ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 670 มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

ฉินสือโอวมองอย่างละเอียด คนอายุน้อยสองคนนี้มีหน้าตาที่คล้ายกันมาก เขาคิดว่าเป็นคู่รักชายหญิง แต่พอมองเผินๆ ก็เหมือนคู่แฝดพี่สาวน้องชายอยู่
ตอนทักทายกัน ฉินสือโอวจับมือกับทั้งสองคน หวงเฮ่าเจียสูงพอๆ กับโหวจื่อเซวียน ถึงจะเป็นโอตาคุแต่ดันหน้าตาดีมาก ตัวพี่สาวหวงเจียเจียก็พูดจาสุภาพเรียบร้อยไม่มีที่ติ
วินนี่เชิญทั้งสามมานั่งห้องรับแขก พอเห็นความงามของวินนี่ หวงเฮ่าเจียก็เผยความไก่อ่อนหน้าแดงขึ้นมา แล้วเหลือบมองวินนี่อย่างประหม่า
โหวจื่อเซวียนกับวินนี่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เขาจ้องหวงเฮ่าเจียเขม็ง ต่อให้ใช้หอยงวงช้างคิดฉินสือโอวก็รู้ว่าเจ้าหลานกำลังคิดอะไร ตกหลุมรักสาวเข้าให้แล้วไง
ฉินสือโอวเก็บหอยนางรมเตรียมเข้าไปคุยด้วย จู่ๆ โหวจื่อเซวียนก็ดึงเขาไว้อย่างลับๆ ล่อๆ ยื่นหน้ามาพูดว่า “พี่ครับ พี่โอเคกับการที่มาผมอยู่ที่นี่ไหมครับ?”
“แน่นอนสิ ทำไมเหรอ?” ฉินสือโอวถามด้วยความแปลกใจ
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโหวจื่อเซวียนก็ถือว่าไม่เลว ในฐานะชาวจีนรายที่สองที่มาอาศัยอยู่ในเกาะแฟร์เวล ความสัมพันธ์จะไม่ดีได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นทั้งสองยังมีงานอดิเรกเหมือนกันอีก ชอบปืน ของกินที่ชอบ โหวจื่อเซวียนยังทำอาหารมาให้เขาที่ฟาร์มปลาบ่อยๆ อีก
“คือ เจียเจียอยากจะขออนุญาตพี่อย่างหนึ่งน่ะครับ รบกวนพี่ช่วยเห็นแก่หน้าผมแล้วตอบตกลงด้วยนะครับ” โหวจื่อเซวียนประสานมือโค้งให้ อีกนิดก็จะคุกเข่าลงไปด้วยแล้ว
ฉินสือโอวตบบ่าเขา ตอบว่า “วางใจเถอะ ไม่ต้องเวอร์ก็ได้”
เขาเดาว่าเด็กนี่เพื่อตามจีบคนที่ชอบแล้ว ต่อหน้าคนอื่นก็คงพูดไปเรื่อยได้ทั้งนั้นแหละ
หลังนั่งคุยไปสักพัก หวงเจียเจียก็เอ่ยว่า “อ้อพี่ฉิน ฉันยังไม่เคยแนะนำตัวเองใช่ไหมคะ ฉันทำงานเป็นบรรณาธิการของเทนเซ็นต์เวยป๋อจีนอยู่ค่ะ คืออย่างนี้ ฉันเห็นว่าพี่ยังไม่เคยใช้เทนเซ็นต์จีนเลย ไม่ทราบว่าอยากให้ฉันช่วยเปิดบัญชีให้ไหมคะ?”
ฉินสือโอวโบกมือปฏิเสธ “ขอโทษด้วยสาวน้อย ฉันไม่ค่อยชอบเล่นอะไรพวกนี้เท่าไร”
ก่อนหน้านี้ก็มีคนโทรมาบอกให้เขาเปิดบัญชีซินล่างเวยป๋อเหมือนกันแต่เขาปฏิเสธไป ฉินสือโอวไม่อยากทำอะไรที่ดูสร้างภาพ แต่ไม่นึกว่าเทนเซ็นต์เวยป๋อจะทำงานเหนือชั้นถึงขั้นส่งคนใกล้บ้านมาขายถึงที่
หวงเจียเจียยิ้มกล่าวต่อว่า “ฉันเข้าใจค่ะ พี่ฉิน คืออย่างนี้ค่ะ ตอนนี้ประเทศจีนเรามีคนมากมายที่กำลังสนใจชีวิตต่างประเทศอยู่ ทางเทนเซ็นต์เราจึงเปิดหัวข้อเฉพาะที่ออนไลน์ได้ทั้งในและต่างประเทศ ให้เพื่อนร่วมชาติของเราได้แนะนำประเพณีและการใช้ชีวิตของตัวเองที่นั่นกับคนในประเทศมากมายที่สนใจกันค่ะ”
“นอกจากนี้เมืองแฟร์เวลเองก็ได้การยอมรับอย่างเป็นทางการจากเวยป๋อเราแล้ว รวมถึงตัวพี่ด้วย การได้ติดต่อกับเพื่อนประเทศเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ”
“ที่ประเทศเรายิ่งมีฟาร์มปลาทะเลน้อยอยู่ พวกเราเลยยิ่งสงสัยเรื่องวิถีชีวิตฟาร์มปลาที่แคนาดากัน คุณไม่อยากแนะนำฟาร์มปลาต้าฉินหน่อยเหรอคะ?”
ฉินสือโอวนิ่งคิด ถ้าเกิดแค่แนะนำชีวิตในฟาร์มปลากับตอนจับปลา การใช้เวยป๋อก็คงไม่เลว
เขามั่นใจในอำนาจของเวยป๋อดี มันกลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของวัยรุ่นในประเทศ เมื่อก่อนที่เขาไม่อยากใช้เวยป๋อ เพราะเขากังวลว่าอาจไปมีเรื่องกับพวกนักเลงคีย์บอร์ดเข้า คนจีนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมักชอบมาถกเถียงด้วยเรื่องเล็กน้อยไร้สาระ
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เวยป๋อก็เป็นพื้นที่โฆษณาที่ดีมาก เขาสามารถแนะนำปลาที่จับมาได้ของฟาร์มและยังเป็นช่องทางการขายให้แก่คนในจีนได้เช่นกัน
ขณะเขากำลังครุ่นคิด โหวจื่อเซวียนก็กระแอมทีหนึ่งพร้อม ขยิบตายักคิ้วให้ เห็นดังนั้นฉินสือโอวจึงกระจ่างทันที หรือว่านี่คือเรื่องที่จะขออนุญาตหรอกเหรอ?
ที่จริงเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นขออนุญาตด้วยซ้ำ ก็แค่ใช้เวยป๋อแนะนำชีวิตตัวเองเท่านั้น ปกติฉินสือโอวก็โพสต์รูปประจำวันลงในสตอรี่คิวคิวอยู่แล้ว คราวนี้เพียงเปลี่ยนที่โพสต์รูปเอง
เขาเลยตอบอย่างยินดีไปว่า “งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันเปิดบัญชีหลังกินข้าวเสร็จ”
ได้ยินดังนั้นหวงเจียเจียก็ดีใจมาก ท่าทางฉินสือโอวคงดูเบาอิทธิพลของตนไปหน่อย ทั้งการซื้อฟาร์มปลา เรื่องที่ไปช่วยชีวิตคนในทะเล ทำให้เขากลายเป็นคนดังในสายตาของชาวจีนและคนอเมริกาเหนือไปแล้ว
ยิ่งไม่นานนี้เขาได้เข้าร่วมการประท้วงเจ้าของฟาร์มปลาในเซนต์ลอว์เรนซ์ไป ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไร แต่ที่จริงมีสื่อจีนไปทำข่าวด้วย พวกเขาทำการสัมภาษณ์ชาวประมงส่วนหนึ่งถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเขา ซึ่งพวกชาวประมงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคู่ควรเป็นผู้นำของเจ้าของฟาร์มปลาแห่งเซนต์ลอว์เรนซ์
ด้วยเหตุนี้ทางสื่อในประเทศจึงเริ่มวุ่นวายอีกครั้ง เขาถูกทำข่าวว่าเป็นผู้จัดการกิจกรรมขบวนพาเหรด เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถเจรจากับรัฐบาลนิวฟันด์แลนด์ได้ หวางเหล่ยกับเหยาลี่ลี่ก็รู้จักเขาผ่านทางรายงานข่าวพวกนี้นั่นเอง
เทนเซ็นต์เวยป๋อตระหนักถึงคุณค่าทางสังคมที่เขาเป็นตัวแทนดี และไม่ลังเลที่จะส่งคนมาเชิญเขาเปิดบัญชีเวยป๋อโดยเฉพาะ การปฏิบัติแบบนี้แม้แต่ดาราระดับสองในประเทศก็ยังไม่ได้รับมีเพียงดาวดังเท่านั้นที่มีสิทธิ์
เมื่อฉินสือโอวตกลงทั้งสองก็หมดธุระกัน หวงเจียเจียและโหวจื่อเซวียนต่างถอนหายใจโล่งอก จากนั้นหวางเหล่ยกับเหยาลี่ลี่ก็ทำงานประจำวันเสร็จพอดี ฉินสือโอวจึงเชิญพวกเขามากินข้าวด้วยกัน โดยมีบิลลี่มาแจมที่โต๊ะเพิ่ม
ก่อนหน้านี้บิลลี่ได้รับโทรศัพท์ให้กลับไปทะเลสาบเฉินเป่าเพื่อจัดการเรื่องด่วน หลังกลับมาเขาก็รีบเดินเข้าวิลล่า เอ่ยอย่างจนใจว่า “บ้าเอ้ย ไอ้หมอนั่นมันเรียนดำน้ำมายังไงกัน…”
เมื่อเห็นบิลลี่ พวกหวงเจียเจียก็ลุกขึ้นตามมารยาท จังหวะที่บิลลี่เงยหน้าขณะเดินเข้ามา และหวงเจียเจียกำลังหมุนตัวยืนขึ้น ทั้งสองก็ประจันหน้ากันพอดี
พอเห็นหน้าหวงเจียเจีย คำพูดของบิลลี่ก็ชะงักค้างกลางคัน
ฉินสือโอวไม่ทันใส่ใจ ถามต่อว่า “นักประดาน้ำพวกนั้นทำไมเหรอ?”
บิลลี่ปรับสีหน้าก่อนพยายามฉีกยิ้มสดใส “ไม่มีอะไรหรอก ฮะฮะ ก็แค่ไปพิจารณาประสบการณ์การดำน้ำของทุกคนเอง นายมีแขกอยู่ด้วยนี่นาฉิน ใครเหรอ?”
“ผมโหวจื่อเซวียน พวกเราเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว พวกธุระเยอะอย่างคุณจำไม่ได้หรือไง?” ไม่รู้ว่าทำไมสหายเจี้ยนผานโฮ่วอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา จู่ๆ ถึงพูดอะไรแปลกๆ
บิลลี่ฉีกยิ้มสดใสตอบ “จำได้อยู่แล้ว ฉันก็เคยไปเล่นร้านปืนพวกนายอยู่ แล้วสองคนนี้ล่ะ?”
ฉินสือโอวกล่าวแนะนำ บิลลี่และหวงเฮ่าเจียจับมือทักทายเสร็จ แววตาเขาพลันกลายเป็นอ่อนโยน เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ผมบิลลี่ บิลลี่ สเต็มเมอร์ ชอบดำน้ำกับโต้คลื่น ถ้ามีโอกาสพวกเรามาเรียนรู้ด้วยกันได้นะครับ”
ฉินสือโอวมองบิลลี่แบบมองคนสติไม่สมประกอบ “สมองนายเน่าแล้วเหรอไง? ผู้หญิงเขาจะไปเรียนดำน้ำโต้คลื่นกับนายทำไม?”
บิลลี่ตอบอย่างมั่นใจ “อย่างน้อยทักษะว่ายน้ำของเธอจะได้ดีขึ้นไง สาวน้อยน่ารักคนนี้มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับท้องทะเลอยู่ ฉันสัมผัสถึงความลึกลับแห่งทะเลจากตัวเธอได้”
หน้าโหวจื่อเซวียนแดงก่ำ
หวงเจียเจียหัวเราะ “คุณชมเกินไปแล้ว แต่ฉันก็เคยเรียนว่ายน้ำมาจริงๆ ความจริงเมื่อก่อนพวกเราเคยเป็นนักกีฬาระบำใต้น้ำประจำจังหวัดด้วย เพิ่งออกเมื่อปีที่แล้ว”
ฉินสือโอวกระจ่างทันที เขาเอ่ยยิ้มๆ “ที่แท้พวกเธอทั้งคู่ก็เป็น…”
เขายังพูดไม่ทันจบ บิลลี่ก็หัวเราะเสียงดัง โหวจื่อเซวียนเหมือนอยากร้องแต่ร้องไม่ออก ส่วนวินนี่ขยิบตาให้เขา จากนั้นเขาถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset