ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 214 เหยียนเฉียวหลัว

สายพระเนตรของจีเฉวียนยังคงจับจ้องอยู่ที่กล่องใบนั้นอยู่อีกนาน
 
 
สักพักใหญ่จึงได้ตรัสออกมาประโยคหนึ่ง ” จัดการอย่างลับๆ จะดีกว่า “
 
 
” พะยะค่ะ ” คนชุดดำรับคำครั้งหนึ่ง ก็หายตัวไปท่ามกลางความมืดมิด
 
 
จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรมองดูกล่องใบนั้นอีกนาน ยามที่พระหัตถ์ใหญ่หนายกขึ้นมานั้น หมอกสีดำก็เหมือนกับหยดน้ำที่ร่วงลงสู่ท้องทะเล ซึมเข้าไปในร่างกายของพระองค์อย่างรวดเร็ว
 
 
ไอหยินที่เข้มข้น ทำให้พระวรกายเย็นปานห้องน้ำแข็งใต้ดิน ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงฤดูร้อนอยู่แล้ว แต่ร่างกายของพระองค์ยังคงเย็นจัดประหนึ่งมีน้ำแข็งฉาบอยู่ชั้นหนึ่งดังเดิม
 
 
ผ่านไปอีกนานพักใหญ่น้ำแข็งบนร่างจึงค่อยๆ ละลายลง
 
 
ดวงเนตรหงส์ยิ่งฉายแววเย็นยะเยือกขึ้นมา
 
 

 
 
…………………………………
 
 

 
 
สถานการณ์น้ำในลี่โจวกลับสู่ความสงบ หวงกุ้ยเฟยก็ทรงครรภ์ ประชาชนในเมืองหลวงจึงเบิกบานดั่งดอกไม้
 
 
ดูสิ ฝ่าบาททรงได้รับการคุ้มครองจากสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง พอสำเร็จงานใหญ่ สวรรค์ก็ประทานพระโอรสองค์โตมาให้ ช่างสมกับที่เป็นผู้ซึ่งสวรรค์เลือกสรรแล้วจริงๆ อนาคตของต้าโจวเมื่ออยู่ในพระหัตถ์ของฮ่องเต้พระองค์นี้ ต่อไปก็ย่อมจะต้องรุ่งเรืองอย่างไม่สิ้นสุดแน่นอน
 
 
ประกอบกับด้านเป่ยเจียงก็ใกล้จะถูกพิชิต คิดๆ ดูแล้วอีกเพียงไม่นานแผนที่ชายแดนของต้าโจวต่อมาต้องขยายออกไปอีกแน่
 
 

 
 
ในเมืองหลวง ถนนตงต้าเจีย (ถนนตะวันออก)
 
 
เฟิ่งไหลโหลว (โรงเตี้ยมหงส์ร่อน)
 
 
เมื่อเป็นถึงโรงเตี้ยมอันดับหนึ่งของเมืองหลวง กิจการวันนี้ก็ยังคงคับคั่งแน่นขนัดเหมือนดังเก่า
 
 
ผู้คนต่างก็กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องที่เทพธิดาสำแดงองค์ในเมืองลี่โจวและข่าวที่หวงกุ้ยเฟยทรงพระครรภ์
 
 
ในห้องรับรองห้องหนึ่งของโรงเตี้ยมเฟิ่งไหลโหลว หญิงสาวในชุดกระโปรงสีเขียวนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง นางคาดผ้าโปร่งบนใบหน้า เผยให้เห็นแค่ดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่ง
 
 
เพียงแค่ดวงตาคู่นั้น ก็นับว่างดงามอย่างที่สุดแล้ว
 
 
รูปร่างของหญิงสาวสูงโปร่ง บนร่างยังมีกลิ่นอายของความสูงศักดิ์ที่ไม่ธรรมดากำจายออกมา
 
 
ในมือของนางมีจอกสุรา สุราดื่มไปเพียงครึ่งเดียว จอกในมือก็ถูกกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง
 
 
” ก็แค่สนมคนหนึ่งตั้งท้องมิใช่หรือไร จะคลอดออกมาได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่เลย ก็เริ่มจะยินดีปรีดากันแล้วหรือ? “
 
 
เสียงของนางไม่ได้ดัง แต่ก็ทำให้สีหน้าของบุรุษที่อยู่ข้างกายเปลี่ยนไปเล็กน้อย ” องค์หญิงอาหลัว ที่นี่คือเมืองหลวงของต้าโจว บางคำพูดไม่อาจกล่าวอย่างเหลวไหล “
 
 
” ที่ข้าพูดล้วนแต่เป็นความจริง สถานที่อย่างวังหลังที่ผ่านมาล้วนมีแต่เจ้าหลอกมาข้าก็ลวงกลับ มีองค์ชายองค์หญิงตั้งเท่าไรที่ต้องสิ้นไปตั้งแต่ยังเยาว์ หากว่าสามารถรักษาชีวิตองค์ชายใหญ่ผู้นั้นไว้ได้สิถึงจะประหลาด ” หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าอาหลัวยิ้มอย่างเย็นชา ” ซิว เจ้าไม่รู้อะไร ยิ่งได้รับความรักจากฮ่องเต้มาก ยิ่งต้องทนรับแรงกดดันที่ไม่อาจรับไหว? “
 
 
” ความโปรดปรานเช่นนี้ มีแต่จะทำให้หวงกุ้ยเฟยผู้นั้นเกิดปัญหาอย่างไม่มีสิ้นสุด เจ้าคอยดูไปเถอะ ไม่แน่ว่าอีกเพียงไม่กี่วันก็อาจจะมีข่าวที่ว่านางแท้งเสียแล้วออกมาก็ได้ “
 
 
บุรุษที่นั่งอยู่ข้างกายนางมิได้กล่าววาจา เขาเพียงแต่หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอกไก่ชิ้นหนึ่งให้กับนาง ” องค์หญิงทรงคุ้นเคยกับจีเฉวียนมาแต่ยามเยาว์ แต่อย่าได้ทรงลืมว่ายามนี้เขาเป็นถึงฮ่องเต้แห้งต้าโจวไปแล้ว มิใช่จีเฉวียนคนเดิมอีกแล้ว พวกเรามายังต้าโจวครั้งนี้ ไม่ว่าจะทำเรื่องใดก็ต้องรักษาความระมัดระวังไว้”
 
 
” ต่อให้เขาจะเปลี่ยนไปเช่นไร ก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเขาเคยไปเป็นตัวประกันอยู่ที่แคว้นต้าเหยียนของข้าไม่ได้ ” สายตาของหญิงสาวเย็นชา ” หากว่าไม่ได้ผ่านการฝึกฝนจากแคว้นตาเหยียนของข้ามานานหลายปี เขาจะกลายเป็นฮ่องเต้ของต้าโจวได้อย่างไร “
 
 
ดวงตาของบุรุษผู้นั้นมืดครึ้มลง เขามองออกไปรอบๆ พอมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงของนางแล้ว ก็ลุกขึ้นมา ปิดหน้าต่างของห้องรับรองเอาไว้อย่างแน่นหนา
 
 
” ซิว เจ้าไปเตรียมการสักหน่อย พรุ่งนี้พวกเราจะเข้าวังกัน ไม่ได้พบจีเฉวียนมาตั้งนานหลายปีแล้ว พอเขาได้เห็นข้าจะต้องแปลกใจและยินดีเป็นแน่ใช่ไหม? “
 
 
หญิงสาวพูดพลาง ก็จับปลางคางไปด้วย นางคล้ายกับว่าย้อนนึกไปถึงบางสิ่ง ทั้งหัวคิ้วและหางตาจึงโค้งขึ้นมา อารมณ์ก็พลอยดีขึ้นด้วย
 
 
หน้าต่างอีกข้างหนึ่งไม่ได้ถูกปิด พอลมพัดเข้ามาก็ทำให้ผ้าโปร่งของนางหลุดออก นางยื่นมือออกไปคว้า แต่ว่าผ้าผืนนั้นกลับลอดจากปลายนิ้วปลิวจากหน้าต่างลงไป
 
 
ผ้าโปร่งสีเขียวอ่อนแสนจะบางเบา บนนั้นยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหญิงสาวอยู่ด้วย และด้วยความบังเอิญอย่างที่สุดจึงตกลงไปบนศีรษะของบุรุษชุดขาวผู้หนึ่ง
 
 
บุรุษชุดขาวยกมือขึ้นมาดึงผ้าออกไป เขากวาดตามองไปรอบด้าน สุดท้ายจึงเงยหน้ามองขึ้นมาที่ชั้นบนของเฟิ่งไหลโหลว
 
 
สายตาของเขาสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น
 
 
คุณชายผู้นั้นก็นำผ้าโปร่งเข้าไปในเฟิ่งไหลโหลว
 
 
เพียงแค่ครู่เดียว ประตูของห้องรับรองก็ถูกเขาเคาะ
 
 
คุณชายชุดขาวมองเข้าไปในห้อง ก็เห็นเพียงหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี บุรุษสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย สตรีรูปโฉมงดงามชุดกระโปรงที่นางสวมใส่ก็ยังเป็นสีเขียวอมดำแบบเดียวกันกับที่น้องเล็กชอบใส่อยู่เสมอ
 
 
” ซิว เจ้าให้เงินไปสักหน่อยแล้วก็ไล่ไป ถือเสียว่าเป็นค่าตอบแทนที่เก็บผ้าคลุมหน้าของข้าได้ ” สตรีผู้นั้นมิได้หันมาเหลือบมองคุณชายชุดขาวเลยสักนิด
 
 
ซิวล้วงเงินจำนวนหนึ่งออกมา ส่งให้คุณชายชุดขาว ” แทนคำขอบคุณของคุณหนูของข้า”
 
 
พูดจบแล้วก็รับผ้าคลุมหน้าในมือนั่นไป
 
 
ไหนเลยจะรู้ว่าคุณชายชุดขาวผู้นั้นจะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ดวงตาที่เป็นประกายราวหยดน้ำจดจ้องไปยังสตรีนางนั้น เขากระชับผ้าคลุมหน้าในมือ ” แน่ใจหรือว่านี่เป็นของเจ้า? “
 
 
” หากไม่ใช่ของข้าแล้วยังจะเป็นของใครได้อีก? ” สตรีผู้นั้นคร้านจะเสวนากับเขา โดยทั่วๆ ไปแล้วบุรุษที่เก็บผ้าคลุมหน้าของสตรีกลับมา มากกว่าครึ่งย่อมคิดจะมาสานสัมพันธ์ได้คืบเอาศอกกันทั้งนั้น
 
 
โดยเฉพาะเมื่อได้พบเจอกับโฉมสคราญเช่นนาง
 
 
ก็แค่พวกช่างตื้อเท่านั้น หากว่าเขาไม่รู้จักลงจากเวทีไป ก็ให้ซิวลงมือสักรอบก็ใช้ได้แล้ว
 
 
นางเตรียมการรับมือกับการตามตื้อของคุณชายชุดขาวผู้นั้นเอาไว้แล้ว แต่กลับเห็นเขาถือผ้าคลุมนั้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว หันมาเล่นงานนาง ” พี่สาว ข้าคงต้องพูดกับท่านหน่อยแล้ว ท่านไม่รู้หรือไงว่าการเขวี้ยงข้าวของลงจากชั้นบนมันเป็นอันตรายมาก? “
 
 
” รอบนี้ท่านโยนผ้าคลุมหน้า โยนจนติดเป็นนิสัย ครั้งต่อไปโยนอิฐหรือไง? ที่นี่เป็นย่านที่คึกคัก ชั้นล่างมีคนผ่านไปมาจำนวนมาก เขวี้ยงอะไรลงไปก็อาจทำคนถึงตายได้! “
 
 
สตรีชุดเขียวตกตะลึงไป ที่นางเผอิญเจออยู่ในตอนนี้ใช่พวกตามตื้อที่ไหนกัน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นพวกโรคประสาท
 
 
แล้วยังมาเรียกว่าพี่สาว? นางดูแล้วแก่มากหรือยังไง?
 
 
นางพึ่งจะผ่านวันเกิดครบรอบยี่สิบปีมาแท้ๆ ดูยังไงก็อายุแค่พอๆ กันกับเขาเท่านั้นเถอะ
 
 
” ประสาท” นางกลอกตาบน ส่งสัญญาณให้ซิวรีบไล่คนบ้าผู้นี้ออกไป
 
 
” ยังไม่รู้สำนึกแก้ไขอีก! ” คราวนี้คุณชายชุดขาวโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว ไม่รอให้บุรุษที่ชื่อซิวมาไล่เขาออกไป เขาก็บุกเข้าไปในห้องรับรอง เดินไปตรงหน้านางอย่างช้าๆ
 
 
‘พรึ่บ’ เขาสะบัดผ้าคลุมหน้าผืนนั้นตรงหน้านาง ” ดูจากท่าทางของท่าน ไม่ใช่ชาวต้าโจวเช่นพวกเรา ท่านรู้หรือไม่ว่าการกระทำของท่านถือว่าฝ่าฝืนและผิดกฎของพวกเราชาวต้าโจว? “
 
 
คราวนี้นางถึงกับพูดอะไรไม่ออกแล้ว นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า พอมาถึงต้าโจวก็จะได้พบกับเรื่องประหลาดเช่นนี้
 
 
ก็แค่ทำผ้าคลุมหน้าหล่นมิใช่หรือ ถึงกับผิดกฎหมายด้วย?
 
 
จีเฉวียนเป็นฮ่องเต้ที่เข้มงวดถึงเพียงนี้เชียว?
 
 
” เห็นแก่ที่ท่านพึ่งจะทำผิดเป็นครั้งแรก ครั้งนี้จะเพียงตักเตือนด้วยวาจาเท่านั้น หากยังมีครั้งต่อไป จะต้องจับท่านไปที่ว่าการแน่ ” คุณชายชุดขาวยังกล่าวต่อไม่ยอมจบ
 
 
เขาคลายมือออก ทิ้งผ้าคลุมหน้าผืนนั้นลงบนโต๊ะ แล้วก็หันมาจ้องนาง ดวงตาคู่นั้นกวาดมองดูนางอย่างจดจำ ” ชื่ออะไร? “
 
 
สตรีผู้นั้นตกตะลึง จึงตอบกลับไปอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ” เหยียนเฉียวหลัว “
 
 
” เอาละ ชื่อของท่านถูกบันทึกเอาไว้ในบัญชีบุคคลอันตรายของเมืองหลวงแคว้นต้าโจวแล้ว ภายในหนึ่งปีหากว่าไม่พบการกระทำที่ไม่สมควรอีก ก็จะถูกลบออกไปเอง พี่สาว ทำตัวให้ดีๆ แคว้นต้าโจวของพวกเรายังคงต้อนรับท่านอยู่ “

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset