พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 442 การแข่งขันเริ่มแล้ว

การประกวดเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
พิธีกรขึ้นเวที แล้วประกาศหัวข้อการประกวด ง่ายมาก ก็คือการออกแบบกระโปรงหนึ่งตัวให้ที่เหมาะสมกับนางแบบตัวเอง
ประเภทของกระโปรงเป็นอะไร พิธีกรไม่ได้พูด ให้เหล่าดีไซเนอร์เป็นคนกำหนดเอง แต่ต้องทำให้ความสง่างามของนางแบบและรูปร่างสัดส่วนที่สวยงามออกมา
และก็หมายความว่า การออกแบบครั้งนี้ต้องไม่เหมือนปกติ แค่ให้นางแบบเป็นไม้แขวนเสื้อเท่านั้น ไม่ว่าเสื้อผ้าจะเหมาะกับนางแบบหรือไม่ แต่คือต้องเห็นนางแบบเป็นแขก ออกแบบเสื้อผ้าให้นางแบบ
ความสง่างามของเชอรีน วารุณีรู้เป็นอย่างดี ก็คือคนโง่ที่ใจร้อนคนหนึ่ง
ทางด้านรูปร่างสัดส่วน เชอรีนคือนางแบบ คงไม่มีอะไรให้พูดถึง
ดังนั้นจะออกแบบกระโปรงให้เชอรีน ต้องใช้เวลาในการออกแบบนาน
พอนึกถึงแบบนี้ วารุณีก็ยิ้มให้เชอรีนหนึ่งที จากนั้นก้มหน้าวาดรูปขึ้น
โสรยาที่อยู่ด้านหลังเห็นเธอใช้ขยับปากกาเร็วขนาดนี้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในใจก็รู้สึกว่าจะเกิดวิกฤต
จากนั้น เธอจึงเคาะตุ้มหูเบาๆ
ไม่นาน ในตุ้มหูกลับมีเสียงส่งมา เป็นเสียงแหบพร่าและย่ำแย่ของผู้หญิง
เสียงนั้นเบามาก มีแค่โสรยาที่ได้ยิน “เดี๋ยวก่อน ฉันจะวาดให้เธอดูเดี๋ยวนี้”
โสรยาได้ยินคำพูดนี้ คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลายออก ความรู้สึกที่จะเกิดวิกฤตภายในใจหายไปทันที ตอนมองวารุณี นัยน์ตาเหลือเพียงความท้าทาย
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง วารุณีดีไซน์ภาพวาดเสร็จแล้ว เป็นชุดกระโปรงสายเดี่ยวที่ด้านสั้นหลังปล่อยลากยาว
กระโปรงชุดนี้สามารถเผยให้เห็นความเป็นผู้หญิงของเชอรีน แล้วยังสามารถทำให้เห็นถึงด้านนิสัยน่ารักๆ ของเธอ
สำหรับด้านรูปร่างสัดส่วน เชอรีนมีขาที่ยาว แค่ได้กระโปรงที่ลากยาวนี้ ก็จะยิ่งทำให้ขาของเธอเรียวยาวขึ้น
หลังจากนั้น ก็ได้ตัดชุดกระโปรงออกมาง่ายๆ
เพราะว่าจำกัดทางด้านเวลา กระโปรงไม่สามารถทำเป็นเสื้อผ้าพร้อมใช้ได้ เพียงเย็บเข้าด้วยกันจนเกือบจะเหมือนกับภาพวาดการออกแบบและนางแบบสามารถสวมใส่ได้ จากนั้นค่อยเข้าสู่การเดินแบบ แล้วคณะกรรมการประกาศผลประกวด
วารุณีลุกขึ้น แล้วเดินไปตรงโซนผ้า เตรียมตัวเลือกผ้ามาตัดชุดกระโปรง
เวลานี้โสรยาก็มาพอดี ยืนอยู่ข้างๆ วารุณี แล้วเลือกผ้าไปด้วยพลางพูดเชิงตีสนิท “คุณวารุณี คุณมีความมั่นใจว่าจะแยกมากลุ่มเอไหม?”
กลุ่มเอที่ว่า แน่นอนว่าต้องเป็นผลงานที่ดีที่สุดอยู่แล้ว เป็นกลุ่มที่มีพรสวรรค์มากที่สุด
ดีไซเนอร์หลายสิบคนที่อยู่ในงาน ก็ต้องอยากเข้ากลุ่มเออยู่แล้ว แต่อยากก็ส่วนอยาก เข้าหรือเข้าไม่ได้ก็อีกเรื่อง
ยังไงสามารถเข้าร่วมนานาชาติ ก็แสดงว่าความสามารถของทุกคนนั้นไม่ต่ำต้อย ดังนั้นสุดท้ายจะเข้ากลุ่มเอได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเท่าไหร่
วารุณีหันไปเล็กน้อย แล้วยิ้มให้โสรยาหนึ่งที “เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้ ดูกรรมการเถอะ”
โสรยาทำแววตาเป็นประกาย “ฉันกลับรู้สึกว่าคุณวารุณีสามารถผ่านการคัดเลือกได้ เพราะว่าพรสวรรค์ด้านการดีไซน์ของคุณ ฉันไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยมากนัก”
“ที่ไหนกัน ฉันแค่มีพรสวรรค์หน่อยเดียวเท่านั้น ยังไม่ได้เก่งเหมือนที่คุณโสรยาพูดหรอก” วารุณีรู้สึกได้ถึงแววตาอาฆาต แล้วยิ้มพูดขึ้น
โสรยาเห็นว่าเธอไม่ติดกับดัก แววตาเย็นชาขึ้นมาทันที สีหน้ากลับคงรอยยิ้ม “คุณโสรยาถ่อมตนเกินไปแล้ว”
“ฉันไม่ใช่ถ่อมตน ฉันพูดความจริง มีคุณวู ทางนี้ก็ไม่มีผ้าที่ฉันจะเอา ฉันไปดูทางฝั่งหน่อย”
พูดจบ วารุณีเดินไปอีกฝั่ง
เชอรีนมาถึงข้างเธอ “วารุณี เมื่อกี้ฉันได้ยินหมดแล้ว ผู้หญิงที่อันตรายอย่างโสรยาจงใจชมพรสวรรค์ของเธอต่อหน้าผดีไซเนอร์มากมาย แล้วยังบอกว่าเธอสามารถเข้ากลุ่มเอได้ ไม่ใช่ว่าอยากจะสร้างศัตรูให้เธอหรือไง?”
ยังไงดีไซเนอร์ที่อยากเข้ากลุ่มเอนั้นมีมากขนาดนั้น โสรยาบอกว่าวารุณีสามารถเข้าได้ รายชื่อของกลุ่มเอกก็น้อยไปหนึ่งคนแล้ว
ดีไซเนอร์เหล่านี้ไม่เห็นวารุณีเป็นศัตรูแหละน่าแปลก ไม่แน่วันข้างหน้ายังจะลอบกัดวารุณีแน่ะ
วารุณีมองเชอรีนเคร่งเครียด จึงยิ้มๆ “เอาเถอะ ฉันยังไม่เครียดเลย เธอก็อย่าเครียดไปเลย เพราะว่าฉันรู้เป้าหมายของเธอ ดังนั้นฉันถึงไม่ติดกับดักไง”
“แต่ฉันรู้สึกไม่พอใจ เธอไม่ได้ทำผิดกับเธอสักหน่อย ทำไมเธอถึงต้องคอยเอาเรื่องเธอขนาดนี้ด้วย”
เชอรีนถามขึ้น
วารุณีส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้ น่าจะเพราะว่าความแค้นระหว่างผู้เข้าร่วมประกวด ยังไงระหว่างพวกเราที่เป็นดีไซเนอร์ล้วนเป็นศัตรูซึ่งกันและกัน สายตานั้นของหล่อนที่มองด้านในของเธอดูโหดเหี้ยมขนาดไหน เหมือนอยากจะกินแกมาก ตอนนี้พอนึกถึงก็รู้สึกเย็นเสียวหลังมาก”
“จริงเหรอ?” วารุณีเลิกคิ้ว
เชอรีนพยักหน้าแรงๆ “จริง ฉันต้องยอมไม่ผิดแน่นอน คนที่ไม่รู้ ยังนึกว่าเธอฆ่าพ่อแม่หล่อนสักอีก ไม่งั้นทำไมถึงมองเธอแบบนั้น”
วารุณีเม้มปากแดง แล้วไม่พูดไม่จา
เธอเพิ่งจะรู้ โสรยากลับรู้สึกเกลียดชังเธอมากขนาดนี้
นี่มันเพราะว่าอะไรกันแน่?
กำลังครุ่นคิด จู่ๆ เชอรีนก็ยื่นผ้ามาตรงหน้าเธอ “วารุณี นี่เป็นที่เธอต้องการไหม ฉันเห็นว่าป้ายด้านบนเขียนแพรต่วนไว้ เป็นเหมือนที่เธอบันทึกไว้โน๊ตในมือของเธอ”
ความรู้สึกถูกขัดจังหวะ วารุณีเห็นเนื้อผ้าสีขาวตรงหน้าที่กำลังเป็นประกายแสงตรงหน้า จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ขอบคุณค่ะเชอรีน”
“เอาเถอะ” เชอรีผายมือ
วารุณีไปราวด้านข้างเพื่อเลือกผ้าที่เหลือ จากนั้นกลับคอนโซล เริ่มตัดผ้าเพื่อตัดเป็นกระโปรง
ทันใดนั้นในห้องขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเสียงเย็บตัดและเสียงฉีกผ้า บรรยากาศคึกคักอย่างมาก
วารุณีตั้งแต่ตัดกระโปรง เธอเลือกใช้เวลาตัดมิติที่ง่ายที่สุด ไม่นานก็ค่อยๆ ออกทรงร่างของกระโปรงหนึ่งตัว
หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง ชุดกระโปรงเสร็จไปแล้ว
และดีไซเนอร์คนอื่นๆ ทยอยกันเสร็จผลงานไปตัวเอง มีแค่ดีไซเนอร์กลุ่มเล็กที่ยังคงตัดต่ออยู่
“เอ๊ะ?” วารุณีกวาดสายตามองไปหนึ่งรอบ สังเกตเห็นว่าหนึ่งในกลุ่มเล็กๆ นี้กลับมีโสรยาด้วย
โสรยาเลือกตัดมิติเหมือนกันกำลังถือเข็มและด้ายเย็บรอบๆ กระโปรง เสริมที่นี่สักหน่อย ซ่อมที่นั่นตรงหน่อย ดูจากท่าทางแล้วค่อนข้างลนลาน หน้าผากเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
เธอเป็นแบบนี้ ภายในใจของวารุณีก็ยิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น
เป็นแบบนี้ได้ยังไง ดีไซเนอร์ที่ถือว่ามีชื่อเสียงคนหนึ่ง ทำไมถึงได้มีทักษะการตัดเย็บที่แย่ได้ถึงขนาดนี้?
ทักษะนี้ และการดีไซน์ของเธอ ช่างแตกต่างกันฟ้ากับเหว
วารุณีมองออก ชุดกระโปรงที่โสรยาดีไซน์นั้นสวยมากๆ ไม่ค่อยแตกต่างจากของตัวเองเลย แต่การเย็บนั้นแย่เกินไป
หรือว่าโสรยาแค่ดีไซน์ออกมาบนกระดาษ ไม่ค่อยได้เรียนรู้เรื่องการตัดเย็บเหรอ?
ถ้าเป็นแบบนี้จริง งั้นวันข้างหน้าลูกค้าที่สั่งตัดเสื้อผ้าเป็นพิเศษ แล้วเธอจะทำยังไง หรือว่าเธอแค่รับผิดชอบดีไซน์ แล้วให้คนอื่นตัดเย็บ?
ถ้าเป็นแบบนี้ โสรยาคงไม่มีทางกลายเป็นดีไซเนอร์ชั้นสูงของโลกนี้ เพราะว่ามีดีไซเนอร์ชั้นสูงคนไหนบ้างที่แยกระหว่างการออกแบบและการตัดเย็บออก
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ดีไซเนอร์ทุกคนเสร็จผลงานตัวเองแล้ว
หลังจากนั้นก็คือเวลาเดินแบบของนางแบบแล้ว
เชอรีนพวกเธอเป็นนางแบบ ก็ได้รออยู่ที่ห้องแต่งตัวหลังเวที
ดีไซเนอร์คนอื่นก็เหมือนกัน
ยังไงกระโปรงคือทำสดๆ กลางงานประกวด ช่างแต่งหน้าเฉพาะทางก็ไม่สามารถออกแบบการแต่งหน้าเวลานานๆ ได้ ล้วนต้องอิงตามชุดกระโปรงที่สวมใส่
ดังนั้นมีแค่ดีไซเนอร์เท่านั้นที่รู้ดีที่สุด เหล่านางแบบแต่งหน้ายังไงให้เข้ากับชุดกระโปรงที่สุด
วารุณีแต่งหน้าเร็วมาก เพราะว่าเธอออกแบบกระโปรงนั้นใช้สีขาวเป็นสักส่วนมาก ไม่ต้องแต่งหน้าอะไรมากมาย แค่ต้องเน้นการวาดตาก็เท่านั้น
หลังจากวาดเสร็จและจัดทรงผมเสร็จ วารุณีก็เปิดกระโปรงยื่นให้กับเชอรีน
เชอรีนมองแล้วอ้าปากกว้าง แววตาตกตะลึงในความสวย “สวยมาก!”

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset