ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 2207

บทที่ 2207
ตอนที่ซูจื่อหยูเก็บซ่อนความวู่วามในใจไว้ แล้วตัดสินใจที่จะอยู่ที่จิ่นหลิง ส่วนเชี่ยวเวยเวยก็ยังยุ่งอยู่ที่บริษัทโมเตลลั่งซ่างเหม่ย
เวลานั้น ก๊ตกเย็นแล้ว แล้วในตอนบ่ายวันนี้ เซียวเวยเวยก้ได้รับช่วงดูแลบริษัทโมเดลลิ่งซ่างเหม่ยอย่างเต้มเป็นทางการแล้ว
เพื่อไม่ให้เย่เฉินผิดหวัง เธอจึงใช้เวลาทั้งบ่าย มาตรวจดูรายการบัญชีทั้งหมดของบริษัทโมเดลลั่งซ่างเหม่ยอย่างละเอียด
เธอร่างรายชื่อพิธีกรหญิงที่โดนบริษัทโมดลสิ่งซ่างเหม่ยหลอกออกมา จากนั้นก็ทำการประเมินความผิดพลาดจากงานต่างๆ ที่พวกเธอ
เคยเข้าร่วม จากนั้นก็คิดคำนวณตัวเลขค่าชดเชยออกมา
จากนั้น เธอก็ตัดต่อพิธีกรหญิงทุกคนที่เคยร่วมงาน แล้วก็ที่เคยทำงานด้วยกัน ให้พวกเธอกลับมาประชุมในบริษัท แล้วยังให้คนช่วยตาม
หาพิธีกรหญิงที่ลาอก แล้วโดนประธานคนก่อนอย่างหลิวจงฮุยบังคับไปเป็นเด็กนั่งตรั้งค์ในคาราโอเกะกลับมาด้วย
จนกระทั่งถึงเวลามื้อค่า ทั้งบริษัทบริษัทโมเดลสิ่งซ่างเหมย ก็โดนฟิธิกรหญิงเหล่านั้นล้อมเต็มไปหมด
ณ ปัจจุบัน พิธีกรหญิงที่ทำงานในมริษัทโมเดลลั่งซ่างเหม่ยก็เกินร้อยกว่าคนแล้ว
บวกกับก่อนหน้านั้นที่หนไป โดนซื้อตัวไป โดนบังคับไปที่คาราโอเกะ พอมาที่บริษัทพร้อมกัน บวกรวมกันแล้วก็เกือบสามร้อยคน
พิธีกรหญิงเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุสิบเปดถึงยี่สิบห้า ไม่ค่อยมีเกินกว่ายี่สิบห้เลย ไม่กล้าพูดว่าสวยทุกคน แต่ส่วนมากหน้าตา
ก็จะดูดี
แล้วอิกอย่าง ส่วนสูงของพิธีกรหญิงเหล่านี้ อย่างน้อยก็สูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนขึ้นไป แล้วหุ่นกัสมส่วน แถมก้บอาชีพอื่นๆ คุณสมบัติ
ด้านภาพลักษณ์ภายนอกค่อนข้างสำคัญ
สาวสวยกว่าสามร้อยคน พอรวมตัวกันก็เหมือนนกกว่าสามร้อยตัว เอาแต่คุยหารือกันจ้อกแจ๊กๆ ไม่หยุด
พวกเธอรู้ข่าวว่บริษัทโมเดลสิ่งซ่างเหม่ยเปลี่ยนประธานแล้ว ให้พวกเขามาสรุปยอดบัญทั้งหมด แต่พวกเธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี บริษัท
ขอหลิวจงฮุยทำกำไรได้มากมายขนาดนั้น ทำไมอยู่ๆ จึงเปลี่ยนมือล่ะ
แล้วอิกอย่าง พวกเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่บริษัทเรียกพวกเธอกลับสรุปยอต จะสรุปยอดยังไงกันแน่
โดยเฉพาะคนที่ไปจากบริษัทไปส์กระยะแล้ว ในใจก็ยิ่งประหลาดใจ พวกเธอไม่กล้าคาดหวังว่า บริษัทจะคืนเงินทั้งหมดที่ติดค้างพวกเธอ
เห็นว่ามีคนมามากมายขนาดนี้ ในใจเซียวเวยเวยก็เริ่มเกร็ง
เธอไม่เคยบริหารบริษัท ตอนนั้นอยู่ในเซียวซื่อ ยังไงก็เคยเข้าสังคมมาไม่น้อย ต้องเก่งกว่าผู้หญิงเหล่านี้อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น เธอจึงตั้งสติ แล้วพูดใส่ไมโครโฟนว่า “ทุกคนใจเย็นก่อนนะคะ ตอนนี้เราจะเริ่มประชุมกันแล้วค่ะ”
ทุกคนจึงเงียบสงบลง แล้วเอาแต่จ้องมองเซียวเวยเวย รอฟังเธอพูดต่อ
เซียวเวยเวยไปเสียงเบา แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ก่อนอื่นขอแจ้งทุกคนก่อนว่า ตอนนั้นหุ้นทั้งหมดของบริษัทโมเดลลิ่งซ่างเหม่ย อยู่ภาย
ใต้ชื่อของดิฉันแล้ว ในมือดิฉัน เป็นอกสารสำเนาการโอนกรรมสิทธิ์จากรมพาณิซย์ ทุกคนช่วยแจกลงไป แล้วทุกคนก็สามารถไปตร่วจเซ๊กการ
จดทะเบียนของบริษัทโมเดลลั่งในว็บกรมพาณิชย์ได้ ดูว่าหุ้นส่วนบนนั้นเปลี่ยนจากหลิวจงฮุยเป็นเซียวเวยเวยหรือยัง”
ผู้หญิงที่นั่งอยู่แถวหน้าของห้องประชุม รีบหยิบเอกสารสำเนาขึ้นมาอ่าน แล้วมีคนไม่น้อยหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วไปตรวจเซ็กข้อมูลที่
กรมพาณิชย์
พอดูแล้ว ทุกคนจึงเข้าใจทันที ที่แท้เซียวเวยเวยเป็นประธานของบริษัทโมเดลลิ่งซ่างเหม่ย!
คนที่ไม่รู้จักเซียวเวยวย ที่แรกก็แปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้คือใครกันแน่ ทำไมถึงมาเป็นเจ้าของคนใหม่ของบริษัทโมเดลสิ่งซ่างเหม่ย
แต่ผู้หญิงที่เคยทำงานกับเซียวเวยเวยกลับยิ่งสงสัยมากกว่า
พวกเธอไม่เข้าใจ ทำไมคนโลภอย่างหลิวจงฮุย จึงยอมโอนบริษัทให้เชียวเวยเวย