ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 671 สงครามที่ไม่เกี่ยวด้วย

พอบิลลี่มา บรรยากาศรอบๆ ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป
ฉินสือโอวรู้สึกแปลกๆ แต่บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร ได้แต่หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “เอาล่ะ ไหนๆ ก็ได้มาเจอพร้อมหน้ากันทั้งที งั้นถือโอกาสมากินดื่มมื้อนี้ให้เต็มที่ด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวผมทำอาหารเลี้ยงเอง!”
เขากล่าวจบ โหวจื่อเซวียนก็รีบลุกขึ้นพับแขนเสื้อเอ่ยว่า “พี่ฉินพูดถูก มื้อนี้ผมจะแสดงฝีมือด้วยคน เดี๋ยวผมทำอาหารตะวันออกเฉียงเหนือดั้งเดิมให้ชิมกันเอง”
ฉินสือโอวดีใจมาก ดูท่าเจ้าหนุ่มยังมีสติอยู่ แต่ตอนนายยืนนี่มันรุนแรงไปหน่อยนะ ฉันนึกว่านายจะทุ่มสนามเสียอีก
บิลลี่ยืนตาม เอ่ยยิ้มๆ “วันนี้ฉันกับฉินไปดำน้ำมาได้อาหารทะเลมาเยอะเหมือนกัน จะทำอาหารจีนคงไม่เหมาะ เดี๋ยวฉันเข้าครัวให้ทุกคนได้ชิมอาหารทะเลสูตรไมอามีกัน”
ฉินสือโอวดีใจ อาหารทะเลไมอามีก็อร่อยเหมือนกัน แต่บิลลี่นายพูดเสียหน้าไม่อายเลยนะ? ไหนบอกว่าไปดำน้ำกับฉันแล้วจับอาหารทะเลได้ไม่เยอะไง? แล้วนายจับอะไรได้บ้างไหมล่ะ!
แต่ท่านฉินเป็นคนใจกว้าง ไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้หรอก มีของให้กินก็พอ
โหวจื่อเซวียนมองบิลลี่อย่างเย็นชาพลางเอ่ยว่า “พวกเราส่วนใหญ่มีแต่คนจีนกัน ก็ต้องกินอาหารตะวันออกเฉียงเหนือดั้งเดิมสิ”
“ก็เพราะเพื่อนชาวจีนเยอะไง ถึงต้องได้ชิมอาหารทะเลสูตรไมอามี ฉันคิดว่าเพื่อนนายกลับประเทศไปก็ยังมีโอกาสได้กินเจ้า ‘อาหารจีนแอฟริกัน’ ของนายอยู่นะ แต่อาหารทะเลไมอามีไม่ใช่จะมีโอกาสกินบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ?” บิลลี่หัวเราะ
หน้าโหวจื่อเซวียนยิ่งแดงกว่าเดิม สิวบนหน้าดูห้อเลือดแทบระเบิด “เป็นอาหารตะวันออกเฉียงเหนือต่างหาก! ตะวัน! ออก! เหนือ! ไม่ใช่อาหารจีนแอฟริกัน!”
บิลลี่รีบขอโทษ “ขอโทษที นายก็รู้ว่าฉันเพิ่งเรียนภาษาจีนไม่นาน แถมยังเรียนไม่เก่งอีก ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด ฉันว่าฉันคงต้องหาครูภาษาจีนที่ดีกว่านี้แล้วล่ะ”
บิลลี่พูดพลางจ้องหวงเจียเจีย
พอมองทั้งสองที่เหมือนกำลังชนไก่กัน ถ้าฉินสือโอวยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นอีก เขาก็คงโง่เง่าแล้ว
บิลลี่นั้นถูกใจอะไรหวงเจียเจียเข้าแล้วแน่นอน โหวจื่อเซวียนที่รู้ตัวเลยระแวง ทั้งสองคนจึงมีท่าทีแบบนี้ใส่กัน
ฉินสือโอวยิ้มภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง วินนี่ถอนหายใจส่ายหน้า คนโง่ไม่ใช่ปัญหา แต่คนที่โง่แล้วยังคิดว่าคนอื่นโง่กว่านั้นแย่ยิ่งกว่า ตั้งแต่บิลลี่เข้าประตูมา เธอก็รู้ทันทีว่าบิลลี่สนใจหวงเจียเจีย ส่วนผู้ชายของเธอนั้นกลับเพิ่งมารู้ตัวเอาป่านนี้…
หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า หลัวปอวิ่งมานั่งเรียงแถวตรงข้างเท้าวินนี่เพื่อชมละครด้วย พวกมันชอบดูคนเถียงกันที่สุด
พอเห็นสองหนุ่มต่างไม่ยอมกันเช่นนั้น ฉินสือโอวคิดว่ายามนี้เจ้าบ้านอย่างเขาคงต้องออกหน้าแล้ว จึงพูดว่า “เอาล่ะเอาล่ะ ถ้าเราเลือกอาหารกันไม่ได้ งั้นก็อาหารตะวันออกเหนือครึ่งหนึ่งอีกครึ่งก็อาหารทะเลสูตรไมอามีสิ ฮ่า เป็นมิตรภาพจีนอเมริกันไปเลย”
ปรากฏบิลลี่กับโหวจื่อเซวียนล้วนปฏิเสธที่จะสงบศึก และยังตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่!”
ฉินสือโอวจึงคร้านจะใส่ใจ ฉันเป็นเจ้าภาพ ฉันอายุมากสุด ฉันคือเทพแห่งท้องทะเล พวกเจ้าบังอาจขัดบัญชาของข้า? ย่อมได้ งั้นข้าก็จะชมละครต่อแล้วกัน
วินนี่ทำการไกล่เกลี่ยเอง “แคนาดาเป็นประเทศแห่งประชาธิปไตย เพราะงั้นพวกเรามาคุยกันดีกว่า หวางเหล่ย นายกับเหยาลี่ลี่อยากกินอะไร?”
หวางเหล่ยและเหยาลี่ลี่มองหน้ากันก่อนตอบเสียงเบา “พวกเรากินอะไรก็ได้”
ดีมาก สละสิทธิ์ออกเสียง
คราวหวงเจียเจียเลือก เขาย่อมเลือกเพื่อนตัวเองอยู่แล้ว “กินอาหารตะวันออกเหนือกัน พี่โฮ่วทำอาหารอร่อยมากเลย!”
ทีแรกตั้งใจจะเลือกตามหวงเจียเจีย แต่บิลลี่กลับหันมาพูดกับฉินสือโอวว่า “ฉิน หอยงวงช้างกับหอยนางรม นายจะกินยังไง?”
ฉินสือโอวชะงักไปก่อนตอบ “หา? ฉันก็นั่งกินไง”
ทุกคน “…”
พอเห็นท่าทางเหนื่อยหน่ายของทุกคน ฉินสือโอวถึงรู้ว่าตัวเองดันตอบไม่ตรงคำถาม เลยรีบเสริมว่า “ก็ต้องอาหารทะเลสูตรไมอามีอยู่แล้วสิ”
บิลลี่ยิ้มภูมิใจ โหวจื่อเซวียนทำหน้าเศร้ารู้สึกเหมือนโดนทำร้ายจิตใจ
ฉินสือโอวจึงรู้ตัวว่าตัวเองตกหลุมพรางบิลลี่เข้าแล้ว เขารีบอธิบายอย่างผู้บริสุทธิ์ว่า “ก็หอยงวงช้างกับหอยนางรมมันต้องใช้วิธีทำแบบตะวันตกเท่านั้นนี่ อาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ได้ใช้สองอย่างนี้เสียหน่อย”
“ทำไมจะไม่มี? หอยงวงช้างตุ๋น หอยนางรมตุ๋นไง!” โหวจื่อเซวียนงัดทีเด็ดของอาหารตะวันออกเฉียงเหนือออกมา ไม่ว่าอะไรก็เอามาตุ๋นเอานั่นเอง!
ด้วยเหตุนี้หวงเจียเจียเลยต้องเป็นฝ่ายเลือกอีกครั้ง หญิงสาวมองพวกคนที่ตีกันเป็นไก่ชนด้วยสายตาว่างเปล่า ขณะที่เธอลังเลจะยืนขึ้นพูด วินนี่ก็ดีดนิ้วลงมติ “โอเคมื้อนี้ไม่ต้องกินอาหารตะวันออกเหนือหรืออาหารทะเลไมอามีทั้งนั้น ที่รัก คุณไปทำกับข้าวเถอะ คุณอยากกินอะไรก็ทำเลย”
ฉินสือโอวไม่เต็มใจ ตอบว่า “แต่ผมอยากกินสองอย่างนั้นนี่นา!”
วินนี่ฉีกยิ้มน่ารักใส่
เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอก็พากันตัวสั่น แล้วพร้อมใจกระโจนแปรพักตร์ฉินสือโอว “บรู๊วบรู๊ว! เอ๋งเอ๋งเอ๋งเอ๋ง! โฮ่งโฮ่ง! แกว๊กแกว๊ก!”
เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของเจ้าบุชที่บินกลับมาพอดี
ฉินสือโอวทำหน้าสิ้นหวัง ฉันเป็นคนพาแกมาเมื่อปีที่แล้วแท้ๆ แบบนี้ควรเรียกว่าปัญหาของตัวผู้นำมีอิทธิพลกับลูกน้องหรือเปล่าเนี่ย?
โชคดีที่มื้อเย็นเขาไม่ได้ทำคนเดียว วินนี่วิ่งวุ่นไปมาคอยช่วยด้วย สมเป็นมิตรภาพจีนอเมริกันอย่างแท้จริง เขารับผิดชอบอาหารจีน วินนี่รับผิดชอบอาหารอเมริกัน โดยทั้งสองแอบขโมยจูบกันอยู่เรื่อยๆ จนฉินสือโอวยิ้มแย้มอารมณ์ดีในที่สุด
ขณะเดียวกันบนโต๊ะอาหารก็เริ่มละครขึ้นอีกครั้ง
“นี่เจียเจีย ลองถั่วแขกผัดที่ฉินทำดูสิ อร่อยนะ!”
“คุณหวง กินหอยนางรมนี่สิ ช่วยบำรุงผิวดีนะครับ”
“เจียเจียดื่มน้ำผลไม้ด้วยสิ คั้นสดๆ เลย เข้มข้นดีนะ”
“คุณหวงจะเติมไวน์แดงไหมครับ? มันช่วยบำรุงความงามผิวได้นะครับ”
ฉินสือโอวมองจานอาหารที่ว่างเปล่าแล้วถอนหายใจ พลันตะเกียบคู่หนึ่งก็คีบหอยงวงช้างจิ้มฮอสแรดิช(วาซาบิ)มาตรงหน้า เขาหันไปมองรอยยิ้มอ่อนโยนของวินนี่ ดีจริงที่มีภรรยา!
พอกินเสร็จชิ้นหนึ่ง วินนี่ก็คีบให้เพิ่มอีก กิน คีบ กินแล้วก็คีบอย่างนั้น…..
ฉินสือโอวจนใจ นี่มันงานกินหอยงวงช้างหรือไง?
“นั่นแหละที่รัก กินเยอะๆ เลย นี่เป็นของจากทะเลที่คุณหามาอย่างยากลำบากนี่นะ” ความรักของวินนี่ แทบทำฉินสือโอวรู้สึกหลงหัวปักหัวปำทีเดียว
หลังกินดื่มกันเรียบร้อย สงครามระหว่างบิลลี่และโหวจื่อเซวียนยังคงดำเนินต่อไป แถมประเด็นการโต้เถียงยังกว้างขึ้น ก่อนทั้งสองจะเริ่มพูดถึงปืนคู่ใจของตัวเองกัน ฉินสือโอวก็ปลีกตัวจากโต๊ะไปอย่างไม่แยแส
ก่อนแยกย้าย หวงเจียเจียเอ่ยด้วยความลำบากใจว่า “ขอโทษด้วยนะคะ พี่ฉิน ขอบคุณสำหรับการต้อนรับจริงๆ แต่ฉันไม่น่ามาเลย เรื่องมันถึงเป็นอย่างนี้”
ฉินสือโอวตบหลังเธอปลอบใจ “เด็กโง่ ไม่ต้องคิดมากหรอก…”
ไม่ทันไรก็มีประกายแหลมคมของมีดบินสี่เล่มพุ่งผ่านไป
พอเห็นท่าทางโกรธจัดของโหวจื่อเซวียนกับความดุร้ายของบิลลี่ ฉินสือโอวจึงดึงมือบนไหล่หวงเจียเจียกลับเงียบๆ ก็ได้ พวกนายจะไปมีเรื่องกันที่ไหนก็ไปเถอะ ข้าไม่ยุ่งด้วยแล้ว
วินนี่มองฉินสือโอวอย่างอนาถใจ คุณคิดว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกจะยอมให้คุณจับตัวตามใจชอบแบบฉันหรือไงกัน?
………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset