มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years – บทที่ 74 ไฮเอล์ฟ (1)

มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years - บทที่ 74 ไฮเอล์ฟ (1)

โดยไม่สนใจปฏิกิริยาของเฟรย์และอีวานริกิวาดเส้นกลางอากาศด้วยนิ้วของเขา

จากนั้นศีรษะของอินดราก็ถูกแบ่งครึ่งราวกับว่าถูกตัดด้วยดาบ

มือของริกิขยับเร็วยิ่งขึ้น

สองสี่แปด … และเขาก็ตัดหัวอย่างต่อเนื่อง ไม่นานหัวของอินดราก็ถูกทำลายจนหมด

อีวานอดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้นของเขา มันเป็นการแสดงทักษะที่น่ากลัว

ทักษะที่ริกิเพิ่งแสดงเป็นสิ่งที่แม้แต่อัศวินระดับมาสเตอร์ก็ยังไม่สามารถทำได้แม้ว่าพวกเขาจะใช้ดาบที่คมที่สุดก็ตาม

ในที่สุดเฟรย์ที่เงียบไปสักพักก็ยอมเปิดปาก

“ นั่นคือเดมิก็อดที่มีพลังสายฟ้าหรือเปล่า? ”

“ถูกตัอง แน่นอนว่าไม่มีทางที่ฉันจะพิสูจน์ได้ว่า…”

“ ไม่ ไม่มีความจำเป็น”

ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ส่วนหัวแต่เขาสามารถบอกได้ในทันที

นี่เป็นเพราะเฟรย์เคยได้พบกับพวกเดมิก็อดมามากที่สุดจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทวีป

หัวที่ริกินำกลับมามีพลังศักดิ์สิทธิ์ในระดับมหาศาล

ไม่ใช่สิ่งที่จะเลียนแบบได้แม้จะเป็นอัครสาวก

ริกิเหลือบไปเห็นสีหน้าที่มั่นใจของเฟรย์

“ คุณทำตัวราวกับว่าคุณเคยพบกับเราชาวเดมิก็อดมาก่อน คุณเป็นมนุษย์ที่น่าสนใจกว่าอีวานมากเลยนะ”

“ …”

“เอาละ มันไม่สำคัญในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม…จัดการกับโอดินให้ได้เร็วที่สุด”

“ ดูเหมือนจะมีเหตุผลพิเศษอะไรบางอย่าง ”

“ถูกตัอง อัครสาวกที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอะโพคาลิปส์นั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ ดังที่ฉันได้บอกไปก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่ความสามารถในการปกปิดพลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเท่านั้น แต่พลังที่พวกเขามียังสูงกว่าหลายเท่าและที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยอัตราที่สูงมาก”

ริกีชี้ไปที่อีวาน

“ สองเดือนก่อนอีวานคนเดียวก็น่าจะเพียงพอที่จะจัดการกับโอดิน เขาเพิ่งได้เป็นอัครสาวกในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนนี้พวกคุณอาจจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้แม้ว่าพวกคุณจะเข้าสู้พร้อมกันก็ตาม”

“ …เขาแข็งแกร่งได้ในเวลาเพียงสองเดือนเลยหรอ?”

เฟรย์พบว่าสิ่งนี้ยากที่จะเชื่อ

เขาไม่รู้ว่าริกิประเมินความแข็งแกร่งของพวกเขามากแค่ไหน แต่เฟรย์มั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะอัครสาวกสองสามคนในระดับเดียวกับลูคส์ได้ในเวลาเดียวกันหากเขาร่วมมือกับอีวาน

“ อันเดดที่ปรากฏตัวอยู่ในป่าใหญ่เรย์นอลส์เป็นพลังตกค้างหลังจากที่โอดินใช้พลังของเขา”

พลังตกค้าง

หากใครพิจารณาการเข่นฆ่าฝ่ายเดียวของเฟรย์และอีวานแล้วพวกอันเดดอาจดูเหมือนไม่มีอะไรมากนัก แต่กลุ่มของอันเดดในป่าสามารถทำลายล้างทหารรับจ้างระดับ B ที่โชคร้ายพอที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขาได้ง่ายๆ

ในตอนแรกอันเดดระดับสูงอย่างดูลาฮานหรือเดธไนท์นั้นมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกันหรืออาจแข็งแกร่งกว่าทหารรับจ้างระดับ A ด้วยซ้ำ

หากอันเดดเหล่านั้นเป็นเพียงของเหลือใช้สิ่งที่เขาไม่ได้ตั้งใจสร้างขึ้นมา เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนหากเอาจริง?

‘เขาอันตราย’

ตอนนี้โอดินแข็งแกร่งมาก แต่อย่างที่ริกิกล่าวส่วนที่น่ากลัวอย่างแท้จริงคือศักยภาพในการเติบโตของเขา

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอะโพคาลิปส์คนอื่นๆหรือแม้กระทั่งลอร์ดได้แต่งตั้งอัครสาวก?

จะเป็นอย่างไรถ้าเวลาผ่านไปหลายปีหรือหลายทศวรรษ?

อัครสาวกเหล่านั้นที่เติบโตขึ้นมาอย่างไม่มีขีดจำกัดจะมีอำนาจมากแค่ไหน?

“ฉันมีหนึ่งคำถาม”

“ ว่ามาเลย ”

“ คุณเป็นอะโพคาลิปส์ใช่มั้ย? ”

“ …”

ดวงตาที่ว่างเปล่าของริกิจ้องมองเฟรย์ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

“ ฉันคือเดมิก็อดที่มีพลังของดาบ”

มันเป็นไปตามที่เขาคาดไว้

เดมิก็อดทั้งสามที่เซอร์เคิลมีข้อมูลอยู่คือดาบความตายและพิษ

ริกิเป็นอะโพคาลิปส์แห่งดาบ

สิ่งนี้ทำให้เฟรย์สับสนมากยิ่งขึ้น

เขาไม่ใช่แค่เดมิก็อดธรรมดาๆแต่เป็นคนที่โดดเด่นแม้กระทั่งในหมู่เหล่าสิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมนั้น

ทำไมเขาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่รองแค่ลอร์ดถึงได้ทรยศ?

“มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะถาม”

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาทำให้เฟรย์ไม่สามารถบังคับให้ริกิตอบได้

แต่เฟรย์รู้สึกว่าเขายังไม่สามารถเชื่อใจผู้ชายตรงหน้าได้อย่างเต็มที่จนกว่าจะรู้เหตุผลนั้น

นอกเหนือจากนั้นการมีตัวตนของริกิยังช่วยเฟรย์ได้เป็นอย่างดี

เขาฆ่าอัครสาวกแล้วชายคนนี้ก็จะฆ่าเดมิก็อด

นั่นหมายความว่าวิธีการที่จะทำให้เป้าหมายของเขาสั้นลงภายในสองสามทศวรรษได้ปรากฏขึ้น

“ ในอีกหนึ่งเดือนลอร์ดและอะโพคาลิปส์ทั้งห้าร่วมถึงเดมิก็อดคนอื่นๆอีกมากมายจะรวมตัวกัน พวกคุณต้องฆ่าโอดินให้ได้ก่อนหน้านั้น”

“ ทำไมคุณถึงต้องรวมตัวกันด้วยละ ”

“ เพื่อกำจัดคนทรยศยังไงละ ฉันได้ฆ่าเดมิก็อดที่จำศีลมาแล้วมากมายในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาและมีเพียงคนเดียวที่สามารถทำสิ่งนี้ได้ก็คือเดมิก็อด แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสังเกตเห็นว่าเป็นฉัน บางทีลอร์ดอาจตั้งใจที่จะตรวจสอบพวกเราด้วยตาของเขาเอง”

“ แล้วทำไมเราต้องฆ่าโอดินก่อนหน้านั้นด้วย? ”

“ มีความเป็นไปได้สูงที่เดมิก็อดจะเข้าร่วมในงานนี้พร้อมๆกับอัครสาวกของพวกเขา ขณะนี้โอดินอยู่ในป่าใหญ่เรย์นอลและเมื่อถึงเวลาเขาจะไปกับนอซด็อกและหลังจากนั้นจะเป็นการยากที่จะบอกว่าเขาจะหายไปไหน”

ริกิหลับตาขณะพูด

“ โอดินยังไม่เข้าใจพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างเต็มที่ พวกคุณอาจจะไม่รู้สึกถึงมันแต่ฉันสัมผัสได้ถึงเสียงสะท้อน แต่ถ้าเขาหายไปพร้อมกับนอซด็อกแล้วละก็ฉันก็จะไม่มีทางพบตัวเขา”

“ อืม…ฉันคิดว่าฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังพูด”

มันไม่ได้ยากที่จะเข้าใจแต่อีวานก็ยังคงส่ายหัว มันไม่ใช่ความผิดของเขา เพียงแค่ว่าเมื่อใดก็ตามที่การสนทนามีความซับซ้อนเขาก็พบว่ามันยากที่จะจับใจความได้ต่อไป

ราวกับว่าเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้วริกิก็เลยพูดขึ้นอีกครั้ง

“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำให้มันง่ายขึ้น หากเรากำจัดอะโพคาลิปส์ได้แม้แต่คนเดียวมันจะเป็นประโยชน์มากสำหรับพวกคุณ นั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้ไว้ในตอนนี้”

“ ฮึ่ม นายควรจะพูดแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้วนะ”

อีวานบ่นอยู่ข้างๆขณะที่เฟรย์ยังคงวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น การประชุมของเหล่าเดมิก็อดจะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือน แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องฆ่าโอดิน

“ ในการทำเช่นนั้นสิ่งที่สำคัญอันดับแรกคือการที่เราเข้าไปในป่าใหญ่”

“ ฉันมีความคิดที่ดี ”

“มันคืออะไร?”

“ นายบินตอนที่เรามาที่นี่ใช่ไหม?”

ดวงตาของเฟรย์หรี่ลงเมื่อเขารู้ทันทีว่าอีวานกำลังจะพูดอะไร

“ นายต้องการให้เราบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและเข้าไปในป่าด้วยวิธีนั้นหรือ?”

“ นายตามได้ทันนิ นายคิดว่าไง? ถ้าเราอยู่บนท้องฟ้าป่าบ้านั้นก็ไม่สามารถปิดกั้นพวกเราได้จริงมั้ย?”

เมื่อเผชิญกับการแสดงออกจากชัยชนะของอีวานริกิและเฟรย์ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน

“ ฉันเข้าใจละแล้วนายตามล่าตัวอัครสาวกด้วยวิธีงี่เง่ามาตลอด”

“ นั่นคือเหตุผลที่ฉันยินดีที่จะต้อนรับคุณด้วยความจริงใจ”

“ ว่าไงนะ! ”

เมื่อมองไปที่อีวานที่กำลังระบายความโกรธของเขาเฟรย์ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เห็นใจ

“ แล้วนายจะทำยังไงหลังจากที่เราเข้าไปทางนั้น? หากนายเข้าไปในป่าใหญ่โดยไม่ได้รับอนุญาตนายจะถือว่าเป็นผู้บุกรุก”

“ ดังนั้นเราต้องอย่าให้ใครสังเกตเห็นยังไงละ…”

“ ต้นไม้โลกในหมู่บ้านไฮเอลฟ์เป็นแกนกลางของป่าใหญ่เรย์นอลและเชื่อมต่อกับต้นไม้ทุกต้นในป่า ราชินีผู้แบ่งปันจิตใต้สำนึกของเธอกับต้นไม้โลกจะสังเกตเห็นการบุกรุกของเราในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง”

อีวานขมวดคิ้ว

“เห้อ แม้ว่าฉันจะบีบสมองออกแต่สิ่งที่ฉันคิดได้ก็เป็นเรื่องไร้สาระ แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีละ? นายเป็นคนฉลาดก็คิดแผนสิ “

“ …อืมมีคนที่ฉันขอให้ช่วยได้อยู่ ”

“อะไร? ใครกัน?”

เฟรย์ทำสีหน้าแปลกๆขณะที่เขาจำหญิงไฮเอลฟ์ที่เขาเจอในกลุ่มทหารรับจ้างได้

* * *

“ โห! ในที่สุดเราก็รอดออกไปได้!”

“ เรามาถึงเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้”

“ นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้พบกับเหล่าอันเดดเลย”

“ ชายกล้ามโตคนนั้นต้องทำลายพวกมันทั้งหมดแน่ ”

ทหารรับจ้างถอนหายใจขณะที่พวกเขาเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้น

พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาสามารถไปที่ทางเข้าของป่าใหญ่เรย์นอลได้อย่างไรอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะไปถึงที่นั่นได้โดยไม่พบกับอันตราย แต่พวกทหารรับจ้างก็ยังคงเหนื่อยล้าเพราะพวกเขาไม่สามารถผ่อนคลายได้เลยในระหว่างการเดินทาง

อัลคอนปรบมือก่อนกล่าว

“ พวกคุณทำงานได้ดีมากเลยนะไอ้พวกสารเลว เอลฟ์จะปรากฏตัวในวันพรุ่งนี้เท่านั้นดังนั้นวันนี้พักผ่อนให้เพียงพอ แน่นอนว่าถ้ามีไอ้ตัวแสบคนไหนที่กล้าถอดเสื้อเกราะออกและวางอาวุธลงฉันจะฆ่ามันซะ”

“ กัปตันแล้วคุณไม่เหนื่อยเหรอ? ”

“ ตั้งแต่ฉันกลายมาเป็นทหารรับจ้างระดับ S สิ่งที่แย่ที่สุดที่ฉันในระหว่างการเดินทางคืออาการคอเคล็ด”

ทหารรับจ้างแลกเปลี่ยนการหยอกเย้าขี้เล่นด้วยการแสดงออกที่ผ่อนคลาย

ไซแอ็กซ์สังเกตพวกเขาจากระยะไกลก่อนจะเข้าไปใกล้อัลคอนและพูด

“ ฉันจะดูรอบๆก่อนแล้วจะกลับมา ”

“ อืมบริเวณนี้นะหรือ? เราอยู่ที่พรมแดนของดินแดนเอลฟ์…”

“ ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะไม่ประมาท”

อัลคอนมองไปที่ไซแอ็กซ์ครู่หนึ่ง

เธอเป็นวิซาร์ดแก่ที่ดูเหมือนจะอายุเจ็ดสิบปีดังนั้นเธออาจมีประสบการณ์มากมาย

และด้วยท่าทีสงบที่ไซแอ็กซ์แสดงออกมาจนถึงตอนนี้ อัลคอนจึงไม่คิดว่าเขาจะต้องเป็นห่วง

“ อย่าไปไกลจนเกินไปละ ”

“ขอบคุณ”

ไซแอ็กซ์พยักหน้าก่อนออกจากที่ตั้งแคมป์

เสียงของที่ตั้งแคมป์ค่อยๆจางหายไปก่อนที่มันจะหายไปอย่างสมบูรณ์และมีเพียงเสียงฝีเท้าแผ่วเบาของไซแอ็กซ์เท่านั้นที่ได้ยิน

‘…ป่ามันเงียบเกินไป’

เธอไม่ได้ยินเสียงของสัตว์นกหรือแม้แต่แมลง

โดยปกติผู้คนจะไม่สังเกตเห็นเสียงเหล่านี้ แต่เธอซึ่งเป็นเอลฟ์นั้นแตกต่างออกไป

ไซแอ็กซ์กัดริมฝีปากของเธออย่างประหม่า

‘นี่มันไม่ดีเลย หากยังคงมีอันเดดปรากฏขึ้นอีก…ก็มีโอกาสที่ป่านี้จะตาย

ป่าและพื้นดินที่อยู่ตรงนั้นจะตาย

สำหรับเอลฟ์การเฝ้าดูสิ่งนั้นก็เหมือนกับการเฝ้าดูแม่ของพวกเขาตาย ดังนั้นเธอจึงตั้งใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อหยุดมัน

ไซแอ็กซ์เป็นหนึ่งในเอลฟ์ที่ท่องไปทั่วโลกแทนที่จะอยู่ในป่า

เป็นเรื่องที่หาได้ยากในหมู่ของไฮเอลฟ์ ตั้งแต่เธอเป็นเด็กเธอรู้สึกอึดอัดที่ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ

พอเธออายุมากขึ้นเธอก็จากไป จากนั้นเธอก็เรียนรู้เวทมนตร์ในเวลาว่างซึ่งตอนนี้เธอใช้มันปลอมตัว

ด้วยเหตุนี้เธอจึงสามารถมีชีวิตที่มั่นคงในฐานะทหารรับจ้างได้โดยไม่ต้องวุ่นวายเพราะเชื้อชาติของเธอ

ไซแอ็กซ์เดินทางไปทั่วทวีปเพื่อขยายความรู้ของเธอ อย่างไรก็ตามเธออยู่ใกล้กับพิลเล็ตเมื่อไม่นานมานี้ภายใต้หน้ากากของหญิงชรา

นั่นคือจนกระทั่งเธอได้รับข้อความจากราชินี

ดูเหมือนว่าจะมีเนโครแมนเซอร์เข้ามาอาศัยอยู่ใกล้ชายแดนของป่าใหญ่และกำลังปล่อยอันเดดของพวกเขาเข้าสู่ภูมิภาค

ป่าใหญ่เป็นบ้านของเอลฟ์ทั้งหมด เอลฟ์พเนจรนั้นไม่เคยลืมบ้านเกิดของตัวเอง

ไซแอ็กซ์ได้รับภารกิจจากราชินีเพราะทักษะที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์มากมายหลังจากสำรวจทวีปเป็นเวลาหลายปี

ภารกิจของเธอคือการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าใหญ่

อย่างไรก็ตามเธอยังไม่พบร่องรอยของเนโครแมนเซอร์

‘เขาออกจากพื้นที่ไปแล้วเหรอ? เขาไม่สามารถเข้าไปในป่าใหญ่ได้แน่ๆ… ’

หรืออาจซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆที่นี่

การแสดงออกของไซแอ็กซ์แข็งกระด้าง

เนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังเช่นนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อป่า เพียงแค่การปรากฏตัวของพวกเขานั้นก็เพียงพอที่จะถูกกำจัด แต่เธอจะจัดการกับคนแบบนั้นได้ด้วยตัวเธอเองจริงๆหรือ?

“ …”

ไซแอ็กซ์จำชายกล้ามโตที่เข่นฆ่าพวกอันเดดได้ในทันที

เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พลังที่แสดงออกมานั้นน่าทึ่งมาก มันจะดีมากถ้าเธอสามารถขอความช่วยเหลือจากชายผู้มีพลังคนนี้ซึ่งปฏิบัติต่ออันเดดระดับสูงเหมือนก็อบลิน

‘ไม่หรอก นี่มันเป็นงานของฉัน ‘

เธอไม่สามารถแสดงความอ่อนแอได้

นี่เป็นงานที่ราชินีมอบให้เธอซึ่งเป็นเกียรติของเหล่าเอลฟ์ทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ

แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตแต่เธอก็ต้องทำมันให้สำเร็จ

ซุกๆๆ

พุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ๆสั่นสะเทือน

ไซแอ็กซ์ยกไม้เท้าขึ้นทันทีและเริ่มระมัดระวังตัว

เธอไม่รู้สึกอะไรมาก่อนแต่ตอนนี้เธอรับรู้ว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ

คนที่เก่งพอที่จะหลบหนีจากการได้ยินและการมองเห็นของเอลฟ์ได้เลือกที่จะเปิดเผยตัวเอง

เขาเป็นเนโครแมนเซอร์?

ไซแอ็กซ์จับไม้เท้าของเธออย่างประหม่า

ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากพุ่มไม้ตรงหน้าเธอ

“คุณ…”

เป็นชายผมบลอนด์ที่มีสีหน้าอ่อนโยน

นี้มันเคนริกซ์ตัน พ่อมดที่หายตัวไปอย่างกะทันหันนิ

The Great Mage Returns After 4000 Years มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี

The Great Mage Returns After 4000 Years มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี

Status: Ongoing Type: Author:
อ่านนิยาย The Great Mage Returns After 4000 Years มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี เรื่องย่อ บทนำ นักเรียนที่อ่อนแอที่สุดของสถาบันเวสต์โร้ด ความอับอายของตระกูลเบลด ได้มีวิญญาณดวงใหม่เข้าสู่ร่างของเฟรย์เบลคผู้ซึ่งไม่สามารถเอาชนะชีวิตที่น่าสังเวชของเขาได้และเลือกที่จะหนีปัญหาด้วยความตาย “ ร่างกายนี้มันอะไรกัน? ฉันจะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น” มหาจอมเวทย์ลูคัสโทรว์แมนกับร่างของเฟรย์เบลคได้รับโอกาสในการแก้แค้นอีกครั้ง! เรื่องย่อ “ เฟรย์อาจฆ่าตัวตาย” ศาสตราจารย์ดิโอรู้สึกปวดหัวเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น มันจะดีกว่าถ้ามันเป็นแค่เรื่องตลก แต่ไม่มีนักเรียนคนไหนในสถาบันที่หน้าด้านพอที่จะเล่นตลกแบบนี้กับเขา กล่าวอีกนัยหนึ่งนักเรียนคนนี้กำลังพูดความจริง “ บอกฉันสิว่าเกิดอะไรขึ้น” นักเรียนตัวสั่นเมื่อน้ำเสียงของเขาเยือกเย็น “ มันเกี่ยวกับเดวิดและพวกของเขา…” เดวิด เมื่อพูดชื่อนั้นดิโอก็ถูกควบคุมด้วยอาการปวดหัวที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ เดวิดสโตนฮาซาร์ด แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงนักเรียนชั้นปีที่สอง แต่เขาก็ยังเป็นนักเรียนที่ ดีโอกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด เขาไม่ใช่บุคคลที่มีเจตนาดี ความจริงที่ว่าพ่อแม่ของเขามีความสำคัญต่อศาสตราจารย์เนื่องจากบ้านของดิโอมีชื่อเสียงที่โดดเด่นและฐานะที่คล้ายคลึงกัน ยิ่งกว่านั้นตั้งแต่เข้ามาในสถาบันเดวิดก็ไม่สามารถต่อต้านเขาได้อย่างเปิดเผยแม้ว่าเขาจะเป็นลูกของท่านดยุคก็ตาม ปัญหาคือเดวิดนั้นเจ้าเล่ห์มาก เขารู้วิธีใช้เส้นสายของพ่อแม่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเก่งในการค้นหาวิธีต่างๆในการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของกฎในโรงเรียน ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นคนเลวทราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขายังแสดงความคลั่งไคล้ในการเหยียบย่ำผู้ที่อ่อนแอกว่า มันเป็นความจริงที่ทุกคนรับรู้ แต่ไม่เคยถูกพูดถึง เฟรย์ซึ่งถูกทิ้งโดยครอบครัวของเขาเป็นเหยื่อที่ดีที่สุดสำหรับเดวิดในการปลดปล่อยความปรารถนาอันมืดมนในใจของเขา “ เดวิดทำอะไรลงไปหรือ?” “ เขาบอกว่าเขาจะหักแขนทั้งสองข้างของเฟรย์ในบ่ายวันพรุ่งนี้ในระหว่างการฝึกภาคปฏิบัติ” “ แขนทั้งสองข้าง?” “นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เขาวางแผนที่จะบดขยี้เส้นเสียงและทำให้เฟรย์ตาบอด…เพื่อทำให้เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีกเลย”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset