มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) – ตอนที่ 68 : การค้นหายานพาหนะเหมือนเจอพายที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

นิยาย มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) ตอนที่ 68 : การค้นหายานพาหนะเหมือนเจอพายที่ตกลงมา…

ตอนที่ 68 : การค้นหายานพาหนะเห มือนเจอพายที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

วันที่ 1 – เวลา 07.02 นาฬิกา – ห้าง สรรพสินค้าบาคัวร์, ชั้นสาม, ทางห้องบันไดฝั่งตะวันตก

โมาร์คและคนที่เหลือในกลุ่มของเขาถูกนําโดยโอเดลินาในครั้งนี้เมื่อพวกเขาได้ลงไปยังลานจอดรถใต้ดิน ในขณะที่มาร์คก็ได้ถูกอธิบายสรุปข้อมูลจากเธอ และเหมยเกี่ยวกับข้อมูลที่พวกเขารับรู้มาจากกองทัพทหาร

หลังจากที่ปล่อนเรื่องพฤติกรรมแปลกประหลาดของซอมบี้นักกัดเอาไว้ทีหลัง เขาก็ได้บอกเหล่าสาวๆถึงสิ่งที่จําเป็นต้องทําและการตัดสินใจของมาร์คที่จะพาเหมยไปกับเขาและจะไม่ปล่อยเธอไว้กับกองทัพทหารอีกต่อไป

ในช่วงเวลาที่พี่ชายของแองเจโพล่ง สิ่งเหล่านั้นออกมาทั้งหมดเขาก็ได้รับข้อมูลสําคัญบางอย่าง ครอบครัวของเหมยมีสถานะสูงในเขตอพยพ หากเป็นเช่นนั้นก็ยากที่จะให้เหมยอยู่ที่นั่นอย่างสงบสุข
ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นและความสามารถของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน พร้อมกับแอ็บบีเกลและการเพิ่มสมาชิกใหม่ โอเดลินา นักกลายพันธุ์เหล่านี้ที่ถูกเรียกชื่อนี้โดยพวกทหารยังสามารถช่วยปกป้องเหมยและลูกๆของโอเดลินาได้ เนื่องจากโอเดลินากําลังติดตามเขาในฐานะคนรับใช้ของเขา แน่นอนว่าลูก ๆ ของเธอก็จะมาด้วยเช่นกัน

มาร์คแค่ภาวนาให้ลูกของเธอนั้นมีมารยาทที่ดีเหมือนกับแอ็บบีเกล เขาไม่ต้องการเพิ่มความปวดหัวเข้าไปอีกในขณะที่ได้ออกเดินทาง ทั้งหมดทั้งมวลในเรื่อง ราวเกี่ยวกับซอมบี้นั้นพวกเด็กๆเป็นสาเหตุที่ทําให้ชีวิตของคนในกลุ่มนั้นตกอยู่ในภัยอันตรายมากที่สุด

ในเมื่อกลุ่มได้ใหญ่ขึ้น ทุกๆคนต่างก็การหายานพาหนะเป็นสิ่งที่ต้องทํา ไม่ใช่เพียงเพราะพวกเขาแต่สําหรับคนที่มาร์คต้องการที่จะหาด้วย

แต่ก็โชคดีที่โอเดลินาบอกว่าเธอเห็นยานพาหนะที่เหมาะสมเพื่อใช้งานสําหรับพวกเขาที่จอดรถชั้นใต้ดิน

ขณะที่พวกเขาเดินลัดเลาะไปตามห้างสรรพสินค้าพวกเขาสามารถมองเห็น ทหารเดินไปมาอย่างพลุกพล่านขณะปฏิบัติหน้าที่ คนที่แข็งแกร่งกว่าในผู้รอดชีวิตก็อาสาที่จะทําอย่างอื่นที่พวกเขานั้นพอทําได้

