ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 974 ดาวเคมิคอลมาแล้ว

ฉินสือโอวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป พลางถามว่า “เฮ้ บิ๊กเบิร์ด ที่บ้านเป็นไงบ้าง?”
นามสกุลของเบิร์ดสะกดว่าเบิร์ดจริงๆ มันสามารถแปลว่า ‘นก’ ได้ อีกอย่างตอนที่เบิร์ดอยู่ในกองทัพชื่อเรียกของเขาก็คือบิ๊กเบิร์ด แน่นอนว่าเขาชอบเรียกตัวเองว่าอินทรีทอง แต่ว่าคนที่เขารู้จักกลับชอบเรียกเขาว่าบิ๊กเบิร์ด เพราะว่า ‘บิ๊กเบิร์ด’ ของเบิร์ดเป็นชื่อเดียวกับนักบาสเกตบอลชื่อดังระดับชาติ
“คุณจางนักบัญชีที่เพิ่งจ้างมาทำงานแล้ว ฮิวจ์คนน้องบอกว่าเขาทำงานได้ไม่เลวเลย เขาเป็นคนขยันและซื่อสัตย์มาก ตอนนี้เขายังไม่ได้สนใจธุรกิจร้านขายของชำมากนัก สองวันก่อนหน้านี้ที่นครเซนต์จอห์นมีหิมะตกลงมา แต่ว่าเป็นหิมะเล็กๆ ไม่สามารถเล่นรถเลื่อนได้ เรื่องนี้ทำให้พวกของเชอร์ลี่ย์เศร้ามาก…”
เบิร์ดเหมือนพ่อบ้านผู้ภักดี เขารายงานเหตุการณ์ในฟาร์มปลาและเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองทุกอย่างในช่วงที่ฉินสือโอวไม่อยู่
อันที่จริงไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตอะไร ล้วนแต่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านเท่านั้น เช่นเพราะว่าหิมะตกวันเว้นวัน เครื่องทำความร้อนในเมืองจึงเกิดปัญหา ช่วงนี้ทุกคนจึงคิดจะประท้องขึ้นมาอีกครั้ง และเช่นว่าสองสามวันก่อนลูกของบูลหนาวจนเป็นไข้หวัด บูลวิ่งวุ่นไปมาอย่างรีบร้อนและอื่นๆ
“มีคนต้องการซื้อโรงงานเพื่อทำโรงงานเคมี เขามาเพื่อเจรจากับฮานี่ย์ตัวแทนนายกเทศมนตรี แต่ว่าฮานี่ย์ปฏิเสธกลับไปแล้ว” เรื่องสุดท้ายที่เบิร์ดพูด เป็นเขาดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง
อันที่จริงแล้ว ฉินสือโอวสนใจเรื่องนี้ จึงถามออกมาว่า “ใครอยากจะซื้อพื้นที่โรงงานนั้นเหรอ? วัตถุประสงค์คืออะไร?”
เบิร์ดบอกว่า “ผมได้ยินมาว่า เป็นบริษัทดาวเคมิคอลของแคนาดา พวกเขาตั้งใจที่จะโอนสายการผลิตจากรัฐออนแทรีโอมาที่นี่ เขาชอบความสะดวกสบายของการคมนาคมและการกำจัดของเสียของเกาะเรา”
ดาวเคมิคอลเป็นบริษัทที่มีเคมีภัณฑ์หลากหลาย เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีพนักงานกว่าห้าหมื่นคนทั่วโลก แต่ว่าฉินสือโอวไม่สนใจว่าพวกเขาจะเก่งกาจแค่ไหน อีกอย่างที่ดินบนเกาะแฟร์เวลก็เป็นของเขา โรงงานเคมีจึงไม่เป็นที่ต้อนรับอยู่แล้ว
พูดถึงอุตสาหกรรมเคมี ต้องขอพูดถึงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของแคนาดาสักหน่อย อุตสาหกรรมเคมีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่อุตสาหกรรมหนึ่ง นับเป็นสามส่วนของสินค้าส่งออกมาทั้งหมด มีโรงงานกว่าสามพันแห่งและคนงานกว่าหนึ่งแสนคนในแคนาดา
อุตสาหกรรมเคมีของแคนาดากระจุกอยู่ตามสามภูมิภาคดังนี้ รัฐออนแทรีโอ รัฐควิเบกและรัฐแอลเบอร์ตา ในแต่ละภูมิภาคมีจุดเด่นและข้อได้เปลี่ยนที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองแตกต่างกันออกไป
พื้นที่ตอนกลางของแคนาดาเป็นเขตที่มีการทำโรงงานเคมีมากที่สุด เป็นพื้นที่แปรรูปน้ำมันชั้นนำ และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกรวมถึงเป็นที่ตั้งของโรงงานเคมีใหญ่ๆ ถึงสิบบริษัทด้วยกัน พื้นที่ทางตะวันตกเป็นเขตอุตสาหกรรมผลิตปีโตเคมีที่ใหญ่ที่สุด ด้วยการหล่อเลี้ยงของโครงสร้างพื้นฐานการวิจัยที่แข็งแกร่งและการศึกษาของประชากรที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้ศูนย์กลางแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมาก
ในอุตสาหกรรมนี้ เมืองซาเนียถือว่าเป็นศูนย์รวมโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดา เป็นศูนย์รวมการผลิตและการวิจัยเข้าด้วยกัน เป็นพื้นที่เดียวที่ตั้งอยู่ที่เขตชายแดนระหว่างแคนาดาและสหรัฐอเมริกา โดยที่แห่งนั้นเรียกว่า ‘เมืองแห่งอุตสาหกรรมเคมี’
โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการแปรรูปปีโตเคมีของพื้นที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีถ้ำเกลือขนาดใหญ่อยู่ที่นี่หลายแห่ง และใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันด้วย เพียงพอที่จะสามารถจัดหาวัตถุดิบในการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวได้ ท่าเรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่นอกชายฝั่ง และเครือข่ายการคมนาคมที่มั่นคงต่างก็ต้องใช้วัตถุดิบจากน้ำมันดิบและน้ำมันหล่อลื่น
บริษัทดาวเคมิคอลแคนาดาที่ต้องการขยายฐานผลิตมายังเกาะแฟร์เวลก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีบริษัทน้ำมันอิมพีเรียล บริษัทอินวิสต้า บริษัทโนวาเคมีภัณฑ์ บริษัทรอยัลดัตช์เชลล์แคนาดาและโรงงานเคมีอื่นๆ อีกมากมาย
อันที่จริงแล้วเกาะแฟร์เวลเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การตั้งโรงงานเคมีมาก การคมนาคมทางทะเลสะดวก ความเสี่ยงในการขนส่งต่ำ ความกดดันน้อย ต้นทุนต่ำ และเกาะเล็กๆ นี้ก็อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับในการตั้งโรงงานเคมีที่มีความเสี่ยงสูงของรัฐบาลแคนาดา
นอกจากนี้โรงงานแห่งนี้ยังล้อมรอบไปด้วยทะเลทั้งหน้าและหลัง และยังสะดวกในการบำบัดสิ่งปฏิกูลมาก ไม่ว่าจะมองจากตรงไหน เกาะเล็กๆ นี้ก็ควรได้รับการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมเคมี
แต่ว่าฉินสือโอวไม่อนุญาต การพัฒนาการประมงกับการท่องเที่ยวก็ดีมากเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมจะต้องมีส่วนร่วมในการก่อตั้งและพัฒนาโรงงานเคมีที่น่ารังเกียจนี่ด้วย? แบบนั้นก็เป็นการทำลายเกาะนี้น่ะสิ
เบิร์ดไม่ได้เก็บเรื่องที่บริษัทดาวเคมิคอลแคนาดามาใส่ใจ เพราะว่าเขารู้สึกว่าอย่างไรผู้ว่าเมืองและนายกเทศมนตรีก็ไม่ยอมให้กลับมาเปิดโรงงานเคมีอีกแล้ว ดังนั้นโรงงานเคมีทั้งหลายก็ไม่สามารถมาสร้างที่นี่ได้อีก
ฉินสือโอวใจเย็นกว่าเบิร์ดมาก เขาพึ่งกลับมาจากงานเลี้ยงของกลุ่มคนรวยกลุ่มหนึ่ง สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคืออำนาจของพวกเขาในมือ แฮมเล็ตและฮานี่ย์ไม่สามารถต่อกรกับนักธุรกิจเหล่านี้ได้ ถ้าหากว่าดาวเคมิคอลอยากจะเปิดโรงงานที่นี่จริงๆ อย่างไรพวกเขาก็จะหาทางให้ได้
แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลถึงปัญหานั้น ฉินสือโอวกลับมาถึงบ้านแล้ว เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์ เจ้าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายก็วิ่งเข้ามาล้อมเขาอย่างตื่นเต้น
ฉงต้าร้องครางออกมา หลังจากที่วิ่งมาถึงฉินสือโอวมันก็เกาะไหล่ของฉินสือโอวแล้วยืนขึ้น มันเกือบจะสูงเลยไหล่ของฉินสือโอวแล้ว เริ่มมีความเหมาะสมกับที่เป็นหมีแล้ว หากให้มันเข้าป่าไปตอนนี้ก็สามารถเป็นราชาได้แล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่าฉงต้านั้นไม่คิดที่จะต้องการอำนาจนั้น มันพยุงให้ฉินสือโอวลุกขึ้น จากนั้นก็ถูคางของฉินสือโอวด้วยหัวโตที่เต็มไปด้วยขน มันยังคงน่ารักเหมือนตอนที่เขาเก็บมันมาเลี้ยงแรกๆ
แน่นอนว่าใครก็ตามที่คิดว่าฉงต้าเพียงแค่น่ารักเท่านั้น นั่นเป็นความคิดที่โง่เง่าที่สุด ฉินสือโอวนำของขวัญกลับมาด้วย กระเป๋าเป้ที่หลังเขาเป็นไปด้วยผลไม้จากออสเตรเลีย สัมผัสในการดมกลิ่นของฉงต้านั้นเร็วมาก มันสามารถได้กลิ่นผลไม้ทุกชนิดได้จากการดมครั้งเดียว
ฉินสือโอวทำได้เพียงหยิบผลลูกน้ำนมออกมาหนึ่งลูกแล้วแบ่งครึ่ง ฉงต้าเอื้อมอุ้งมือของตัวเองออกไปคว้าชิ้นหนึ่ง ปอหลัวก็อ้าปากแล้วคาบอีกครึ่งหนึ่งไป
ต้าป๋ายเดินตามหลังฉงต้าไปเงียบๆ ฉงต้าไม่ได้ทำตัวไม่ดีกับเพื่อนตัวเล็กตัวนี้ มันฉีกผลลูกน้ำนมออกมาหนึ่งชิ้นแล้วส่งให้ต้าป๋ายทันที
แมวป่าตัวน้อยกำลังน้อยที่อยู่เท้าของวินนี่ หลังจากที่มันเห็นฉินสือโอวมันก็รีบปีนขึ้นมาบนไหล่เขาอย่างรวดเร็ว
สองสามเดือนมานี้ แมวป่าอ้วนขึ้นนิดหน่อย เมื่อก่อนที่มันดูอ้วนเพราะว่าขนมันยาวเท่านั้น แต่ตอนนี้มันอ้วนจริงๆ หน้ากลมมน ตัวกลมเต็มไปด้วยเนื้อ วินนี่ไม่สามารถรับมือกับมันได้อีกต่อไป อีกทั้งเธอยังท้องอยู่จึงไม่สามารถกอดมันได้ ดังนั้นราชาเจ้าป่าซิมบ้าจึงเข้ามากอดฉินสือโอวแทน
ฉินสือโอวกอดราชาเจ้าป่าซิมบ้า นอกจากนี้ยังก้มลงไปกอดหู่จือเป้าจือและหัวไชเท้าน้อยอย่างรักใคร่ เรื่องนี้ทำให้เขาวุ่นวายมาก
วินนี่เดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม พลางถามว่า “ชายหาดออสเตรเลียสวยไหมคะ? มีสาวสวยสวมบิกินีเยอะไหม? สนุกไหมคะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา “ชายหาดที่สวยที่สุดนั้นอยู่ที่ฟาร์มปลาของผมเสมอ ส่วนสาวสวยสวมบิกินีน่ะเหรอ? อาจจะมี แต่ผมไม่ได้เห็น ผมเอาแต่เล่นก็เด็กๆ”
เขาเคยเล่าเรื่องของไวส์และเจ้าหญิงโลลิต้าให้วินนี่ฟังแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาคุยกันทุกวัน
เมื่อพูดถึงเด็กๆ มือถือของฉินสือโอวก็ดังขึ้น เขาเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกจากยุโรป เมื่อรับสายเสียงของเจ้าหญิงโลลิต้าก็ดังขึ้นมา “ทำไมคุณถึงเพิ่งเปิดมือถือล่ะ? คุณลุง ฉันได้ยินอาฟิฟบอกว่าคุณกลับไปแล้วเหรอคะ? ทำไมล่ะ? ทำไมคุณไม่มาบอกลาฉันเลย? พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ”
ฉินสือโอวบอกกับอาฟิฟแล้วเรื่องที่เขาจะกลับบ้าน ดูเหมือนว่าอาฟิฟจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเจ้าหญิงโลลิต้าไม่ทัน
ดังนั้น ฉินสือโอวเลยอธิบายทางโทรศัพท์ไปสองสามประโยค นอกจากนี้ก็เชิญให้พวกเขามาเล่นที่ฟาร์มปลาเมื่อมีเวลาว่างด้วย เขาบอกว่าฟาร์มปลาของเขาก็มีปะการังและยังมีปลาอีกมากมายที่ไม่มีที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ
เจ้าหญิงโลลิต้าตอบตกลงทันทีด้วยความดีใจ จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างเศร้าสร้อยว่า “ฉันไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือเปล่า ท่านพ่อท่านแม่เข้มงวดมาก มีหลายที่ที่พวกท่านไม่อนุญาตให้ไป แต่ว่าฉันจะหาวิธี ฉันจะไปหาคุณลุงที่ฟาร์มปลาให้ได้”
ฉินสือโอวยิ้มให้ขณะที่เอ่ยเชิญชวน เมื่อวางสายไป เขาก็เห็นวินนี่มองมายังเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset