ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 658 ตัวกินจุหิวแล้ว

การสร้างศาลาน้ำพุร้อนไม่ใช่แค่สร้างอะไรมาคลุมทับเท่านั้น วิลรู้สึกขอบคุณฉินสือโอวที่ช่วยเขามาโดยตลอด เพราะฉะนั้นขอเพียงแค่เป็นงานก่อสร้างของฟาร์มปลาต้าฉิน เขาจะพยายามทำออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด
การเริ่มงานก่อสร้างศาลาน้ำพุร้อนครั้งนี้ เขาได้เชิญทีมนักธรณีวิทยามาก่อน โดยให้พวกเขาตรวจสอบและออกตัวรายงานทางธรณีวิทยาเพื่อดูแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ หลังจากนั้นก็จะตัดสินใจตามรายงานว่าจะสร้างสปารีสอร์ตขนาดใหญ่อันงดงามตระการตาหรือสระน้ำพุร้อนขนาดเล็กที่อบอุ่นและเงียบสงบสำหรับครอบครัว
ก่อนเริ่มงาน วิลยังรู้สึกผ่อนคลายสบายๆ ฉินสือโอวชวนเขามานั่งรับลมทะเลและดื่มน้ำผลไม้ที่ชายหาด เขาก็รับปากอย่างดีใจแล้วยังชวนต่อด้วยว่า “ฉิน ถ้าคุณมีเวลา มาเป็นแขกที่บ้านผมหน่อยดีไหม? ภรรยาของผมคิดถึงวินนี่มาโดยตลอด เธอถูกเสน่ห์ของวินนี่ดึงดูดไว้ซะแล้ว”
ตามธรรมชาติการเชิญชวนแบบนี้คงปฏิเสธไม่ได้ ฉินสือโอวจึงตกปากรับคำ แต่ประเด็นที่จะคุยกันวันนี้ไม่ใช่การเป็นแขก แต่คือการสร้างบ้านเล็กๆ
ฉินสือโอวสนใจบ้านกระท่อมกาแฟเล็กๆ ในทุ่งนาของเหมาเหว่ยหลงมากที่สุด มันมีความประณีตงดงามราวกับของในโลกเทพนิยายแบบนั้นเลยทีเดียว
เขาอธิบายลักษณะของบ้านกระท่อมกาแฟให้วิลฟังแล้วถามขึ้น “ถ้าสร้างบ้านเล็กๆ แบบนี้มันจะลำบากไหม? ฉันอยากสร้างในฟาร์มปลาสักสองสามจุด นายคิดเห็นว่ายังไง?”
วิลหัวเราะเสียงดัง “นี่มันง่ายมาก ฉิน ดูท่าแล้วคุณไม่ได้สนใจในด้านนี้สักเท่าไร บ้านกระท่อมสไตล์การ์ตูนแบบนี้ถึงไม่ใช่ทีมก่อสร้างของเราที่เป็นคนสร้างขึ้นมา แต่แน่นอนว่าพวกเราก็ทำได้ แต่มันจะเปลืองมากสักหน่อย จริงๆ แล้วบ้านกระท่อมสไตล์นี้นายสามารถทำได้ด้วยตนเองเลยนะ เพราะของพวกนั้นเอามาประกอบกันได้”
พูดไปวิลก็หยิบมือถือของตัวเองออกมาเปิดหน้าเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า ‘สร้างบ้านด้วยตนเอง’ ให้เขาดู
บนเว็บไซต์มีรูปภาพบ้านเล็กๆ สวยงามเรียงรายอยู่เต็มไปหมด บ้านกาแฟ บ้านเบียร์ บ้านบาร์บีคิว โรงบ่มไวน์ โรงจอดรถเล็กๆ เป็นต้น มันมีครบทุกรูปแบบเลยทีเดียว
วิลแนะนำให้เขาฟัง “ดูสิ พอคุณชอบอันไหนก็เลือกได้เลย พวกเขาก็จะส่งตัวผนัง หลังคา รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาให้ หลังจากนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือรวบรวมของพวกนี้กองไว้เหมือนกองไม้ แล้วประกอบเข้าด้วยกัน เรื่องเดียวที่ยุ่งยากหน่อยก็คือการต่อสายไฟ ขอแค่ต่อไฟได้ ถ้าอย่างนั้นทั้งหมดก็… โอ้ว เวร เต่าอัลลิเกเตอร์ตัวยักษ์มาก!”
เห็นสีหน้าตกใจของวิล ฉินสือโอวไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าคุณปู่เต่าย้ายสถานที่แล้ว
เต่าอัลลิเกเตอร์เป็นเต่าน้ำจืด โดยปกติจึงไม่ลงไปในทะเล ฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจว่ารอบนี้มันออกมาทำอะไร? หลังจากมาที่ฟาร์มปลา เจ้าเต่าก็อยู่ในสนามหญ้ามาตลอด วินนี่ยังเคยเอาน้ำไปฉีดให้เพราะกลัวว่ามันจะแห้งเหี่ยว
พอหันกลับไปมอง ก็เป็นจริงดังคาด เจ้าเต่าตัวนั้นปีนออกมาแล้ว มันคืบคลานอย่างช้าๆ ราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ หัวที่น่าเกลียดน่ากลัวของมันมองไปทางซ้ายทีขวาทีพร้อมสายตาที่ดูเหยียดหยามสุดๆ
ถึงแม้ว่าจะโตมาหน้าตาน่าเกลียด แต่ตอนนี้ท่วงท่าที่มันย่างกรายกลับสง่างาม ลักษณะท่าทางที่ประเมินรอบข้างให้ความรู้สึกเหมือนจักรพรรดิกำลังตรวจดูผู้กล้าในอาณาจักรอยู่
หู่จือและเป้าจือตัวหนึ่งอยู่ซ้าย ตัวหนึ่งอยู่ขวา ขนาบข้างมันไว้ ในแววตาส่อความไม่พอใจออกมา เห็นได้ชัดว่ายังอยากหาเรื่องเจ้าเต่าอัลลิเกเตอร์อยู่
เต่ายังคงคืบคลานไปอย่างช้าๆ ท้ายที่สุดมันก็คลานมาอยู่ข้างๆ ฉินสือโอว มันยังคงประเมินซ้ายขวา แต่สายตาในบางครั้งกลับเหลือบมองไปที่ฉินสือโอวราวกับต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
ฉินสือโอวจะรู้ได้อย่างไรว่ามันต้องการสื่ออะไร? เขาจึงมองไปที่เจ้าเต่าด้วยความใคร่รู้ ซึ่งเจ้าเต่าก็เหลือบมองมาที่เขาหลายครั้งเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ทำอะไรก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาจนต้องใช้หางที่เหมืองแส้เหล็กตีไปที่เก้าอี้นอนของเขา
ฉินสือโอวสามารถรับรู้ความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตได้ แต่นั่นก็จำกัดแค่ตอนอยู่ในน้ำและยังต้องเป็นปลาหรือกุ้งที่มีสติปัญญาระดับสูงหน่อย แน่นอนว่าเต่าอัลลิเกเตอร์มีสติปัญญาสูงพอแล้ว แต่การอยู่บนพื้นดินแบบนี้เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
ในที่สุดเมื่อเจ้าเต่าเห็นว่าเขายังไม่ขยับตัวไปไหน มันจึงยื่นคออย่างรวดเร็วแล้วทำท่าอ้าปากเหมือนกำลังจะรับของอะไรสักอย่าง
แม่ง ไอ้เจ้านี่ฉลาดเกินไปแล้วมั้ง? ตอนนี้ฉินสือโอวเข้าใจความหมายของมันแล้ว มันหิวแล้ว และอยากให้เขาให้อาหารมัน
ฉินสือโอวหัวเราะเงียบๆ เขายื่นมือไปลูบหัวเจ้าเต่าอัลลิเกเตอร์สองสามทีโดยไม่รู้ตัว วิลตกใจสุดขีดจนต้องอ้าปากค้าง “ระวัง ฉิน! อารมณ์ของเต่าอัลลิเกเตอร์รุนแรงมาก และยังดุร้ายมากด้วย!”
ท่าทางเมื่อกี้ฉินสือโอวทำไปตามจิตใต้สำนึก เพราะเมื่อกี้ท่าทางของเจ้าเต่าเหมือนคนมาก พอยื่นมือออกไปเขาก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย คงจะไม่ถูกกัดใช่ไหม?
ผลสุดท้ายเจ้าเต่าก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรที่รุนแรง และไม่ได้หลบเลี่ยงด้วย แถมมันยังยื่นหัวไปอย่างมีความสุขเพื่อตอบรับท่าทางของฉินสือโอวอีกด้วย
วิลเกาหัวด้วยความงุนงง “แปลกจริง คุณเลี้ยงเจ้าตัวนี้มานานแล้วใช่ไหม? เพราะเต่าอัลลิเกเตอร์ไม่ได้เลี้ยงให้เชื่องง่ายๆ นะ คนบางคนเลี้ยงเต่ามากว่าสิบปี พอเข้าใกล้ก็ยังถูกกัดได้เลย”
ฉินสือโอวไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเลย ดังนั้นเขาจึงตอบไปอย่างคลุมเครือ “ไม่ไม่ ฉันก็เพิ่งรู้จักมันยังไม่ถึงอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ บางทีอาจจะเพราะเจ้าของคนก่อนฝึกเลี้ยงมันให้เชื่องดีอยู่แล้วมั้ง? นายดูสิ เจ้านี่ตัวใหญ่ขนาดนี้ อายุก็คงไม่น้อยแล้วล่ะ”
พูดไป ฉินสือโอวก็เดินกลับไปเอาอาหารให้เต่าอัลลิเกเตอร์ด้วย เขาใช้ถังใบเล็กใส่เนื้อวัว เนื้อไก่ และปลานิลลงไปเล็กน้อย ท้ายสุดแล้วพอออกจากวิลล่าเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าสมเพช มันเหมือนจะมาจากทางวิลที่อยู่บนชายหาด
ฉินสือโอวรีบวิ่งไปทางนั้นอย่างร้อนใจ เขาเห็นจากไกลๆ ว่าวิลวิ่งไปอยู่ริมชายหาด เขาจึงถามอย่างประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้น วิลชูมือที่มีเลือดสดๆ ไหลย้อยให้ดูแล้วพูดขึ้น “ไอ้เต่าสารเลวนี่ มันกัดผม มันกัดมือผม!”
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมันถึงกัดนาย?” ฉินสือโอวตกใจ หรือว่าเต่าอัลลิเกเตอร์จะก้าวร้าวขนาดนี้ พอหิวแล้วก็เลยกัดคน? ถ้าหากเป็นแบบนี้คงจะเก็บมันไว้ในฟาร์มปลาไม่ได้
วิลร้องไห้คร่ำครวญ “คุณไม่ได้บอกหรอกเหรอว่าเจ้าของคนเก่าฝึกให้มันเชื่องแล้ว? ผมเลยอยากลูบหัวมันเหมือนคุณ แต่ปรากฏว่ามันกัดผม!”
ฉินสือโอว “…”
จริงๆ แล้วเขาอยากจะพูดว่ารนหาที่จริงๆ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน พูดประโยคนี้ไปก็จะทำร้ายความรู้สึกไปหน่อย
นี่จะโทษเจ้าเต่านี่ก็ไม่ได้ นายอยู่ดีๆ จะไปลูบหัวมันทำไม? นายคิดว่านายแน่นักเหรอ? ฉันเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนเชียวนะ
แม้สีหน้าจะดูโศกเศร้าแต่ในใจฉินสือโอวกลับเริงร่า เขาจึงไปลูบหัวเจ้าเต่าอีกครั้ง เต่าอัลลิเกเตอร์ช่างเชื่องดีจริงๆ ไม่ใช่แค่ให้เขาลูบหัว มันยังขยับเข้ามาใกล้ตัวเขา หรี่ตาแสยะยิ้ม หน้าตาทึ่มๆ ของมันแสดงออกถึงความเพลิดเพลินใจ
พอลูบหัวเจ้าเต่าไปสักพัก ฉินสือโอวก็เข้าไปดูมือของวิล แรงกัดของเต่าอัลลิเกเตอร์มีมากจนน่าทึ่ง เจ้าตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ หากมันกัดลงไปแบบรุนแรงจริงๆ ก็คงสามารถกัดแขนของวิลจนขาดด้วนได้ ดังนั้นเขาจึงกังวลใจหน่อยๆ
พอเข้าไปดูฉินสือโอวก็คลายกังวล ไม่มีอะไรมาก มีแค่แผลตื้นๆ ตรงฝ่ามือและหลังมืออยู่สองจุด ดูเผินๆ แล้วเลือดไหลจนน่าตกใจ แต่ความจริงไม่ได้รุนแรงจนถึงกระดูกหรือเนื้อข้างใน แค่ถลอกนิดหน่อย
เขาใช้วิทยุวอเรียกแซ็กที่เข้ากะอยู่ให้เอากล่องยามาให้ ฉินสือโอวช่วยทำแผลให้วิล วิลรู้สึกไม่มีความสุข เจ้าเต่าอัลลิเกเตอร์ตัวนี้ไม่น่ารักจริงๆ
เจ้าเต่าคลานอยู่ข้างๆ เก้าอี้นอนอย่างว่าง่าย ถังที่เต็มไปด้วยอาหารอยู่ข้างหน้ามัน แต่มันก็ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา มันรอนิ่งๆ ให้ฉินสือโอวเอาอาหารมาให้มัน
หลังจากช่วยทำแผลให้วิลเสร็จ ฉินสือโอวก็หยิบเนื้อวัวป้อนมัน แต่ปรากฏว่าเจ้าเต่าสูดดมแล้วก็ขยับคอหนีเหมือนไม่สนใจ มันยังคงจ้องไปที่ฉินสือโอวต่อ
ฉินสือโอวสงสัย เจ้านี่ไม่ได้หิวแล้วหรอกเหรอ? เต่าอัลลิเกเตอร์ต้องชอบกินเนื้อวัวสิถึงจะถูก
เขาเลยหยิบปลานิลที่เนื้อนุ่มหน่อยป้อนมัน แต่ปรากฏว่าเจ้าเต่าเลียไปที่ปลาอย่างฝืนใจ สุดท้ายก็ไม่กิน
วิลหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อเห็นแบบนี้ “เจ้านี่มันอดอาหารเหรอ? นี่มันเป็นอาหารเลิศรสของเต่าอัลลิเกเตอร์เชียวนะ”
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset