ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 409 จอมมารน้องเล็ก

ลู่กว่างยิ้มออกมาอย่างเย็นชา  
 
 
ราชามังกรทั้งสี่ทะเลล้วนมีศาสตราพิเศษของตนเอง นั่นเป็นสิ่งที่ราชามังกรแต่ละรุ่นตกทอดสืบต่อกันมา เป็นสุดยอดศาสตราแต่บรรพกาล  
 
 
เพียงแค่ฟาดออกไปก็สามารถชำแหละหัวฉลามยักษ์ออกเป็นสองส่วน  
 
 
แค่ดาบยักษ์หยาบๆของพวกมนุษย์เล่มหนึ่ง คิดจะเอามาสกัดหอกสามง่ามของเขา?  
 
 
ฝันไปเถอะ!  
 
 
ที่เขาฟาดออกไป ยังมิได้ใช้พลังทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเห็นตู๋กูซิงหลันอยู่ในสายพระเนตรแม้แต่น้อย  
 
 
เนื่องเพราะอย่างไร ฮ่องเต้หญิงของพวกมนุษย์ผู้นี้ นอกจากใบหน้าที่น่าดู และในร่างมีไอหยินหนักแน่นอยู่บ้างแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่พิเศษอีก  
 
 
ต่อให้นางเป็นยอดนักพรต ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีร้ายกาจอันใดจึงสามารถทำร้ายเวยเอ๋อร์ของเขาจนเกือบตายได้  
 
 
ได้แต่คาดว่าเวยเอ๋อร์คงจะประมาทไปเอง จึงได้หลงกลของนางเข้า  
 
 
หากว่าใช้พลังต่อสู้กันอย่างจริงจัง นางจะต่อสู้กับเวยเอ๋อร์ได้อย่างไร?  
 
 
มนุษย์ผู้นี้มิได้รู้ถึงความหนักเบาของเรื่องราวเสียเลยด้วยซ้ำ ว่าผู้ที่นางกำลังท้าทายอยู่ในตอนนี้ก็คือราชามังกรแห่งทะเลตะวันตก  
 
 
“ที่เบื้องหน้าของเจ้า คือราชามังกรทะเลตะวันตก!” ลู่กว่างตรัสด้วยความเกรี้ยวกราด “นังเด็กร้ายกาจชือหลีไปอยู่ในโลกมนุษย์เสียนาน แม้แต่พวกมดปลวกก็ยังไปนับเป็นสหาย ช่างทำให้เผ่ามังกรของเราเสียหน้ายิ่งนัก!”  
 
 
“ไอ้แก่ชั่วหุบปากเสียเถอะ!” พี่รองจับมือของชือหลีเอาไว้แนบแน่น เขารู้ว่านางกำลังโกรธจนสั่นไปทั้งร่างแล้ว  
 
 
ชือหลีอ่อนแอมาก ตอนนี้ไม่อาจช่วยเหลืออันใดตู๋กูซิงหลันได้   
 
 
เรื่องด่าทอผู้คน พี่รองย่อมรับภาระเอาไว้เอง เรื่องการใช้วรยุทธ์เขาไม่นับเป็นอะไรได้ ย่อมช่วยเหลืออะไรไม่ได้เช่นกัน  
 
 
แต่ว่าหากได้ด่าไอ้แก่ชั่วนี้จนหัวใจระเบิดก็ไม่เลว  
 
 
“หน้าตา? อย่างเจ้ายังรู้จักรักหน้าตาอยู่อีกหรือ? ใครไม่รู้คงนึกว่าเจ้ามีตูดอยู่บนหัว เวลาพูดออกมาก็ใช้รูตูด ถึงได้เหม็นขนาดนี้!”  
 
 
“ชือหลีช่างโชคร้ายจริงๆ ดันมามีบิดาที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างเจ้าเนี่ย?”  
 
 
ไหนๆก็จะด่าให้หยาบคายแล้ว ย่อมไม่กังวลว่าจะน่าฟังหรือไม่  
 
 
ลู่กว่างไม่เคยถูกผู้ใดด่าทอเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เขาพิโรธโกรธา หันไปถลึงตาใส่ตู๋กูเจวี๋ยครั้งหนึ่ง  
 
 
ดูดูสิ….ธิดามังกรที่ยังไม่ทันได้แต่งออกไป ทั้งๆที่เป็นวันออกเรือนกลับมาจูงมือจูงไม้กับมนุษย์ชั้นต่ำผู้หนึ่ง ไม่รู้ว่าน่าเกลียดถึงเพียงไหน!  
 
 
ปากของมนุษย์ผู้นั้นก็สกปรกเหลือทน!  
 
 
เขากุมหอกสามง่ามเอาไว้แน่น คิดจะสับมนุษย์ผู้นั้นให้แหลกเละ  
 
 
แต่ว่าหอกนี้ยังไม่ทันได้ฟาดออกไป ก็เห็นฮ่องเต้หญิงในชุดสีแดงผู้นั้นกระชับดาบยักษ์ในมือสะกิดปลายเท้าพุ่งเข้ามาหาเขาทั้งร่างแล้ว  
 
 
นางสามารถรับพลังจากหอกสามง่ามของเขาไว้ได้?  
 
 
“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” ลู่กว่างอัศจรรย์ใจเหลือประมาณ  
 
 
เมื่อครู่เขาพึ่งจะถูกตู๋กูเจวี๋ยด่าจนเสียสมาธิ ทั้งยังประมาทตู๋กูซิงหลัน เพียงแค่ชั่วเวลาแวบเดียวนี้ ตู๋กูซิงหลันก็ถือดาบยักษ์เหาะมาถึงเบื้องหน้าของเขาแล้ว  
 
 
ดาบยักษ์กวาดออกไป ดูไปเหมือนไม่มีกระบวนท่าอันใด เพียงแค่ฟาดฟันอย่างมั่วซั่วเท่านั้น แต่เพราะผู้ที่ใช้มันนั้นแสนจะงดงาม ต่อให้เป็นการฟันมั่วๆ ท่วงท่าก็ยังคงงดงามเสมือนเมฆเคลื่นคล้อยสายน้ำรินไหล  
 
 
ลู่กว่างได้แต่ยกสามง่ามขึ้นสกัด  
 
 
ดาบยักษ์ฟาดลงมาตรงหน้าต่อเนื่องกัน เขาได้แต่ฝืนใช้หอกสามง่ามรับเอาไว้  
 
 
ทุกดาบที่ฟันลงมา ล้วนหนักแน่นดั่งภูเขากดเข้าใส่  
 
 
ดาบนี้หนักมาก!  
 
 
ฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์เองก็มีพละกำลังล้นเหลือ!  
 
 
เมื่อทั้งสองประสาน ก็กลายเป็นแรงกดทับที่ใครก็ไม่อาจต้านทานได้  
 
 
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ละดาบของนางยังฟันออกมาอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากพลังกดทับดั่งขุนเขา ไอสังหารที่มาพร้อมกับตัวดาบก็กดทับจนกระทั่งอาภรณ์ที่วิจิตรงดงามของเขาฉีกขาด  
 
 
ผิวหนังถูกพลังจากคบดาบบาดจนเจ็บปวด!  
 
 
ดาบเล่มนี้…..มิใช่อาวุธของมนุษย์ธรรมดากระมั้ง?  
 
 
หลังจากฟาดฟันออกมาสิบกว่าครั้ง คมดาบไม่เพียงแต่มิได้บิ่นหัก แต่ประกาบดาบกลับเพิ่มพูนขึ้นมากกว่าเดิม  
 
 
ส่วนหอกสามง่ามในหัตถ์ของเขาพอรับดาบนั้นเข้าไปหลายๆครั้งเข้าประกายหอกก็หมองมัวลงไป  
 
 
ทุกครั้งที่ปะทะกันก็เห็นว่าประกายแสงของหอกสามง่ามถูกดาบยักษ์ดูดกลืน  
 
 
ดาบเล่มนี้……ที่แท้แล้วกำลังดูดกลืนพลังของหอกสามง่าม?  
 
 
หัวใจของลู่กว่างแทบจะระเบิด!  
 
 
เขาหันไปพิจารณาดูฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์อย่างละเอียดอีกครั้ง ก็พบแต่สายตาที่สูงส่งและ  
 
 
เย็นชาของอีกฝ่าย ที่เหลือบแลลงมายังเขาเท่านั้น  
 
 
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หลิ่วฮุ่ยเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ……ลู่กว่างคือราชามังกร ถึงแม้ว่าพละกำลังจะไม่อาจเทียบเทียมได้กับราชามังกรในรุ่นก่อน แต่อย่างไรก็เป็นถึงราชาของทะเลแห่งหนึ่ง พลังนั้นย่อมแข็งแกร่งเช่นกัน  
 
 
แต่ว่าตอนนี้กลับถูกฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่งบดขยี้?  
 
 
“เสด็จแม่…..มนุษย์ผู้นั้นร้ายกาจมาก ลงมืออย่างไร้กฏเกณฑ์ ทั้งยังสามารถบังคับภูติผี จิตใจก็ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์ จะต้องบอกให้พระบิดาระมัดระวังให้มากนะเพคะ….” ลู่เวยที่อยู่ในอ้อมกอดของนางฝืนประคองลมหายใจเอาไว้  
 
 
นางเองก็ตื่นตะลึงอย่างยิ่งเช่นกัน เดิมคิดว่าเป็นเพราะตนเองประมาทเกินไป ถึงได้ต้องมาตกที่นั่งลำบากบาดเจ็บจนเกือบตายเช่นนี้  
 
 
เสด็จพ่อทรงเป็นราชามังกรทะเลตะวันตก แค่ลงมือก็สมควรจะจัดการสตรีผู้นั้นให้ถึงตายได้อย่างง่ายดายมิใช่หรือ?  
 
 
แต่ว่าทำไม….เรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามที่นางคาดคิดเอาไว้?  
 
 
หลิ่วฮุ่ยปาดเช็ดขอบตาที่แทบจะไม่มีน้ำตาเสียด้วยซ้ำ นางจับจ้องไปที่ตู๋กูซิงหลันและดาบยักษ์ของนางอย่างจดจ่อ  
 
 
ก็เห็นว่าดาบยักษ์เล่มนั้นส่องแสงเป็นประกาย ปรากฏลวดลายอักขระสีดำที่ซับซ้อนขึ้นมา  
 
 
ส่วนฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ผู้นั้นก็เหมือนกับเครื่องมือสังหารที่ไร้ชีวิตจิตใจ ไม่พูดไม่จา ฟันตรงไหนได้ก็ฟันลงไปตรงนั้น  
 
 
ถึงแม้ว่าดาบยักษ์เล่มนั้นจะยังไม่ได้เฉือนโดนเนื้อ แต่ว่ารังสีดาบของดาบยักษ์ก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นทุกที ทำลายอาภรณ์จนฉีกขาด บาดผิวหนัง ฟันลงมาจนร่างของลู่กว่างมีแต่ความสะบักสะบอม  
 
 
เวลาผ่านไปยังไม่ทันจะถึงครู่หนึ่ง ก็เห็นหอกสามง่ามด้ามนั้นสูญเสียประกายสีเงินที่เคยมีกลายเป็นแท่งเหล็กทึบที่ไร้ประกาย  
 
 
ในตอนนั้นเอง ตู๋กูซิงหลันก็ยกดาบฟาดลงมาอีกครั้ง  
 
 
ได้ยินเสียง ‘เคร้ง’ ดังขึ้น หอกสามง่ามของลู่กว่างก็ถูกนางฟันจนหักไปแล้ว!  
 
 
หัวหอกหักทิ่มลงไป เหลือแต่แท่งเหล็กที่ไร้ประโยชน์!  
 
 
ชือหลีแทบจะอยากคุกเข่าให้นางแล้ว!  
 
 
นางเป็นเผ่ามังกร ย่อมเข้าใจอย่างลึกซึ้งดีว่าหอกสามง่ามมีความสำคัญเพียงไร เพียงถือเอาไว้ในมือก็สามารถบัญชาการได้ทั่วท้องทะเล  
 
 
นี่คือสัญลักษณ์แทนองค์ของราชามังกรที่บรรจุพลังของท้องทะเลเอาไว้ภายใน สร้างขึ้นจากกระดูกมังกรของราชามังกรรุ่นแรก ตลอดหลายปีมานี้ ราชามังกรแต่ละรุ่นได้สืบทอดต่อกันมา  
 
 
ถึงแม้ว่านางจะไม่เคยได้เห็นหอกสามง่ามนี้แสดงพลังที่น่าอัศจรรย์มาก่อน  
 
 
แต่ว่าศัสตราวุธที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็ไม่อาจทนรับกระบวนท่าที่ฟาดฟันออกมาอย่างมั่วซั่วเพียงสิบกว่าท่าของตู๋กูซิงหลัน?  
 
 
แม้แต่ชือหลีเองก็ยังตื่นตระหนกขึ้นมา……นี่นางจับพลัดจับผลูไปผูกมิตรเป็นสหายกับท่านเซียนหรืออย่างไร  
 
 
สายตาของตู๋กูเจวี๋ยถูกชุดสีแดงของน้องเล็กดึงดูดเอาไว้จนหมดสิ้น  
 
 
เขาเคยเห็นพี่ใหญ่ใช้ดาบยักษ์เล่มนี้สู้รบกับศัตรูในสนามรบมาก่อน เขาสังหารคนมากมายอย่างบ้าคลั่งเสมือนดั่งเป็นมารปีศาจ  
 
 
แต่ว่าตอนนี้น้องเล็กที่กุมดาบยักษ์ของพี่ใหญ่เอาไว้ ทุกดาบที่ฟันลงไปช่างไร้ความปราณี  
 
 
หากว่าพี่ใหญ่คือมารปีศาจ เช่นนั้นน้องเล็กก็ต้องเป็นจอมมารที่เป็นหัวหน้าของปีศาจแล้ว  
 
 
เท่ที่สุด!  
 
 
ตู๋กูซิงหลันฟันหอกสามง่ามของลู่กว่างหักลงไปแล้ว ก็มิได้หยุดมือ  
 
 
นางเพียงแต่เหลือบตาดูดาบยักษ์เล็กน้อย ก็เห็นบนตัวดาบปรากฏอักขระสีดำที่ดูซับซ้อน หรือเพราะว่าใช้ดาบมากไป พอถือเอาไว้ในมือจึงได้รู้สึกว่ามันเบาขึ้นมา  
 
 
นางกุมดาบยักษ์เอาไว้ หันไปมองดูชือหลี ถามออกไปคำหนึ่ง “ไอ้ปลาดุกเฒ่าตัวนี้ เจ้าอยากให้มันอยู่หรือให้มันตาย?”  
 
 
คำว่าปลาดุกเฒ่า ยังเหยียดหยามลู่กว่างยิ่งกว่าไอ้แก่ชั่วช้า  
 
 
จริงอยู่ว่า ตู๋กูซิงหลันย่อมมาเพื่อเอาคืนให้ชือหลีเป็นสองเท่า!  
 
 
แต่ว่าคนผู้นี้ถึงอย่างไรก็เป็นบิดาแท้ๆของชือหลี นางไม่อาจคิดอยากจะสับก็สับ นางนับชือหลีเป็นสหายก็ย่อมต้องเคารพในตัวชือหลี  
 
 
ชือหลีชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะนึกไม่ถึงว่าตู๋กูซิงหลันยังคิดจะฟังความต้องการของนาง  
 
 
คราวนี้ ก็เห็นแววตาของนางมืดครึ้มลงไป นัยตาสีแดงนั้นเป็นประกายราวเหยี่ยวที่ล่าเหยื่อ “ข้าต้องการให้เขา อยู่มิสู้ตาย”  
 
 
“เจ้าเดรัจฉาน นี่ถึงกับร่วมมือกับคนนอกมาสังหารบิดาแท้ๆของตนเองหรือ?” ลู่กว่างพิโรธสุดขีดแล้ว เขาถลึงตาไปที่ชือหลี “เจ้าอย่าได้ลืมไปนะว่ากระดูกในร่างของเจ้ามาจากผู้ใด!”  
 
 
 
 
 
 
 
 
………………………………..  
 
 
ตอนต่อไป “ติดค้างกระดูกก็ต้องคืนด้วยกระดูก”  

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset