มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) – ตอนที่ 67 : การติดเชื้ออันแปลกประหลาด

ตอนที่ 67 : การติดเชื้ออันแปลกประหลาด

วันที่ 2 – เวลา 06.42 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์,ชั้นสาม, โซนขายสินค้าไอที

มาร์คพาทุกคนมายังร้านขายสินค้าอีกที่หนึ่งซึ่งเป็นร้านที่ไม่มีใครกล้ามามันเป็นเพราะว่าอีกด้านหนึ่งข้างในประตูนั้นมาร์คได้นําซอมบี้นักกัดเข้ามาเก็บไว้ในนี้จริงๆแล้วเขาต้องการจัดระเบียบสิ่ง ต่างๆเช่นแล็ปท็อปและของที่เขาเตรียมไว้ที่นั่นแต่ตอนนี้ค่อนข้างกังวลที่จะทําท้ายที่สุดทหารที่เขาคุยด้วยก็ยังอยู่ที่นั่นก่อนที่เขาจะออกไปเขาพยายามมองหาเสื้อเกราะที่เขาสวมใส่ก่อนหน้านี้แต่ก็ต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นสภาพของเสื้อเกราะเลือดของเขาเปอะเปื้อนเสื้อเกราะเต็มไปด้วยรอยแตกบนลําตัวและส่วนอกของชุดเกราะนั้นแตกเป็นชิ้น ๆ นอกเหนือเกราะที่แขนแล้วทุกสิ่งทุกอย่างบนเสื้อเกราะก็ไร้ประโยชน์ไปอยางสิ้นเชิงเอง

ในขณะที่เขากําลังมองเสื้อเกราะของเขาอยู่นั้นแองเจและพอลลาก็ได้ออกจากห้องไปเด็กสาวทั้งสองคนนั้นดูเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดออก มาแต่ด้วยสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นพวกเธอคงอึดอัดลําบากใจที่จะพูดออกมา

ภายใต้สายตาของเด็กสาวทั้งสองคนและเหล่าทหารนั้นมาร์คก็เจออาวุธของเขาและออกไปจากห้อง

เมื่อเขาออกมาจากร้านสินค้าบางคนที่เห็นเขาก็มีสีหน้าตกใจ มาร์คแน่ใจว่าพวกเป็นเพราะพวกเขาเห็นสภาพของเขาในเย็นวันนี้ และใครๆก็ต้องตกตะลึงที่เห็นคนใกล้ตายฟื้นคืนสู่สภาพสมบูรณ์ ในเวลาเพียงคนเดียวไม่สิมันเป็นเวลาน้อยกว่าเก้าชั่วโมงด้วยซ้ำ

มาร์คก็ยังเห็นกลุ่มชายที่มีส่วนร่วมในการจุดพลุไฟบนดาดฟ้า เจมส์และเบอนาร์ดดูไม่เป็นอะไรมากแต่เฟอร์นานมีผ้าพันแผลอยู่ที่แขนในขณะที่แคลวินยันขาไว้กับไม้ค้ํายันในขณะที่เขาเดินไป รอบๆผู้บาดเจ็บทั้งสองมองไปที่มาร์คที่เมื่อคืนได้บาดเจ็บอย่างหนักสาหัสด้วยความอิจฉาตอนนี้มาร์คหายเป็นปกติในขณะที่พวกเขายังโดนพันด้วยผ้าพันแผลไม่หายดี

เมื่อมองไปที่พวกเขามาร์คก็สังเกตว่าพวกเขานั้นก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไรเลยจากนั้นเขาจึงตัดสินใจถามเหตุผลของพวกเขาเห็นได้ชัดว่ากองทัพทหารได้บรรยายสรุปให้ผู้คนที่นั่นเกี่ยวกับสถานการณ์เกี่ยวกับการแพร่กระจายของเชื้อโรควิธีการถ่ายทอด วิธีการพัฒนาของผู้คนและเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อและมนุษย์กลายพันธุ์ อีกอย่างเขาจําเป็นต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นเขาจึงคิดที่จะถาม พวกเขาเพื่อรับรู้ข้อมูลแต่แล้วเขามองไปที่หญิงสาวที่ประกาศตัวเป็นคนรับใช้ของเขาเนื่องจากทุกคนได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาจึงเอาไว้ถามหญิงคนนี้ภายหลังอีกทีก็ได้พวกเขาแยกทางกับพนักงานและเข้าไปที่ร้านสินค้าแห่งนี้
มาร์คนึกถึงซอมบี้นักกัดขึ้นมาได้เขาต้องการที่จะเรียนรู้ลักษณะนิสัยของซอมบี้นักกัดแต่ในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้เพราะหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น

เขาให้เหมยที่ยังคงมึนศรีษะอยู่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ความมั่นคงทางจิตใจของเธอต่ำอยู่แล้วในตอนแรกและด้วยเหตุที่ระเบิดอารมณ์ออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจของมาร์คจึงส่งผลต่อเธอมากเกินไปหน่อย

“ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย?”

“ไม่ดีขึ้นเลยค่ะพี่ ตอนนี้ฉันรู้สึกคลื่นไส้”

จากนั้นเธอเงยใบหน้าอันซีดเซียวของเธอขึ้นมาหามาร์คและขอบางสิ่งบางอย่างที่น่าหัวเราะ

“พี่คะ…กอดหน่อย”

เหมยอ้าแขนเข้าไปหามาร์ค มาร์คถอนหายใจในขณะที่เขาก็ยอดกอดเธอท้ายที่สุดมันเป็นความผิดของเขาในครั้งนี้เขาวางแอ็บบีเกลลงและกอดเหมยไว้ในอ้อมแขนของเขา

เหมือนที่ไอศกรีมที่กําลังหลอมละลยาเธอทรุดตัวลงไปที่ร่างกายของมาร์คและเริ่มรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ

“นี่มันบ้าอะไรกัน?

มาร์คพลางคิดในใจ ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยคิดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เหมยพูดถึงความรู้สึกเวลาที่เธอได้กอดเขาแต่ตอนนี้เขาเชื่อความรู้สึกนั้นของเธอแล้ว

เขาไม่ทําอะไรนอกเหนือจากการกอด เหมย แต่เขาสัมผัสได้ถึงกระแสพลัง

บางๆ ที่มาจากเขาและเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างอ่อนโยน เขาพยายามเสริมสร้างการไหลเวียนของพลังงานเล็กน้อย และภายใต้การจ้องมองของทุกคนดวงตาของเขาเริ่มเปล่งแสงสีน้ำนมจางๆ แต่มันหายไปทันทีเมื่อเขาสูญเสียการควบ คุม

ในขณะที่เหมยนั้นรู้สึกดีขึ้นแล้วเธอก็ไม่ยอมปล่อยกอดจากมาร์คซึ่งเขาได้ตกอยู่ในห้วงของความคิดจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของโอเดลินา

“เจ้านายคะ ดูจากแสงที่ออกมาจากตาของคุณนั่นคือพลังงานเดียวกันกับความสามารถของเฟร็ดที่เขาใช้เพื่อช่วยฉันไว้”
มาร์คมองไปที่เธอ ในที่สุดเขาก็เข้าใจมันสติสัมปชัญญะจิตใต้สํานึกที่พยายามจะกลืนกินโอเดลินาก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความโกรธและความรุนแรงและการใช้พลังงานนี้เฟร็ดทําให้สติที่อํามหิตนั้นสงบลงและช่วยให้เธอสามารถควบคุมร่างกายของเธอได้
อย่างไรก็ตาม มาร์คก็ได้มีความรู้สึกสนใจมากขึ้นกว่าเดิมที่อยากเรียนรู้การควบคุมการปล่อยพลังงานทางด้านจิตใจเพื่อส่งผลต่อสติและจิตใต้สํานึกของคนอื่นเขารู้สึกว่ามันมีประโยชน์ที่จะเรียนรู้ไว้ดีกว่าความสามารถทางการต่อสู้เสียอีก

เมื่อเหมยดีขึ้นแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะไปตรวจสอบซอมบี้นักกัดที่อยู่ในห้องเขารู้มาจากโอเดลนาว่าเหล่าทหารต้องการที่จะเคลียร้านขายสินค้านี้และฆ่าผู้ติดเชื้อที่เขาจับได้แต่กลุ่มชายก่อนหน้า นี้ได้มาห้ามเอาไว้

เมื่อเขาเข้าไป เขาเห็นซอมบี้นักกัดกลิ้งอยู่กับพื้นเธอไม่ได้กลิ้งไปที่พื้นอีกต่อไปแต่เห็นได้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ขณะที่หัวของเธอยังคงเคลื่อนไหว

มาร์คถอดผ้าและผ้าขี้ริ้วที่ตอนนี้เปื้อนเลือดออกมาจากตัวเธอ และยังมีกลิ่นของปัสสาวะที่โชยออกมาจากร่างกายของเธอเขาเหลือไว้เพียงสายไฟที่มัดข้อมือและขาของซอมบี้นักกัดเธอดูอ่อนแอมาก เธอไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างดุดันเหมือนเมื่อก่อน
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

โอเดลินาถามด้วยความสับสน มันเห็นได้ชัดว่าเธอนั้นติดเชื้อแต่เธอไม่ได้มีพฤติกรรมเหมือนเดิมสิ่งแรกที่พวกติดเชื้อต้องทําคือเมื่อเห็นมนุษย์มันก็จะพยายามเข้ามาจู่โจมแต่กลับตัวนี้นั้นไม่ทําแบบนั้นและเพียงแค่นอนอยู่นิ่งๆไปกับพื้น

“บางทีมันอาจจะหิว”

มาร์คมองไปที่มุมห้องที่มีซากแขนขากองอยู่หลายจุดเมื่อพนักงานได้ทําความสะอาดโซนขายสินค้าไอทีเมื่อวานนี้มาร์คได้ขอให้เบอนาร์ดเอาซาก แขนขาอย่างน้อยสามชิ้นจากร่างกายที่ ต่างกันสามประเภท คนหนึ่งมาจากศพที่ ไม่ได้กลายร่างในขณะที่อีกสองคนมา จากซอมบี้นักกัดและซอมบี้นักกระหายที่ตายแล้ว

เขากําลังคิดว่าเจ้าซอมบี้นักกัดที่ร่างกายของมันยังคงทํางานอยู่จะรักษาร่างกายได้อย่างไรในเมื่อพวกมันไม่ได้กินอะไรเลยพวกมันเพียงแค่กัดเหยื่อของมันเท่านั้น

เขาหยิบชิ้นส่วนจากแขนขาแต่ละชนิดเขาสามารถแยกความแตกต่างของแขนขาแต่ละชนิดได้เนื่องจากรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากผู้ติดเชื้อนั้นทําให้เขามั่นใจจากนั้นมาร์คก็พยายามป้อนไปที่ซอมบี้ กัดกัดที่อ่อนแอลง

ผลลัพธ์นั้นทําให้เขาต้องประหลาดใจเธอกินสิ่งที่มาร์คให้เธอและไม่ใช่เพียงเท่านั้นเธอกินมันทั้งหมดเธอสังเวบราวกับว่าวันพรุ่งนี้นั้นจะไม่มีอีกแล้วโอเดลินาและเหมยที่มองดูอยู่ต่างก็ตกใจเช่น กันส่วนแอ็บบีเกลเธอก็ได้กําลังมองดูอย่างสงบโดยที่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆออกมา

มาร์คคิดว่าต้องมีอะไรที่ผิดปกติแน่นอนที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้ติดเชื้อจะกินกันเองไม่เช่นนั้นพวกมันน่าจะเริ่มต่อสู้กันเองและนําไปสู่จุดจบของหายนะครั้งนี้ด้วยตัวของพวกมันเองนอกจากนี้ซอมบี้นักกัดที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเพียงแค่มองไปที่พวกเขาโดยไม่มีปฏิกิริยารุนแรงใดๆเธอเพียงแค่จ้องมองราวกับสัตว์ที่ว่านอนสอนง่าย

“มันแปลก”

มาร์คพูดออกมาในขณะที่มองไปที่ซอมบี้นักกัดที่ถูกมัดอยู่กับพื้น จากนั้นเขาก็ได้หยิบซากแขนขาและวางไว้ตรงหน้าเธอจากนั้นเธอก็เริ่มแทะเล็มแขนขาอย่างหิวกระหายเธอจัดการกินซากแขนขาจนเหลือแต่กระดูกภายในไม่กี่นาที่อย่างไรก็ตามเธอก็ได้นิ่งเฉยหลัง จากที่กินเสร็จ
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นห่างไกลจากสิ่งที่พวกเขาคิดแม้ว่าจะกินเนื้อเหล่านั้นจนหมดแล้วแทนที่จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแต่ซอมบี้นักกัดก็ยังคงทําตัวว่านอนสอน ง่าย

“นี่มันบ้าอะไรกัน?”

มาร์คยอมแพ้ เขายืนขึ้นและมองไปที่เหล่าเด็กสาว

“มีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติเธอคิดว่ายังไงฎ”

“ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะหัวหน้ามันได้กลายพันธุ์กลายโดยมีสัตว์เลี้ยงเชื่องเป็นตัวแปรหรือป่าว?”

โอเดลินาถามพร้อมกับเอานิ้วชี้ไว้ที่ คางของเธอ เหมยก็ได้พยักหน้ากับสิ่งที่โอเดลินากล่าว

“แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรที่ทําให้มันเป็นแบบนี้ล่ะ? นี่มันตรงกันข้ามกับนิสัยพฤติกรรมที่พวกซอมบี้ควรจะเป็นเลยนะมันไม่เหมือนว่าเราอยู่ในหนังสยองขวัญ”

มาร์คหันไปหาซอมบี้นักกัดที่อยู่บนพื้นและสัมผัสไปที่ศรีษะของเธอซอมบี้นักกัดแค่มองไปที่เขาและไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดแสดงออกมาจากนั้นเขาก็พยายามถ่ายทอดพลังทางจิตของเขาเหมือนกับที่เฟร็ดทํากับโอเดลินาเพื่อช่วยเธอเขาไม่แน่ใจจริงๆว่าจะได้ผลหรือไม่เพราะเขายังไม่สามารถควบคุม ความสามารถของเขาได้แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลองเพื่อเป็นการทดลอง

เหมือนกับซอมบี้ตัวอื่นๆ มาร์คไม่สามารถรู้สึกถึงภายในจิตใจหรือความฝันแปรทางอารมณ์ของซอมบี้นักกัดได้ซึ่งเขามั่นใจว่ายังไงเธอก็ยังเป็นซอมบี้ทั่วไปแต่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ?

กระแสพลังงานได้เข้าไปยังศรีษะของซอมบี้นักกัดสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมานั้นคือสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ซอมบี้นักกัดนั้นปิดตาทั้งสองข้างของเธอและหยุดเคลื่อนไหวมาร์คนั้นก็ได้แต่งนงงมันตายงั้นหรอ?

จากนั้นมาร์คก็จับซอมบี้นักกัดนอนราบลงไปและตรวจชีพจรหัวใจของเธอ มันกําลังเต้นอยู่และแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำและจากนั้นเขาก็พบว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอกําลังหลับ!

มาร์คได้หันไปหาเหมยและโอเดลินาที่กําลังจ้องมองเขาอยู่

“พวกเธอสองคนมีอะไรรึป่าว?”
“พี่คะ พี่ไปจับที่….”

“เจ้านายคะ หรือว่าเจ้านายมีชอบเครื่อ งชุดชั้นในเพศตรงข้าม…?”

ทั้งสองคนนั้นได้รับสายตาที่จ้องเขม็งจากมาร์คก็ได้ตัวแข็งที่อไป
“เธอสองคนช่วยไปชําระล้างจิตใจนิดนึงได้มั้ย? ฉันแค่ตรวจเช็คการเต้นชีพจรของเธอและไม่ได้ทําอะไรอย่างอื่น”

“แต่เจ้านายคะ คุณสามารถตรวจสอ บอัตราการเต้นของหัวใจหรือลมหายใจของเธอก็ได้นะ

“เธอพูดอะไรน่ะ? ฉันอาจจะรู้หลายเรื่องนะแต่ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจน่ะยากกว่าตรวจการเต้นของหัวใจแล้วก็ลมหายใจของเธอทําไมเธอไม่ลองเสี่ยงทําดูล่ะถ้าหากอยู่ดีๆเธอกัดฉันในขณะที่ฉันตรวจสอบอยู่ล่ะ?”

โอเดลินาก็ได้แต่เงียบไป

“แล้วก็อีกอย่างทําไมฉันจะต้องทําแบบนั้นกับผู้หญิงที่ติดเชื้อนี้ด้วยในเมื่อมีสาวสวยคอยตามฉันอยู่ตลอด?”

มาร์คมองไปที่เหมยทําให้เธอหัวใจเต้นเร็วขึ้นและหน้าแดงก่ําขึ้นมา

“ถ้าเธอสองคนยังมีความคิดที่สกปรกอยู่ก็อย่ามาคิดกับฉันแบบนั้นเข้าใจมั้ย? ยกเว้นว่าเธอสองคนอยากทําให้ฉันโมโห

จากนั้นมาร์คก็ยืนขึ้นเขาตัดสินใจทิ้งซอมบี้ตัวนี้เอาไว้ก่อนมันแปลกแต่มันก็จุดประกายความเป็นเกมเมอร์ของเขาขึ้นมาเขารู้สึกเหมือนได้รับตัวละครที่หายากในการจับฉลากเพื่อรับการ์ดตัวละ ครฟรี

นอกจากนี้ยังมีเรื่องด่วนอื่นๆที่เขาต้องจัดการหนึ่งในนั้นคือการหายานพาหนะในเมื่อเขาไม่สามารถพึ่งพาศูนย์อพยพในการส่งตัวเหมยและแอ็บบเกลได้อีกต่อไปเขาอาจจะพาพวกเธอไปด้วยโอเดลินายังสามารถทําหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ของพวกเขาได้เนื่องจากเธอก็ ยังคงเป็นมนุษย์กลายพันธุ์และด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องการยานพาหนะที่ดีเพื่อเอาไว้ใช้

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

Status: Ongoing
เรื่องย่อ เป็นเช้าอีกวันที่คล้ายจะปกติธรรมดาเหมือนในทุกๆวัน แต่ใครจะรู้ล่ะ วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ จุดกำเนิดเริ่มต้นของหายนะนั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หารู้ไม่ เชื้อหายนะนั้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดจักรวาลแห่งนี้ แต่นั่นก็แค่เกิดขึ้นบริเวณนอกบรรยากาศของโลกเพียงเท่านั้นเอง ผู้คนและสัตว์ต่างๆกลับฆ่าฟันและกินกันเอง จากนั้นค่อยๆกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่ใครๆต่างก็รู้จักชื่อนี้ดี ‘ซอมบี้’ ในขณะที่บางคนนั้นโชคดีได้รับพลังและทักษะความสามารถที่จะต่อสู้กับมัน ทุกๆชีวิตในตอนนี้ที่ไม่ได้ ‘กลายร่าง’ ก็เริ่มพัฒนาหาวิธีทำลายล้างและหยุดเรื่องราวทั้งหมดนี้ในขณะที่โลกทั้งใบนี้กำลังติดเชื้อโดยสารก่อการกลายพันธุ์บางอย่าง มาร์ค ชายผู้เป็นโอตาคุ เกมเมอร์ และไม่ชอบออกไปสู่โลกภายนอก กลับติดแหงกอยู่ใจกลางแห่งความหายนะซึ่งดูเหนือธรรมชาติ การใช้ความคิด ความรู้ และความสามารถที่ไม่เหมือนใครและไม่เป็นไปตามแบบแผนของสังคมของเขานั้น จะทำให้เขามีชีวิตรอดไปอีกนานแค่ไหนกับหายนะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดซอมบี้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ และผู้คนชั่วร้ายสารเลวในฐานะผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในประเทศบ้านเมืองที่มีประชากรล้นเหลือแบบนี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset