ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 956 ผู้ประกอบการค้าเหล็ก

ฉินสือโอวออกกำลังกายตั้งแต่เช้าตรู่จนเคยชิน เริ่มต้นด้วยการวิ่งก่อน เขาวิ่งนำไวส์มาแล้วระยะหนึ่ง ตอนนี้ไวส์หอบอย่างหนัก
นอกจากนี้ อาการของเขายังทำให้ฉินสือโอวรู้สึกกลัวขึ้นมานิดหน่อย คนปกติเวลาที่วิ่งแล้วหน้าจะเป็นสีแดงเพราะเลือดสูบฉีด แต่ไวส์กลับมีใบหน้าซีดขาว เหงื่อที่ออกมาทั่วร่างกายของเขานั้น เป็นเหงื่อเย็นทั้งหมด!
ฉินสือโอวรีบให้เขานั่งพักทันที เขาถามขึ้นมาว่า “นายเคยบอกว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง บอกฉันหน่อยได้ไหมว่านายป่วยเป็นอะไร?”
ไวส์กะพริบตามองไปรอบๆ พลางพูดออกมาว่า “ปกติผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เลยวิ่งไม่ไหว”
ทำไมถึงตอบไม่ตรงคำถามแบบนี้ล่ะ? ฉินสือโอวยิ้มออกมา เด็กคนนี้อยากที่จะปกปิดความลับไว้แต่กลับเผยออกมาเองซะงั้น
เขาไม่กล้าให้ไวส์วิ่งต่อ ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดเรื่องได้ถ้ายังให้วิ่งต่อไป แบบนั้นเขาคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่
ดังนั้น เขาจึงช่วยลูบหลังไวส์เบาๆ หลังจากพักกันอยู่ครู่หนึ่งฉินสือโอวก็พูดขึ้นมาว่า “มา ไปที่สระว่าบน้ำกับฉัน ฉันจะสอนวิธีกลั้นหายใจให้นายเอง ต้องปรับสภาพอวัยวะภายในของนายเสียก่อน”
นี่เป็นเรื่องที่ฉินสือโอวค้นเจอในอินเทอร์เน็ตเมื่อวานนี้ มันเรียกว่าการฝึกการควบคุมลมหายใจ อันที่จริงแล้วก็เป็นการหายใจเข้าลึกและเก็บอากาศไว้ เอาอากาศที่ไม่ดีออกมาจากปอดและสูดรับอากาศบริสุทธิ์เข้าไป แบบนี้จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ได้ผลดีเท่ากับการฝึกกำลังภายในอย่างที่โฆษณาไว้แน่นอน
เขาลองวัดอุณหภูมิที่สระว่ายน้ำ อากาศตอนเช้าในหน้าร้อน น้ำในสระกำลังอุ่นพอดี ฉินสือโอวและไวส์นั่งอยู่ในสระ ฉินสือโอวจัดให้ไวส์นั่งในท่าขัดสมาธิ ให้เขาสงบจิตใจลงจากนั้นก็หลับตาและหายใจเข้าออก
“เวลาที่หายใจเข้านายต้องผสานลมหายใจเข้ากับการเคลื่อนไหวต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการช่องทวาร หน้าท้อง หรือกล้ามเนื้อ ไม่เข้าใจไหม? ดูฉันนะ” กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างของฉินสือโอวแขม่วเกร็ง จากนั้นก็ค่อยๆ เกิดลมเพิ่มขึ้นจากการหายใจเข้าช้าๆ
“หลังจากนั้นเวลาที่หายใจออกน่ะ ให้ลดการเกร็งหน้าท้อง แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายหน้าท้อง นอกจากนี้ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายบริเวณช่องทวาร นายไม่เข้าใจเรื่องช่องทวารสินะ? อันนี้ไม่มีตัวอย่างแสดงให้ดู นายต้องเข้าใจด้วยตัวเอง!” ฉินสือโอวโบกมือปฏิเสธไปมา
งานนี้ต้องจินตนาการเองแล้ว เขาไม่กล้าทำท่านี้ให้ดูหรอก หากมีคนเอาไปแจ้งความ เขาอาจจะโดนตำรวจจับเข้าคุกข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กได้
“ทำตามจังหวะที่ฉันบอกนะ หายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้ากลั้นหายใจและหายใจออก หลักในการหายใจในแต่ละครั้ง เมื่อมาถึงจุดที่ผ่อนคลายหรือว่าเกิดความเปลี่ยนแปลง นายจะต้องใช้การกลั้นหายใจ เข้าใจไหม?” สีหน้าของฉินสือโอวดูลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ได้
แต่เขามั่นใจว่าวิธีของเขานั้นมีประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะว่าเขาได้สะบัดมือและปล่อยพลังโพไซดอนลงไปในน้ำแล้วเรียบร้อย ทำให้ร่างกายของไวส์ได้รับพลังโพไซดอนเข้าไปบางส่วน นี่แหละคือเคล็ดลับขั้นสุดยอด!
ฉินสือโอวได้แอบส่งพลังโพไซดอนให้เหล่าเพื่อนสนิทและคนในบ้านอย่างบิลลี่ หรือพวกเหมาเหว่ยหลง พลังนี้ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมนุษย์ได้อย่างชัดเจน เช่นเออร์บัก เมื่อเทียบกับคนที่อายุมากเท่ากันเขาดูอ่อนวัยลงทุกวันๆ
แน่นอนว่า พลังโพไซดอนที่เขามอบให้คนอื่นๆ นั้นเขาส่งให้ค่อนข้างน้อย ขอเพียงทำให้ร่างกายแข็งแรงก็พอแล้ว เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้ท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลต่อร่างกายหรือไม่ หากวันไหนตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาแล้วมีขนหางยาวเหมือนบรรพบุรุษ แบบนั้นคงจะแย่แน่
หลังจากที่หายใจเข้าออกอยู่ราวครึ่งชั่วโมง ฉินสือโอวก็ให้ไวส์ลุกขึ้น ปรากฏว่าเขาเห็นว่าเด็กคนนี้นั่งหลับอยู่ในน้ำ ในที่สุดสีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมา และไม่ได้มีสีหน้าซีดราวกับคนเป็นโรคอีก
ฉินสือโอวพาไวส์มายังเก้าอี้เอนหลัง เด็กคนนี้หลับสนิท เขาเพียงแค่ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ จากนั้นก็นอนหลับต่อ
บิลลี่มาหาฉินสือโอว เขาพูดพลางโบกโทรศัพท์ไปมา “ของนายน่ะ เคอร์ สเตราส์ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องด่วนนะ”
ฉินสือโอวรับโทรศัพท์มือถือว่า เคอร์พูดเปิดประเด็นขึ้นมาทันที “เฮ้ เพื่อน ลูกของจอร์จ บรูซอยู่กับคุณหรือไม่ครับ? เด็กชาวตัวเล็กๆ ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นฮีโร่น่ะ ชื่อไวส์”
ฉินสือโอวจึงอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง เคอร์เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “โอเค คุณมาหาผมหน่อยสิ จอร์จต้องการจะคุยกับคุณ”
เมื่อวางสายแล้ว ฉินสือโอวก็ถามบิลลี่ว่าใครคือจอร์จ บรูซ บิลลี่หัวเราะออกมาเสียงดังแล้วพูดขึ้นว่า “จอร์จ บรูซนายไม่รู้จักเขาเหรอ? แล้วแอนดรูว์ คาร์เนกีล่ะ? อย่าบอกนะว่านายไม่รู้จักเจ้าพ่อค้าเหล็ก!”
แน่นอนว่าฉินสือโอวรู้จักเจ้าพ่อค้าเหล็กอย่างคาร์เนกีแห่งอเมริกา เขาถามออกมาว่า “สองคนนั้น เกี่ยวข้องกันเหรอ?”
คาร์เนกีตายไปแล้วศตวรรษหนึ่ง อีกอย่างตระกูลที่ยิ่งใหญ่แบบนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกันกับบรูซงั้นเหรอ?
“วิเวียน บรูซคือภรรยาของจอร์จ บรูซ ก่อนแต่งงานเธอชื่อวิเวียน คาร์เนกีเข้าใจไหม? คุณบรูซตอนนี้เป็นเจ้าพ่อค้าเหล็กคนใหม่แห่งชิคาโก้ เขาเป็นคนที่เก่งกาจมากเลยนะ” บิลลี่พูด
หลังจากนั้นเขาก็พูดถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวคาร์เนกีและครอบครัวจอร์จ บรูซ เขาถามขึ้นมาว่า “นายถามเรื่องนี้ทำไมกัน?”
ฉินสือโอวชี้ไปที่ไวส์ที่กำลังนอนฝันหวานอยู่ที่ด้านหลังแล้วพูดขึ้นว่า “เด็กคนนั้น ศิษย์ของฉันชื่อไวส์ เหมือนว่าพ่อของเขาก็คือจอร์จ บรูซ”
“แย่แล้ว ตอนนี้นายเป็นอาจารย์ของรัชทายาทแล้ว!” เหมาเหว่ยหลงพูดล้อเล่นออกมา
ฉินสือโอวโบกมือไล่แล้วออกประตูไป เขาบอกทุกคนว่าถ้าเด็กคนนั้นตื่นให้เขาเล่นคนเดียวไปก่อน ตอนเย็นเขาจะกลับมาสอนกังฟู
เมื่อไปถึงที่พักของเคอร์ ทันทีที่ฉินสือโอวลงจากรถเขาก็เห็นชายวัยกลางคนร่างใหญ่ที่เมื่อวานนี้มาลากไวส์ไป ผมของเขาเป็นสีดำสนิทไม่เหมือนกับไวส์ที่มีผมสีทอง เขาเป็นคนตัวใหญ่ จมูกโด่งและมีปากกว้าง มองดูก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาเป็นผู้ชายที่พลังงานเหลือล้นคนหนึ่ง
ฉินสือโอวยื่นมือออกไป ชายวัยกลางคนคนนั้นยื่นมือออกมาจับมือของฉินสือโอว แล้วพูดว่า “จอร์จ บรูซ พ่อของไวส์ ดีใจที่ได้พบคุณครับ”
เคอร์พาทั้งสองคนไปยังห้องสมุด เขาพูดขึ้นมาว่า “ที่นี่ค่อนข้างสงบ เชิญพวกคุณตามสบายครับ”
จอร์จมองฉินสือโอวอย่างพินิจพิเคราะห์ ฉินสือโอวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ว่าเพื่อเห็นแก่ไวส์ เขาจึงทำได้เพียงมองกลับไปยังเจ้าพ่อแห่งการค้าเหล็กด้วยสายตาดุเดือดเท่านั้น แต่ไม่ได้ถึงกับจะไปต่อยตีจอร์จ
แน่นอนว่า เขาแค่คิดเรื่องนี้เล่นๆ เท่านั้น
“ลูกชายของผม เคารพคุณเป็นอะจารย์แล้วงั้นเหรอ?” จอร์จเอ่ยปากถามออกมา
ฉินสือโอวยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า “อาจารย์ครับ ไม่ใช่อะจารย์ แน่นอนว่าไวส์เรียกผมแบบนั้น”
ใบหน้าของจอร์จปรากฏร่องรอยแห่งความเศร้าออกมาเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานมันก็หายไป และใบหน้านั้นก็กลับมาดูดุดันอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นว่า “เมื่อวานตอนเย็นไวส์แอบออกไปข้างนอก แล้วเขาก็กลับมาอย่างด้วยท่าทีมีความสุข ผมเลยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เดิมทีผมอยากจะไปคุยกับคุณตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น แต่ว่าแบบนั้นคงจะเป็นการเสียมารยาท และผมก็เกรงใจ วันนี้เลยให้คนไปถามถึงคุณ หวังว่าผมจะไม่ได้ทำให้คุณไม่สบายใจนะครับ”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ผมเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อดี เพราะว่าอีกไม่นานผมก็จะกลายเป็นพ่อคนแล้ว”
ในที่สุดจอร์จก็ยิ้มออกมา เขาลากเก้าอี้เข้ามานั่งอยู่ตรงหน้าฉินสือโอวแล้วพูดขึ้นว่า “ผมสามารถเล่าเรื่องของลูกผมให้คุณฟังได้ไหม? แต่มันค่อนข้างจะน่าเบื่อเสียหน่อยนะ”
ฉินสือโอวแสดงท่าทีบอกเขาว่าเชิญตามสบาย
“ไวส์ เป็นลูกคนที่สี่ของผม เขามีพี่สาวคนหนึ่ง ส่วนพี่ชายของเขาทั้งสองคนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย” ในขณะที่เล่าถึงเรื่องนี้สีหน้าของจอร์จไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด “คุณน่าจะสัมผัสได้ พวกเราอายุห่างกันไม่มากไม่ใช่เหรอ? เวลาที่อยู่กับไวส์ ถ้าหากว่าไม่แนะนำให้รู้จัก คุณก็คงจะเข้าใจว่าผมเป็นปู่ของเขา”
“ยีนด้อยของผม เกิดขึ้นบนโครโมโซมวาย ถ้ามีลูกชาย ลูกของผมก็จะไม่แข็งแรง แต่การจะมีลูกเป็นชายหรือหญิง เรื่องนี้พระเจ้าเป็นผู้กำหนด ผมและวิเวียนที่เป็นพ่อแม่ขอไวส์ไม่สามารถกำหนดเพศของเขาได้ สิ่งที่พวกเราทำได้ คือการทำทุกวิถีทางเพื่อดูแลลูกชายคนนี้ให้ดีที่สุด”
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset