ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 627 ปลาทอดจุดชนวนการสังหารโหด

อวนล้อมจับเริ่มโจมตีอีกครั้งโดยไร้ซึ่งความพ่ายแพ้ท่ามกลางมหาสมุทร
ปลาปากแหลมที่เข้ามาใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำตัวจองหองอยู่บริเวณปากแม่น้ำเมื่อก่อนหน้านี้มีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงปลาที่หลุดรอดออกไปจากอวนที่กำลังแนบติดกับก้นทะเลด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง พวกมันหน้าดำคร่ำเครียดว่ายน้ำหนีเตลิดเข้าไปสู่ส่วนลึกของฟาร์มปลา
เห็นปลาชนิดเดียวกันกับตัวเองถูกอวนจับปลาทรงกรวยอันนั้นจับไปฝูงใหญ่ คาดว่าในระยะเวลาสั้นนี้ๆ พวกปลาปากแหลมคงไม่กล้ากลับมาจับปลาที่ปากแม่น้ำอีก
ในที่สุดฝูงปลาคาพีลินก็ปลอดภัยแล้ว
แค่ครู่เดียวในเรือฮาวิซทก็ใส่ปลาปากแหลมตัวน้อยใหญ่ไว้จนเต็มลำ ปลาฮาวด์ฟิชเป็นปลาเข็มที่สามารถเติบโตจนมีขนาดใหญ่ซึ่งพบเห็นได้น้อยมาก ครั้งนี้ใช้อวนล้อมจับปลาขึ้นมาก็มีปลาจำนวนไม่น้อยที่ยาวกว่าหนึ่งเมตร ตัวที่ยาวที่สุดก็ยาวถึงหนึ่งเมตรครึ่งเต็มๆ แน่นอนว่าปลาที่มีขนาดความยาวเท่าฝ่ามือก็มีเยอะกว่า
นี่คือความร้ายกาจของอวนล้อมจับ ไม่ว่าจะเป็นปลาเล็กปลาใหญ่ ถ้าถูกมันกินเข้าไปก็ไม่มีทางหนีรอดออกมาได้
ดังนั้นเพื่อที่จะปกป้องอุตสาหกรรมการประมงเอาไว้ กรมประมงของประเทศอเมริกาและแคนาดาจึงร่วมมือกันออกประกาศโดยมีข้อเรียกร้องว่าไม่อนุญาตให้ใช้อวนล้อมจับในการจับปลาใกล้ชายฝั่ง และอีกสาเหตุที่ทำให้มีนโยบายนี้ก็ยังเกี่ยวกับการจับปลาที่เกินขีดจำกัดของชาวอเมริกาอีกด้วย
อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ อ่าวเคปค้อดและชายหาดน้ำตื้นจอร์จ เคยเป็นสถานที่แห่งใหญ่สามแห่งที่ปลาทูน่ามารวมตัวกัน เริ่มตั้งแต่ปี 1963 ประเทศอเมริกาทุ่มกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมการล้อมจับปลาบริเวณใกล้ชายฝั่ง อีกทั้งยังเน้นหนักไปที่การจับปลาที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงอย่างปลาทูน่า
ในปีช่วงปี 70 และช่วงปี 80 ของศตวรรษที่แล้ว อเมริกาเคยสร้างเรือประมงอวนล้อมจับปลาทูน่าขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก พวกเขามีเทคโนโลยีอวนล้อมจับปลาระดับสูง การจับปลาจึงพัฒนาไปสู่การควบคุมแบบอัตโนมัติ แถมยังใช้ร่วมกับเทคโนโลยีเครื่องบินสูงเพื่อตรวจหาฝูงปลากลางอากาศอีกด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงลดเวลาการค้นหาฝูงปลาลงไปได้มหาศาล จำนวนปลาที่จับได้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเช่นกัน
ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้ตอนนี้จำนวนฝูงปลาทูน่าอเมริกาเหนือมีน้อยมากๆ ปีที่แล้วตอนที่ฉินสือโอวพาพวกชาร์คไปชายหาดน้ำตื้นจอร์จ ชาร์คเคยพูดไว้ว่า ตอนที่พวกเขาไปตกปลากับพ่อสมัยยังเป็นเด็กยังมีปลาทูน่าฝูงใหญ่อยู่หลายฝูง
ก่อนที่คนญี่ปุ่นจะเริ่มนิยมทานปลาทูน่า ปลาชนิดนี้ยังมีราคาถูกอยู่ เนื่องจากในเนื้อปลาทูน่ามีไขมันสูง เก็บรักษาได้ยาก มันมักเสียและมีกลิ่นเหม็นได้ง่าย อีกทั้งตอนนั้นยังไม่มีตลาด ใช้น้ำแข็งเพื่อเก็บรักษาก็สิ้นเปลืองเกินไป ดังนั้นในบางครั้งที่ชาวประมงจับปลาทูน่าได้ก็ล้วนแต่เอามันไปป้อนเป็นอาหารสุนัขและอาหารแมว
สำหรับการจับปลาทูน่าที่เกินขีดจำกัดทำให้ปลาชนิดนี้เกิดการขาดแคลน อีกอย่างปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวโตก็ดูคล้ายโลมามาก ดังนั้นเวลาที่ใช้อวนล้อมจับจับปลาก็จะฆ่าปลาผิดชนิดได้ง่าย โลมามีนิสัยดุร้ายทารุณ พวกมันอาจจะฉีกอวนจับปลาจนขาด ดังนั้นถ้าหากเรือประมงพบว่ามีโลมาอยู่ในอวนล้อมจับปลาก็จะชิงฆ่ามันให้ตายก่อน
การกระทำแบบนี้ทำให้เกิดความโกรธขึ้นในสังคมอเมริกา ผู้คนจึงเริ่มต่อต้านอุตสาหกรรมที่ใช้อวนล้อมจับปลา ต่อมาเรือประมงจึงไม่จับปลาทูน่าแต่เปลี่ยนไปจับปลาค็อดแทน ครั้งนี้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ถึงกับล่มสลายเลยทีเดียว!
ดังนั้นตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา กรมประมงแคนาดากับอเมริกาจึงเริ่มควบคุมการจับปลาด้วยอวนล้อมจับและก่อให้เกิดการเสื่อมลงของอุตสาหกรรมอวนล้อมจับปลาในอเมริกาเหนือ
ในความคิดของฉินสือโอว การเสื่อมลงแบบนี้เป็นเรื่องดีแล้ว
พอขับเรือประมงกลับไปที่ฟาร์มปลา ฉินสือโอวก็เอาปลาปากแหลมตัวใหญ่ที่สุดกับตัวเล็กที่สุดที่ชาวประมงพากันเลือกไว้เรียบร้อยแล้วเข้าไปเก็บในห้องแช่เย็นส่วนตัว ของพวกนี้เขาจะเอาไว้ทำทานเองทีหลัง
ปลาปากแหลมตัวเล็กเหมือนตะเกียบอันสั้น ผิวเรียบลื่นทั่วตัว เนื้อละเอียดอ่อนนุ่ม ฉินสือโอวคิดไว้ว่าจะเอามันมาทอด ส่วนปลาปากแหลมตัวใหญ่ก็มีความยาวหนึ่งเมตรครึ่ง อ้วนท้วนสมบูรณ์ พอลองใช้นิวจิ้มลงไปบนเนื้อปลาก็สัมผัสได้ถึงความยืดหยุ่นเต็มร้อย!
ช่วงบ่ายวินนี่กับพวกเด็กๆ ก็กลับมาบ้านพร้อมเสียงดังเอะอะโวยวาย หู่จือเป้าจือกับปอหลัวกระโดดโลดเต้นตามมารอบๆ ท่าทางดูคึกคักกันมากๆ
นี่ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกงงงวย บอกหน่อยว่ากวางหนึ่งตัวกับสุนัขสองตัวอย่างพวกแกไปทำอะไรมาถึงได้ตื่นเต้นคึกคักทั้งวันขนาดนี้?
ทุกคนกำลังคุยกันเรื่องฟอสซิล หลังจากบาลซักกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ยืนยันความจริงของฟอสซิลใต้น้ำ นครเซนต์จอห์นก็ไปหาสื่อมวลชนทันที หนังสือพิมพ์กระแสหลักหลายสำนักก็พากันส่งคนมาทำข่าวในที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเพราะอยากจะได้ข้อมูลมาโดยตรง
เกาะนิวฟันด์แลนด์ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในยุคน้ำแข็ง มีนักธรณีวิทยาคาดคะเนว่าบนเกาะน่าจะมีฟอสซิลของยุคนั้นอยู่โดยตลอด อย่างเช่นไดโนเสาร์หรือสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลขนาดยักษ์ยุคครีเทเชียส แต่น่าเสียดายที่เมื่อนำการคาดคะเนไปทำการวิจัยกลับไม่มีการค้นพบฟอสซิลที่มีความเกี่ยวข้องบนเกาะ
การปรากฏตัวของฟอสซิลบนเกาะแฟร์เวลเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนิวฟันด์แลนด์ไปแล้ว อย่างน้อยสำหรับสื่อมวลชนของนครเซนต์จอห์นที่อยู่กันอย่างเงียบสงบ ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสได้ยุ่งกับการทำงานแล้ว
ในฐานะที่เด็กๆ ทั้งเจ็ดคนเป็นผู้ค้นพบฟอสซิลจึงทำให้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ฉินสือโอวฟังพวกเขาคุยกัน บอกว่าเมื่อช่วงบ่ายได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อมวลชนหลายสำนัก ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองวินนี่ก็เลยพลอยเป็นที่สนใจไปด้วยเช่นกัน
พลบค่ำพระอาทิตย์ก็ตกทางทิศตะวันตก น้ำทะเลถูกย้อมจนกลายเป็นสีส้มแดงดูน่าอร่อย มันดูเหมือนน้ำส้มคั้นที่กำลังสั่นไหวเป็นคลื่นๆ อยู่ในมหาสมุทรที่เป็นโถน้ำส้มขนาดใหญ่
ลมทะเลพัดเอื่อยๆ ผ่านมาจากผิวทะเล ฉินสือโอวลากเตาตั้งกระทะทอดน้ำมันอันหนึ่งออกมาตั้งบนสนามหญ้า ด้านล่างแล้วใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อก่อไฟ หลังจากตั้งน้ำมันจนร้อนแล้วเขาก็ทอดปลาปากแหลมทันที
ปลาตัวเล็กถูกเขาเอาไปหมักซอสตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว เขาใส่ซอสถั่วเหลืองกับเหล้าทำอาหารลงไปเล็กน้อย ตอนนี้ก็จุ่มลงไปในแป้งกับไข่ขาวก่อนจะวางลงไปในกระทะทอดที่กำลังเดือด จากนั้นก็ทอดจนมันกลายเป็นสีเหลืองทอง
เนื้อปลาปากแหลมนุ่มมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องทอดนาน แค่ลงกระทะไปไม่กี่วินาทีก็ตักขึ้นมาได้เลย
ฉินสือโอวเอาแต่ใจแบบเศรษฐีบ้านนอก น้ำมันที่เขาใช้คือน้ำมันมะกอก น้ำมันชนิดนี้หลังจากผ่านความร้อนแล้วกลิ่นจะไม่เข้มข้นแต่จะติดทนนาน พอรวมกับกลิ่นหอมของแป้งและไข่ขาวก็ทำให้ด้านหน้าวิลล่ามีกลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก
หู่เป้าฉงหลัวสี่ตัวพากันกระโดดไปรอบๆ ที่ตั้งกระทะ ฉินสือโอวกลัวพวกมันจะไม่ทันระวังจนดันเตาทอดล้มจึงชี้มือสั่งให้พวกมันออกไป
หลัวปอนั่งยองๆ ลงข้างๆ ฉินสือโอวเพื่อออดอ้อนเขาอย่างไม่ยอมแพ้ มันยื่นขาหน้าออกมาแปะไว้ที่ขากางเกงของฉินสือโอว ฉินสือโอวไม่สนใจมัน มันจึงเห่าเสียงเล็กๆ ออกมาครั้งสองครั้งแล้วอ้าปากเล็กๆ เล่นเชือกผูกรองเท้าของฉินสือโอว
ฉินสือโอวเผลอกระทืบเท้า ปรากฏว่ากลัวอะไรก็เจอแบบนั้น ต่อมาเขาก็เตะโดนขาตั้งเตาทอดน้ำมันจนกระทะทอดสั่นเล็กน้อย และน้ำมันที่กำลังเดือดก็กระเด็นออกมา
หลัวปอกำลังเลียหน้าเตรียมตัวจะก่อกวนฉินสือโอวอีกครั้ง หยดน้ำมันจึงหยดลงมาบนหน้าฝากของมันพอดี
“เอ๋ง!!” มันร้องครวญครางเสียงแหลมออกมาหนึ่งครั้ง หลัวปอใช้อุ้งเท้ากุมหน้าผากกลิ้งไปกลิ้งมาบนสนามหญ้า
วินนี่ได้ยินเสียงร้องจึงรีบวิ่งออกมา เธอรีบถามอย่างรีบร้อน “เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?”
ฉินสือโอวอุ้มหลัวปอขึ้นมาแล้วอธิบายเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นให้เธอฟัง วินนี่ดึงอุ้งเท้าของหลัวปอออกก็พบว่าบนหน้าผากของมันมีขนหย่อมหนึ่งถูกลวกจนร่วงลงไปแล้ว ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงเลยล่ะ
หลัวปออิงแอบร้องครวญครางฮือๆ ๆ อยู่ในอ้อมอกของวินนี่ วินนี่จึงตบก้นของมันเบาๆ ฉินสือโอวกลับเข้าไปในห้องแล้วหายาขี้ผึ้งสำหรับรักษาบาดแผลโดนความร้อนลวกมาหนึ่งกระปุกแล้วนำไปแต้มหน้าผากให้หลัวปอ
ฉงต้ายื่นคอพยายามเงยหน้าดมกลิ่นหอมในอากาศ มันถูกปลาทอดยั่วให้อยากกินจนแทบแย่ ทว่ากะละมังใส่ปลาทอดถูกวางไว้บนชั้นวางของ มันจึงเอื้อมไม่ถึง ในกระทะยังมีปลาทอดที่ยังไม่ได้ตักขึ้นมาอยู่ แต่มันรู้ว่าพวกของที่กำลังเดือดอยู่ในกระทะนั้นน่ากลัวมาก พอลองยื่นอุ้งเท้าออกไปก็พบว่าตัวเองเสียแรงเปล่าแล้ว สุดท้ายมันจึงนั่งลงด้วยความคับแค้นใจ
แต่ผ่านไปแป๊บเดียว มันก็คิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้
มันนั่งยองๆ ให้ต้าป๋ายเหยียบขึ้นไปบนหัวมัน ฉงต้าลุกขึ้นแล้วยื่นคอออกไป จากนั้นต้าป๋ายก็เอื้อมถึงกะละมังพอดี มันจึงยื่นอุ้งเท้าออกไปดึงปลาทอดออกมา
พอเพื่อนทรยศอย่างฉงต้าเห็นปลาทอดหอมๆ ตกลงมาบนสนามหญ้า มันก็เผลอก้มหัวลงไปกินปลาทันที ต้าป๋ายจึงห้อยอยู่กับกะละมังทั้งอย่างนั้น
ฉินสือโอวหันกลับไปก็เห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้เข้าพอดี ฉงต้านอนหมอบกินปลาอยู่บนพื้น ส่วนอุ้งเท้าทั้งสองของต้าป๋ายก็กกำลังเกาะกะละมังอย่างสุดชีวิต มันห้อยอยู่บนกะละมังพร้อมกับกรีดเสียงแหลมเล็กออกมา…
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset