีแขวนอยู่เครื่องหนึ่ง ชั้นสองและชั้นสามเป็นห้องนอนให้เช่า มีตั้งแต่ห้องเตียงเดี่ยวไปจนถึงห้องที่นอนได้สามคน ราคาถูกมาก ห้องเตียงเดี่ยวที่หรูหราที่สุดแค่คืนละ 45 ดอลลาร์แถมยังมีอาหารเช้าให้อีกด้วย
ฉินสือโอวเห็นว่าห้องพักและผ้าปูที่นอนสะอาดดีก็รีบทำการจ่ายค่าที่พักล่วงหน้าไว้หนึ่งอาทิตย์ทันที เขาให้วิสเติลเพิ่มอีกสองร้อยดอลลาร์เพื่อเตรียมพวกพิซซ่าและขนมปังสำหรับอาหารเย็นด้วย
พอได้เงิน วิสเติลก็ยิ่งกระตือรือร้นเข้าไปใหญ่ ก่อนจากไปเข้าพูดว่า “ขอบอกไว้ก่อนเลยว่ารีบพักผ่อนซะแล้วพรุ่งรีบออกจากท่าตั้งแต่เช้ามืด ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้นายจะไม่สามารถตกปลาได้อย่างสงบสุขแน่”
“หมายความว่ายังไง?” ฉินสือโอวถาม
วิสเติลหยักไหล่แล้วพูดว่า “เชื่อฉันเถอะถ้านายไม่อยากถูกงับหาง รีบนอนรีบ รีบตื่นและรีบออกไปหาปลาตัวใหญ่ซะ”
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset