พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 182 อันดับ 2

เดิมนางแบบผิวสีก็สะดุดตากว่าคนอื่นอยู่แล้ว พอตอนนี้นางแบบสวมชุดราตรียาวราวกับเทพธิดานางฟ้ามันจึงยิ่งทำให้คนไม่อาจละสายตาไปได้ ทั้งห้องเริ่มส่งเสียงประหลาดใจดังขึ้นมาเป็นระยะๆ
ช่องความคิดเห็นในรายการถ่ายทอดสดหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็มีคำชมมากมายเกี่ยวกับความสวยงามของชุดนี้ส่งเข้ามายึดพื้นที่ไว้ทั้งหมด
พิชญามองนางแบบผิวสีที่เดินอยู่บนพรมแดงพลางยิ้มออกมาบางๆอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หล่อนจับพนักวางแขนของรถเข็นไว้ แต่เนื่องจากกำไว้แน่นเกินมือก็เลยสั่นระริก“ปะ……เป็นไปไม่ได้!”
ไม่นึกเลยว่าวารุณีจะออกแบบชุดราตรีที่สวยสง่าได้ภายในเวลาอันสั้นขนาดนี้ แถมยังใช้ผ้าวัสดุแบบธรรมดาด้วย ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนเป็นใช้ผ้าระดับสูงล่ะก็ ชุดราตรีชุดนี้จะสวยขนาดไหนกันเชียว!
นี่สินะพรสวรรค์ของวารุณี ถ้าเกิดว่าให้โอกาสวารุณีได้เติบโตอยู่ในวงการ ตำแหน่งดีไซเนอร์ระดับโลกจะต้องตกเป็นของวารุณีแน่ๆ
ในที่สุดพิชญาก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่างของตัวเองกับวารุณี เกรงว่าแม้จะตายแล้วเกิดใหม่อีกทีมันก็ไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้แล้ว 
ตอนนั้นหล่อนคิดว่าตายแล้วเกิดใหม่เท่านั้นถึงจะได้มีความสามารถเหมือนวารุณี แต่มาดูวันนี้ หล่อนคิดผิดอย่างมหันต์เลยล่ะ!
พิชญาจ้องไปที่นางแบบผิวสีที่กำลังเดินเฉิดฉายอยู่บนพรมแดงด้วยตาแดงก่ำ เธอกำมือแน่น
พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ให้ชีวิตที่ดิบดีกับวารุณีมาตั้งแต่เด็ก แล้วทำไมถึงยังให้พรสวรรค์ที่น่ากลัวขนาดนี้กับวารุณีอีกด้วย!
เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงริษยาจากตัวของพิชญา วารุณีก็ขมวดคิ้วขึ้น“มีอะไรเป็นไปไม่ได้หรอพิชญา ตอนที่เลือกชนิดของผ้าน่ะ เธอบอกว่านางแบบของฉันไม่สามารถนำเสนอความรู้สึกอบอุ่นนุ่มนวลในฤดูใบไม้ผลิได้หรอก แล้วดูตอนนี้สิ รู้สึกเจ็บๆที่หน้าบ้างไหม?”
พิชญาหันขวับไปจ้องวารุณีเขม็ง
แน่นอนว่าหล่อนรู้สึกหน้าแตกมาก หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งหล่อนจะได้เห็นว่าเสื้อผ้าเป็นตัวขับเคลื่อนนางแบบ
ไม่ผิดแน่ แม้หล่อนจะออกแบบไม่เป็น แต่หล่อนก็ยังรู้จักความสวยงาม นางแบบผิวสีที่เดินอยู่บนพรมแดงไม่ได้เปลี่ยนตัวเองเลย ทว่าเสื้อผ้าบนตัวต่างหากที่เปลี่ยนให้นางแบบดูอ่อนโยน
“ผู้จัดการพิชญาทำไมถึงเงียบไปล่ะ?”เมื่อวารุณีเห็นพิชญาเงียบไปนานก็เลยยิ้มส่งไปให้อย่างไม่เป็นมิตร
พิชญากัดฟันกรอดแล้วแค่นเสียงหึออกมา“อย่าได้ใจไปหน่อยเลย ฉันยอมรับว่าเมื่อกี้ฉันมั่นใจมากไปหน่อย แต่แล้วยังไง รอบคัดเลือกผลงานที่โดดเด่นที่สุดในรอบนี้ยังไงฉันก็ชนะอยู่เหมือนเดิม”
“จริงหรอ”วารุณีหรี่ตาลง“ถ้างั้นฉันจะคอยดู”
เมื่อเห็นพิชญาสีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ แสดงว่าดีไซเนอร์ที่พิชญาไปลอกเลียนแบบมาจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากแน่ๆ
เธอจะต้องตั้งตาดูให้ดีว่าพิชญาไปลอกผลงานใครมา
ขณะที่กำลังคิด นางแบบผิวสีก็เดินลงจากเวทีไปแล้ว เมื่อเพลงเปลี่ยนไปนางแบบคนสุดท้ายก็เดินออกมา
“ว้าว”ผู้ชมต่างส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวออกมา
นางแบบคนนี้เหมือนกันนางแบบของวารุณีเลย ตัวนางแบบสามารถดึงดูดสายตาและความสนใจของทุกคนไว้ได้ตั้งแต่ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวที ความคิดเห็นจากผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาทางรายการถ่ายทอดสดอีกครั้ง ทุกคนต่างก็ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของชุดราตรีชุดนี้
ชุดราตรีชุดนี้ถูกออกแบบเป็นกระโปรงหางปลายาว ทั้งชุดเป็นสีเขียวซีด มันไม่เพียงแต่ดูเหมือนนางฟ้า มันดูหรูหรามาก
แต่น่าเสียดายที่ตรงขาด้านหลังมีเนื้อผ้ารั้งไว้ ถ้าเปลี่ยนให้สูงขึ้นอีกหน่อยแล้วหาผ้าที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ความสวยงามและความหรูหรามันก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายระดับ แล้วชุดราตรีนี้ก็จะไม่ได้มีเพียงแค่มูลค่าทางด้านการค้า มันสามารถนำไปเก็บสะสมไว้เพื่อเพิ่มมูลค่าได้ด้วย
เมื่อได้ยินคำชมมากมายจากผู้ชม ความหยิ่งทะนงในตัวเองของพิชญาก็พุ่งทะลุขึ้นไปถึงขีดสุดอย่างรวดเร็ว
หล่อนเชิดหน้าขึ้นอย่างมีชัยแล้วหันไปมองวารุณี เพราะอยากจะเห็นสีหน้าของวารุณีว่ารู้สึกอะไรบ้างรึเปล่า
ทว่ากลับไม่เห็นว่าวารุณีจะรู้สึกอะไร เธอเห็นก็แต่ความประหลาดใจและหล่อนที่กำลังจมอยู่ในความคิดเท่านั้น
พิชญาใจหายวาบขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ถึงลางไม่ดี จากนั้นก็พูดพึมพำกับตัวเองออกมา“หรือว่าหล่อนจะเห็นอะไรเข้าให้แล้ว?”
ไม่ เป็นไปไม่ได้ ชุดราตรีนี้ถูกออกแบบมาเมื่อศตวรรษที่แล้ว ซึ่งศตวรรษที่แล้วคอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นที่นิยมนัก ดังนั้นจึงหาภาพที่เกี่ยวข้องไม่เจอหรอก
จะมีก็คงมีแต่ในพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ในต่างประเทศเท่านั้นแหละถึงจะมีภาพนางแบบที่สวมชุดราตรีแบบนี้ ดังนั้นวารุณีคงไม่เคยเห็นแน่
พอคิดแบบนี้พิชญาก็ไม่กังวลอีกต่อไป หล่อนทำใจให้สงบแล้วยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ“วารุณี เป็นยังไงล่ะ ชุดราตรีที่ฉันออกแบบมันดีกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลยสินะ?”
“ดีกว่าที่ฉันคิดจริงๆ”วารุณีพยักหน้ายอมรับ
แต่ที่เธอยอมรับนั้นไม่ใช่พิชญาแต่เป็นDaphne
เธอไม่คิดเลยว่าพิชญาจะกล้าถึงขนาดนี้ กล้าที่จะลอกเลียนแบบDaphne แถมยังมีหน้ามาพูดอย่างไร้ยางอายว่าตัวเองเป็นคนออกแบบอีก
พิชญาไม่ได้รับรู้ถึงความโกรธภายในใจของวารุณี เพราะแค่ได้ยินว่าเธอยอมรับว่ามันดีกว่าของตัวเองในใจของหล่อนก็มีความสุขมาก หล่อนรู้สึกว่านี่นับเป็นการชนะวารุณีหนึ่งครั้ง
พอวารุณีเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของพิชญา เธอก็เม้มปากแน่น
นางแบบทั้งสิบหกคนต่างก็ได้เดินโชว์ครบหมดแล้ว ทั้งหมดเดินออกมาจากด้านหลังเวทีแล้วยืนเรียงเป็นแถวเดียวกัน คณะกรรมการเริ่มให้คะแนน ผู้ชมที่ดูแบบถ่ายทอดสดก็สามารถโหวตให้ดีไซเนอร์ที่ตัวเองชอบได้ด้วยเหมือนกัน ผู้ที่ได้แปดอันดับแรกจะได้ผ่านเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศโดยทันที
วารุณีผ่านเข้ารอบอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่ากลับได้ที่สอง ที่หนึ่งเป็นของพิชญา คะแนนของหล่อนนำไปสองพันกว่าโหวต
ขณะที่เลขาฯ ภูมิกำลังประกาศ พิชญาก็หันมามองวารุณีแล้วเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง“ดูสิ ฉันบอกแล้วว่ารอบตัดสินจากผลงานที่โดนเด่นที่สุดในรอบนี้ยังไงฉันก็ชนะ”
“ถ้างั้นเธอก็รักษาเอาไว้ให้ดีๆแล้วกัน”วารุณียิ้มแล้วพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ รอยยิ้มที่ส่งออกมาก็ไร้ซึ่งความอบอุ่น
พิชญารับรู้ได้ทันที แต่หล่อนก็ไม่คิดอะไรมาก หล่อนคิดว่าเธอคงเห็นตัวเองได้ที่หนึ่งก็เลยรู้สึกโกรธอยู่ในใจ แต่ก็ต้องรักษารอยยิ้มบนหน้าไว้ เพราะงั้นถึงได้ยิ้มออกมาแบบนี้
ทันใดนั้นเองเลขาฯ ภูมิก็เดินออกมา“คุณพิชญา คุณวารุณี”
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าเลขาฯ ภูมิ?”พิชญารีบแย่งพูดก่อนที่วารุณีจะเอ่ยปากขึ้น
วารุณีมองดูหล่อนที่ตั้งใจจะยกระดับของตัวเองและทำตัวเป็นผู้นำเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น เธอไม่โกรธ เธอยังคงรอยยิ้มบางๆไว้บนหน้าเหมือนเดิม
ทว่าได้จำพิชญาเอาไว้ในใจแล้ว
“คือว่าการออกแบบของทั้งสองท่านได้รับความชื่นชอบจากท่านประธานของทางพวกเรามาก ดังนั้นก็เลยอยากจะขอซื้อแบบไป ท่านทั้งสองมีความเห็นว่ายังไงบ้าง?”เลขาฯ ภูมิมองไปที่ทั้งสองเพื่อรอให้ทั้งสองเอ่ยพูดอะไรออกมา
“ได้สิคะ”วารุณีตาเป็นประกายออกมาพลางรีบตอบกลับ
ตอนนี้เธอกำลังเงินขาดมือแถมยังต้องจ่ายหนี้ด้วย ซึ่งเธอกำลังต้องการจะขายแบบอยู่พอดี
พอตอนนี้มีคนมาซื้อถึงที่แล้วเธอจะไม่ขายได้ยังไง
พิชญาก็เงินขาดมือเหมือนกัน ทว่าทันทีที่กำลังจะเอ่ยตอบ วารุณีกลับแย่งพูดออกไปก่อน หลังจากที่จ้องวารุณีอย่างไม่พอใจอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ยิ้มออกมาใหม่“ของฉันก็ได้เหมือนกันค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบางๆบนหน้าของวารุณีก็ค่อยๆหายไป เธอทำหน้าขรึมลงเล็กน้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ไม่เพียงแต่ลอกเลียนการออกแบบของอาจารย์ย่า แถมยังกล้าเอามาขายหากำไรด้วยงั้นหรอ เธอจะต้องทำลายพิชญาให้อับอายเสียชื่อเสียงและขับไล่หล่อนออกจากวงการแฟชั่นและการออกแบบไปให้ได้
แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เธอได้ยินมาว่ารอบชิงชนะเลิศจะมีผู้มีอำนาจมากมายมาร่วมงาน ทางสมาคมสำนักงานใหญ่ก็จะส่งผู้บริหารระดับสูงมาด้วย ซึ่งเวลานั้นแหละที่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเปิดโปงความลับของพิชญา ถึงตอนนั้นแม้จะมีคนอยากปกป้องพิชญา แต่พวกผู้มีอำนาจกับพวกผู้บริหารระดับสูงคงไม่ยอมหรอก
“ดีเลย ถ้างั้นพวกเราไปที่ห้องท่านประธานเพื่อคุยเรื่องราคากันเถอะ”พอเลขาฯ ภูมิเห็นว่าทั้งสองตอบตกลงที่จะขายก็รู้สึกดีใจมาก
วารุณีตอบอืมออกมาแล้วเดินตามหลังเขาไปที่ห้องทำงานพร้อมกับพิชญา
กว่าจะตกลงราคากันเสร็จเวลาก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว วารุณีถือสัญญาสามล้านเดินออกมาจากห้องทำงานของประธานวรวี แล้วเดินออกจากสมาคมไปทันที
ส่วนพิชญา เนื่องจากยังตกลงราคากันไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าราคาที่ทางสมาคมเสนอให้ห้าล้านมันน้อยเกินไป ตอนนี้พวกเขายังคงเถียงกันอยู่ในห้องประชุม
“วารุณี แกนี่สุดยอดไปเลย ชุดราตรีลายดอกไม้อันสวยสง่านั้นสวยมากจริงๆ แต่เสียดายที่ตอนนี้ทางสตูดิโอของเราไม่มีกำลังทรัพย์มากพอก็เลยทำได้เพียงเท่านี้ ไม่งั้นฉันคงทำโชว์ให้แกไปแล้ว”วารุณีพาอารัณมาที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ถูกปาจรีย์โผเข้ากอดด้วยความดีใจ
วารุณีถูกกอดจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว เธอรู้สึกอึดอัดจึงต้องดันหล่อนออก“ฉันได้แค่ที่สองเอง ดีใจขนาดนั้นเลยหรอ?
 

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset