ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 84 ทำโปรเจ็กต์พังยุ่งเหยิง

“โม่เจียเฉิน”รับเอกสารจากมือของเธอมา พูดอย่างเฉยชา:”เธอเรียนวิชาเอกอะไรมา เธอไม่รู้หรอ?”

“……..”

มู่นวลนวลนึกขึ้นได้ ตอนเธอแต่งเข้าบ้านตระกูลโม่ใหม่ๆ พวกเขาก็ให้คนไปสืบประวัติของเธอมาหมดแล้ว ก็ต้องรู้ว่าเธอเรียนอะไรมา และเธอก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจเลย

“โม่เจียเฉิน”ตรวจดูเอกสารที่อยู่ในมือหนึ่งรอบ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้ววางเอกสารไว้ข้างๆ

มู่นวลนวลถามอย่างสงสัย:”ทำไหมหรอ?”

“มู่เจียเฉิน”มองเธอแล้วพูดว่า:”เอกสารนี้มีค่าอะไรให้ดู ตระกูลมู่ไม่สามารถคุยโปรเจ็กต์นี้สำเร็จได้หรอก”

ในขณะเดียวกันอาหารก็เริ่มมาถึงโต๊ะแล้ว โม่ถิงเซียวหยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าวทันที

มู่นวลนวลหยิบเอกสารขึ้นมาตรวจสอบดูอย่างน่าสงสัย เธอมองไม่ออกจริงๆว่ามีตรงไหนไม่ดี

แต่ว่า ในเมื่อเธอขอให้”โม่เจียเฉิน”ช่วย ก็ต้องเชื่อใจเขา และก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายอีก

…………

ตอนเย็น มู่นวลนวลพาคนกลุ่มหนึ่งไปคุยเรื่องโปรเจ็กต์

บริษัทที่เข้าไปคุยเรื่องโครงการคือบริษัทเถิ่งเซินอยู่ในเมืองเวี้ยงไฮ้ก็ถือว่าเป็นบริษัทใหญ่ระดับกลาง มีแนวโน้มที่ดีกว่าตระกูลมู่

พอไปถึงห้องประชุม ก็รอไปอีกสักพักใหญ่ๆ หัวหน้าโปรเจ็กต์ถึงมา

หัวหน้าโปรเจ็กต์เป็นหญิงวัยกลางคน อายุใกล้สี่สิบปี เธอเก็บทรงผมได้เรียบร้อยมาก ดูเป็นหญิงแกร่งมาก

มู่หวันฉีลุกขึ้นยืนทักทายเธอด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง:”ผู้จัดการเค่อ เจอกันอีกแล้วนะ”

ผู้จัดการเค่อเหลือบมองเธอ แล้วก็นั่งลงบนที่นั่งทันที ราวกับว่าไม่ได้ยินน้ำเสียงที่หยิ่งผยองของมู่หวันฉี น้ำเสียงอย่างเป็นทางการ:”ฉันพูดชัดเจนพอแล้วในครั้งที่แล้ว ตระกูลหมู่อยากจะมาร่วมงานกับเรา ก็ต้องแสดงให้เห็นความจริงใจ”

มู่หวันฉีหันหน้าไปมองมู่นวลนวล:”คุณก็รู้ว่าประธานของตระกูลมู่เป็นพ่อของฉัน ครั้งนี้เขาเป็นคนให้สองพี่น้องอย่างเรามาคุยงาน นี่ยังไม่จริงใจพอหรอ?”

ผู้จัดการเค่อเหลือบมองไปที่หมู่นวลนวล สีหน้าของเธอยิ่งแย่ลงไปอีก เธอเกลียดมากที่สุดก็คือคนที่ไร้ประโยชน์ ไม่มีความสามารถ แถมยังใช้เส้นสายอีก เธอดูถูกมู่หวันฉีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ละตอนนี้เพิ่มหมู่นวลนวลมาอีกคน เธอยิ่งดูถูกเข้าไปใหญ่

“ ขอโทษนะฉันจะมีประชุมตอนบ่ายสามโมง ขออภัยค่ะ” ผู้จัดการเค่อเดินตรงออกไปที่ประตู

ในที่สุดหมู่นวลนวลก็เข้าใจแล้วว่าทำไหม”โม่เจียเฉิน”ถึงบอกว่าทำไหมโปรเจ็กต์นี้ตระกูลถึงคุยไม่สำเร็จ

แค่มองก็รู้แล้วว่า ผู้จัดการเค่อเป็นหญิงแกร่ง เห็นได้ชัดเลยว่าเธอดูถูกหมู่หวั่นฉี และมู่หวันฉียังทำตัวหยิ่งเผยออีก ยังลากเธอเข้าไปทำให้ผู้จัดการเค่อเกลียดไปด้วยเลย

มู่หวันฉีพูดกับผู้จัดการเค่อที่หันหลังอยู่:”ถึงน้องสาวของฉันจะเป็นเด็กใหม่ แต่เธอขยันมากเลยนะ ผู้จัดการเค่อไม่ลองเอาไปคิดดูหน่อยหรอคะ?”

ผู้จัดการเค่อยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

มู่นวลนวลขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงแผนการที่มู่หวันฉีพาเธอมาเพราะอะไร

ดูจากอายุของผู้จัดการเค่อแล้ว เธอน่าจะเป็นพนักงานเก่าในบริษัท เมื่อมีประสบการณ์มามาก ก็ต้องมีอำนาจมากพอที่จะดูคนออกเช่นกัน แต่ตระกูลมู่กลับส่งมู่หวันฉีที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานก็พอ แถมตอนนี้ยังเพิ่มหมู่นวลนวลมาอีกหนึ่ง…….

แบบนี้สำหรับผู้จัดการเค่อ มันถือว่าเป็นการดูถูกผู้จัดการเค่อ และยังไม่มีความจริงใจ ความเอาใจใส่ต่อโปรเจ็กต์อีกด้วย

เมื่อผู้จัดการเค่อออกไปแล้ว มู่หวันฉีก็หันหน้ามาอย่างเย็นชาและตำหนิหมู่นวลนวล: “พ่อให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์นี้มากตอนนี้เธอทำมันพังแล้ว ดูสิว่าเธอจะกลับไปบอกกับพ่ออย่างไร!”

มู่นวลนวล: “???”

ตั้งแต่ที่ผู้จัดการเค่อ เดินเข้ามาจนจากไป เธอไม่ได้พูดอะไรเลยทำไหมข้อหาการทำโปรเจ็กต์นี้พัง ต้องมาโทษเธอ ให้เธอมาแบกรับด้วย?

มู่นวลนวลหันไปมองอีกสองคนที่มากับเธอ พวกเธอรู้สึกถึงการสายตาจ้องมองของมู่นวลนวล

ทั้งสองจึงหันหน้าไปมองที่อื่นมันเห็นได้ชัดว่าพวกเขากับมู่หวันฉีคือทีมเดียวกัน

“ มัว งง อะไรอยู่ล่ะ ยังคิดว่าผู้จัดการเค่อจะกลับมาหรอ?” มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองมู่นวลนวลอย่างดูถูกแล้วเดินออกไปก่อนเลย

มู่นวลนวลเดินตามมาข้างหลัง แล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ

เธอรู้สึกว่ามู่หวันฉีนี่เป็นคนที่โง่เขลาจริงๆ เธอยอมทำโปรเจ็กต์ที่มีความสำคัญต่อตระกูลมู่อย่างมาก เพื่อที่จะเหยียบเธอให้อยู่ใต้อำนาจ

มู่หวันฉีโดนเอาใจจนนิสัยเสียละจริงๆ เธอมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างลูกคุณหนู งั้นก็เพราะตระกูลมู่ แต่เธอกับเอาโครงงานโปรเจ็กต์ของบริษัท มาทำเป็นเรื่องเล่นๆตลกขำๆ

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลมู่จะล้มละลายในไม่ช้า

……

เมื่อกลับมาถึงตระกูลมู่ มู่หวันฉีก็เรียกหมู่นวลนวลไปที่ห้องทำงานของมู่ลี่หยานพร้อมกัน

เมื่อมู่ลี่หยานกลับมาจากการประชุม ก็เห็นว่าทั้งคู่รอเขาอยู่ จึงถามว่า “วันนี้พวกหนูสองคนไปคุยเรื่องโปรเจ็กต์มา เป็นอย่างไรบ้าง?”

มู่หวันฉีกัดริมฝีปาก ตาแดงเล็กน้อย: “พ่อ ขอโทษฉันไม่ควรตามใจนวลนวล ปล่อยเธอไปคุยโปรเจ็กต์กับเถิ่งเซิงเลย…. ”

เธอยังพูดไม่จบ ก็ถูกมู่ลี่หยานขัดจังหวะด้วยความโกรธ: “เถิ่งเซิง? ใครให้หนูไปคุยงานกับเถิ่งเซิง?”

ลูกสาวของเขาเองเขารู้ว่าเธอมีความสามารถมากน้อยแค่ไหนเขาให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์ของเถิ่งเซิงอย่างมาก รู้ว่าหมู่หวั่นฉีไม่สามารถคุยได้ ก็พร้อมที่จะเริ่มวางแผนกับโปรเจ็กต์นี้ระยะยาว รอให้หาคนที่เหมาะสมที่สุดที่สามารถไปคุยได้

“ เป็นนวลนวลเอง ที่บอกว่าอยากจะพิสูจน์ตัวเอง และคุยงานเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ หนูก็เลยใจอ่อนตอบตกลงที่จะพาเธอไปคุยเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ของเถิ่งเซิง ……”

คำพูดของมู่หวันฉีเต็มไปด้วยช่องโหว่ จับผิดได้ง่ายมาก แต่เพราะมู่ลี่หยานรักเธอลำเอียงเธอมาก ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามู่หวันฉีโกหก เขาก็เลือกที่จะใส่อารมณ์ให้หมู่นวลนวลแทน

“มู่นวลนวล! พ่อยอมให้หนูย้ายไปที่แผนกโครงการ เพื่อให้หนูได้ไปเรียนรู้ ไม่ใช่ให้หนูไปทำให้หวันฉีล้าถอดถอยไปด้วย และทำให้โครงการโปรเจ็กต์ของ บริษัทพังยุ่งเหยิง!”

สีหน้าของมู่ลี่หยานเต็มไปด้วยความโกรธและเย็นชา ราวกับว่าเขาอยากที่จะลุกขึ้นมาตบหน้าของมู่นวลนนวล

หมู่นวลนวลมองพ่อและลูกสาวของเขาที่เหมือนกับจบเอกการแสดงมา ด้วยสายตาเย็นชาและหัวเราะเยาะ: “ฉันเนี้ยนะที่จะมาทำให้มู่หวันฉีถอดถอยไปด้วย? เธอเองก็ทำอะไรไม่ได้ทำอะไรก็ไม่ดี! พวกคุณน่ะถามใจตัวเองเถอะ ตั้งแต่เธอเข้าร่วมตระกูลหมู่มา เคยคุยสำเร็จแล้วกี่โปรเจ็กต์กี่โครงการ และทำพังไปแล้วกี่โปรเจ็กต์ กี่โครงการ?”

“ มู่นวลนวล แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน! ทุกปีมีโครงการมากมายที่คุยสำเร็จให้กับบริษัท สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทีมงานของฉันใช้น้ำพักน้ำแรงของพวกเขาทำสำเร็จมาได้!”

มู่หวั่นฉีส่ายหัวพร้อมกับทำหน้าเจ็บปวด: “ฉันทำมุกอย่างเพื่อบริษัท แต่เธอทำเพื่อเอาแต่ใจตัวเองเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง ทำให้โปรเจ็กต์ใหญ่ๆสำคัญแบบนี้ ต้องมาพังยุ่งเหยิง และตอนนี้เธอยังจะมาโทษฉันอีก มันใช่หรอ!”

เอาจริง………พูดอย่างกับมันเป็นความจริงซะงั้น

“ เพื่อบริษัทจริงหรือไม่ เธอรู้อยู่ในใจ” ในแววตาและรอยยิ้มของหมู่นวลนวลมันยิ้มไม่ถึงที่สุด

หมู่หวั่นฉีถูกเธอจ้องมองแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที

“ แน่นอนที่ฉันทุ่มเททำเพื่อบริษัท คือความจริง !” มู่หวันฉีพูดด้วยน้ำเสียงที่สูงเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกผิดของเธอเอาไว้

มู่ลี่หยานเห็นว่าทั้งสองคนเถียงกันไม่มีใครยอมใคร จึงตะโกนว่า “พอแล้ว! หนูทั้งสองคนกลับไปเดี๋ยวนี้เลย!”

มู่หวันฉียังไม่ยอมออกไป จุดประสงค์ที่เธอทำในวันนี้ ก็คืออยากไล่มู่นวลนวลออกจากแผนกโครงการ

“ พ่อ นวลนวลไม่เหมาะกับแผนกโครงการจริง ๆ ! ย้ายเธอกลับไปที่แผนกการตลาดเถอะ!”

สิ่งที่มู่นวลนวลพูดก่อนหน้านี้ ทำให้มู่ลี่หยานเก็บไปคิดจริง ๆ ตั้งเเต่มู่หวันฉีรับฝ่ายโครงการไป งานก็แย่ลงทุกปี

เขารำคาญเต็มทนแล้ว: “ออกไป!”

“พ่อ!”มู่หวันฉีเรียกเขา ถึงจะไม่พอใจยังไง ก็ทำได้แค่หันหลังแล้วเดินออกไป

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset