มันทำให้ตอนนี้ซองอูอยากฆ่าบอสมอนสเตอร์ยิ่งกว่าเดิม
‘ทำไมเราต้องมาเจอกับเรื่องบัดซบแบบนี้ด้วย?’
ซองอูกำลังทำให้ตัวเองคุ้นชินกับความอันตรายและการหาทางรอด แต่ซองอูเองก็เริ่มตั้งคำถามถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
“ซองอู ดีแล้วใช่ไหมที่เราจะไปดาดฟ้า?”
เหล่าโครงกระดูกเดินขึ้นบันไดก่อนที่ซองอูจะตอบ ประตูชั้นบนเปิดออกในไม่นาน ซองอูเห็นข้อความ
<คุณได้เข้าสู่ห้องบอสมอนสเตอร์>
***
ซองอูไม่ได้ขึ้นดาดฟ้าอาคารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มานานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เคยมาคือตอนที่เขาขึ้นมาซ้อมเต้นเพราะหาสถานที่ดี ๆ ไม่ได้ก่อนงานแสดงความสามารถของเด็กปีหนึ่ง
“บัดซบ…”
ในตอนนี้ ที่นี่กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับ ‘ดันเจี้ยน’ ของพวกกอบลิน ฝูงกอบลินหนาแน่นตั้งค่ายพักด้วยเสื้อผ้าที่ถอดมาจากศพนักศึกษา จากตู้เก็บของ และทุกอย่างที่มันเก็บได้ในโถงทางเดิน
เคี๊ยก!
มันฉีกหนังสือเล่มหนาจุดไฟในถังขยะพลาสติก
“นั่นมัน…คนในห้องเรา…”
ลึกสุดของดาดฟ้ามีกอบลินกำลังถอดเสื้อผ้าออกมาจากศพคน กอบลินตัวหนึ่งวาดลายแปลก ๆ บนเสื้อสีขาวของผู้หญิงที่ตายแล้วด้วยสีแดง
“นั่นมันบ้าอะไรกัน…”
จีซูสบถเสียงเบา
ทั้งสามรวมถึงซองอูยืนนิ่งที่ทางเข้าดาดฟ้า
ไม่ว่าพวกเขาจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อันบ้าคลั่งเพียงใด พวกเขาก็มิอาจทำตามืดบอดกับสิ่งที่ได้เห็น ณ ตอนนี้
“…”
ซองอูรู้สึกกลัวขึ้นมา ทำไมเขาถึงกล้าขึ้นมาที่นี่ล่ะ? กลับกัน เขารู้สึกอีกอย่างในใจ อย่างแรกเขาต้องใจเย็นเพราะกำลังเจอกับสิ่งที่มิอาจควบคุมได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นบนดาดฟ้าทำให้เขาหัวเสีย ทำไมเขากับเพื่อน ๆ จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้? แต่ยิ่งเขาคิดเท่าใดหัวก็ยิ่งเย็นลงเท่านั้น เพราะเขารู้ว่าเขาอ่อนแอเมื่อเทียบกับพวกมัน
“…ฟู่วว!”
คนที่ตายตายไปเพราะอ่อนแอ ดังนั้น ซองอู ฮันโฮ และจีซูจำเป็นต้องแข็งแกร่ง
“ลุยเลย!”
ตอนนั้นเอง กอบลินที่เฉือนกางเกงยีนส์ด้วยมีดหันหน้ามาเห็นพวกเขา
เคี๊ยก เคี๊ยก!
เมื่อมันส่งเสียง กอบลินตัวอื่นบนดาดฟ้าหันไปมองมัน
เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก!
พวกมันมีอยู่ราว 20 ตัว
พวกมันทำหน้าดีใจและยิ้มแย้มเมื่อเห็นทั้งสามคน บางทีพวกมันอาจจะคิดว่าพวกมันมีจำนวนเหนือกว่าซองอูและอีกสองคน
“ซองอู ตอนนี้เราหนีกันได้ร…”
แต่ก่อนที่ฮันโฮจะพูดจบ เหล่าโครงกระดูกก็พุ่งไปข้างหน้า
‘ต้านมันเอาไว้’
โครงกระดูกทั้งสี่ตอบสนองต่อความคิดของซองอู พวกมันยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ขวางทางลงดาดฟ้า
ซองอูยกมือซ้ายขึ้นในขณะเดียวกัน เขาใช้ ‘ความบ้าคลั่งแห่งความป่าเถื่อน’ ในกำไลข้อมือสีแดงทันที
<ความบ้าคลั่งแห่งความป่าเถื่อนถูกใช้งาน! คุณจะได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้น (+10%) และความเร็วการโจมตีเพิ่มขึ้น (+20%) เป็นเวลา 10 นาที>
ดวงตากลวงโบ๋ของโครงกระดูกเปล่งแสง มือของมันมีพละกำลังเพิ่มขึ้น กอบลินพุ่งเข้าใส่โครงกระดูกราวกับหมาป่าหิวโหย
แต่โครงกระดูกยืนอย่างมั่นคงที่ทางลงดาดฟ้า พวกมันรับการโจมตีด้วยแขนหนึ่งข้างและใช้มีดแทงออกไปด้วยมืออีกข้าง
‘พวกมันโจมตีเร็วมาก’
ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ!
เมื่อกอบลินบุกเข้ามา โครงกระดูกต่อสู้กลับด้วยกำลังที่มากกว่าเป็นสองเท่า ซองอูเห็นพลังที่ปลายมีดอย่างชัดเจน มันช่วยให้โครงกระดูกฟันผ่านมีดของกอบลินไปยังกระดูกมือที่จับมีด กอบลีนที่โดนฟันนั้นตายในพริบตา
กอบลินสี่ตัวแรกที่เป็นแนวหน้าตายในสามวินาที
“คิดว่าโครงกระดูกพวกนี้เป็นคนคุ้มกันเรา!”
ซองอูตะโกนและแกว่งหอกเหนือหัวของโครงกระดูก
เหล่าโครงกระดูกที่สูงราว 120 เซนติเมตรนั้นทำหน้าที่คุ้มกันพวกเขาจากด้านล่างได้เป็นอย่างดี ซองอูใช้หอกโจมตีกอบลินได้อย่างปลอดภัยเพราะหอกอยู่นอกระยะการโจมตีของมีด
จีซูที่ตัวสูงยื่นดาบเหนือโครงกระดูกแทงออกไป แต่ฮันโฮที่ถือมีดนั้นได้แต่ยืนนิ่ง
“ให้ตายเถอะ! คิดว่าเลือกอาชีพดี ๆ มาแล้วเชียว แต่มันก็แค่อาชีพไร้ประโยชน์!”
ฮันโฮถือมีดสองเล่ม แต่มันไร้ประโยชน์
“เอาไปกิน!”
ฮันโฮที่ไม่รู้จะทำอะไรปามีดหนึ่งเล่มใส่กอบลิน
ฉั่วะ!
“หา?”
มีดปักกลางหน้าผากกอบลินที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มันล้มลงในทันที
“โดนแล้ว! ชั้นทำดีใช่ไหมล่ะ?”
ในสมัยประถม ‘เกมขว้างตะเกียบ’ นั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียน เป้าหมายคือกำแพงนอกโรงเรียน แต่พวกเขาก็ถูกผู้อำนวยการจับได้และถูกอบรมวินัยอย่างเจ็บแสบ ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ไม่ได้เล่นเกมขว้างตะเกียบอีกเลย ในอดีตครั้งนั้น ฮันโฮคือคนที่เล่นเกมนี้ได้เก่งที่สุด
เมื่อมั่นใจแล้ว ฮันโฮใช้มีดอีกเล่มขว้างไปยังกอบลินอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้มันปักเข้าที่หน้าผากกอบลินตัวที่อยู่ไกลอย่างแม่นยำ สำหรับเขามันง่ายมากในการฆ่ากอบลินสองตัว
“ชั้นเจอพรสวรรค์ของตัวเองแล้ว!”
เมื่อทั้งสามเริ่มต่อสู้กับกอบลินแนวหน้าได้ดี กอบลินตัวข้างหลังเริ่มลังเล กำลังใจของพวกมันกำลังหดหาย
เคี๊ยก…เคี๊ยก…
<กอบลินอ่อนแอลงหลังจากได้กลิ่น ‘กลิ่นมรณะ’(ขั้นแรก)! สเตตัสลดลง 30%>
สุดท้าย ‘กลิ่นมรณะ’ ก็ทำงาน ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีผลเมื่ออีกฝ่ายคิดจะต่อสู้ แต่เมื่อซองอูเริ่มได้เปรียบเมื่อใด กลิ่นมรณะจะแสดงเอฟเฟคออกมา
พรึ่บ พรึ่บ!
ตอนนี้ซองอูกับพรรคพวกหลบไปหากอบลินตรง ๆ โดยไม่มีโครงกระดูกนำหน้า จากนั้นโครงกระดูกที่ต่อสู้อยู่ตำแหน่งเดียวก็เริ่มขยับขา พวกมันเดินไปข้างหน้าและโจมตีต่อไป
เคี๊ยก! เคี๊ยก!
ฝูงกอบลินเริ่มล่าถอยเมื่อเห็นหน้ากระดานที่โถมเข้าใกล้ พวกมันกระจัดกระจายไปทั่วดาดฟ้า หรือก็คือพวกมันพ่ายแพ้แล้ว
แต่เงาหลังฉากกั้นได้เคลื่อนไหว มีบางอย่างกำลังเดินก้าวยาว ๆ ออกมา
เคี๊ยก! เคี๊ยก!
การต่อสู้พลิกกลับอีกครั้ง ฝูงกอบลินที่ถอยหนีด้วยความกลัวตะโกนร้องดีใจและโค้งคำนับให้สิ่งที่เดินออกมา
มันเองก็เป็นกอบลินแต่ได้รับความนับถือจากกอบลินตัวอื่น มันคือกอบลินตัวใหญ่ที่แตกต่างจากตัวอื่น
กอบลินตัวนี้สูงราว 170 เซนติเมตร มันสวมเสื้อเบสบอลที่มีสัญลักษณ์ของคณะการโรงแรมที่อกขวา ร่างกำยำของมันเผยให้เห็นผ่านซิบที่รูดออก
“นั่นสินะบอส…ฟู่ว”
ฮันโฮกล่าว
ฮันโฮพักหายใจและยกมีดขึ้น
บอสกอบลินถือท่อนไม้ใหญ่ร้องคำรามเสียงดัง กอบลินตัวอื่นที่หวาดกลัวเมื่อครู่ก่อนกลับมาในตำแหน่งต่อสู้ตามเดิม ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยจิตสังหาร
เคี๊ยก!
เมื่อไม่มี ‘กลิ่นมรณะ’ เหล่ากอบลินกลับมามีพลังอีกครั้ง
“ฆ่ามันให้หมด!”
โครงกระดูกทุกตัวจู่โจมเมื่อซองอูสั่ง พวกกอบลินนั้นสู้โครงกระดูกไม่ได้
ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ!
กอบลินหลายตัวที่เหลือล้มลงในทันทีที่ปะทะกับโครงกระดูก ซองอูรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพวกมันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง
คว้าง!
กะโหลกถูกขว้างออกมา
“ถอยมา!”
ซองอูตะโกน
แต่มันสายไปแล้ว
แม้ว่าจะเป็นการขว้างกะโหลกธรรมดา โครงกระดูกที่งุนงงก็แหลกเป็นชิ้น ๆ ร่างโครงกระดูกไม่มีทางรับการขว้างกะโหลกไหว
<มอนสเตอร์ที่ตายได้กลายเป็นสมุนของคุณ>
<มอนสเตอร์ที่ตายได้กลายเป็นสมุนของคุณ>