ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 2679

“ไม่มีครับ” ตู้ไห่เฟิงกล่าวอย่างจริงจัง “ผมได้ใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดแล้ว ยังหานักสืบเอกชนไปสืบหาเบาะแส และคนที่ให้ข้อมูลของคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะแห่งชาติ แต่ก็ไม่พบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับพวกเธอสองแม่ลูกเลย”
ตู้เจิ้นหัวรีบถามว่า “เป็นไปได้ไหมว่าพวกนักสืบและคนที่ให้ข้อมูลจะค้นหาเบาะแสไม่ละเอียดพอ”
ตู้ไห่เฟิงยิ้มอย่างช่วยจำใจและกล่าวว่า “พ่อ ในกระบวนการค้นหาเบาะแส พวกเขาได้ใช้สายลับต่างประเทศเจ็ดแปดคนแล้ว การค้นหาครั้งนี้เข้มข้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่พวกเขาก็ยังไม่พบเบาะแสที่มีค่าใด ๆ”
ตู้เจิ้นหัวถอนหายใจ “เฮ้อ! แปลกประหลาดจริง ๆ! ตอนเกิดอุบัติเหตุใหญ่รถชนกันในอุโมงค์ พวกเธอสองคนสามารถหายตัวไปจากโลกโดยไม่ทิ้งร่องรอยอันมีค่าใด ๆ ได้หรือ? เรื่องนี้เหลือเชื่อมาก”
ตู้ไห่ผิงรีบกล่าวว่า “พ่อ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากจริง ๆ ยิ่งหลักฐานที่จะพิสูจน์เรื่องนี้อาจมีการพลิกกลับ มิฉะนั้น อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่ผลกระทบของอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนนั้น ถ้าไม่มีเรื่องที่เหลือเชื่อเกิดขึ้น เกรงว่าไห่ชิงและจือหยูสองแม่ลูกคงจะตายไปแล้ว”
ตู้เจิ้นหัวพยักหน้าและกล่าวว่า “คำพูดนี้สมเหตุสมผลเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่สามารถหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องได้ พ่อกังวลมากจริง ๆ”
ตู้ไห่เฟิงกล่าวว่า “พ่อ ผมได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้แล้ว พรุ่งนี้ตอนเที่ยงก็สามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์ได้ชั่วคราว และใช้ระบบจดจำใบหน้า เปิดกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตรรอบเมืองจินหลิง เพื่อเทียบลักษณะใบหน้าของไห่ชิงและจือหยู เพื่อดูว่าจะสามารถหาเบาะแสได้บ้างหรือไม่?”
เมื่อตู้เจิ้นหัวได้ยินประโยคนี้ ก็โกรธทันที “มีวิธีที่ดีเช่นนี้ ทำไมลูกไม่ใช้มันตั้งแต่เนิ่น ๆ? ตอนนี้ระบบการจดจำใบหน้าล้ำหน้าเป็นอย่างมาก ขอแค่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของไห่ชิงและจือหยูไว้ได้ ก็จะสามารถพาพวกเธอจนเจอได้แน่นอน”
ตู้ไห่เฟิงกล่าวอย่างจำใจ “พ่อ ปกติซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์มีภารกิจมากมาย ตั้งแต่การวิเคราะห์ภาพบนคลาวด์สำหรับการพยากรณ์อากาศ ไปจนถึงการคำนวณวงโคจรสำหรับการสำรวจดาวอังคาร เกือบทั้งหมดต้องอาศัยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องของพวกเขา ทำงานเต็มกำลังร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้ว่าผมจะมีอำนาจบ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำให้งานใหญ่ของประเทศล่าช้า”
เมื่อตู้เจิ้นหัวฟังถึงตรงนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วย “ภารกิจของประเทศชาตินั้นมีความสำคัญมาก พวกเราอย่าใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”
ตู้ไห่เฟิงรีบกล่าวว่า “พ่อไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้ตอนเที่ยงพวกเขาสามารถเจียดเวลาของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ออกมาได้หนึ่งเครื่อง จะมีช่วงเวลาว่างประมาณ 6 ชั่วโมง ดังนั้นผมจึงประสานงานกับพวกเขาเพื่อใช้เวลาว่าง 6 ชั่วโมงนี้มาคำนวณกล้องวงจรปิดรอบเมืองจินหลิงทั้งหมด แต่ปริมาณข้อมูลนั้นมีมาก แต่พลังการประมวลผลของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน ผมถามผู้เชี่ยวชาญที่นั่นและคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการเรียกข้อมูลทั้งหมด และจะไม่ทำให้งานของพวกเขาล่าช้า”
ตู้เจิ้นหัวถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว…..เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว…..”
หลังจากนั้น เขาก็มองตู้ไห่หยางลูกชายคนที่สอง และกล่าวว่า “ไห่หยาง หลังจากเหตุการณ์นี้ ลูกบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับสถาบันวิทยาศาสตร์ ถือเสียว่าเป็นการจ่ายเงินให้กับสถาบันวิทยาศาสตร์”
ตู้ไห่หยางกล่าวโดยไม่ลังเลว่า “พ่อวางใจเถอะ ถ้าพวกเขาสามารถหาไห่ชิงและจือหยูผ่านการคำนวณของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ ผมจะบริจาคหนึ่งร้อยล้าน ถ้าหาไม่เจอผมก็จะบริจาคห้าสิบล้าน!”
ขณะที่ความหวังทั้งหมดของตระกูลตู้อยู่ที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
รถโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน กำลังแล่นด้วยความเร็วอยู่ที่ชานเมืองจินหลิง และไม่ช้าก็หยุดอยู่ที่ปากซอยของถนนที่แทบไม่มีคนในเขตชานเมือง
หลังจากนั้น เฉินจื๋อข่ายยื่นโทรศัพท์มือถือให้ตู้ไห่ชิงและกล่าวว่า “คุณผู้หญิงตู้ ตอนนี้คุณสามารถโทรหาคนในครอบครัวของคุณได้แล้ว”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้า รับโทรศัพท์มือถือและกดหมายเลขหนึ่งโดยไม่ลังเล
หมายเลขโทรศัพท์นี้เป็นโทรศัพท์มือถือของคุณท่านตู้ ตู้เจิ้นหัว
ตู้เจิ้นหัวกำลังประชุมอยู่กับลูกหลาน ไม่คิดว่าทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของตนเองจะดังขึ้น และเมื่อเขาเห็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เขาก็โกรธเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงกดรับทันที และถามด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ว่า “นั่นใคร? มีเรื่องอะไร?”
ที่ปลายสายด้านหนึ่ง ตู้ไห่ชิงกล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “พ่อ…..ฉันเอง…..ฉันไห่ชิง….. ”