อย่างไรก็ตาม มาร์คก็สังเกตุเห็นทหารบางกลุ่มชําเลืองมาทางเขาตลอดเวลา ไม่ใช่ว่ามาร์คนั้นสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายใดๆจากพวกเขา แต่เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะรบกวนเขาซึ่งเป็นคนที่เกลียดการเป็นที่สนใจจากคนแปลกหน้า

เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณส่วนกลางของที่จอดรถชั้นใต้ดินพวกเขาเห็นทหารที่กําลังยุ่งอยู่กับการซ่อมรถของพวกเขา พวกเขาได้เพิกเฉยกับกลุ่มทหาร โอเดลินาก็นํากลุ่มผ่านพวกเขาไป

พวกเขาก็มาถึงปีกฝั่งตะวันออกซึ่งเป็น ที่ที่พวกเขาเจอผู้รอดชีวิตกําลังได้รับอา หารสําหรับมื้อเช้าอยู่ แต่ละคนได้รับข้าว ต้มหนึ่งชามพร้อมเนื้อสัตว์ผักและไข่ต้ม เห็นได้ชัดว่ากองทหารตัดสินใจที่จะรักษาอาหารให้ได้มากที่สุดและปรุงอาหารที่ใกล้หมดอายุเร็วที่สุดให้แก่ผู้รอดชีวิต

เมื่อเห็นผู้รอดชีวิตกินโจ๊ก ท้องของ แอ็บบีเกลและเหมยกคํารามออกมา พวกเธอนั้นยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย มาร์คซึ่งเป็นคนที่ไม่กินอาหารเช้า เพราะเขามักจะตื่นตอนใกล้เที่ยงทุกวันก็รู้สึกหิวเช่นกัน โอเดลินาก็เช่นกัน

และโอเดลินาที่ซึ่งประกาศตัวเป็นคน รับใช้ของมาร์คก็เดินเข้าไปหาเหล่า ทหารและขอข้าวต้มโจ๊ก และใส่ถ้วยหลายๆใบไปให้กลุ่มของเธอ มาร์คไม่จําเป็นต้องบอกให้เธอทําด้วยซ้ําแต่เธอก็ทําให้แล้ว อะไรจะมีประสิทธิภาพขนาดนี้นะ

ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆก็มองมายังกลุ่มของ พวกเขาในขณะที่พวกเขานั้นหยิบชาม ข้าวไป มาร์คค่อนข้างรําคาญสายตาของพวกเขาแต่ก็ตัดสินใจที่จะเพิกเฉยไป กลุ่มของมาร์คยังถือว่าเป็นผู้รอดชีวิตที่นี่ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิ์ได้รับการปันส่วนอาหาร มาร์คก็ได้สังเกตชายที่จ้องมองพวกเขาไม่ใช่เพราะชามข้าวที่พวกเขาได้รับ แต่เป็นเพราะเด็กสาวที่อยู่กับเขา

พวกเขาถือถ้วยโต๊ะของตัวเอง โอเดลินาก็ได้นําพวกเขาไปทางทิศตะวันออก ของที่จอดรถชั้นใต้ดิน ที่นั่นพวกเขาก็เห็นยานพาหนะที่โอเดลินาต้องการให้พวกเขามาดู

“รถคันนี้แหละ”

โอเดลินาชี้ไปที่ยานพาหนะ

มันคือยานพาหนะขนาดใหญ่ มันเหมือนรถตู้แต่มาร์คมั่นใจว่าไม่ใช่ เขารู้จักรถแบบนี้ดีและก็ต้องประหลาดใจที่หามันเจอได้ในนี้

“รถแวนระดับพรีเมี่ยม MB Sprinterงั้นหรอ? ทําไมของแบบนี้ถึงมาอยู่ที่นี่นะ? นี่ยังไม่ได้พูดถึงว่ามันคือโมเดลรถหุ้มเกราะเลยนะ”

มาร์คพูดออกมาด้วยความสับสน

“งั้นเจ้านายก็รู้จักรถยี่ห้อนี้งั้นหรอ?”

“ฉันรู้ จริงๆแล้วในตอนแรกฉันก็เห็น คันนี้เหมือนกัน ฉันแปลกใจตรงที่เธอก็ดูเหมือนรู้ว่ารู้จักรถคนนี้เช่นกัน”

“สามีของฉันทํางานเกี่ยวกับธุรกิจรถหรูๆน่ะ เพราะอย่างนั้นเราจัดการคุยกับ ลูกค้ารถชนิดแบบนี้อยู่ตลอดเวลา”

เมื่อได้ยินเหตุผลของเธอมาร์คก็พยัก หน้า มันเป็นเหตุผลที่ถูกต้องจริง ๆ เนื่องจากรถประเภทนี้ไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประชาชนทั่วไปแม้แต่เขาเองด้วย เขาก็บังเอิญพบภาพของรถคันนี้ในอินเทอร์เน็ตขณะที่เขากําลังดูบทความออนไลน์

“ยานพาหนะคันนี้มีดีมั้ยคะพี่?”

“เนื่องจากเป็นรุ่นหุ้มเกราะจึงใช้งานได้ดี แต่ฉันคิดว่าเราจําเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นอีกหน่อยถ้าจะใช้อัน
“ถึงยังไงพวกเราก็ยังติดปัญหาอยู่ดี เราจะเปิดรถและขับมันออกไปได้ยังไง? ฉันไม่รู้มากเกี่ยวกับการเดินสายไฟและฉันสงสัยว่าเราสามารถสตาร์ทรถคันนี้ ผ่านทางนั้นได้”

“เจ้านายคะ ลองคิดดูทีหลัง เราควรกินก่อนที่อาหารมันจะเย็น”
มาร์คตัดสินใจที่จะทําตามคําแนะนําของโอเดลินา พวกเขานั่งอยู่ข้างทาง เดินรถข้างๆรถ MB Sprinter และเริ่มทานอาหาร
“มันอร่อยนะว่ามั้ย?”

โอเดลินากล่าวหลังจากกลืนโจ๊กหนึ่งช้อนเต็ม และคนที่เหลือทําได้เพียงพยักหน้ายกเว้นแอ็บบีเกล ในขณะที่เธอหมกมุ่นอยู่กับการทานโจ๊กด้วยสีหน้าที่ยุ่งเหยิง

“พวกทหารเขาไม่ได้ปรุงรสอย่างลวกๆหรอก ฉันคิดว่ามันสมเหตุสมผล พวกเขาไม่สามารถนําทุกอย่างมาได้ ดังนั้นมันดีที่สุดแล้วที่จะใช้อะไรก็ได้ที่สามารถนํามาใช้ได้”

มาร์คพูดขณะที่พยายามหาผ้าเช็ด หน้าแต่ก็ไม่พบ จากนั้นเขาก็เห็นมือของที่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เขา มันคือมือของโอเดลินา มาร์คหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากเธอและเช็ดไปที่ใบหน้าของแอ็บบีเกล

พวกเขายังคงทานอาหารของพวกเขา พร้อมกับคุยสัพเพเหระไปด้วย โอเดลินาก็ได้ไปเติมโจ๊กอีกถ้วยในขณะที่แอ็บบเกลก็ต้องการทานอย่างอื่นเพิ่ม

ในขณะที่พวกเขากําลังคุยกันอยู่ แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็เข้ามาหาพวกเขา บุคคลที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขานั้นน่าประหลาดใจยิ่งกว่าการถูกโจมตีโดยเชื้อชนิดใหม่เสียอีก

คนที่เดินเข้ามาหาพวกเขานั้นคือบอดี้การ์ดของชายอ้วนเมื่อวานนี้

ออร่าอันหดหูจากเขาจากเมื่อวานไม่ได้ลดลงแม้แต่นิดเดียว เมื่อเขามาถึง เขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ดูเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ชายร่างท้วมที่โตเต็มวัยในชุดสูททําตัวเหมือนเด็กผู้หญิงวัยมัธยมปลายที่ไม่รู้จะคุยกับคนที่เธอชอบยังไง

ดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะแสดงความเจ็บปวดออกมา ดังนั้นมาร์คจึงตัดสินใจยื่นมือไปช่วยเขาก่อน

“นายต้องการอะไรจากพวกเรารึป่าว?”

เมื่อชายคนนั้นได้ยินคําถามของเขาในที่สุดเขาก็คลายความกังวลและตอบไป

“ฉันได้ยินว่านายจะไม่มากับพวกเราที่ศูนย์อพยพจากพวกพนักงานและพวกทหารที่อยู่ที่ชั้นสาม ฉันเดาว่าพวกนายจะต้องการยานพาหนะเพื่อไปใช้

“นายมีรถงั้นหรอ?”

“ไม่ใช่ของฉันหรอกแต่เป็นของเจ้า นายฉัน”

“แล้วคันไหนล่ะ?”

“นั่นไง”

ชายคนนั้นชี้ไปที่รถ Mb Sprinter ที่อยู่ข้างกลุ่มของมาร์ค

มันก็พอดูมีเหตุมีผลที่ทําไมรถชนิดนี้ ถึงมาจอดอยู่ที่นี่

ด้วยทัศนคติที่สําคัญทั้งหมดของชาย อ้วนคนนั้นรวมถึงวิธีการสวมใส่เสื้อผ้าที่ ฉูดฉาดมีราคา และการมีผู้คุ้มกันติดอาวุธอยู่กับเขา จึงไม่น่าแปลกใจหากเขาเป็นเจ้าของยานพาหนะเช่นนี้

ชายคนนั้นนํากุญแจออกมาหลายดอก จากกระเป๋าและโยนไปให้กับมาร์ค

“ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะพูดดังนั้นฉันขอตัวไปล่ะ”

ชายคนนั้นหันและเดินออกไปโดยไม่รอคําตอบกลับใดๆ

มาร์คและกลุ่มของเขามองไปที่แผ่นหลังเศร้าๆของชายคนนั้น จนกระทั่งเขาพ้นสายตาออกไป

“พี่คะ ทําไมเขาถึงให้กุญกับพวกเรา”

“การชดใช้น่ะ ชายคนนั้นพยายามชุดใช้บาปของตัวเอง ดูเหมือนว่าเขานั้น เป็นคนดีนะแต่เขารับใช้เจ้านายผิดคน”

มาร์คใช้ความสามารถของเขาเพื่อให้ แน่ใจว่าไม่มีกับดักเมื่อชายคนนั้นกําลัง คุยกับเขา โชคดีที่ดูแล้วไม่มีวี่แววนั้น ชายคนนี้กําลังชดใช้สิ่งที่เขาทําตามคําสั่งของเจ้านายของเขา

“ชดใช้เพื่ออะไรคะ?”

ในฐานะที่เป็นสมาชิกใหม่ โอเดลินานั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานตอนเช้า มาร์คไม่ได้หวงข้อมูลพวกนั้นและบอกเรื่องราวให้เธอรับรู้ในขณะที่พวกเขาทานอาหารมื้อที่เหลือไปด้วย
“ตอนนี้ปัญหาของเราก็ถูกแก้ไขไปแล้ว เราจําเป็นต้องปรับแต่งชิ้นส่วนบางส่วนเพื่อเป็นเกราะป้องกันให้กับมัน โดยเฉพาะกับล้อรถ
มาร์ครู้สึกมีความสุขสําหรับพายชิ้นดีที่หล่นมาอยู่ที่มือของเขาจากที่ไหนไม่รู้ ด้วยสิ่งนี้ ปัญหามากมายที่อยู่ในใจเขาก็ได้รับคําตอบ

“โอเดลินา ฉันให้เธอไปขอให้ลุงเบอร์นาร์ดนําเครื่องมือไฟฟ้าและแผ่นโลหะมาที่นี่ได้ไหม ที่จริงฉันรู้ว่าเธอทําเรื่องพวกนั้นได้ด้วยตัวเอง แต่ทําตามสิ่งที่เฟร็ดบอกเราจะซ่อนความจริงกับพวกทหารที่ว่าเธอเป็นมนุษย์กลายพันธุ์

มาร์คมองไปที่โอเดลินาพร้อมกับพยัก หน้าหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาบอก จากนั้น มาร์คก็พูดต่อ

“ฉันจะไปตรวจสอบยานพาหนะก่อนว่ามีอะไรบ้างอยู่ข้างใน

ด้วยเหตุนี้โอเดลินาจึงเก็บชามและจากไป จากนั้นมาร์คก็เห็นเธอได้รับโจ๊กอีกสองชามก่อนที่เธอจะปฏิบัติหน้าที่

ต่อไป มั่นท่าให้มาร์คยม อย่างน้อยเธอก็ไม่ลืมลูกเพื่อทําตามคําสั่งของเขาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า

มาร์คมองกุญแจในมือ เขาควงกุญแจ และใช้รีโมทที่ยึดกับกุญแจเปิดรถที่ไม่คุ้นเคยได้สําเร็จ

สิ่งที่พวกเขาเห็นภายในก็ยังทําให้เด็ก สาวผู้ร่ํารวยอย่างเหมยต้องอึ้งทึ่ง ทํา ไมมันช่างหรูหราขนาดนี้นะ!

ที่นั่งสบายอุปกรณ์ไฮเทคพื้นที่กว้าง และสิ่งสําคัญอื่นๆยิ่งไปกว่านั้น สีที่ใช้ภายในและภายนอกรถเป็นสีดํา ซึ่งทําให้มาร์คนั้นชอบรถคันนี้มากกว่าเดิม

จากนั้นมาร์คมองไปที่ด้านข้าง เขาเห็นแอ็บบีเกลที่กําลังเล่นอยู่บนเก้าอี้เบาะนุ่มๆ เขาเข้าไปในรถ และเริ่มตรวจสอบทุกอย่างและทําความคุ้นเคยกับยานพาหนะคันนี้

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

Status: Ongoing
เรื่องย่อ เป็นเช้าอีกวันที่คล้ายจะปกติธรรมดาเหมือนในทุกๆวัน แต่ใครจะรู้ล่ะ วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ จุดกำเนิดเริ่มต้นของหายนะนั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หารู้ไม่ เชื้อหายนะนั้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดจักรวาลแห่งนี้ แต่นั่นก็แค่เกิดขึ้นบริเวณนอกบรรยากาศของโลกเพียงเท่านั้นเอง ผู้คนและสัตว์ต่างๆกลับฆ่าฟันและกินกันเอง จากนั้นค่อยๆกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่ใครๆต่างก็รู้จักชื่อนี้ดี ‘ซอมบี้’ ในขณะที่บางคนนั้นโชคดีได้รับพลังและทักษะความสามารถที่จะต่อสู้กับมัน ทุกๆชีวิตในตอนนี้ที่ไม่ได้ ‘กลายร่าง’ ก็เริ่มพัฒนาหาวิธีทำลายล้างและหยุดเรื่องราวทั้งหมดนี้ในขณะที่โลกทั้งใบนี้กำลังติดเชื้อโดยสารก่อการกลายพันธุ์บางอย่าง มาร์ค ชายผู้เป็นโอตาคุ เกมเมอร์ และไม่ชอบออกไปสู่โลกภายนอก กลับติดแหงกอยู่ใจกลางแห่งความหายนะซึ่งดูเหนือธรรมชาติ การใช้ความคิด ความรู้ และความสามารถที่ไม่เหมือนใครและไม่เป็นไปตามแบบแผนของสังคมของเขานั้น จะทำให้เขามีชีวิตรอดไปอีกนานแค่ไหนกับหายนะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดซอมบี้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ และผู้คนชั่วร้ายสารเลวในฐานะผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในประเทศบ้านเมืองที่มีประชากรล้นเหลือแบบนี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset