ผมเกิดใหม่เป็นจิ้งจอกสาวเก้าหาง – ตอนที่ 24: แต้มความสนิท Plus!!

                “แหม เรื่องนี้น่ะมันไม่ได้น่าอายหรอกนะคะไอร่า เล่าให้เพื่อนอย่างชั้นฟังก็ได้นะคะ”

                “หา? เมื่อตอนกลางวันเธอยังบอกชั้นเลยว่าเรื่องนี้มันน่าอาย แล้วใครมันจะไปเล่าให้ฟังได้ลงเล่า!”

                “แต่ชั้นยังบอกไอร่าเลยนะคะ ว่าชั้นกับคาเอลเราอยู่ห้องเดียวกัน”

                “เธอไม่ได้บอกชั้น! แต่ไคต่างหากที่บอก!”

                “เอ๋ เป็นอย่างนั้นเหรอคะเนี่ย”

                ผมกับไอร่ากำลังยืนเถียงกันอยู่หน้าห้องหลังจากที่ได้รู้ว่าเพื่อนห้องข้างๆนั้นเป็นใคร

                ไอ้เรื่องที่ต้องบอกว่าเพื่อนร่วมห้องเป็นคนละเพศมันน่าอายเรื่องนั้นผมก็เข้าใจอยู่ เพราะผมเองก็ไม่ค่อยอยากจะบอกใครเท่าไหร่เหมือนกัน

                แต่คาเอลก็เที่ยวบอกใครต่อใครไปแล้ว เรื่องนี้ผมก็เลยไม่สนใจเท่าไหร่แล้วล่ะ

                “และที่ชั้นไม่ได้บอกเธอก็เพราะว่าเธอเองก็ไม่ได้บอกชั้นนี่นา จะมาหาว่าชั้นไม่เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังไม่ได้หรอกนะ”

                “ค่าๆ เรื่องนี้ชั้นผิดเองค่ะ แต่ที่ไม่ได้บอกไอร่าก็เพราะว่าไอร่าน่ะหูดีนี่นา อันที่จริงเพื่อนๆในห้องก็คุยเรื่องชั้นกับคาเอลบ่อยๆ เพราะอย่างนั้นก็เลยเข้าใจว่าไอร่าเองก็คงจะได้ยินเรื่องพวกนี้มาแล้วเหมือนกัน”

                “ชั้นไม่คิดจะฟังคนอื่นพูดหรอกนะ ยิ่งพวกที่ไม่สำคัญกับชั้น ชั้นจะไม่สนใจฟังเลยสักนิด”

                นี่คงเป็นอีกเรื่องเกี่ยวกับไอร่าที่ผมต้องจดเอาไว้สินะ แต่การที่ไอร่าเขย่าตัวผมเมื่อตอนกลางวันก็แสดงว่า

                “แสดงว่าชั้นเนี่ยสำคัญกับไอร่าอย่างนั้นสินะคะ ชั้นดีใจจริงๆเลยค่ะ”

                “ปะ..เปล่าสักหน่อย แต่เป็นเพราะว่าเธอน่ะเรียกชั้นว่าเพื่อน เพราะอย่างนั้นชั้นก็เลยต้องสนใจเรื่องของคนที่เรียกชั้นว่าเพื่อนต่างหาก”

                มันก็แปลว่าผมสำคัญไม่ใช่เหรอ ภาษาซึนเดเระยากชะมัด

                อ๊ะ ใช่แล้ว ผมสามารถใช้โอกาสนี้ชวนไอร่ากับไคมากินข้าวด้วยกันเพื่อเพิ่มความสนิทก็ได้นี่นา ถึงเราจะกินข้าวกลางวันด้วยกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดเป็นอาหารฝีมือผมก็น่าจะทำให้สนิทกันมากขึ้นหรือเปล่านะ

                “ไหนๆเราก็อยู่ห้องข้างๆกันแล้ว เรากินข้าวด้วยกันไหมคะ”

                ผมชวนทั้งสองคนทำให้ไอร่าและไคต่างก็ทำหน้าคิด

                “โอ้ ใช่แล้วๆ อาหารที่มากิทำน่ะอร่อยมากเลยนะครับทั้งสองคน”

                ดีมากคาเอลต้องช่วยกันแบบนี้ล่ะนะ

                “อืม…ข้าวเย็นเหรอ…ไม่เสียเงินใช่ไหม”

                “แน่นอนค่ะ”

                พอไคได้ยินคำตอบของผมก็สไลด์เท้าย้ายมายืนข้างๆคาเอล

                “เห้ย ทิ้งกันเลยเหรอ”

                “ของฟรี ไม่เอาก็เรื่องของเธอ”

                ถึงสองคนนี้จะอยู่นอนห้องเดียวกันแต่ก็ไม่ได้สนิทกันอย่างนั้นสินะ ยิ่งเป็นไคกับไอร่า…อืม เป็นแบบนี้ก็คงจะปกตินั่นแหละ

                ไอร่ายังคงทำหน้าคิดอยู่และอาจจะปฏิเสธ

                ต้องลองใช้วิธีนั้นแล้วล่ะ

                “ไอร่าไม่อยากกินข้าวฝีมือเพื่อนคนนี้เหรอคะ…”

                ผมพูดพร้อมทำหน้าละห้อยเพื่อให้ไอร่าสงสาร

                “อะ…อึก… อะๆๆ ก็ได้ๆๆ ที่ยอมก็เพราะเธอขอร้องหรอกนะ”

                อันที่จริงกินข้าวฝีมือเพื่อนมันจำเป็นต้องปฏิเสธด้วยเหรอ ตอนกินข้าวด้วยกันตอนกลางวันยังได้เลย

                แล้วทำไมไอร่าถึงต้องหน้าแดงด้วยล่ะเนี่ย

                พอตกลงกันได้แล้วพวกเราก็เดินเข้าห้องเพื่อรอให้ผมทำอาหารและสามคนนั้นก็นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะ

                “จัดห้องสวยดีนี่”

                “มากิทำหมดเลยครับ จัดห้องตกแต่ง ผมแค่ยกของ”

                “อืม ชั้นก็พูดถึงมากินั่นแหละ”

                “มากิน่ะสุดยอดเลยใช่ไหมล่ะครับ ฮ่าๆ”

                คาเอลตอบไอร่าด้วยความภูมิใจ

                ไม่สิคาเอล คนที่สุดยอดน่ะมันนาย ทั้งๆที่ถูกไอร่าพูดแบบนั้นใส่แท้ๆแต่กลับคิดว่ามันเป็นคำชมซะได้

                คาเอลที่ชอบคิดมากและขี้อายของผมคนนั้นเติบโตขึ้นแล้วสินะ

                อัตราการกินข้าวของที่นี่เทียบกับการกินอาหารจำพวกสไตล์ยุโรปเป็นครึ่งต่อครึ่ง

                ผมกับคาเอลเป็นพวกชอบกินอาหารสไตล์ยุโรปมากกว่า แต่ถ้าหากวันไหนอยากกินข้าวก็กิน

                ส่วนไค เท่าที่รู้จักกันมาเวลากินอะไรจะเป็นเมนูข้าวเสมอ

                และไอร่าเวลากินมักจะเป็นเนื้อล้วนๆเป็นส่วนใหญ่ จะเห็นกินผลไม้ด้วยเป็นบางครั้ง

                ถ้าอย่างนั้นทำเป็นสตูว์ก็แล้วกัน และหุงข้าวนิดหน่อย เท่านี้ก็น่าจะสามารถทำให้พวกเรากินอาหารที่ชอบได้ทุกคนล่ะนะ

 

 

 

                ผมทำอาหารเสร็จแล้วจึงนำไปวางไว้ให้อีกสามคน ของคาเอลผมและไอร่าเป็นสตูว์แต่ไอร่าผมตักเนื้อให้เยอะกว่าปกติและเอาผักให้น้อยกว่า ส่วนของไค เป็นข้าวราดสตูว์ ผมปรุงเพิ่มนิดหน่อยเพราะไม่แน่ใจเรื่องรสชาติ แต่คิดว่าน่าจะอร่อยนะ

                พออาหารวางอยู่ด้านหน้า ทั้งไคและไอร่าก็ตักอาหารเข้าปากทันที

                “อื้ม! อร่อย! รสชาติกำลังพอดีเลย ขนาดว่าชั้นไม่ได้ชอบอาหารของมนุษย์นะ”

                “ใช่แล้ว ทั้งๆที่คิดว่าพอราดข้าวแล้วมันต้องจืดแน่นอน แต่มันกลับยังรสชาติเข้มข้น อร่อยจริงๆ”

                “ขอบคุณค่ะทั้งสองคน ถ้าไม่พอเติมอีกได้นะคะ”

                “โอ้ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เกรงใจล่ะนะ”

                “ว่าแต่ เธอรู้ได้ยังไงว่าชั้นไม่ชอบผักน่ะ แถมยังทำให้ไคเฉพาะข้าวตามที่หมอนี่ชอบอีก”

                “เพราะว่ามากิเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นยังไงล่ะครับ อย่างตอนที่กินข้าวด้วยกันช่วงพัก ทั้งสองคนก็กินแบบนี้ตลอด มากิเองก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เลยทำให้ตามความชอบ ใช่ไหมครับมากิ”

                “ใช่แล้วค่ะ ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนกัน ถ้าจะสังเกตกันก็ไม่แปลกใช่ไหมคะ”

                ดีจัง มีคนคอยช่วยแบบนี้เรื่องก็ง่ายขึ้นเยอะเลยแฮะ

                พอไอร่ากับไคได้ยินที่พวกผมพูดอย่างนั้นก็ทำหน้าอึ้งขึ้นมาจนทำให้พวกผมสงสัย

                “ทั้งสองคนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

                “เปล่าหรอก ที่เผ่าของชั้น ต่อให้เป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้มีความสำคัญถึงขึ้นที่ต้องสังเกตเพื่อสนิทกันอย่างนี้ พอเห็นสิ่งที่เธอกับคาเอลทำแล้วก็เลยแปลกใจน่ะ”

                “อืม เผ่าของฉันก็เหมือนกัน พวกเราไม่ได้สนใจกันมากนัก เพราะสิ่งที่เราให้ความสำคัญนั้นคือความสามารถทางด้านดาบ พวกเราไม่ได้ใส่ใจอาหารมากนัก เพราะต่างก็กินเหมือนๆกัน นั่นเลยทำให้มันแปลกสำหรับฉันที่มีคนใส่ใจกันอย่างนี้”

                เป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะอย่างนั้นก็เลยแปลกใจสินะ

                นี่ไงล่ะ การชวนกินข้าวของผมทำให้ทั้งสองคนเล่าเรื่องของตัวเองนิดหน่อยด้วย นี่น่าจะทำให้เราสนิทกันไปอีกขั้นแล้วล่ะ

                “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคนอื่นๆเป็นแบบไหน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนแค่มากิเท่านั้น เพราะอย่างนั้น ผมดีใจนะครับที่ได้เป็นเพื่อนกับทั้งสองคน”

                “ชั้นเองก็เหมือนกันค่ะ”

                ทำดีมากคาเอล ทำดีมาก ต้องขอบคุณคาเอลเลยที่พูดขนาดนี้ เพราะผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบทั้งสองคนว่ายังไงดี

                ถ้าผมต้องทำแบบคาเอลล่ะก็ แค่คิดผมก็ปวดหัวแล้ว การที่จะหาเพื่อนนี่มันยากจริงๆเลย

                แต่ตอนที่ผมสนิทกับคาเอลมันก็ไม่ได้ยากอย่างนี้เลยสักนิด เพราะงั้นผมต้องยิ่งขอบคุณคาเอลเลย ที่เป็นเพื่อนกับผมได้ง่ายๆอย่างนี้

                จากนั้นพวกผมก็ได้คุยกันหลายๆเรื่องจนกินอาหารหมดจึงคิดที่จะแยกย้ายกันกลับห้องของตัวเอง

                ผมกับคาเอลยืนส่งไอร่าและไคที่ด้านหน้าห้อง

                “ขอบคุณนะครับวันนี้ ผมสองคนสนุกมากเลยครับ”

                “อืม ฉันเองก็ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆเหมือนกัน”

                คาเอลกับไคก็บอกลากันตามปกติ แต่ผมกับไอร่านั้น…

                ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมหาจังหวะคุยด้วยไม่ได้เลย เพราะไอร่าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ทำให้ผมไม่กล้าทัก

                “เจอกันพรุ่งนี้ครับ”

                “เออ เจอกัน…เธอด้วยไอร่าไปได้แล้ว”

                ไคเดินออกไปแล้วแต่ไอร่าก็ยังคงยืนคิดอยู่หน้าห้องเหมือนเดิมและพอถูกไคทักก็พูดสักที

                “นายพูดมากจริงๆ… มากิ อาบน้ำด้วยกันกับชั้นไหม”

                พอไอร่าพูดออกมา พวกผมที่อยู่ตรงนั้นต่างก็นิ่งกันหมด นี่ผมหูฝาดหรือเปล่านะ

                “เอ๊ะ อะไรนะคะ ขออีกที”

                “ถะ..โถ่ ชั้นจะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะ เราอาบน้ำด้วยกันไหม”

                อาบน้ำ…กับไอร่า…เด็กผู้หญิง…เอาไงดี ผมไม่ได้คิดมากขนาดนั้นหรอก แต่ก็นะ

                ผมมองคาเอลเพื่อขอความช่วยเหลือ และสิ่งที่ได้ก็คือคาเอลส่งยิ้มมาเป็นกำลังใจให้ผม

                ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากหรอกนะ แค่อยากรู้ว่าคาเอลจะคิดยังไง แต่แบบนี้ก็คงโอเคล่ะนะ

                “ได้ค่ะไอร่า ถ้าอย่างนั้นเราใช้ห้องน้ำของห้องไอร่านะคะ ชั้นขอไปเตรียมชุดเปลี่ยนก่อน”

                “อืม เอาสิ ส่วนนาย ไค อยู่ไปอยู่ห้องมากิด้วยกันกับคาเอลซะนะ”

                “เฮ้ย เดี๋ยว ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้กันล่ะเนี่ย”

                “ทำใจเลยครับไค เพื่อความรวดเร็ว จะอาบน้ำที่ห้องผมก็ได้นะครับ”

                “อืม ยุ่งยากชะมัด แต่เอาแบบนั้นก็ได้”

                

 

 

 

 

 

                “สะ..สวัสดีค่า”

                ผมเดินเข้าห้องไอร่าด้วยท่าเก้ๆกัง จะว่าไงดี ถ้าบอกว่านี่ห้องของเด็กผู้หญิงนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือนี่ห้องของเพื่อนคนอื่นของผมที่ไม่ใช่คาเอลเลยนะ เป็นครั้งแรกเลย

                “อืม เจ้าของห้องก็ยืนอยู่ข้างๆ สวัสดีใครอยู่ล่ะนั่น”

                “ก็ทักทายเจ้าของห้องอย่างไอร่ายังไงล่ะคะ”

                “ว่าไป”

                ผมขำแห้งกับมุกที่ผมเล่นไปเมื่อกี้ ก็รู้ทั้งรู้ว่าผมประหม่าอยู่เลยสวัสดี ยังถามอีก

                “ห้องนี้ก็ตกแต่งสวยดีนี่คะ ไอร่าเป็นคนจัดใช่ไหมคะ”

                ห้องของผมมันจัดเป็นส่วนๆดูง่ายสบายตาดี เพราะของห้องผมถ้าออกจากห้องนอนที่มีประตูแล้ว ที่เหลือเปิดโล่งแต่เป็นโซนชัดเจน แต่ห้องของไอร่ามีแบ่งเอาไว้เหมือนเป็นม่านฉากกั้นวางเอาไว้เป็นส่วนๆที่ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและก็ยังดูดีนั่นเอง

                “อืม พวกชั้นไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเหมือนเธอกับคาเอล จะจัดแบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ”

                ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ อ๊ะ แล้วเวลานอนล่ะ

                “แล้วเวลานอน นอนกันยังไงเหรอคะ”

                “เพราะหมอนั่นขนฟูกมาด้วยก็เลยจัดห้องแบบนี้แล้วก็แยกกันนอนน่ะ แล้วพวกเธอล่ะ”

                “ก็นอนด้วยกันนั่นแหละค่ะ…จะว่ายังไงดี ชั้นโดนกอดทุกคืนเลยล่ะค่ะ ฮะๆ”

                ตอนคิดก็ว่าเขินแล้ว พอต้องมาเล่าให้เพื่อนฟังแล้วแย่กว่าเดิมอีกแฮะ

                “หะ..หา!? พะ..พวกเธอนอนด้วยกัน แถมยังกอดกันอีกเหรอ!!”

                “ยะ..อย่าพูดเสียงดังสิค๊า!”

                ไอร่ากระแอมหนึ่งทีเพื่อสงบความคิดตัวเอง

                “แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้คาเอลนอนที่อื่นล่ะหรือจะซื้อเตียงเพิ่มก็ได้ เพราะการถูกอีกฝ่ายแตะต้องมากเกินไปมันไม่ดีไม่ใช่หรือไง”

                “อ๋อ…เรื่องนั้นเหรอคะ จะว่าไงดี อย่างที่บอกไปค่ะ ชั้นกับคาเอลเราไม่ค่อยมีเงินกันเท่าไหร่ ถึงจะได้ชื่อว่ามาจากตระกูลใหญ่ของที่นี่ แต่เราแทบไม่ได้รู้จักกับตระกูลของเราเองเลยค่ะเลยไม่ได้เงินมาเยอะเท่าไหร่ แถม…”

                “แถม?”

                “อันที่จริงการโดนกอดมันก็รู้สึกดีนะคะ แฮะๆ”

                เขาว่ากันว่าการกอดถือเป็นการปลอบใจเผื่อให้อีกฝ่ายลดความเครียดลงได้ พอเริ่มเรียนได้สักพักผมก็ค่อนข้างเครียดที่รู้สึกถึงทางตัน เพราะงั้นพอโดนแบบนั้นเข้า ก็ไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไหร่

                “หา!? นั่นมัน! เฮ้อ…ชั้นไม่คุยกับเธอเรื่องนี้แล้ว อาบน้ำกันเถอะ”

                ไอร่าตัดจบเรื่องที่คุยเมื่อกี้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

                

                เอาล่ะปัญหามันเริ่มจากตรงนี้

                ผม ตอนนี้เป็นเด็กผู้หญิง ที่เคยเป็นผู้ชายมาก่อน

                ปัจจุบัน ผมเห็นร่างกายตัวเองมาเจ็ดปีและอาบน้ำกับแม่หรือคุณชิโระบ่อย ทำให้ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด ถึงตอนที่มาโลกนี้แรกๆจะตื่นเต้นเพราะไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนก็เถอะ

                แต่ปัจจุบันผม กำลังจะอาบน้ำกับเพื่อนที่ เป็นเด็กผู้หญิงมาตั้งแต่แรก

                แน่นอนว่าผมนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้แล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกเขินนิดๆแฮะ

                “มัวยืนรออะไรเล่า ถอดเสื้อผ้าได้แล้ว”

                “ค่าๆ”

                บางทีเรื่องที่ผมเคยเป็นผู้ชายอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องตอนนี้แล้วล่ะ มันน่าจะเป็นความอายที่ต้องแก้ผ้าให้เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเห็นต่างหาก แม้คนๆนั้นจะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม

                จะว่าไป ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าไอร่าดูโตช้าไปหน่อย ไม่หรอกเจ็ดขวบก็ไม่น่าจะมีพัฒนาการอะไรอย่างนั้นหรอก

                ช่างเรื่องนั้นเถอะ ถอดชุดดีกว่า

                และพอผมถอดชุดอะไรเรียบร้อยแล้วไอร่าก็จ้องเขม็งมาทางผม จ้องมาที่หน้า…หน้าอกของผม

                อะไรกันล่ะนั่น โดนจ้องแบบนี้มันน่าอายออกนะ

                “เราอายุเท่ากันแท้ๆ…”

                “เอ๋…พูดถึงเรื่องอะไรกันคะ”

                “ชิ”

                ไอร่าทำหน้าไม่พอใจจากนั้นก็ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนจะลงแช่น้ำที่อ่าง

                ผมเองก็ต้องอาบด้วยอย่างนั้นสินะ เอาล่ะ

                “ไอ้ความกระเพื่อมนั่นมันอะไร…เราอายุเท่ากันแน่เหรอ…”

                “เอ๋…”

                ผมเริ่มหวั่นใจอะไรแปลกๆแล้วสิ

                พอผมอาบน้ำล้างตัวเสร็จก็ลงไปนั่งแช่น้ำข้างๆไอร่า

                ผมแช่น้ำไปสักพักก็สัมผัสได้ถึงพลังอาฆาตบางอย่าง…

                “หนอยแน่! น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย! เราอายุเท่ากันแท้ๆแต่เธอกลับมีตั้งขนาดนั้น!”

                ทันใดนั้นไอร่าก็พุ่งตัวเข้ามาจับหน้าอกของผมจากนั้นก็ขย้ำจนทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ

                “ว๊าย! ดะ..เดี๋ยวทำอะไรน่ะคะไอร่า! อื๋อ ~!”

                ไอร่าไม่ฟังอะไรผมทั้งนั้นและยังคงบีบๆขย้ำๆหน้าอกผมต่อไป

                “อืออ…ไอร่าคะ!”

                ผมเอานิ้วจี้ไปที่เอวของไอร่าทำให้ตัวของไอร่านั้นเด้งเลยทีเดียว

                “อ๊าย!”

                “อ๊าย?”

                “หูเธอแว่วไปเองน่า!”

                “ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ”

                “ชิ!”

                ผมกับไอร่าจ้องตาตั้งท่ากันอยู่พักหนึ่งก่อนจะเป็นไอร่าที่พุ่งตัวเข้ามาจับหน้าอกของผม

                “ว๊าย! อะ..ไอร่าคะ! พอได้แล้วค่ะ มันรู้สึกแปลกๆนะคะ!”

                “ไอ้ความนุ่มนิ่มนี่มันอะไรกัน ชั้นจะบีบจนทำให้เธอเหมือนกับชั้นนี่แหละ!”

                “เดี๋ยวอายุมากขึ้นเดี๋ยวมันก็มีเองแหละค่ะไอร่า!”

                ผมใช้นิ้วจี้เอวของไอร่าอีกครั้งจนทำให้ไอร่าตัวเด้งอีกรอบ แล้วอาศัยจังหวะนี้หนีออกมา

                “ชิ! คอยดูนะ ถ้าอีกห้าปีชั้นยังเหมือนเดิมชั้นจะบีบจนมันเหมือนของชั้นแน่”

                น่ากลัวชะมัด

 

                “นึกยังไงถึงชวนอาบน้ำด้วยกันเหรอคะไอร่า”

                “เผ่าของชั้นถือว่า การอาบน้ำด้วยกันคือความสนิทกัน แต่ที่ชวนเธอมาอาบด้วยไม่ใช่เพราะว่า อยากจะสนิทด้วยหรอกนะ ก็แค่อยากรู้วัฒนธรรมของพวกมนุษย์ก็เท่านั้นแหละ”

                “แหม ไอร่าเนี่ยน่ารักจังเลยนะคะ อยากสนิทกันก็บอก”

                ผมเห็นไอร่าซึนอีกแล้วก็เลยแซวเล่น เหมือนจะได้ผลดีมากเลยล่ะ

                “หะ..หา!? ชั้นบอกแล้วไงว่าก็แค่อยากรู้วัฒนธรรมของมนุษย์เท่านั้น!”

