แม้ซองอูจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็มีเวลาเหลือแค่ห้าวินาทีเท่านั้น
‘เดี๋ยวสิ! ก่อนหน้านี้มันบอกว่าต้องเลือกการ์ดที่ดีเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลายสินะ?’
ซองอูยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว เขาหยิบการ์ดที่มีดาวสูงที่สุด แม้จะไม่มีเหตุผลในการเลือก เขาก็รู้สึกว่าเขาจะต้องเลือกมันอยู่ดีถ้าต้องทำในตอนสุดท้าย
การ์ดที่เขาหยิบออกมานั้นดูแปลกตา มันมีพื้นหลังสีดำและเป็นภาพวาดของชายชุดขาวที่ถือเคียวยาว
<คุณเลือกการ์ดอาชีพ เนโครแมนเซอร์(5 ดาว)>
“…เนโครแมนเซอร์?”
เนโครแมนเซอร์คือจอมเวทที่ควบคุมโครงกระดูกหรือพวกซากศพในโลกแฟนตาซีไม่ใช่หรือ?
<หน้าต่างเลือกอาชีพแรกปิดแล้ว คนที่ล้มเหลวในการเลือก โปรดรอโอกาสถัดไป>
การเลือกการ์ดจบลงด้วยข้อความนี้และทุกข้อความได้หายไป
จากนั้นห้องบรรยายก็กลับมาสว่างอีกครั้ง ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้
ซึบ…
ผู้ชายข้างหน้าซองอูลองดึงดาบขึ้นจากโต๊ะเบา ๆ คมดาบส่องสะท้อนแสงแวววับ
“…”
ทั้งห้องบรรยายเงียบกริบ ทุกสายตาจ้องมองดาบของเขา มันตกมาจากไหนกัน?
“เมื่อกี๊มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
“รู้สึกเหมือนโดนอะไรสิงเลย แล้ว…ดาบนั่นมันบ้าอะไรกัน?”
“ดาบของจริงใช่ไหม? ให้ตายเถอะ! ชั้นกลัว…”
ห้องบรรยายเริ่มมีเสียงดังหลังจากเงียบได้ไม่นาน แม้แต่ศาสตราจารย์ก็มองออกไปนอกหน้าต่างเมื่อได้เจอกับปรากฏการณ์ปริศนา
ซองอูไม่สนใจใครอื่น เขายังคิดถึงข้อความลอยที่บอกว่า ‘ให้เข้ากับการอยู่รอดในโลกที่ล่มสลาย’ ข้อความนั้นยังถาโถมอยู่ในใจของเขา
“ดาบตกลงมาตอนที่เลือกการ์ดนักสู้…”
ชายด้านหน้าซองอูชูดาบขึ้น ซองอูมองเพดาน
‘บัดซบ! นี่เราเป็นเนโครแมนเซอร์จริง ๆ ใช่ไหม? ทำไมไม่มีอะไรออกมาเลยล่ะ?’
ทันใดนั้นเองประตูหลังห้องบรรยายก็เปิดออก มีบางอย่างเข้ามาพร้อมกับเสียงดังเอะอะ
ทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือด
“อ๊ากกก! อ๊าาาา! ออกไปให้พ้น!”
เลือดพุ่งออกมาจากคอของเขาและกระจายไปทั่วเสื้อเชิ้ต มีบางอย่างติดอยู่ที่หลังของเขา…
สัตว์ตัวเล็กผิวสีเขียวกำลังถืออาวุธอันตรายในมือขวาและดึงผมของเขาด้วยมือซ้าย
ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ!
มีดเล่มเล็กแทงแผ่นหลังและคอของชายคนนั้น เขาพยายามจะต่อต้านทุกวิถีทางแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเสียเลือดมากเกินไป
“โอ้พระเจ้า!”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
“อ๊ากก!”
ห้องบรรยายจมสู่ความยุ่งเหยิง นักศึกษาทุกคนเริ่มผลักโต๊ะแหวกทางหนีไปที่หน้าห้องบรรยายด้วยความสะพรึงกลัว
มันคือความโกลาหล
“อั้ก…”
ชายร่างเปื้อนเลือดล้มลง
ซองอูกลั้นหายใจและลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้า ๆ
“บัดซบ…”
เพราะเขานั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าประตูหลัง เขาจึงขยับตัวได้ยากเพราะรู้สึกว่าถ้าขยับตัวแล้วจะเป็นการดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์
มอนสเตอร์ตัวเขียวกู่ร้องบนร่างชายเปื้อนเลือด มันรีบหันหน้ากลอกตาสีเหลืองหาเหยื่อรายต่อไป
“อ๊าาา! ดาบ! เฮ้ย มินซู! ใช้ดาบสิ!”
“มินซู ทำอะไรซักอย่างทีเถอะ! ขอร้องล่ะ!”
พวกเขาเริ่มมองหามินซูผู้ถือดาบแต่เพียงผู้เดียวท่ามกลางความวุ่นวาย ทุกคนไปหลบหลังเขา ซองอูเองก็ยืนขึ้นมองเขาด้วยความกระวนกระวาย ซองอูในตอนนี้คือคนที่ใกล้กับมอนสเตอร์ตัวเขียวมากที่สุด
“ชั้นจะไป…”
“นายมีดาบ!”
แต่ดูเหมือนว่ามินซูไม่มีความคิดที่จะท้าทายกับมอนสเตอร์แม้แต่นิดเดียว เขาถือดาบด้วยสองมือ แต่มือทั้งสองของเขาสั่นแรง
“นี่มินซู จำชั้นได้ใช่ไหม?”
ซองอูเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ถึงทั้งสองจะไม่สนิทกัน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้จักกัน
“ให้ตายเถอะ! อยากจะให้ชั้นทำอะไร?”
“อ๊าาา…”
เขาตอบสนองอย่างคนบ้า ซองอูรู้ในทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งพาเขา
เพราะมอนสเตอร์หันมาหาซองอูแล้ว มันกำลังวิ่งเข้าใส่เขา
ซองอูอยากจะรีบหนีแต่สายเกินไป มอนสเตอร์ตัวเขียวหันปากและกระโจนมาทางเขา
“อ๊าห์!”
ซองอูร้องเสียงแหลม แต่เขาตัดสินใจสู้กับมอนสเตอร์แทนที่จะหนีเพราะคิดถึงชายที่ล้มลงไปเมื่อครู่ที่ถูกแทงจากข้างหลัง
‘หันหลังให้ไอ้มอนสเตอร์นี่มามากพอแล้ว!’
และการเลือกเผชิญหน้าของเขานั้นให้ผลอย่างดี
ปั้ง!
มอนสเตอร์ตัวน้อยที่น้ำหนักราว 15 กิโลกรัมถูกเตะล้มลงไป
มันยืนขึ้นด้วยท่าทางร้อนรนโดยใช้มือยันพื้นขึ้นมา แต่ซองอูก็ลงมือต่อไป
“ออกไปให้พ้น ไอ้สารเลว!”
เขากำลังจะยกเก้าอี้พร้อมกับตะโกน แต่เขาเจอปัญหาใหญ่แล้ว
“หา?”
เก้า่อี้ที่เขายกนั้นคือเก้าอี้สำเร็จรูปที่ออกแบบมาพร้อมกับโต๊ะ มันคือศัตรูหมายเลข 1 ของนักศึกษาและสิ่งประดิษฐ์ที่เลวร้ายที่สุด และมันยังหนักกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ซองอูที่จับเก้าอี้ยกมันขึ้นมาไม่ได้ในทีแรก
“อ๊ะ?”
มอนสเตอร์ไม่ทิ้งโอกาส มันก้มลงต่ำและยื่นมือที่ถือมีดออกมา มันไม่คิดจะถูกเตะเป็นครั้งที่สอง
“ให้ตายเถอะ!”
เขายกส่วนล่างของโต๊ะอย่างง่ายดายราวกับนักยกน้ำหนัก ในสถานการณ์ปกติอาจทำไม่ได้ แต่เขาแสดงพลังเหนือมนุษย์ออกมาได้ยามที่เผชิญกับความเป็นความตาย
จากนั้นเขาซัดโต๊ะเก้าอี้สำเร็จรูปใส่หัวของมันแทนที่จะทุ่มใส่มัน
มอนสเตอร์เข้าใกล้เขาพอดี มันยื่นมีดออกมาแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะน้ำหนักที่เหนือกว่ามันหลายเท่าของโต๊ะเก้าอี้สำเร็จรูป
สัตว์ประหลาดตัวเขียวแลบลิ้นออกมาพร้อมกับกะโหลกที่แตก แค่มองก็รู้ว่ามันตายคาที่
<คุณได้สิบทองจากการล้มกอบลิน>
“เฮ้อ…”
ซองอูถอนหายใจเฮือกสั้น ๆ เขาเดินถอยกลับหันไปมองเหล่าคนที่กำลังกลัวที่มองเขา
“กอบลิน? สิบทอง? ไม่มีทาง!”
มอนสเตอร์ตัวเขียวนั้นเหมือนกับ ‘กอบลิน’ ระดับต่ำที่มักจะปรากฏตัวในโลกแฟนตาซี ทองรึ? ถึงเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าโลกรอบตัวเขาได้เปลี่ยนไปราวกับเกมแฟนตาซี
ข้อความปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
<มอนสเตอร์ที่ตายได้กลายเป็นสมุนของคุณ>
รายการสมุน (1 ใน 3)
กอบลินโครงกระดูก (เลเวล 1)
*อาวุธ : มีด
*สายพันธุ์ : กอบลิน
*ลักษณะ : อันเดด
“…หา? สมุน?”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? แต่ใบหน้าของเหล่านักศึกษาที่รวมตัวกันหน้าห้องบรรยายเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความกลัว
“อ๊าาาย! ไม่นะ!”
“อ๊ะ? ข้างหลัง!”
ซองอูหันไปมองเหมือนกับพวกเขา
ครืด~
กอบลืนตัวหนึ่งยืนขึ้นหลังจากผลักโต๊ะเก้าอี้สำเร็จรูปไป พูดให้ชัดก็คือโครงกระดูกที่ผิวหนังกับลำไส้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
มันเดินอย่างเชื่องช้ามาหาซองอูและคุกเข่าต่อหน้าเขา
“หา?”
มันเป็นสถานการณ์อันยากลำบากสำหรับเขา ขมนึกย้อนกลับไปถึงอาชีพที่เขาเลือก
‘เนโครแมนเซอร์…’
เนโครแมนเซอร์ที่ควบคุมคนตาย และลูกน้องที่เขาชุบชีวิตขึ้นมาจะฟังคำสั่งเขาอย่างเป็นที่สุด
นี่คือเรื่องปกติที่มักจะเห็นในโลกแฟนตาซี
‘ไม่มีทางน่า!’
เคี๊ยก!
ในตอนนั้นเอง กอบลินอีกสองตัวได้เข้ามาทางประตูหลัง
“มันมาอีกแล้ว!”
“รอบนี้มันมาสองตัว!”
ขณะที่ในห้องบรรยายกำลังสับสนวุ่ยวายไปด้วยเสียงร้องของคน ซองอูมองโครงกระดูกสลับกับกอบลินสองตัว จากนั้นข้อความใหม่ได้ปรากฏขึ้นมา
<สมุนของคุณกำลังรอคำสั่ง>
ซองอูคิดจะสั่งให้ ‘สู้!’ แต่ก่อนที่เขาจะเปิดปาก โครงกระดูกก็เริ่มเดินไปทางกอบลินสองตัวแล้ว
กอบลินสองตัวลังเลเมื่อเห็นโครงกระดูกเพราะความคล้ายคลึงกันของพวกมัน…
แต่โครงกระดูกแทงหัวของมันทั้งสองตัวด้วยดาบ