ซูรั่วหลีไม่มีความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับการจัดการของเย่เฉิน
สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือการที่เย่เฉินส่งเธอไปให้ทำงานกับเฉินจื๋อข่าย หรือหงห้า หรือเป็นพี่สาวของตัวเอง
ในเมื่อเย่เฉินยอมให้ตนอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงต่อไป งั้นตนเองก็จะน้อมรับอย่างยินดี
ถึงอย่างไรขอแค่ไม่ถูกส่งไปยังสถานที่อื่น ได้พบเจอเขาบ่อยๆ เธอก็พอใจแล้ว
เย่เฉินพูดกับซูรั่วหลีว่า“จริงสิรั่วหลี ก่อนหน้านี้ไม่ให้คุณติดต่อกับโลกภายนอกมาตลอด กระทั่งไม่ให้คุณติดต่อกับช่องทางข่าวสารภายนอก ด้านหนึ่งก็เพื่อระวังความปลอดภัย อีกด้านก็เพราะตัวตนของคุณในตอนนี้ค่อนข้างพิเศษ ถ้าเกิดข่าวรั่วไหลออกไปจะทำให้นำมาซึ่งความยุ่งยากได้ง่าย”
พูดจบ เย่เฉินก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาอีกว่า“แต่ตอนนี้ดูท่า คุณไม่เหมือนกับตอนที่พึ่งเกิดเรื่องใหม่ๆที่อารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย อีกทั้งคุณได้พบกับแม่ของคุณแล้ว ผมเชื่อว่าตอนนี้อารมณ์ของคุณต้องมันคงแล้วแน่นอน”
ซูรั่วหลีรีบกล่าวว่า“คุณชายเย่คะ ตอนนี้ฉันแตกต่างจากเมื่อก่อนจริงๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในทุกด้าน อีกทั้งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างดีใจ“เรื่องนี้ผมเชื่อครับ เพราะผมเองก็ดูออก”
พูดจบ เขาก็ล้วงมือถือออกมาหนึ่งเครื่อง แล้วยื่นส่งให้ซูรั่วหลี“ก่อนหน้านี้ผมให้เหล่าเฉินไปซื้อมือถือเครื่องนี้มาใหม่ ตอนแรกตั้งใจจะให้พี่สาวของคุณเอาไปด้วย แต่ด้านเหล่าเฉินให้เก็บมือถือตอนที่เธอเกิดเรื่อง ดังนั้นผมคิดว่าเอามือถือของเธอให้เธอไป มือถือเครื่องนี้ผมจึงคิดว่าเห็นไว้ให้คุณใช้ดีกว่า”
ซูรั่วหลีไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือมานานแล้ว กระทั่งไม่ได้รู้เรื่องภายนอกจากอินเทอร์เน็ตมานานแล้ว ดังนั้นในตอนที่เธอเห็นมือถือเครื่องนี้ จึงเห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขเป็นอย่างมาก
คนหนุ่มสาวที่คุ้มชินกับการใช้มือถือสมาร์ทโฟนกับอินเทอร์เน็ต อย่าว่าแค่ไม่ได้ใช้มือถือหนึ่งวันเลย ขอแค่ภายใต้ความมีสติ ไม่ใช้มือถือเกินกว่าสองถึงสามชั่วโมง เกรงว่าจะต้องร้อนใจจนแทบทนไม่ไหวอย่างแน่นอน
จุดนี้ ซูรั่วหลีก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
เธอพักอยู่ในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงเท่ากับอยู่ในสภาพโดนกักบริเวณ อีกทั้งไม่ได้รับช่องทางข่าวสาร ดังนั้นในใจของเธอ จึงมีความปรารถนามือถือสักเครื่องมานานแล้ว
แต่เรื่องแบบนี้ แน่นอนว่าเธอไม่กล้าเอ่ยปากพูดกับเย่เฉิน เพราะฉะนั้นจึงทำได้เพียงแค่ฝืนทนกับความปรารถนาอันแรงกล้า
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเย่เฉินให้มือถือเครื่องใหม่กับเธอด้วยตัวเอง ในใจของเธอไม่รู้ว่าดีใจมากแค่ไหน
เย่เฉินเห็นเธอรับมือถือไป ด้วยท่าทางดีใจมาก จึงหัวเราะพลางพูดขึ้นมาว่า“ในนี้เปิดใช้งานแล้วครับ อีกทั้งมีซิมโทรศัพท์อันหนึ่ง ค่าโทรศัพท์ใช้ได้ไม่จำกัด คุณสามารถใช้มันติดต่อผม หรือแม่ของคุณ หรือเหล่าเฉินก็ได้ คนอื่นๆพยายามอย่าติดต่อนะครับ”
“อีกอย่างคุณมีมือถือเครื่องนี้แล้ว คุณสามารถรู้เรื่องภายนอกที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้ารู้สึกเบื่อจริงๆ คุณก็สามารถใช้มันดูข่าวสาร ดูซีรีส์ มันคงจะดูไม่น่าเบื่อขนาดนั้น”
ซูรั่วหลีกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำ“คุณชายเย่คะ ขอบคุณมากจริงๆนะคะ ช่วงนี้ถึงฉันจะฝันก็เอาแต่ฝันเห็นถึงว่าได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ฉันร้อนใจจนแทบบ้าแล้วค่ะ……”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วกล่าวว่า“ก่อนหน้านี้ยังคงมีความไม่เชื่อใจคุณอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่กล้าให้คุณมีวิธีติดต่อกับโลกภายนอก จุดนี้คุณจะเป็นต้องเข้าใจนะครับ”
ซูรั่วหลีรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า“คุณชายเย่วางใจเถอะค่ะ เรื่องนี้ฉันเข้าใจดี!”
“งั้นก็ดีครับ”เย่เฉินยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า“อีกอย่างผมมีข่าวดีจะบอกคุณครับ”
ซูรั่วหลีรีบเอ่ยถาม“ข่าวดีอะไรคะ?”
เย่เฉินอธิบายว่า“แม่ของคุณบอกว่า ครั้งนี้คนในตระกูลเหอของพวกคุณรวมถึงเธอด้วย มาทั้งหมดสิบเอ็ดคน ในสิบเอ็ดคนนี้ มีแค่แม่ของคุณที่เป็นผู้หญิง ดังนั้นผมจะใช้เหตุผลที่ว่าด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวจึงไม่ค่อยสะดวก จะไม่ให้เธอไปอยู่ที่คฤหาสน์ริมแม่น้ำ ผมจะให้เธอมาอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดขึ้นมาอีกว่า“เพื่อให้เจาะจงมากขึ้น ผมจะให้เธอพักห้องเดียวกับคุณ”
“จริงหรอคะ!?”ซูรั่วหลีที่ได้ยินประโยคนี้ ถึงกับดีใจเป็นอย่างมาก!