พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 230 ฉลอง

วารุณีก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ยังจุ่มน้ำ ก็ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายจึงยื่นมือไป
ยังไงมือข้างเดียวก็ติดยาก ให้คนอื่นทำแทนดีกว่า
เห็นวารุณีเชื่อฟังแบบนี้ สายตานัทธีก็ดูซอฟต์ลง หลังจากปิดก๊อกน้ำ ก็หยิบผ้าขนหนูบนชั้นด้านข้าง มาเช็ดมือของเธอให้แห้ง แกะแผ่นเย็นแล้วแปะไปที่มือของเธออย่างเบามือ“เสร็จแล้ว”
“ขอบคุณค่ะประธานนัทธี”วารุณีลูบแผ่นเย็นบนมือแล้วพูดขอบคุณ
นัทธีเอากระดาษห่อทิ้งลงถังขยะ“ออกไปเถอะ”
“อือ”วารุณีพยักหน้า ตามหลังเขาออกไป
มารุตกำลังทำความสะอาดโต๊ะทำงานของนัทธี เห็นทั้งสองออกมา ก็รีบหยุดแล้วขอโทษ“ขอโทษจริงๆครับคุณวารุณี ผมผิดเอง ที่เทชาที่ร้อนมาก จนทำลวกมือคุณได้”
วารุณีส่ายมือ“ไม่เกี่ยวกับผู้ช่วยมารุตเลยค่ะ ฉันมือลื่นเอง ที่ควรพูดขอโทษเป็นฉันต่างหากค่ะ”
“เอาเถอะ”นัทธีเดินไปหลังโต๊ะทำงาน ตัดบททั้งสองที่กำลังขอโทษกันและกัน“เรื่องครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ ครั้งหน้าก็ระวังหน่อย คุณลงไปก่อนเถอะ ปริ้นเอกสารพวกนั้นมาอีกฉบับ”
“ครับ”มารุตพยักหน้า หยิบเอกสารที่เปียกพวกนั้นขึ้นมาแล้วออกไป
ในห้องทำงานเหลือแค่นัทธีกับวารุณีสองคน
วารุณีหยิบข้อมูลก่อนหน้านี้ขึ้นมาดู หลังจากดูเสร็จ ก็เอาข้อมูลไปไว้ตรงหน้านัทธี ชี้ไปอันหนึ่งพูดว่า:“ประธานนัทธี วัสดุนี้ไม่เลว ใช้แบบจำลองนี้ ทำอะไรก็ได้หมด ถึงแม้สู้วัสดุที่ฉันกำกับไว้ทีแรกไม่ได้ แต่ก็ไม่ต่างกันมาก”
นัทธีก้มหน้าลงดู จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย“โอเค งั้นก็อันนี้ละกัน เดี๋ยวผมติดต่อกับทางบริษัทเกม ส่วนเงินงวดสุดท้ายพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงจะโอนให้คุณ”
“ค่ะ”วารุณีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
นัทธีเก็บข้อมูลเข้ามา
วารุณีเหลือบมองเวลาที่มุมขวาล่างคอมพิวเตอร์ของเขา ลุกขึ้นบอกลา“ประธานนัทธี เย็นมากแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ ควรไปรับลูกที่โรงเรียนอนุบาลแล้ว”
“ไปด้วยกันเถอะ”นัทธีปิดลิ้นชักเสร็จ มองเธอแล้วพูด
วารุณีตะลึงเล็กน้อย“ประธานนัทธีคุณยังไม่ถึงเวลาเลิกงานนี่?”
หลายวันนี้ ตอนเช้าเขาก็ไปส่งเด็กสองคนไปโรงเรียน
แต่ตอนเย็น จะเป็นเธอที่ไปรับ
นัทธีหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา“ผมจะกลับอพาร์ทเม้นท์ไปเอาเอกสารสำคัญ ทำวีซ่าไปต่างประเทศพรุ่งนี้ ไปทางเดียวกับคุณได้เลย”
“ไปต่างประเทศ?”วารุณีอ้าปากออกมาอย่างตกใจ
นัทธีสวมชุดคลุมแล้วยืนขึ้นมา“ช่วงนี้บริษัทเครื่องประดับในเครือขาดแร่ดิบมรกต ผมเตรียมจะไปดูแหล่งกำเนิด”
“ที่แท้ก็แบบนี้เอง”วารุณีพยักหน้า สื่อว่าเข้าใจแล้ว
นัทธีก้าวเท้าออกไปที่ประตูห้องทำงาน เดินไปพูดไปว่า:“ดังนั้นสองวันจากนี้ ผมไม่สามารถส่งเด็กสองคนไปโรงเรียนได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปส่งเองได้ อีกอย่างหลายวันนี้ก็เป็นประธานนัทธีที่ส่งพวกเขา เด็กพวกนั้นที่โรงเรียนอนุบาลเห็นคุณหมดแล้ว น่าจะไม่มีใครบอกว่าพวกเขาไม่มีพ่อแล้วแหละค่ะ”วารุณีตามอยู่หลังเขา พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
นัทธีกลับหยุดฝีเท้าลงกะทันหัน“ข้อเสนอของผมครั้งที่แล้ว คุณคิดอย่างไรบ้าง?”
“ข้อเสนออะไรคะ?”วารุณีคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะหยุดลง เกือบจะหยุดขาไม่ทันชนเข้ากับเขา
นัทธีหันกลับ“เรื่องที่หาพ่อให้เด็กสองคน!”
วารุณีดูชะงักเล็กน้อย จากนั้นละสายตาลง ปกปิดการตำหนิตัวเองในดวงตา“ช่วงนี้ยุ่งมาก จะมีเวลาคิดเรื่องพวกนี้ที่ไหนกันคะ ผ่านช่วงนี้ไปก่อนค่อยว่ากันดีกว่าค่ะ”
เขาคาดหวัง จะให้เธอรีบหาผู้ชายไปแต่งงานมากขนาดนี้เลยเหรอ?
นัทธีไม่รู้ความคิดในใจวารุณี ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็ไม่ถามอีก เปิดประตูห้องทำงานแล้วออกไป
ตอนหัวค่ำ ปาจรีย์โทรมาเร่ง“วารุณี เธอออกมายัง?”
วารุณีกำลังยืนเลือกชุดหน้าตู้เสื้อผ้า ได้ยินคำพูดของเธอ จึงรีบตอบไปว่า:“ยัง ฉันกำลังเปลี่ยนชุด”
“โอเค งั้นเธอเร็วหน่อย ฉันกับพงศกรถึงแล้วนะ”ปาจรีย์เปิดเมนูเครื่องดื่มแล้วพูด
วารุณีคิดว่าตัวเองฟังผิด จึงกะพริบตา“คุณพูดอะไรน่ะ พงศกรก็ไปเหรอ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ?”ปาจรีย์มองไปที่พงศกรที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะบาร์
วารุณีหยิบเดรสสีแดงตัวหนึ่งโยนไปที่เตียง ขมวดคิ้วขึ้นมา“จะทำไมได้อีกล่ะ พงศกรเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เธอจะให้เขาไปดื่มเหล้า?”
ปาจรีย์หัวเราะ“นี่วารุณี เธอเข้าใจผิดแล้ว แน่นอนว่าฉันไม่ให้เขาดื่มเหล้า ฉันไม่ได้โง่ วางใจเถอะ แค่ให้เขาดื่มน้ำผลไม้ ยังไงเรื่องฉลอง ถ้ามีคนเยอะๆก็ครึกครื้นจะตาย”
พอได้ยินอย่างนั้น วารุณีจึงโล่งอก“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เธอก็วางสาย ถอดชุดนอนที่ตัวเปลี่ยนเป็นเดรส จากนั้นแต่งหน้าอ่อนๆออกไปจากห้อง
“อารัณ ไอริณ”วารุณีตะโกนไปที่ห้องนอนเด็ก
เด็กสองคนจูงมือกันเปิดประตูออกมา“ทำไมเหรอหม่ามี๊?”
วารุณีจัดกระเป๋าไป กำชับไปด้วยว่า “หม่ามี๊จะออกไปกินข้าวกับพ่อบุญธรรมแม่บุญธรรมนะ ลูกสองคนอยู่บ้านดีๆอย่าออกไปไหน ถึงเวลาก็เข้านอนเข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้ว”เด็กทั้งสองคนพยักหน้า
วารุณีเข้าไป หลังจากจูบที่หน้าของพวกเขาแต่ละคน ก็เปลี่ยนรองเท้าออกไป
มาถึงผับ
วารุณีมาถึงโต๊ะบาร์ที่ปาจรีย์จองไว้ ภายใต้การนำมาของพนักงานเสิร์ฟ
ปาจรีย์เห็นเธอ ก็โบกมือไปที่เธอ“วารุณี เธอมาสักที รอเธอตั้งนาน”
“ขอโทษๆ ระหว่างทางรถติดน่ะ”วารุณีเอากระเป๋าวาง พนมมือขอโทษ
“ลงโทษตัวเองด้วยแก้วหนึ่งเลย!”ปาจรีย์ยื่นให้เธอแก้วหนึ่ง
วารุณีหัวเราะ กำลังจะไปรับ ก็ถูกพงศกรห้ามไว้“มือคุณเป็นไร?”
พงศกรมองมือวารุณีที่ติดเจลประคบเย็น ใบหน้าที่อบอุ่น ก็เต็มไปด้วยความจริงจัง
ปาจรีย์จงเห็นความผิดปกติที่มือวารุณี ก็หุบยิ้มแล้วถามไปว่า“ใช่วารุณี มือเธอเป็นอะไรน่ะ?”
วารุณียักไหล่ ตอบกลับอย่างไม่สนใจ:“ไม่เป็นไร ถูกชาแดงลวกน่ะ”
“ผมดูซิ”พงศกรดึงมือของเธอมาดู พอแน่ใจว่าเธอพูดจริงจึงปล่อยออก น้ำเสียงดูทำอะไรไม่ถูก“ทำไมไม่ระวังอย่างนี้ล่ะ”
วารุณีหัวเราะอย่างรู้สึกผิด
“โอเคๆ ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว ดื่มเหล้าดีกว่า วันนี้เป็นวันดี มา พวกเรามาชนที่พิชญาเข้าคุกสักแก้วดีกว่า!”ปาจรีย์ชูแก้วเหล้าขึ้นมายืนอยู่ที่เดิม
วารุณีกับพงศกรก็ลุกขึ้นตาม ถือแก้วของตัวเองชนกับเธอ
ดื่มเหล้ากับน้ำผลไม้เสร็จ ทั้งสามคนก็นั่งลงไปที่เดิม อีกครั้ง
ปาจรีย์หยิบขวดเหล้าขึ้นมา เทให้ตัวเองกับวารุณีจนเต็ม
ส่วนพงศกร เขาไม่ดื่มเหล้า เลยไม่เทให้เขา
เขานั่งอยู่ตรงที่นั่ง มองวารุณีกับปาจรีย์สองคนกินแก้วติดๆกัน ในดวงตาหลังเลนส์มีประกายซ่อนเร้นที่ทำให้คนดูไม่ออก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากปาจรีย์สะอึกเหล้า ก็ล้มลงไปที่โซฟา หมดสติไป
วารุณีเห็นแบบนี้ ก็รีบวางแก้วเหล้าไปดูอาการของเธอ“ปาจรีย์”
“วางใจเถอะ เธอไม่เป็นไร แค่เมาเท่านั้น”พงศกรเขย่าน้ำผลไม้ในแก้วแล้วพูด
วารุณีพลิกตัวปาจรีย์ พบว่าเป็นแบบนี้ หัวใจที่กระเพื่อมขึ้นมาก็คืนกลับที่เดิม“พงศกร ในเมื่อปาจรีย์เมาแล้ว งั้นวันนี้พวกเราก็พอเท่านี้ดีกว่า กลับกันเถอะ”
พงศกรเงยหน้าดื่มน้ำผลไม้หมดแล้วยืนขึ้น“ไม่รีบร้อน”
“ทำไมเหรอ?”วารุณีเงยมองเขาอย่างสงสัย
ไม่รู้ว่าเขาถอดแว่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เผยให้เห็นดวงตาจิ้งจอกที่ลึกซึ้งไม่สิ้นสุดคู่นั้น
วารุณีมองดวงตาคู่นั้นของเขา ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆก็รู้สึกว่าสายตาค่อยๆดูพร่ามัว แม้แต่หัวก็มึนเล็กน้อย
เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเมาหน่อยๆ หลับตาลงแล้วถูขมับ อยากให้ตัวเองพอมีสติขึ้นมาหน่อย
อย่างไรก็ตามตอนที่เธอลืมตามาอีกครั้ง ก็เห็นพงศกรไม่อยู่แล้ว คนที่ยืนตรงหน้า ดันเป็นนัทธี
“ประธานนัทธี คุณอยู่ที่นี่ได้ไง?”วารุณีตาเบิกโต ถามอย่างตกใจ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset