ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน – ตอนที่ 367 เปลี่ยนท่าที + บทที่ 368 เปิดเผยออกมาหมด

บทที่ 367 เปลี่ยนท่าที

“ตกลง”

ตั้งแต่เซียวอี้หลินไป หนิงเมิ่งเหยาก็ขมวดคิ้วมุ่นตลอด เฉียวเทียนช่างมองนางแล้วก็ถอนหายใจ “อย่ากังวลเลย ในเมื่อหลี่หลินเอ๋อร์กล้าเผยเรื่องนี้ออกมา นั่นหมายความว่าท่านแม่ยายยังมีชีวิตอยู่ เป็นไปได้ว่านางต้องการบางอย่างจากเรื่องนี้”

นั่นเป็นคำอธิบายเดียวสำหรับสถานการณ์นี้ ไม่เช่นนั้น การที่แม่ยายของเขาจะคลอดอย่างปลอดภัยในสภาพเช่นนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อนางให้กำเนิดบุตรสาวอย่างปลอดภัย เช่นนั้นนางก็ควรจะยังมีชีวิตอยู่ แต่สภาพความเป็นอยู่ของนางอาจไม่ดีเท่าไรนัก

หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะครุ่นคิด “ข้าเดาว่าคงมีเพียงท่านพ่อของข้าที่รู้ความจริง ข้าน่าจะส่งจดหมายไปถามถึงเรื่องนี้”

“จริงด้วย”

เมื่อเห็นหนิงเมิ่งเหยาเป็นเช่นนี้ อวี้เฟิงก็เอ่ยออกมา “เจ้าควรจะเลิกกังวลเรื่องพวกนี้แล้วสนใจเพียงดูแลลูกของเจ้า เจ้าให้พวกข้าจัดการที่เหลือได้”

“ขอบคุณ ท่านพี่เขย” หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะ ดวงตาเปี่ยมแววอบอุ่น

อวี้เฟิงขยับมือไปยีผมหนิงเมิ่งเหยา “เจ้าไม่ต้องนอบน้อมกับข้านักก็ได้”

“เฉินจะจัดการสืบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ส่วนข้าจะไปสืบเกี่ยวกับคนใกล้ชิดของหลี่หลินเอ๋อร์” อวี้เฟิงแบ่งงาน

“ตกลง” มู่เฉินพยักหน้า

ทั้งสองแบ่งหน้าที่กันต่อแล้วมอบหมายงานให้คนของพวกเขา มู่เสวี่ยและคนอื่นๆ มองหนิงเมิ่งเหยา “ตอนนี้พี่น้องของพวกเราได้ทำสิ่งต่างๆ ไปแล้ว เราก็ควรจะช่วยทำอะไรบ้างเช่นกัน ฉะนั้นให้เราดูแลงานแต่งงานของชิงซวงและหนานอวี่เถิด”

พวกนางจะมามัวอุดอู้ในขณะที่พี่ชายน้องชายทำงานกันอย่างขันแข็งมิได้ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องจัดงานแต่งเองก็เป็นงานซับซ้อนยิ่งนัก หนิงเมิ่งเหยาไม่อาจมาพะวงเรื่องนี้ได้ในยามนี้เพราะนางกำลังท้อง

“ตกลง” หนิงเมิ่งเหยาพยักหน้า นางยิ้มแย้ม รู้สึกโชคดีที่มีครอบครัวและมิตรสหายคอยช่วยเหลืออย่างไร้เงื่อนไข น่าเสียดายที่นางไม่มีโอกาสได้ตอบแทน

ซือถูเซวียนดีดหน้าผากหนิงเมิ่งเหยา “อย่าคิดฟุ้งซ่าน สิ่งที่เจ้าให้เรานั้นมากกว่าที่เราทำให้เจ้านัก”

หนิงเมิ่งเหยายิ้มพลางลูบหน้าผากป้อยๆ

เซียวจื่อเซวียนรู้สึกร้อนรน นางไม่สบายใจเอาเสียเลยนับแต่กลับมาบ้าน ถึงขั้นเผลอหลบหน้าหลิงหลัว

หลิงหลัวจับได้และรู้สึกสับสน “เป็นอะไรไป เซวียนเอ๋อร์”

“ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแต่ว่าข้าไม่อาจทำตามที่สัญญาไว้ได้”

เซียวจื่อเซวียนก้มศีรษะลง นางพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

“ไม่ต้องกังวลไป ค่อยๆ ใช้เวลา” แม้หลิงหลัวจะไม่พอใจ แต่เขาก็รู้ว่าจะเร่งรัดเรื่องนี้ไม่ได้จึงปลอบเซียวจื่อเซวียน

เห็นสายตาที่อ่อนโยนของหลิงหลัว เซียวจื่อเซวียนก็โล่งใจ “ตกลง ข้าจะทำเช่นนั้น”

เซียวจื่อเซวียนพะว้าพะวังเพราะนางยังไม่ได้รับข่าวใดๆ จากเซียวอี้หลินแม้จะผ่านมาสองถึงสามวันแล้ว นางจึงหาเวลาแวะไปที่จวนตระกูลเซียวเอง

“ท่านพ่อ ที่ท่านแม่พูดมีความหมายเช่นไร” นางถามบิดาตามตรงเมื่อไปถึง

การมาของเซียวจื่อเซวียนทำให้เซียวอี้หลินหวนนึกถึงคำพูดของหลี่หลินเอ๋อร์ ว่านางไม่ใช่บุตรสาวตามสายเลือดของเขา แต่สุดท้ายแล้วนางก็คือบุตรสาวที่เขาเลี้ยงดูมา จะให้เขาปล่อยมือจากนางไปนั้นออกจะรับไม่ไหวอยู่บ้าง

“ท่านเป็นอะไรหรือ ท่านพ่อ ไยท่านมองข้าเช่นนั้น” สายตาของเซียวอี้หลินเต็มไปด้วยความรู้สึกยากจะเข้าใจ ทำให้เซียวจื่อเซวียนเป็นกังวล นางคว้ามือเขาไว้แล้วไถ่ถาม

เซียวอี้หลินหมดความอดทน “เอาล่ะ เลิกถามได้แล้ว เจ้าเพียงต้องใช้ชีวิตของเจ้าต่อไป” เสียงของเขาไม่มีความเอ็นดูดังแต่ก่อน มีเพียงความรู้สึกเย็นชาและเหินห่าง

เซียวจื่อเซวียนมองเซียวอี้หลินด้วยแววตาว่างเปล่า บิดาของนางเองได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ท่านพ่อ ได้โปรด ท่านบอกข้าได้หรือไม่”

“ข้าบอกแล้วว่าไม่มีอะไร กลับไปเสีย แล้วเลิกถามซะ” เขาอาจจะพาลใช้อารมณ์โกรธกับนางถ้านางยังเซ้าซี้ถามเขาต่อ

แม้เซียวจื่อเซวียนจะยังมีคำถาม แต่สายตาของเซียวอี้หลินบอกชัดว่านางจะไม่ได้คำตอบมากไปกว่านี้ นางจึงทำได้เพียงออกมาอย่างเงียบๆ

เซียวอี้หลินถอนหายใจขณะมองเซียวจื่อเซวียนเดินจากไป ตอนนี้เขาไม่อยากเห็นเซียวจื่อเซวียน เพราะจะทำให้เขานึกถึงที่สนมหลิ่วทรยศเขา ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ อย่างน้อยเซียวจื่อเซวียนก็จะยังใช้ชีวิตของนางในจวนตระกูลหลิงต่อไปได้

บทที่ 368 เปิดเผยออกมาหมด

เซียวจื่อเซวียนเดินออกจากจวนตระกูลเซียวอย่างไร้ชีวิตชีวา ในใจนางทบทวนภาพสีหน้าหมดความอดทนของเซียวอี้หลิน ใบหน้านางฉายแววไม่อยากเชื่อ ขณะเดียวกันก็ไม่สบายใจมากขึ้น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” เซียวจื่อเซวียนพึมพำแผ่วเบา

ในเวลานี้ นางไม่อยากกลับจวนตระกูลหลิง นางแค่อยากจะใช้เวลาเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอก

เซียวจื่อเซวียนเดินเถลไถลไปตามท้องถนนเหมือนร่างไร้วิญญาณ ไม่รับรู้ว่ามีเสียงพูดคุยถึงนาง

ไกลออกไป เซียวจื่อเซวียนเห็นเฉียวเทียนช่างเดินมาหานางพร้อมกับหนิงเมิ่งเหยา แขนเขาโอบกอดตัวหญิงสาวไว้อย่างชิดใกล้ ความสุขที่แผ่ออกมาจากคู่สามีภรรยาทำให้เซียวจื่อเซวียนมึนงง ใช่แล้ว นางยังมีหลิงหลัว นางจะเสียบุตรของนางหรือหลิงหลัวไปไม่ได้

เซียวจื่อเซวียนรีบกลับไปยังจวนตระกูลหลิง หนิงเมิ่งเหยาและคนอื่นๆ ต่างสับสนกับท่าทีรีบร้อนเดินจากไปของนาง แต่ไม่ได้สนใจมากนัก

หลังจากเซียวจื่อเซวียนกลับมายังจวนตระกูลหลิง นางเรียกองครักษ์ลับมาพบแล้วสั่งให้พวกเขาไปสืบเรื่องนี้

ขณะที่การสืบหาความจริงดำเนินไป เซียวจื่อเซวียนก็กังวลกับสิ่งที่หลิงหลัวพูดไว้ก่อนหน้านี้

สามวันให้หลัง องครักษ์ลับของนางกลับมาพร้อมข่าวที่ทำให้นางเหมือนถูกฟ้าผ่า “อะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ”

“หลังจากองค์หญิงออกจากจวนในวันนั้น ท่านอ๋องก็ไปที่เรือนของพระชายา แล้วก็ได้รู้ว่าองค์หญิงไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขาขอรับ” องครักษ์ลับตอบตามความเป็นจริง สีหน้าเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

เซียวจื่อเซวียนทรุดลงกับพื้น นางเหม่อมองไปในความว่างเปล่า ใช้เวลาหลายชั่วครู่กว่านางจะตั้งสติได้ “อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้”

“ขอรับ”

เมื่อองครักษ์ลับเร้นกายหายไปในเงามืด เซียวจื่อเซวียนลุกขึ้นจากพื้นแล้วไปนั่งบนเก้าอี้ ไม่น่าแปลกใจเลยเหตุใดบิดาจึงมองนางด้วยความรู้สึกยากจะเอ่ยเมื่อนางกลับไปในวันนั้น ตอนนั้นนางไม่เข้าใจท่าทีของเขา แต่บัดนี้นางเข้าใจแล้ว

บิดาของนางเคยให้ความรักแก่นางมามากมายตลอดหลายปี เขาไม่ได้ขอให้นางไปให้พ้นหน้า หรือตัดสัมพันธ์กับนางหลังรู้ความจริง ที่เขาทำเช่นนี้ก็เพราะคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง

แต่นางเกลียดหลี่หลินเอ๋อร์นัก ที่นางต้องลงเอยเช่นนี้ล้วนเป็นความผิดของหญิงนางนั้น

ดวงตาเซียวจื่อเซวียนเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อหลี่หลินเอ๋อร์

ดูเหมือนว่านางจะต้องรีบลงมือ แต่นางจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรโดยไม่ลากบิดามาติดร่างแหไปด้วย นางไม่อาจดึงให้เขาต้องตกที่นั่งลำบากเพราะสิ่งที่นางทำ แม้ท่าทีที่เขามีต่อนางจะเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังคงเป็นบิดาที่รักนาง

เมื่อนึกถึงบิดาของนางแล้ว เซียวจื่อเซวียนก็รู้สึกสบายใจอยู่บ้าง

สามวันหลังจากถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน หลี่หลินเอ๋อร์ก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา นางหัวเราะใส่เรือนหลังเล็กที่คุ้นเคย

นางรู้ดีว่าเซียวอี้หลินไม่กล้าทำอะไรนาง

แววตาหลี่หลินเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นชั่วร้ายเมื่อนางมองยังแผลเป็นและอาการบาดเจ็บบนมือ นางจะล้างแค้นแล้วให้เซียวอี้หลินได้ลิ้มรสการกระทำของตัวเอง

เซียวอี้หลินเห็นแววเกลียดชังในดวงตาของหลี่หลินเอ๋อร์เมื่อเขาเดินเข้ามา เขาเดินไปหานางแล้วเชยคางนางขึ้น บังคับให้มองตน “ข้าจะฆ่าทั้งตระกูลเจ้าถ้าหย่าเอ๋อร์เป็นอะไรไป”

“ท่านไม่กล้าหรอก”

“เจ้าจะลองดูก็ย่อมได้ แต่ต่อให้ข้าไม่ทำ เจ้าคิดว่าหนานกงเยี่ยนจะปล่อยเจ้ากับตระกูลของเจ้าไว้หรือ ทั้งยังมีหนิงเมิ่งเหยากับสามีของนางอีก นั่นคือลูกสาวของหย่าเอ๋อร์และลูกเขยของนางเชียวนะ”

สีหน้าหลี่หลินเอ๋อร์เปลี่ยนไป นางลืมทั้งสามไปสนิท หนานกงเยี่ยนเป็นคนบ้า ไม่มีทางต่อรองใช้เหตุผลกับเขาได้

ส่วนหนิงเมิ่งเหยากับสามีของนาง หลี่หลินเอ๋อร์รู้ดีว่าทั้งสองไม่ใช่คนที่ควรไปหาเรื่องเมื่อเห็นว่าทั้งสองจัดการกับสามตระกูลอย่างไร

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว หลี่หลินเอ๋อร์พลันหนาวสันหลังวาบ นางเริ่มเสียใจในสิ่งที่ทำอยู่เล็กน้อย

แต่ดูเหมือนนางจะคิดถึงสิ่งอื่นขึ้นมา แล้วความเสียใจก็กลายเป็นน้ำเสียงขบขัน สายตาที่นางมองเซียวอี้หลินเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง “ท่านก็ลองดูเถิด เราจะได้เห็นกันว่าใครที่จะลงไปดิ้นทุรนทุราย”

คำพูดของหลี่หลินเอ๋อร์ทำให้เซียวอี้หลินฉุกคิด ดูเหมือนว่าหนิงเมิ่งเหยาจะคาดเดาถูก มีใครบางคนหนุนหลังหลี่หลินเอ๋อร์อยู่ในเงามืดจริงๆ

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

Status: Ongoing Author:
นิยายแปลรักย้อนยุคละมุนใจ กับวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ พร้อมลุ้นรักต่างชนชั้น ‘หนิงเมิ่งเหยา’ ย้อนอดีตกลับมาในยุคจีนโบราณพร้อมกับคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน ทว่านางกลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่พึ่งพิง ในขณะที่คนรักของนางเป็นถึงซื่อจื่อ นางคิดว่าชนชั้นคงจะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างพวกเขา แต่นางคิดผิด… เมื่อเขามาขอให้นางไปเป็นอนุภรรยา นางจึงตัดความสัมพันธ์จอมปลอมนี่ทิ้งเสีย! แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่อย่างสันโดษ พร้อมหาทางเป็นผู้ร่ำรวยในหมู่บ้านเล็กๆ บนเขา กระทั่งวันหนึ่ง นางพบกับ ‘เฉียวเทียนช่าง’ พรานป่าที่นางมักจะขอซื้อสัตว์ที่เขาล่าได้อยู่เสมอ ความสนิทสนมจึงค่อยๆ ก่อให้เกิดรักครั้งใหม่ แต่…เขาจะเป็นแค่พรานป่าจริงหรือ? ไม่หรอก…นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความลับและความสัมพันธ์ของพวกเขาเท่านั้น!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset