ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 79 การต่อสู้

บทที่ 79 การต่อสู้
โดย
Ink Stone_Fantasy

                คำตอบเฉลยออกมาทันที ฉินสือโอวรู้สึกว่าตะขอเกี่ยวปลาในมือของเขาจมลง เขาจึงค่อยๆดึงสลิงตกปลาขึ้นมา เมื่อดึงจนตะขอเกี่ยวปลาพ้นน้ำ กลุ่มคนก็ส่งเสียงร้องดีใจขึ้นทันทีที่เห็นเขาตกปลาหมึกขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือได้ตัวหนึ่ง
                ปลาหมึกเป็นสัตว์ที่โลภมากในมหาสมุทร หลังจากที่มันกินเหยื่อได้มันจะใช้หนวดของมันรัดเหยื่อไว้แน่น ดังนั้นเมื่อตกปลาหมึก เพียงแค่ตกได้มันก็จะไม่หลุดมือและวิ่งหนีไปไหนได้
                หลังจากที่ตกหมึกตัวนี้ได้ฉินสือโอวผ่ามันด้วยมีดแล้วนำเครื่องในทิ้ง จากนั้นเขานำตัวปลาหมึกแขวนไว้ที่ตะขอเกี่ยวปลาแล้วอธิบายเพิ่ม “ปลาหมึกโดยธรรมชาติของมันชอบกลิ่นคาวจำพวกเดียวกัน แต่ปลาหมึกตัวผู้จะมีกลิ่นคาวที่เฉพาะตัว โดยทั่วไปชาวประมงมักจะใช้ปลาหมึกตัวผู้ตัวเล็กเป็นเหยื่อล่อปลาหมึกตัวใหญ่”
                หลังจากเกี่ยวเหยื่อเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็นำสลิงตกปลาให้กับดาญ่า เพื่อให้เธอลองตกดู นักศึกษาคนอื่นๆเห็นจึงอยากจะลองบ้าง ฉินสือโอวจึงให้นีลเซ็นหาตะขอเกี่ยวปลามาอีกสักสองสามอันเพื่อเกี่ยวกับเส้นเอ็นตกปลา แล้วแจกจ่ายให้กับนักศึกษาให้พวกเขาผลัดกันตกปลาหมึก
                เมื่อกลับมาถึงท่าเรือ  ฉินสือโอวรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อยเขาจึงกลับไปนอนพัก จนถึงตอนเช้าเขานอนยังไงก็นอนไม่หลับ
                เขารู้สึกตัวแบบนี้มาสองชั่วโมงกว่าแล้ว หลังจากตื่นขึ้นมาเขาพบว่ามีนักศึกษาไม่กี่คนอยู่บนชายหาด ดาญ่าเองก็อยู่ที่นั่นเธอกำลังอ่านหนังสือ ฉินสือโอวจึงเดินเข้าถามไถ่ เธอบอกว่าพวกเพื่อนผู้ชายเจอแป้นบาสที่อยู่ในเมืองจึงไปเล่นกัน
                หลายปีมานี้เศรษฐกิจของเมืองแฟร์เวลไม่ค่อยจะดี จึงไม่มีงบพอที่จะสร้างโรงยิมมีเพียงแป้นบาสที่ตั้งอยู่มุมถนนเท่านั้น ชาวแคนาดาชอบกีฬาอย่างฮอกกี้น้ำแข็ง คริกเก็ตและรักบี้ ในเมืองแฟร์เวลไม่มีตลาดชาวอเมริกันจำนวนมากจึงชอบมาเล่นบาสเกตบอลที่นี่เพราะกีฬานี้มีข้อจำกัดในการใช้สถานที่ไม่มากนัก
                ฉินสือโอวก็ชอบเล่นบาสเกตบอล เมื่อตอนที่เขาอยู่มหาวิทยาลัยเขาเป็นกองหลังทีมคณะ แน่นอนว่าเขาเป็นตัวสำรอง
                เมื่อก่อนอากาศที่นี่จะหนาวเย็น มีไม่กี่คนที่จะออกมาเล่นบาสเกตบอล แต่ในเวลานี้เหล่านักศึกษาวิทยาลัยสนุกสนานมีชีวิตชีวาตามธรรมชาติ ฉินสือโอวนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็ไม่ได้เล่นบาสเกตบอลมานานแล้ว เขาจึงขับรถเข้าไปในเมือง