                จ้าแม่เด็กซึน ถ้าไม่ซึนหน้าคงไม่แดงอย่างนี้หรอกนะ

                “ขอบคุณที่ชวนมาอาบน้ำด้วยกันนะคะไอร่า ชั้นสนุกมากเลยค่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะเพื่อน”

                “อะ..อื้ม เจอกันพรุ่งนี้นะ เพื่อน…”

                ผมบอกลาไอร่าที่หน้าห้องแล้วกลับห้องตัวเอง

                เท่านี้ก็แปลว่าผมกับไอร่านั้นสนิทกันมากๆแล้วสินะ ดีใจจังเลยแฮะ

                “ให้ตายสิ ผู้หญิงนี่อาบน้ำนานเหมือนๆกันหมดเลยหรือไง เจอกันพรุ่งนี้นะพวก เธอด้วยมากิ”

                “ครับ เจอกันพรุ่งนี้”

                “เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”

                ไคเห็นผมเปิดประตูห้องเข้ามาก็เลยเดินสวนออกไป

                “เป็นไงบ้างครับมากิ”

                “อื้อ สนุกมากเลย ต้องขอบคุณนายนะ”

                “ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ”

                ไม่เป็นไรหรอก รู้แค่ว่าชั้นขอบคุณนายก็พอ

                อ้อ จะว่าไป

                “ตอนนี้ชั้นกับไอร่าเรียกได้ว่าสนิทกันแล้วล่ะ สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือข้าวของเราสำหรับสองวัน เพราะอย่างนั้นพรุ่งนี้เราต้องออกไปซื้อของตุนไว้อีกนะ”

                “อ่าฮะฮะ…ซื้อของสินะครับ อาฮะฮะ…”

                คาเอลหัวเราะแห้งๆ ทำไมล่ะน่ะ

                “เอาน่า นายก็สนิทกับไคมากกว่าเดิมนี่นาคุ้มออก”

                “พวกเราเพิ่งซื้อของไปเองนะครับ ต้องไปซื้ออีกแล้วเหรอเนี่ย”

                “ทำใจรอเลยคาเอล พวกเราต้องซื้อของอย่างนี้ตลอดจนเรียนจบนั่นแหละ”

                “เฮอะๆ”

                แหม แค่ต้องแบกของเยอะนิดหน่อยเองคาเอล ทีตอนไปเล่นกับผมยังพาไปนู่นไปนี่ไม่อิดออดเลย

                แต่ก็เข้าใจแหละ การไปซื้อของมันไม่สนุกนี่นะ

                “เอาเถอะ นั่งอ่านหนังสือเรียนด้วยกันก่อนนอนด้วยกันไหมคาเอล”

                “ได้ครับ แต่ผมขอเป็นวิชามอนส์เตอร์วิทยานะครับ ยังจำสลับระหว่างออร์คกับฮอบกอบลินอยู่เลย”

                “เดี๋ยวชั้นช่วยเอง”

                จากนั้นผมกับคาเอลก็นั่งท่องด้วยกันจนดึกและหลับไปในที่สุด

 

 

—-
พอดีสัปดาห์ที่แล้วปีใหม่ผมลงแค่ตอนใหม่ไปในเด็กดี และสัปดาห์นี้ผมลงตอนใหม่ในเด็กดีเหมือนกันอีก คราวนี้เลยย้ายมาลงวันพฤหัสแทน แต่ตอนต่อๆไป ก็น่าจะลงพุธตามปกติแหละครับ 55555

Comment

Options

not work with dark mode
Reset