มื้อเย็นทานอาหารทะเลแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ไปแล้ว พอกลับมาถึงโรงแรมฉินสือโอวก็เตรียมพร้อมสำหรับการประมูลในวันพรุ่งนี้
งานประมูลจะถูกจัดขึ้นตอนแปดโมงครึ่งของวันพรุ่งนี้ ฟ้ายังไม่ทันสว่างฉินสือโอวก็ถูกเทซึกะ โกดะโทรศัพท์มาตาม พอเขาออกมาจากโรงแรม นิชิมุระ เร็นก็ขับรถมารอรับพวกเขาแล้ว
มองดูนิชิมุระ เร็นที่แต่งกายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดูเอาจริงเอาจัง ฉินสือโอวก็แอบทอดถอนใจอยู่เงียบๆ แม่เอ็งทำงานในโตเกียวต้องทุ่มเทสุดชีวิตจริงๆ อย่าว่าแต่ฉินสือโอวตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อมาออกกำลังกายทุกวัน แต่ถ้าให้เขาทำงานที่เอาจริงเอาจังขนาดนี้ก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน
ออกเดินทางไปตลาดสึกิจิ ฟ้าทางทิศตะวันออกถึงเพิ่งจะสว่าง โคมไฟกระดาษของศาลเจ้าอินาริก็แกว่งไกวไปตามลม ส่องแสงสว่างสีขาวออกมา
นิชิมุระ เร็นพูดเล่าให้ฉินสือโอวฟัง บอกกับเขาว่า ถ้าโคมไฟที่เขียนชื่อร้านไหนกำลังส่องสว่าง ก็หมายความว่าวันนี้ร้านนั้นทำงานที่ตลาด แต่ถ้าโคมไฟของร้านไหนดับ นั่นก็หมายความว่าวันนี้ร้านนั้นไม่มีอาหารทะเลที่จะนำมาขาย
ฉินสือโอวนึกถึงคำบอกเล่าของบัตเลอร์ ก็ถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า “ถ้าอย่างนั้นด้านนอกตลาดก็ต้องมีโคมไฟอยู่ถึงแปดร้อยกว่าอันเลยน่ะสิ?”
เขาจำได้ว่าตลาดสึกิจิมีร้านขายอาหารทะเลขนาดใหญ่อยู่แปดร้านกับร้านค้าขนาดกลางอีกแปดร้อยร้าน
นิชิมุระ เร็นยิ้มน้อยๆ แล้วตอบเขากลับมาว่า “ฉินซัง คุณทายผิดแล้วล่ะครับ ที่จริงแล้วที่นี่มีโคมไฟของร้านค้าอยู่หนึ่งพันหกสิบสองอัน นอกจากร้านขายอาหารทะเลแล้ว ก็ยังมีร้านขายผักผลไม้อยู่ด้วย ที่นี่ก็มีโคมไฟของพวกเขาเหมือนกัน”
นีลเซ็นกับเบิร์ดรู้สึกชื่นชม ที่นครเซนต์จอห์นไม่มีตลาดแผงลอยแบบนี้อยู่เลย
เล่ามาถึงตอนสุดท้าย นิชิมุระ เร็นก็พูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “ยิ่งโคมไฟส่องสว่างติดต่อกันเป็นเวลานานเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าที่ร้านมีอาหารทะเลอยู่เพียงพอ เวลาตั้งแผงขายสินค้าก็ยิ่งติดต่อกันยาวนาน จนถึงตอนนี้ โคมไฟของบริษัทร่วมทุนคิโยมุระของพวกเราก็ส่องสว่างติดต่อกันตลอดทั้งวันมาเป็นเวลาสี่พันสองร้อยยี่สิบแปดวันแล้ว!”
พอเข้ามาในตลาด พ่อค้ารายย่อยกับบรรดาร้านค้าแผงเล็กก็ออกมาขายอาหารเช้า เป้าหมายก็คือร้านอาหารทะเลกับบรรดาแม่บ้านที่มาตลาดตั้งแต่ตั้งแต่เช้านั่นเอง
ฉินสือโอวมองออกไปไกลๆ ในหลายๆ ที่ต่างก็มีแผงขายอาหารอย่างทาโกะยากิ โซบะ เท็มปูระ โดรายากิ คัสเทลล่าเค้ก เหมือนกันกับตลาดเช้า
การประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือถูกจัดขึ้นใกล้ๆ กับประตูคาจิโดกิ ก่อนหน้านี้พื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ว่างเปล่ามาก่อน พอฉินสือโอวและคนอื่นๆ เดินผ่าน ก็เห็นแต่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือที่วางเรียงรายกันเต็มไปหมด
อย่างน้อยที่สุดก็มีพื้นที่มากกว่าหนึ่งหมื่นตารางเมตร ที่กำลังจัดวางปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือจำนวนนับไม่ถ้วน ฉินสือโอวลองนับดูคร่าวๆ อาจจะมีมากถึงหนึ่งพันตัว!
พอมาถึงที่นี่ ถึงได้รู้ว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินจำนวนมากที่จับได้ในแต่ละปีนั้นไปอยู่ที่ไหนกันหมด!
ฉินสือโอวพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ที่นี่มีขนาดใหญ่จริงๆ”
นิชิมุระ เร็นก็ตอบเขากลับไปอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉินซัง ผมไม่ได้คุยโตนะครับ แต่ที่นี่คือตลาดประมูลปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ทว่าครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งที่ใหญ่ที่สุดหรอกครับ การประมูลวันนี้มีแต่ปลาทูน่าสด จำนวนจึงค่อนข้างน้อย ทุกๆ วันที่หกของช่วงปีใหม่ในแต่ละปีจะมีการจัดงานประมูลปลาทูน่าครั้งใหญ่ที่สุดขึ้น เนื่องจากสะสมปลาทูน่าแช่แข็งไว้หนึ่งถึงสองเดือน อย่างเช่นงานประมูลปีหลังของปีนี้ ก็ประมูลขายปลาทูน่าออกไปได้ทั้งหมด 2,842 ตัว รวมทั้งหมด 18.52 ตัน!”
ประตูคาจิโดกิเป็นทางเข้าที่ใหญ่ที่สุดของตลาดสึกิจิ มีอาณาเขตติดกับสะพานคาจิโดกิ บริเวณใกล้เคียงในขอบเขตของตลาดมี ‘ศูนย์รวมปลายอดนิยม’ ‘ที่ทำการศูนย์สวัสดิการตลาดสึกิจิ’ และยังมี ‘พิพิธภัณฑ์สะพานคาจิโดกิ’
นิชิมุระ เร็นแนะนำให้ฉินสือโอวฟังว่า สิ่งที่เรียกว่าพิพิธภัณฑ์พวกนี้ แท้จริงแล้วก็คือแหล่งท่องเที่ยวนั่นเอง นอกจากนักท่องเที่ยวจำนวน 140 คนที่รับเข้ามาตอนตีสี่ของทุกๆ วันแล้ว เวลาอื่นๆ ทางตลาดจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในตลาด ถ้านักท่องเที่ยวมาถึงแล้วก็จะไปเที่ยวชมถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์
ตามนิชิมุระ เร็นเดินดูผ่านๆ อยู่หนึ่งรอบ เทซึกะ โกดะที่สวมใส่ชุดทำงานสีฟ้ากับรองเท้าบูตกันน้ำก็รีบวิ่งเข้ามาหา พอพบกับฉินสือโอวก็โค้งคำนับเขาก่อน แล้วพูดขึ้นมาว่า “ขอโทษจริงๆ ครับ ฉินซัง ผมดูแลได้ไม่ทั่วถึงเอง! วันนี้องค์กรของพวกเรามีปลาที่ถูกใจอยู่ค่อนข้างมาก ผมเลยต้องนำทีมตรวจสอบด้วยตัวเอง หวังว่าคุณจะให้อภัยนะครับ!”
“ท่านประธานขี้เกรงใจเกินไปแล้ว คุณไปทำงานก่อนเถอะครับ มิสเตอร์นิชิมุระให้การต้อนรับได้ดีมากๆ ผมได้เรียนรู้จากเขาหลายอย่างเลย เขาเป็นคนหนุ่มที่มีความโดดเด่นจริงๆ ” ฉินสือโอวพูดขึ้นมาด้วยความเร่งร้อน สำหรับคำพูดที่มีพิธีรีตองของชายคนนี้ เขารู้สึกแปลกๆ อยู่ตลอดเลย ดูเจ้าเล่ห์เพทุบาย
พอเทซึกะ โกดะได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็หันไปยิ้มให้กับนิชิมุระ เร็น แล้วกล่าวชมเขาว่า “นิชิมุระคุงเป็นคนรุ่นใหม่มีความสามารถที่ได้รับการปลูกฝังจากองค์กรของเรา เขาสามารถทำให้ฉินซังรู้สึกพึงพอใจได้ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว พรุ่งนี้ผมจะเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับฉินซังกับบัตเลอร์ซังที่บ้านของผม ถึงตอนนั้นนิชิมุระคุงก็มาด้วยกันสิ”
พอได้ยินคำนี้ นิชิมุระ เร็นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที มือทั้งสองข้างของเขาแนบอยู่บนขอบกางเกงสแล็ค เหมือนกับการพับกระดาษ ‘ฟึบ’ เขาก็โค้งคำนับเก้าสิบองศาลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งตะโกนออกมาว่า “ไฮ่ ท่านประธาน นิชิมุระขอขอบคุณคำชื่นชมของท่านครับ!”
เทซึกะ โกดะตบไหล่ของนิชิมุระ เร็นไปมา จากนั้นก็พากลุ่มลูกน้องเดินออกไปด้วยความเร่งรีบ จนแทบจะเป็นการวิ่งเหยาะๆ
ส่วนนิชิมุระ เร็นที่ถูกเทซึกะ โกดะตบไหล่ก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาหันกลับมาโค้งคำนับฉินสือโอวอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณคำพูดที่สวยงามของคุณนะครับ ฉินซัง นิชิมุระรู้สึกซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด!”
ฉินสือโอวฝืนยิ้มออกมา เอาล่ะๆๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองกันขนาดนี้แล้ว นายโค้งคำนับไปๆ มาๆ ขนาดนี้ ต่อไปจะยังคุยเล่นสนุกๆ กันได้อีกไหมเนี่ย?
ตีห้าครึ่งการประมูลปลาทูน่าก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ตอนนี้จะเป็นช่วงที่งานยุ่งที่สุด คนงานของตลาดก็กำลังยุ่งกับการติดเครื่องหมายให้ปลาทูน่า ส่วนผู้ซื้อที่เตรียมตัวเข้าร่วมการประมูลก็ยุ่งอยู่กับการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อปลาทูน่าที่น่าสนใจ
ปลาทูน่ากว่าพันตัว ก็เพียงพอที่จะทำให้บรรดาผู้ซื้อยุ่งกับงาน ทว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดูปลาทุกตัว คุณภาพของเนื้อปลาทูน่าไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น สิ่งที่พวกเขาต้องให้ความสนใจก็คือปลาที่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ อย่างเช่นราชาทูน่า
ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย ราชาทูน่าต้องเป็นสินค้าประมูลชิ้นสำคัญของการประมูลครั้งนี้อยู่แล้ว พูดได้ถึงกระทั่งว่า ไม่ว่าจะเป็นการประมูลในปีไหนมันก็จะยังเป็นสินค้าชิ้นสำคัญ
เพื่อที่จะให้ความคุ้มกันปลาตัวนี้ ทางตลาดจึงส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มร่างกายแข็งแรงกำยำมาสองคน เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนยืนประจำอยู่ด้านข้างปลา ถ้ามีคนคิดจะสัมผัสปลาตัวนี้พวกเขาก็จะขัดขวางทันที นอกจากนี้ถ้าหากมีคนหยุดอยู่ตรงนี้นานเกินไป พวกเขาก็จะเชิญให้ออกไปจากตรงนี้เช่นกัน
หางและครีบของปลาทูน่าที่จะเข้าร่วมการประมูลล้วนแต่ถูกตัดออกไปแล้ว ดังนั้นแค่ดูคุณภาพของเนื้อปลาจากส่วนนี้ก็พอแล้ว มีแค่ราชาทูน่าเท่านั้นที่ไม่อนุญาตให้แตะจับ ส่วนปลาตัวอื่นๆ สามารถเดินชมได้ตามสบาย
ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีปลาทูน่าอยู่หลายตัว ทว่าผู้เข้าประมูลกลับมีอยู่ไม่มาก ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมูลล้วนแต่เป็นตัวแทนการค้าชั้นหนึ่งในตลาดปลาทั้งนั้น
พวกเขาจะส่งพนักงานที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมและตั้งทีมเล็กๆ เพื่อตรวจสอบปลา หัวหน้าทีมมักจะเป็นนักตกปลาทูน่าที่มีประสบการณ์มากที่สุด อย่างเช่นหัวหน้าทีมของบริษัทร่วมทุนคิโยมุระก็เป็นชายอายุเจ็ดสิบปีคนหนึ่ง
นิชิมุระ เร็นเตรียมตะขอปลาอันเล็กกับไฟฉายไว้แล้ว ฉินสือโอวเห็นว่านี่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานของพนักงานตรวจสอบปลา จึงตามเข้าไปดู คนอื่นทำงานอย่างจริงจังส่วนเขาแค่เข้าไปดูด้วยความสนุก
ทว่าแค่ครู่เดียวตัวปลอมแบบเขาก็แสดงพิรุธออกมา เนื่องจากท่าทางการตรวจสอบปลาของเขาไม่มีความชำนาญเลย ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาเชิญเขาให้ออกไป ตลาดสึกิจิมีกฎเกณฑ์อยู่หลายข้อ กฎข้อแรกก็คือผู้ที่ไม่ได้ประมูลกับผู้ที่ไม่ใช่แขกวีไอพีจะไม่สามารถจับปลาได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังไล่เขาออกไป นิชิมุระ เร็นก็เก็บท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนที่มีต่อฉินสือโอวกับเทซึกะ โกดะเอาไว้ เขาจ้องเขม็งไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วตวาดเสียงดังว่า “โง่เง่า! นี่คือแขกวีไอพีของบริษัทร่วมทุนคิโยมุระของพวกเรา ทั้งยังเป็นเพื่อนที่ดีของหัวหน้าเทซึกะอีกด้วย นายกล้าไล่เขาได้ยังไง? ไม่อยากทำงานที่นี่แล้วใช่ไหม?”
หลังจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นบัตรประจำตัวพนักงานของนิชิมุระ เร็น ก็โค้งคำนับไม่หยุด วินนี่จับนิชิมุระ เร็นไว้แล้วบอกกับเขาว่าช่างมันเถอะนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงได้ปาดเหงื่อเย็นๆ แล้วเดินจากไป
………………………………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 523 ตื่นเช้าไปตลาดปลา
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!