                บนมุมถนนถัดจากร้านสะดวกซื้อของฮิวจ์ มีหลายสิบคนล้อมรอบอยู่ใต้แป้นบาสจริงๆด้วย มีสองทีมกำลังแข่งขันกันที่สนาม และยังมีอีกสองทีมรอลงสนาม
                ฉินสือโอวจึงเบียดเข้าไปดูการแข่งขันของสองทีมที่อยู่ในสนามรูปแบบการเล่นแบ่งเป็นทีมละสามคน มีทีมหนึ่งเป็นคนในพื้นที่ หัวหน้าทีมคือฮิวจ์ อีกทีมคือนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต
                ฮิวจ์มีมาตรฐานในการควบคุมลูกได้ดี เขาสวมเสื้อยืดสไตล์ฮิปฮอปและกางเกงขาสั้น ลูกบาสสีส้มที่กำลังเด้งอย่างรวดเร็วในมือเขาราวกับเป็นปีศาจ แม้ว่าลูกบาสจะซุกซนแต่มันก็ไม่สามารถหนีออกจากการควบคุมของฮิวจ์ได้
                เพื่อนร่วมทีมของฮิวจ์เป็นชายหนุ่มสองคนที่สูงประมาณ 180 เซนติเมตร สองคนนี้จะเป็นคนชู้ตบาส ฮิวจ์ยังคงบุกอย่างต่อเนื่องจากนั้นเขาก็ส่งลูก ชายสองคนกระโดดรับส่งลูกอย่างรวดเร็วจนทำให้ทีมนักศึกษาสับสน จากนั้นทีมของฮิวจ์ก็ชนะสองเซต
                ฉินสือโอวกอดอกแล้วส่ายหัว เขาคิดว่าทักษะการเล่นบาสเกตบอลของนักศึกษาต่างชาติจะดีมาก แต่ดูท่าแล้วก็ธรรมดาๆ ระดับของเด็กเหล่านี้ก็ไม่เท่าไร อีกทั้งยังไม่ให้ความร่วมมือกันอีกด้วย
                ถึงจะแพ้เสมอแต่ทีมนักศึกษาก็ไม่สนใจ ฉินสือโอวจึงอยากลองเล่นดู ฮิวจ์มองสีหน้าเขาออก จึงหัวเราะเยาะเขา “มาสิ ฉิน มาเล่นกันเถอะ ฉันรับรองว่าจะออมมือให้ จะไม่ให้นายแพ้อย่างน่าเกลียดหรอก”
                ฉินสือโอวหัวเราะขึ้น “นี่ ไม่ต้องมาแหย่ฉันหรอก เมื่ออยู่ในสนาม ฉันน่ะเปลี่ยนไปจนแม้แต่ตัวฉันเองยังกลัวเลย”
                ฮิวจ์โยกตัวไปมา เขย่าเสื้อผ้าฮิปฮอปของเขาพักหนึ่ง แล้วแกล้งทำเป็นร้องตะโกนด้วยความกลัว “ฉิน ฉันกลัวมาก ปล่อยฉันไปเถอะ ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฮ่าๆๆ”
                ฉินสือโอวเคลื่อนตัวลงสนาม เขาเลือกชายหนุ่มตัวสูงสองคนจากค่ายของมหาวิทยาลัยออกมา พวกเขากลัวการพ่ายแพ้มาก่อน พวกเขามองฉินสือโอวก็ดูธรรมดาๆไม่น่าจะเก่งอะไรจึงกลัวที่จะแพ้อีก ดังนั้นจึงไม่ยอมลงแข่ง
                ฮิวจ์รักษาน้ำใจด้วยการส่งลูกให้ฉินสือโอว ให้อีกฝ่ายได้เสิร์ฟลูกก่อน เขายื่นมือออกไป “5ลูก แค่ 5ลูกก็พอนะ! “
                จากการสังเกตของฉินสือโอว มาตรฐานของฮิวจ์แข็งแกร่งมาก แม้ว่าเขาจะมีท่าทางที่ผิดกติกาและน่าสงสัยอยู่บ้าง แต่นี่ก็แค่ข้างถนน ใครจะสนใจ? ท่าทางของเขาพลิกแพลงได้มากมาย  ทั้งการเปลี่ยนทิศทางและการเปลี่ยนมือของเขามันยอดเยี่ยมมาก เห็นได้ชัดจากการควบคุมลูกบาสของเขาแสดงถึงความทุ่มเทกับมันมาก
                บังเอิญที่ฉินสือโอวก็เป็นกองหลังที่คอยกันลูกมาก่อน ดังนั้นเขากับฮิวจ์จึงเป็นคู่แข่งที่เหมาะกันมาก
                นับตั้งแต่ที่เขามีจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ฉินสือโอวก็สามารถรู้สึกได้ถึงพลังภายในของร่างกายตัวเอง พละกำลังของแข็งแรงขึ้นจนผิดปกติ ระดับความรวดเร็วของเขาก็เร็วที่สุดในโลก พลังที่เกิดขึ้นอย่างล้ำเลิศนี้ บางครั้งมันแสดงออกมาให้เห็น จนทำให้เขากลัวตัวเองเข้าแล้วจริงๆ
                นานมาแล้วที่เขาไม่ได้จับลูกบาสเลย ความรู้สึกตอนจับก็ไม่คุ้นเคยเหมือนเมื่อก่อน อีกอย่างการเปลี่ยนแปลงของพลังภายในร่างกายที่ยังไม่ได้ถูกรวมเข้ากับทักษะการเล่นบาสเกตบอลอีกด้วย ดังนั้น ตอนนี้การเติบโตของพลังภายในจึงไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับเขา
                โชคดีที่มีทักษะพื้นฐานยังมีอยู่ ฉินสือโอววิ่งไปสองก้าวเพื่อควบคุมลูกและรู้สึกว่ายังพอใช้ได้ จึงเริ่มก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
                ฮิวจ์ยืนไม่ระวังในเขตโทษ เขาหัวเราะเยาะและโบกมือใส่ฉินสือโอวไม่หยุด “มาๆๆ ฉิน มาบุกฉันสิ…”
                ฉินสือโอวได้เห็นมาก่อนแล้วว่าฮิวจ์มีมือที่รวดเร็วการควบคุมลูกของเขาทำให้นักศึกษาสนใจ ฉินสือโอวรู้มาตรฐานของตัวเองดี เขาอยากจะเอาชนะฮิวจ์ด้วยฝีมือของเขา แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้
                แต่เขาก็มีเทคนิคบางอย่างเพื่อจัดการกับคนประเภทนี้
                ฉินสือโอวโบกมือให้นักศึกษาทั้งสองคนที่แยกออกไปข้างนอก “เข้ามา พวกนาย มาอยู่ในตำแหน่งที่ตัวเองชอบ…”
                ว่าแล้ว ฉินสือโอวก็ก้าวเข้าไปเหยียบในเขตโทษ ดังนั้นคนเลยคิดว่าเขากำลังจะส่งลูก ฮิวจ์จึงไม่กล้าเข้าไปแย่งลูก เขาจึงถอยกลับอย่างระวังและกางแขนออกเพื่อเตรียมขวางลูก
                ผลลัพธ์คือ…
                เมื่อคว้าโอกาสได้ ฉินสือโอวสะบัดแขนโยนลูกไปกระดานหลังห่วงบาสเกตบอล ในขณะเดียวกันขาทั้งสองข้างของเขาย่อลงอย่างมั่นคง พลังและความเร็วของเขาตอนนี้ถูกเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างสวยงาม ฮิวจ์รู้สึกตาลายและผู้คนก็ค่อยๆหายไปต่อหน้าเขา
                “ให้ตายสิ!” ฮิวจ์สบถเป็นฟืนเป็นไฟและหันกลับไปไล่ตาม
                ไม่มีใครอยู่ในเขตโทษในเวลานี้ เพื่อนร่วมทีมของฮิวจ์สองคนเดินตามคู่ต่อสู้ไปยังแนวด้านนอก ฉินสือโอวก้าวพรวดพราดเข้าไปพื้นราบตรงหน้า ลูกบาสก็เด้งกลับมาพอดี เขาจึงกระทืบขาทั้งสองข้าง ยกตัวสูงขึ้น ยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับลูกที่เด้งกลับมาได้พอดี
                “เขาจะทำอะไร?” กลุ่มแฟนบาสเกตบอลที่ดูอยู่อุทานขึ้นด้วยความตกใจ
                ฉินสือโอวคิดแค่ว่าจะรับลูกให้ได้แค่นั้น แต่หลังจากที่เขากระโดดด้วยแรงทั้งหมดก็พบว่า ที่แท้ห่วงบาสเกตบอลมันเตี้ยมาก….
                ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่พูดมาก มือทั้งสองเลี้ยงลูกไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ เสียงของลูกบาสกระทบกับพื้น ‘ตุ้ม ตุ้ม’ มือทั้งสองก็กระทุ้งลงที่ห่วง ทุ่มแรงยัดลูกบาสลงไป
                เสียงแห่งความประหลาดใจในสนามแห่งนี้ ทำให้ฮิวจ์เริ่มหน้าซีด มุมปากกระตุกไม่หยุด “ให้ตายสิ ให้ตายเถอะ นี่มันบ้าไปแล้วแน่ๆ แค่เป็นลูกครึ่งเชื้อสายจีนทำไมถึงมีพลังภายในขนาดนี้? เขาไม่ใช่คาร์เตอร์ ไม่ใช่คาร์เตอร์!”
                มือทั้งสองข้างของฉินสือโอวจับห่วงอยู่แล้วค่อยๆคลายออก จากนั้นก็หล่นลงพื้น แม้ว่ามือทั้งสองข้างที่ดังก์ลงห่วงจะเริ่มปวด แต่ในใจของเขากลับรู้สึกฮึกเหิมเป็นอย่างมาก เขาตะโกนขึ้น “ เห็นไหม? นี่คือการดังก์ (การทำแต้มโดยการจับลูกบาสยัดลงไปในห่วง) แบบมืออาชีพ!”
                นี่เป็นครั้งแรกที่เขาดังก์บาสเกตบอล อีกทั้งก่อนจะดังก์ เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะทำได้ถึงจุดนี้!
                สำหรับแฟนบาสเกตบอลแล้ว ความฝันคือการดังก์ ฉินสือโอวคิดไม่ถึงเลยว่าด้วยความสูง 185 ของเขาจะสามารถดังก์ได้! อีกอย่างคือมือทั้งสองข้างของเขาทุ่มลงหนัก
                นักศึกษาสองคนนั้นส่งเสียงร้องด้วยคามดีใจ วิ่งเข้าไปตบมือกับเขา นักศึกษาคนหนึ่งร้องขึ้น “เฮ้ เถ้าแก่ฟาร์มปลา คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะมีฝีมือในการเล่นบาสเกตบอล”
                ตัวฉินสือโอวเองก็คิดไม่ถึง แต่ตอนนี้เขาต้องแกล้งทำว่าตัวเองเก่ง ดังนั้นช่วงเวลาของชีวิตก็เหมือนกับเกม การแสดงกลับมาอีกครั้ง เขาแผ่มืออกอย่างไม่สนใจ “ลืมบอกพวกเธอ ฉันเคยเป็น MOP ลีกวิทยาลัยของประเทศของเราด้วย ดังนั้น เราไปสนุกกับงานเลี้ยงบาสเกตบอลกันเถอะ!”
                “พระเจ้า MOP เลยเหรอ!” เพื่อนร่วมทีมของฮิวจ์อุทานขึ้นอย่างตกตะลึง “เราแย่แล้ว”
ในศัพท์เฉพาะทางของกีฬาบาสเกตบอล MOP เป็นการเขียนอักษรย่อจากคำว่า Most-Outstanding-Player มีความหมายว่า ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุด โดยปกติมักจะมอบให้กับผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมแชมป์ในลีกบาสเกตบอลวิทยาลัย ใน NBA ชื่อเสียงที่คล้ายกันก็คือ MVP
                ฉินสือโอวดังก์ได้สำเร็จ ตามกติกาแล้ว สิทธิ์ในการจับลูกยังคงเป็นของพวกเขา นักศึกษาคนหนึ่งส่งลูกให้เขาแล้วร้องตะโกนขึ้น “เถ้าแก่ฟาร์มปลา ดังก์อีกรอบ!”
                ฉินสือโอวค่อยๆเลี้ยงลูกไปทางปีกขวาในพื้นที่ยิงประตู 3 คะแนนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ตอนนี้แรงกดดันในใจเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้วถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกฮึกเหิมและความกล้าอย่าสบายใจ
                แรงกดดันกลับมาอยู่ที่ฝั่งฮิวจ์แทน เขาก้มลงและเปิดแขน วิ่งก้าวเล็กๆตามฉินสือโอว สายตามองคู่ต่อสู้ตาเขม่น
                ฉินสือโอวมองฮิวจ์อย่างระวังแล้วเขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่นะนาย ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันก็แค่…”
                ไม่ทันไรเขาเริ่มทำการเท้าซ้ายก้าวไปทางขวาอย่างรวดเร็ว บิดไหล่และโน้มตัวไปในทิศทางเดียวกัน
                ฮิวจ์ตกใจ รีบย้ายไปทางซ้ายเพื่อที่จะขวางฉินสือโอว แต่ด้วยความเร็วของฉินสือโอวที่แสดงออกมาก็ทำให้เขาหวาดกลัว
                ในขณะที่เขากำลังเคลื่อนย้าย ฉินสือโอวก็ดึงหัวเข่ากลับมา ตัวเอนไปข้างหน้าแล้วหยุดชั่วคราวจากนั้นเท้าซ้ายของเขาเหยียบลงบนสนามและถอยกลับอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันมือขวาที่ถือลูกบาสก็ส่งไปด้านหลัง ลูกบาสอยู่บนพื้นเด้งไปทางซ้าย
                จากนั้นจุดศูนย์กลางของขาขวาอยู่ๆก็มีแรงขึ้นมา มือซ้ายกระโดดรับลูกบาส ไหล่ของเขาเคลื่อนไหวไปมาอีกครั้งและผู้เล่นทั้งหมดบุกไปทางซ้าย
                “เลี้ยงลูกอย่างชำนาญมาก”
                แฟนบาสเกตบอลที่เข้าชมก็อุทานด้วยความดีใจอีกครั้ง ฮิวจ์กำลังร้องไห้ นี่คือทักษะความสามารถที่เขาอยากฝึกฝนมาโดยตลอด ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของอัลเลน ไอเวอร์สัน ซูเปอร์สตาร์ระดับ NBA ด้วยการใช้กลอุบายนี้ ไอเวอร์สันได้กวาดล้างทุกหนทุกแห่งใน NBA จนกระทั่งบุกเข้าไปในยุคของจอร์แดนเทพเจ้าแห่งนักบาสเกตบอล
                การเลี้ยงลูกอย่างชำนาญ คือ ผู้ที่ถูกคัดเลือกจะต้องฝึกฝนจนมีฝีมือที่ยอดเยี่ยม ฮิวจ์เล่นได้ไม่เลว แต่ความเร็วและพลังของเขายังมากไม่พอ ดังนั้น เมื่อใช้วิธีนี้จะซับซ้อนและจะทำให้เสียพลังไปมาก
                แต่ฉินสือโอวต่างจากนั้น ความเร็วและพลังของเขาดูท่าจะดีกว่าระดับสูงสุดของไอเวอร์สัน หลังจากฮิวจ์เปลี่ยนทิศทางแล้วตัดเข้าไปในเขตจุดโทษ นักศึกษาคนหนึ่งช่วยเขาขวางคู่ต่อสู้ไว้ เขาจึงรีบวิ่งไปที่ห่วงอย่างรวดเร็ว และคว้าลูกบาสด้วยมือขวา จากนั้นก็ดังก์ลูกเข้าห่วงได้อย่างสบายๆ
                แต่ว่าเขาตัดเข้าจุดโทษอย่างรวดเร็ว แรงจากข้อมือที่ส่งไปจึงทำให้การควบคุมลูกไม่ดี ลูกบาสจึงเด้งออกจากขอบห่วง เพื่อนร่วมทีมของฮิวจ์จึงฉวยโอกาสบุกต่อ
                เมื่อเห็นสถานการณ์ทันใดนั้นฮิวจ์ก็ตื่นเต้นและตะโกนออกมา “เอาลูกมาให้ฉัน”
                ชายคนนั้นส่งบอลให้กับฮิวจ์อย่างไม่ลังเลใจ ฉินสือโอวรีบวิเคราะห์สถานการณ์ หลังจากลูกบอลถูกแย่งไป เขาจ้องไปที่คู่ต่อสู้ ชายคนนั้นยกมือขึ้นส่งบอล ฉินสือโอวจึงโผเข้าใส่ ทันใดนั้นก็กระโดดและโยนลูกส่งต่อ
                นี่คือความได้เปรียบที่ได้จากพลังภายใน บาสเกตบอลเป็นเกมอัจฉริยะ เมื่อเผชิญหน้ากับแรง ความเร็วและการกระโดดของฉินสือโอว ถ้าคู่ต่อสู้ของเขามีแรงต้านก็แปลกแล้ว
                ในขณะที่ฉินสือโอวกำลังรู้สึกพอใจ อยู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็เสียงดังขึ้น จึงมีคนเอาโทรศัพท์มาให้เขา หลังจากที่เขารับโทรศัพท์ เสียงร้องตกใจของผู้หญิงคนหนึ่งจากไมโครโฟน “เถ้าแก่ฟาร์มปลา คุณต้องรีบกลับมานะ ที่นี่เริ่มจะต่อสู้กันแล้ว…”
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset