ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 559 เนื้อหมูที่ดีที่สุด

รสชาติของสัตว์ป่าที่ถูกล่าในฤดูใบไม้ผลิจะไม่ค่อยอร่อย ฤดูหนาวอีกฤดูไม่ว่าจะหมูป่า กวางป่า ไก่ป่า และกระต่ายป่าล้วนบริโภคไขมันที่อยู่ในร่างกายที่ยังหลงเหลืออยู่ในเนื้อไม่ติดมันมากเกินไป กินเนื้อแล้วจะรู้สึกว่ารสชาติไม่ดี
แต่หมูป่าที่อยู่ในฟาร์มปศุสัตว์ชัดเจนว่าไม่เป็นอย่างนั้น ฤดูหนาวรอบนี้เนื้อพวกมันก็อร่อยเหมือนเดิม เพราะพวกมันกินผักและผลไม้ที่ใช้พลังแห่งโพไซดอนเพาะปลูกภายในเรือนกระจกซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เบิร์ดแกว่งมีดตัดที่หนังของหมูป่าจากตรงลำคอเป็นเลือดที่ไหลออกมาก่อน จากนั้นมีดทหารก็เคลื่อนไปเหมือนกับงู โดยไม่คาดคิดเนื้อและผิวหนังของหมูป่าแยกออกจากกันอย่างน่าเหลือเชื่อ
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆ ที่เห็นทักษะนี้ถึงกับร้องออกมาด้วยความแปลกใจอย่างต่อเนื่อง ผิวหนังและเนื้อของหมูป่าที่ติดอยู่ด้วยกันนั้นยากมากที่จะแยกออกจากกัน
นอกจากนั้นผิวหนังของหมูป่ายังบางมาก ดังนั้นหลายๆ คนจึงคิดว่าหมูป่าไม่มีผิวหนัง แต่เป็นขนที่งอกขึ้นมาบนเนื้อของมัน เมื่อก่อนฉินสือโอวฆ่าหมูป่าก็ไม่เคยแยกผิวหนังหมูป่า
เนื้อของหมูป่าถูกนำออกมาจัดเรียงให้เห็นอย่างชัดเจนเหมือนกับหินอ่อนแต่ละก้อนหลายก้อนเรียงกัน แลนซ์มองดูและพูดด้วยความตกใจว่า “คุณภาพของเนื้อหมูป่าจะดีขนาดนี้ตอนไหน? ดูสิว่าลวดลายหินอ่อนสว่างไสวแค่ไหน เนื้อหมูป่านี้ดูดีกว่าเนื้อวัวชั้นหนึ่งด้วยซ้ำ”
ฉินสือโอวแอบเบ้ปาก แต่นี่คือหมูป่าที่เลี้ยงด้วยผักและผลไม้ที่ใช้พลังแห่งโพไซดอนตลอด คุณภาพเนื้อถึงต่างกันอย่างนั้นเหรอ?
คราวนี้ฉินสือโอวไม่ได้ทิ้งเลือดของหมูป่าที่ไหลออกมาไป ตอนที่ฉลองปีใหม่ของจีน เขาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งและไปเจอวิธีการทำกุนเชียงที่นั่น ครั้งนี้เขาวางแผนที่จะทำมันด้วยตัวเอง
เขาใช้อ่างมารองรับเลือดของหมูป่าเอาไว้และใส่ต้นหอม ขิง กระเทียมและแป้งจำนวนมาก ตามด้วยซีอิ๊ว ผงซุปไก่ เครื่องเทศ 13 ชนิดและอื่นๆ ลงไป หลังจากนั้นก็ให้บูลเข้าไปในเมืองซื้อเต้าหู้ก้อนใหญ่มากองหนึ่ง เต้าหู้และเลือดหมูผสมเข้ากันอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนั้นก็ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป สุดท้ายใส่แป้งนิดหน่อย หลังจากนั้นเทลงไปในปลอกไส้กรอกก็เรียบร้อยแล้ว
ตาคู่นั้นจ้องมองไปที่พวกชาวประมงที่กำลังมองเขา บางคนที่ไม่สามารถช่วยได้ก็ถามว่า “กัปตันครับ สิ่งนี้สามารถกินได้เหรอครับ? ดูไปแล้วมันออกจะแปลกๆ นิดหน่อย”
ฉินสือโอวปลอบพวกเขา “วางใจเถอะ กินได้ไม่ตายหรอก”
พวกชาวประมง “…”
หลังจากเทกุนเชียงแล้วก็นำไปแขวนเพื่อใช้กองไฟในการรมควันและรอจนกว่าจะสามารถนำไปอบในหม้อได้
เบิร์ดกับนีลเซ็นเลาะกระดูกหมูออกจากเนื้อ หัวหมูและเครื่องในเป็นส่วนที่ไม่มีประโยชน์ซึ่งมักจะโยนทิ้งไป แต่ฉินสือโอวก็สั่งให้เก็บมันขึ้นมา เพราะหัวหมูนั่นเขาจะใช้มันเอง ส่วนหัวใจ ไต ปอดที่เป็นเครื่องในให้จัดการทำความสะอาดเอาไปต้มให้สุกให้หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า และหมาป่าเป็นอาหารว่าง พวกมันชอบมาก
นีลเซ็นจัดการไตหมูซึ่งก็คือไตหมูเมื่อตอนนั้น ฉินสือโอวขัดขวางพวกที่ท่าทางเหมือนขโมยและกระซิบว่า “เอาไปย่างกินนะอร่อยมาก”
“กลิ่นมันเหม็นมาก!”นีลเซ็นทำหน้าขมขื่น
“ยิ่งมีกลิ่นเหม็นยิ่งดี!” ฉินสือโอวสอนเขา
นอกจากไตหมูแล้วไตของหมูป่าตัวนี้ก็ตกอยู่ในผลลัพธ์เดียวกันล้วนถูกเสียบด้วยไม้ไผ่
ลำไส้ใหญ่กับลำไส้เล็กที่เหลืออยู่นั้นไร้ประโยชน์โดยสมบูรณ์ แต่แซ็กพูดอย่างมีความหวัง “สามารถนำมาตกกุ้งตกปูได้นะครับ”
สีหน้าของชาร์คเปลี่ยนไปในเวลาอันสั้นและแยกไปอยู่ไกลๆ ทันที
ครั้งสุดท้ายที่ฆ่าหมูเขาก็พูดแบบนี้ หลังจากนั้นฉินสือโอวก็หลอกให้เขาไปจัดการทำความสะอาดหลังจากตกกุ้ง ผลคือสุดท้ายชาร์คต้องทนกับกลิ่นเหม็นเพื่อจัดการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก ส่วนฉินสือโอวก็ไปผัดพริกกิน…
ครั้งนี้ฉินสือโอวใช้อุบายเดิมมาหลอกแซ็ก “เพื่อน นายไปจัดอะไรฉันให้นิดหน่อยสิ จัดการทำความสะอาดที่ตกกุ้งและปูให้ที แต่มันอาจจะรู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อยนะ”
แซ็กไม่ได้คิดอะไรมากก็ไปที่ปากแม่น้ำเพื่อทำความสะอาด ชาร์คมองเขาด้วยความสงสารเพราะเป็นอีกคนที่ถูกหลอกช่างน่าสงสารจริงๆ
เนื้อหมูนำมาย่าง ซี่โครงหมูกับกระดูกชิ้นใหญ่เอาไปต้มซุป สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของฉินสือโอว เนื่องจากคนอื่นๆ ทำอยู่ เขาเลยต้องจัดการกับหัวหมูด้วยตัวเอง
จมูกของหัวหมูป่าจะยาวกว่าของหมูเลี้ยงมากซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่อร่อยที่สุด บวกกับเนื้อหมูป่าส่วนหัวจะแน่นมากต้องเอาไปเคี่ยว โดยใช้หัวของหมูป่าเคี่ยวกับซีอิ๊วและเครื่องเทศเนื้อหมูก็จะมีรสชาติดีที่สุด
เบิร์ดช่วยฉินสือโอวถอนขนบนหัวหมูกับขาหมูออก เดิมทีต้องลอก แต่ฉินสือโอวไม่ให้เขาทำให้แค่ดึงขนออกเท่านั้น
ฉินสือโอวยกหัวหมูเรียบๆ ใส่ในกะละมังก่อนจะเทน้ำส้มสายชูลงไปนิดหน่อยซึ่งสามารถทำให้เนื้อหมูนุ่มได้ ต่อมาตอนที่เคี่ยวรสชาติของเครื่องปรุงจะได้ซึมเข้าเนื้อได้อย่างง่ายดาย
หัวหมูวางอยู่ในครัวตลอด หลังจากวินนี่เลิกงานและเข้าไปในครัวก็กรีดร้องเสียงดัง
หู่จือเป้าจือคิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจึงรีบวิ่งเข้าไป ตามด้วยวินนี่ที่โยนหัวหมูที่อยู่บนเตาทิ้งอย่างรวดเร็ว
พวกมันยังจำความบ้าบิ่นและเอาแต่ใจของหมูป่าได้จึงคิดที่จะเข้าไปใช้ปากฉีกกระชาก
โชคดีที่ฉินสือโอวรีบย้อนกลับมาด้วยความอึดอัดใจก่อนที่หู่จือและเป้าจือจะจัดการกับหัวหมู หลังจากนั้นก็เข้าไปกอดวินนี่เพื่อปลอบประโลมเธอว่าไม่เป็นไรแล้ว
วินนี่รู้สึกเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และหยิกที่เนื้อนิ่มๆ ตรงเอวของเขาด้วยความโกรธ “คุณคิดอะไรอยู่ถึงเอาของแบบนี้มาวางไว้ที่ครัว? ยังจะหันไปที่ประตูอีก! พระเจ้า คุณรู้ไหมว่าฉันกลัวของที่มีรูปร่างอะไรแบบนี้?”
ฉินสือโอวเพื่อเอาใจวินนี่ก็คว้าหัวหมูและขาหมูไปโยนใส่ในหม้อความดัน ใส่พริกไทยของเสฉวน โป๊ยกั๊ก น้ำตาลคริสตัล อบเชยจีน เปลือกส้ม จันทน์เทศ ใบกระวาน ต้นหอม ขิง กระเทียม พริกแดง ผงซุปไก่ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชูและน้ำมันงาจำนวนมากและกวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นก็เริ่มนำไปเคี่ยว
หลังจากน้ำเริ่มเดือด ฉินสือโอวหรี่ไฟให้ต่ำลงและเคี่ยวต่ออีกกว่า 1 ชั่วโมงก็อร่อยแล้วสามารถปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็นเล็กน้อยก็กินได้
คนกว่า 20 คนในฟาร์มปลากับหมูป่า 1 ตัวหนัก 100 กิโลกรัมยังไม่พอกินจริงๆ วินนี่ เออร์บักและพวกเด็กๆ ก็กินได้ไม่เท่าไร แค่มีเนื้อย่างอีกหลายไม้บวกกับสลัดผักและผลไม้ก็คงพอแล้ว
แต่พวกชาวประมงพวกนี้ตัวไม่ได้ใหญ่เหมือนบูล คนหนึ่งคงกินเนื้อย่างได้ 4 ถึง 5 ไม้ ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีถังข้าวอยู่อีกอีวิลสันอธิบาย
ฉินสือโอวให้เบิร์ดไปฆ่าไก่งวง 2 ตัวกับไก่และเป็ดอีกหลายตัว บวกกับไปที่เมืองซื้อเนื้อวัว เนื้อแกะมาอีกนิดหน่อย เนื้อกองใหญ่ถูกเตรียมไว้ขนาดนี้ก็คงพอสำหรับทุกคนแล้ว
ถ้ามีเนื้อย่างก็ต้องมีเบียร์ ผับดาราประกายมีเบียร์สด ทุกวันโรงเบียร์ของเซนต์จอห์นจะส่งมาให้ที่เกาะแฟร์เวล ฉินสือโอวก็เคยโทรไปและที่ผับก็ส่งเบียร์ 5 ถังมาให้
ตอนเย็นมีแสงไฟส่องระยิบระยับอยู่ด้านหน้าฟาร์มปลา ตะแกรงย่างขนาดใหญ่ถูกนำขึ้นมา อีวิลสันใช้มือหนึ่งคว้าเนื้อหมูป่ามาเสียบครึ่งไม้และนำไปย่าง อีกมือหนึ่งก็หยิบขาไก่งวงย่างมากินอย่างตะกละตะกลาม
ชาร์คนำแปรงมาแปรงนำมันถั่วลิสงกับซอสบนเนื้ออย่างต่อเนื่องและโรยเมล็ดงา ยี่หร่ากับผงพริกไทยด้านบนเป็นครั้งคราว สนามหญ้าด้านหน้าวิลล่ากลายเป็นกลิ่นของยี่หร่าทั้งหมด
หลังจากที่ผิวของเนื้อย่างเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ชาร์คก็เอามีดมาหั่นเป็นชิ้นๆ อย่างรวดเร็วและวางใส่จานให้ฉินสือโอวกับเออร์บักและคนอื่นๆ รับไป
ของพวกนี้ต้องย่างไปกินไป อีวิลสันมีขาไก่งวงย่างกินจึงไม่สนใจเนื้อหมูย่าง ดังนั้นเขาเลยไปช่วยทำให้ชาร์คมีเวลาสามารถไปดื่มเบียร์ 2 แก้วและกินเนื้อย่างอีกหลายคำได้
ฉินสือโอวกินเนื้อซี่โครงที่เสียบอยู่ในไม้ เนื้อทั้งนุ่มและมีกลิ่นหอมไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิดเหมือนกินเนื้อแกะกับเนื้อวัว และความนุ่มของเนื้อพวกนี้ยังไม่ใช่เนื้อส่วนหัวที่เคี่ยวด้วย ยิ่งเคี่ยวรสชาติยิ่งดี
พวกชาวประมงกินด้วยความประหลายใจ “ไม่นึกว่ารสชาติของเนื้อหมูป่าที่เลี้ยงไว้ในฤดูหนาวจะดีขนาดนี้ ฤดูหนาวปีนี้พวกเราต้องเลี้ยงหมูป่าเพิ่มอีกหลายตัวแน่ๆ เนื้อแบบนี้ต้องอร่อยกว่าเนื้อวัวอยู่แล้ว!”
“นายพูดเหมือนนายเคยกินเนื้อวัวเลยนะ!”
“แต่นี่เป็นเนื้อย่างที่อร่อยที่สุดจริงๆ”
“นี่เป็นความจริง!”
ฉินสือโอวฟังพวกชาวประมงคุยกันแล้วภายในใจก็คล้อยตาม มันก็จริงที่รสชาติของไก่ เป็ดและหมูที่กินผักและผลไม้ที่ใช้พลังแห่งโพไซดอนในการดูแลเป็นอาหารนั้นดีมาก แต่ภายในเรือนกระจกขนาดใหญ่ยังมีผักผลไม้ที่กินไม่ทันอีกมาก แต่เสียมากก็ไม่เท่าใช้เพื่อเลี้ยงหมูป่าและสัตว์ตัวอื่นๆ
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset