ตอนที่128 เจอไวรัส
หลังจากปลีกตัวออกจากหลินชูวโม่มาได้ ฉีเล่ยก็เดินทางกลับไปยังบ้านตระกูลหลี่โดยอาศัยแท็กซี่ ตอนนี้ก็เป็นเวลาสองทุ่มพอดี
หลี่ฮั่วเฉินที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ในห้องนั่งเล่นนั้น เมื่อเห็นฉีเล่ยเดินเข้ามาในบ้านก็รีบวิ่งไปออกไปรับทันที
“ฉีเล่ย ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว! นี่ถ้าเธอกลับช้ากว่านี้ ฉันคงจะโทรไปแจ้งตำรวจแล้วล่ะ”
“โทรเข้ามือถือผมไม่ได้เหรอครับ?”
ฉีเล่ยหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ถึงได้รู้ว่าโทรศัพท์มือถือของตัวเองปิดอยู่
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าอันวิตกกังวลของหลี่ฮั่วเฉิน ฉีเล่ยก็เอ่ยถามขึ้นว่า
“อาวุโสหลี่ เกิดอะไรขึ้นครับ?”
หลี่ฮั่วเฉินรีบพาฉีเล่ยมานั่งคุยกันบนโซฟา เขารินชาให้ตัวเองก่อนจะรินให้อีกฝ่าย ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ทีหนึ่ง แล้วจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนว่า
“ตาแก่หลินโทรมาหาฉันวันนี้ แต่ฉันไม่ได้สนใจเขาเลย เพราะงานในโรงพยาบาลมันค่อนข้างยุ่งมาก กว่าจะนึกได้อีกทีก็เย็นแล้ว แต่พอโทรกลับไปถามว่ามีอะไร ตาแก่ก็บอกว่าเธอโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย นี่เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ ผมโดนไล่ออก”
ฉีเล่ยหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบพลางหัวเราะเสียงขื่น
หลี่ฮั่วเฉินร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาโกรธเกรี้ยว
“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน? คนพวกนั้นเอาแต่สนใจเรื่องของตัวเอง ดีดพิณเล่นแง่กันอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยอื่นต่างก็กระหายอยากจะได้อาจารย์ที่มีความสามารถไปสอน แต่ที่นี่กลับผลักไสคนเก่งๆออกไปหน้าตาเฉย ฉันไม่ได้พูดเข้าข้างเธอเลยนะฉีเล่ย เธอเป็นคนที่มีความสามารถด้านการแพทย์ที่น่าทึ่งมาก เธอมีคุณสมบัติมากพอที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าภาควิชาแพทย์แผนจีนได้ด้วยซ้ำไป! แต่กลับมาถูกไล่ออกได้ยังไงกัน!”
ฉีเล่ยหัวเราะตอบไปว่า
“อาวุโสหลี่ ถ้าผมขึ้นเป็นหัวหน้าภาคสาขาจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะโดนข้อครหาหนักกว่าเดิมเหรอครับ?”
“….”
หลี่ฮั่วเฉินนิ่งอึ้งถึงขนาดพูดไม่ออกไปชั่วชณะ เขาได้แต่ถอนหายใจเสียงดังทิ้งท้ายก่อนจะนิ่งเงียบไปเฉยๆ
ไม่ว่าฉีเล่ยจะไปทำงานที่ไหน หรือว่าจะดำรงตำแหน่งอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีวุฒิการศึกษา
ก็งเพราะแบบนี้ยังไงล่ะ ถึงแม้มนุษย์บนโลกจะยังคงเกิดมารุ่นต่อรุ่น แต่สถานศึกษากลับค่อยๆล่มสลายหายไปทีละน้อย
กฎระเบียบสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ก็จริง แต่ในบางครั้งมันก็สามารถทำร้ายผู้คนได้เช่นกัน
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้มีอำนาจใช้กฎนั้นจะใช้มันไปในทิศทางใด
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องดังกล่าวอยู่นั้น หลี่ฮั่วเฉินก็พูดขึ้นมาคำหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายโมโหกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องกังวลไป ตาแก่หลินบอกกับฉันว่า เขาจะพยายามคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้กับเธอเอง ส่วนฉันก็จะช่วยอีกแรง ถ้าสุดท้ายแล้วไม่สามารถทำอะไรได้เลยจริงๆ เธอก็มาทำงานในโรงพยาบาลพันธมิตรปักกิ่งได้ ฉันยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริหารใหญ่ ฉันเองก็อยากจะรู้นักว่า ยังมีใครกล้าคัดค้านอะไรอีกไหม!”
“อาวุโสหลี่ครับ ผมไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นคุณเองก็ไม่ควรจะต้องมานั่งกังวลเรื่องนี้เหมือนกัน เมื่อเวลานั้นมาถึงย่อมมีหนทางให้เลือกเดินต่อเสมอ และผมย่อมรู้ดีว่าสิ่งไหนดีที่สุดสำหรับตัวเอง”
ฉีเล่ยยิ้มให้พร้อมกล่าวปลอบโยนอีกฝ่าย เขาดูใจเย็นอย่างมากไม่มีทีท่าร้อนใจเลยจริงๆ
แต่กลับตรงข้ามกัน การที่หม่ารุ่ยล้างแค้นเขากลับแบบนี้ มันยิ่งปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ภายในใจของฉีเล่ยให้ตื่นขึ้นมาแทน
อยากจะไล่ฉันออกมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เสียใจด้วยนะ…แต่ฉันยังไม่อยากไป ไม่ใช่แค่จะไม่จากไปเท่านั้นนะ แต่ฉันจะกลับมาและทำให้ดีดียิ่งกว่าเดิมด้วย!
“อืม ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
น้ำเสียงของหลี่ฮั่วเฉินฟังดูดีขึ้นมาก
“นี่เธอกินอะไรมารึยัง? เดี๋ยวฉันจะให้คนอุ่นอาหารให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกินมาแล้ว”
“อืม ถงซีรออยู่ชั้นบน ขึ้นไปคุยกับเธอหน่อยนะ ตลอดวันมานี้ถงซีโทรหาเธอไม่หยุดเลยแต่ก็ไม่ติดสักที หลานสาวของฉันคงจะเป็นห่วงเรื่องที่เธอโดนไล่ออกมาก”
“ครับ”
ฉีเล่ยลุกขึ้นจากโซฟาและเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทันที
ฉีเล่ยยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้องของหลี่ถงซีครู่หนึ่ง ใจหนึ่งก็ได้แต่ถามตัวเองว่าควรเคาะเรียกดีไหม อีกใจก็คิดว่าควรจะกลับเข้าห้องไปอาบน้ำก่อนดีกว่า?
เพราะก่อนหน้านี้ตัวเขาถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มสาวๆตลอดแทบทั้งวัน ย่อมเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บนเสื้อผ้าของเขาจะมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดตามเนื้อตัวมาด้วย
อาบน้ำให้เสร็จแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ก่อนดีกว่าแล้วค่อยมา…
เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉีเล่ยจึงกลับเข้าไปในห้องจัดการชาร์จแบตมือถือ และเปิดแล็ปท็อปบนโต๊ะทันที
หลังจากเปิดเครื่อง ฉีเล่ยก็คลิกเข้าไปที่ไอคอนรูปเพนกวินอย่างรวดเร็ว
เขาป้อนหมายเลขโทรศัพท์และรหัสเข้าไป เพื่อเชื่อมต่อกับระบบ
[อาจารย์ฉี! นี่หนูเองนะคะ หยวนหยวน^^]
[อาจารย์ฉี เพิ่มหนูเป็นเพื่อนด้วย!]
[อาจารย์ฉี เดาสิว่าฉันเป็นใคร อิอิ ^0^]
[อาจารย์ฉี…]
ตามที่คาดไว้ไม่มีผิด ลูกศิษย์ของเขากลุ่มนี้ไม่เคยทำให้ฉีเล่ยผิดหวังเลยจริงๆ หลังจากสิ้นสุดคลาสเรียนไป สิ่งแรกที่พวกเขาลงมือทำก็คือการเพิ่มฉีเล่ยเป็นเพื่อนในแอปQQ ของตัวเอง
ฉีเล่ยนั่งกดรับเพื่อนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ไม่นานหลังจากนั้นรายชื่อเพื่อนของเขาในQQก็มีมากถึง50รายชื่อ
[ออนแล้วเหรอ?]
เจ้าของแชทดังกล่าวที่จู่ๆก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอมีชื่อว่า‘คลาร่า’
[คุณคือใครเหรอครับ?]
ฉีเล่ยใช้นิ้วจิ้มแป้นพิมพ์ทีละตัวสองตัวด้วยท่าทางเงอะๆงะๆ เขาไม่ค่อยถูกกับพวกเทคโนโลยีเท่าไหร่นัก
[หลี่ถงซี]
ฉีเล่ยตกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่า เธอจะทักมาคุยกับเขาบนโลกออนไลน์แบบนี้
ฉีเล่ยพิมพ์ตอบไปว่า
[ฮ่าฮ่า ผมมาถึงห้องแล้ว]
หลี่ถงซีตอบกลับ
[ฉันรู้]
ฉีเล่ยพิมพ์ถามต่อทันทีว่า
[แล้วคุณโทรหาผมมีอะไรรึเปล่าครับ?]
หลี่ถงซีตอบกลับไปว่า
[ตอนที่ฉันกลับมาถึงบ้านช่วงสายๆ ก็ได้ยินว่านายถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย มันทำให้ฉันโกรธมากที่นายโดนปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้ หลังจากนั้นไม่นานอธิการบดีหลินก็โทรมาบอกว่า เขากับปู่ของฉันกำลังคิดหาวิธีช่วยอยู่ นายไม่ต้องเครียดไปนะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น]
ในท้ายที่สุดนี้ ฉีเล่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่า ทำไมเธอถึงต้องการพูดคุยกับเขาผ่านQQ เพราะหลี่ถงซีเป็นผู้หญิงที่แสดงความรู้สึกและพูดไม่เก่ง เวลานี้ที่เธออยากปลอบใจเขา ก็เลยจำเป็นต้องพิมพ์ผ่านทางออนไลน์แทน
เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉีเล่ยก็เกิดความสงสัยขึ้นว่า ผู้หญิงคนนี้เปิดคอมพิวเตอร์รอเขาออนไลน์บนQQมานานแค่ไหนแล้ว?
ฉีเล่ยพิมพ์ตอบไปว่า
[ไม่ต้องห่วง ผมสบายดี]
ทันใดนั้นเอง เพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ‘จอมเทพโอสถ’ก็ทักเข้ามาหาฉีเล่ย
[จารย์ๆ นอนยังครับ? อิอิ รู้นะว่ายังไม่นอน ผมมีอะไรเด็ดๆมาโชว์ด้วย!]
จากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งลิงก์เว็บไซต์อันหนึ่งเข้ามาในกล่องข้อความ
ฉีเล่ยไม่ได้คิดอะไรมากและกดเข้าไปตามลิงก์ที่ส่งมาให้ทันที
….
ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า เนื้อหาภายในเว็บไซด์ที่ลูกศิษย์ส่งมาให้นั้นช่างน่าสนใจเป็นอย่างมากทีเดียว โดยเฉพาะชายชาตรีอย่างเรา นั่นเพราะมันเป็นลิงก์ของเว็บโป๊ มีสาวสวยสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นอยู่นับสิบ แต่ละคนนั้นทรวดทรงเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ยากเกินจะหักห้ามใจ
มุมปากของฉีเล่ยถึงกับกระตุกอย่างแรง พลางคิดกับตัวเองไปว่า
‘ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงมีความคิดสกปรกจังนะ? ในหัวมีแต่เรื่องไร้สาระรึไงกัน?’
จากนั้นเขาก็ก้มดูต่อไป…
ยังไงซะ…เขาก็ยังเป็นแค่ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง จะไม่ให้มีอารมร์ความรู้สึกคงเป็นไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่ที่เขาได้สานความสัมพันธ์‘ลึกซึ้ง’กับเฉินอวี้หลัว เขาก็เพิ่งจะเคยได้ลิ้มรสชาติของหญิงสาวเป็นครั้งแรก อีกทั้งตอนนี้เขาก็ห่างบ้านมาเกือบเดือนแล้ว คงไม่มากเกินไปหรอกนะ ถ้าจะปลดปล่อยตัวเองบ้าง
ก็เหมือนกับภูตผีที่หิวโหยวิ่งเข้าไปในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสมากมาย
ขณะที่ฉีเล่ยกำลังเลื่อนเม้าท์เฝ้ามองรูปภาพที่ชวนหลงใหลเหล่านั้น จู่ๆหลี่ถงซี่ก็ส่งข้อความมาว่า
[นี่นายส่งอะไรมาให้ฉัน?]
[อะไรเหรอครับ?]
[ดูเอาเองก็แล้วกัน!]
[ดู?]
[ในแชท!]
ฉีเล่ยเลื่อนเม้าท์เปิดหน้าต่าง ก่อนจะเห็นว่าเขาเพิ่งส่งรูปสาวสวยในชุดว่ายน้ำไปให้หลี่ถงซี โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาส่งไปให้เธอตั้งแต่ตอนไหน
เป็นรูปสาวสวยอยู่ในชุดสายเดี่ยวสุดเซ็กซี่ มีข้อความเขียนกำกับด้านล่างไว้ว่า เต้นระบำเปลื้องผ้า โชว์ยั่วสวาทออนไลน์ กรุณาคลิกที่ลิงก์ด้านล่าง…
ฉีเล่ยกำลังสับสนอย่างหนักว่าเกิดอะไรขึ้น?
เขาจำไม่ได้เลยว่า ตัวเองเคยส่งรูปนี้ไปให้หลี่ถงซีด้วย?
หลังจากนั้นไม่นาน หายนะก็เกิดขึ้น
[อาจารย์ฉี ส่งอะไรมาให้หนูค่ะ?!]
[อาจารย์ฉี หนูเกลียดอาจารย์ที่สุด!]
[โถ่วจารย์ ถ้าอยากดูจริงๆเว็บนี้มันล้าสมัยไปแล้ว เดี๋ยวผมส่งเว็บใหม่ให้นะ]
[อาจารย์ฉี ใช่เล่นนะครับเนี่ย!]
“…”
ฉีเล่ยถึงกับนั่งกุมขมับ ดั่งว่าวิสัยทัศน์รอบตัวกลับกลายเป็นสีดำทะมึนในทันใด