ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 422 ขอเพียงแค่เจ้าสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์

ผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้….คือองค์ไท่จื่อเผ่ามังกรทมิฬของพวกเขา!  
 
 
ทุกคนต่างก็รู้ว่า องค์ไท่จื่อไม่โปรดให้ผู้ใดจ้องมองพระองค์ ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกนางจะทำงานอยู่ในตำหนักของไท่จื่อมาเนิ่นนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้มองดูพระองค์อย่างชัดเจนเลยสักครั้ง  
 
 
ฟังว่า….ก่อนหน้านี้มีนางกำนัลที่กล้าดีไปสบตากับองค์ไท่จื่อเข้า จึงถูกจับโยนลงไปในหุบเหวไร้ก้นในทันที  
 
 
จุ๊ จุ๊ …..หุบเหวไร้ก้นบึ้ง นั่นเป็นสถานที่เช่นไรกัน?  
 
 
หากถูกโยนลงไปแม้แต่เศษกระดูกก็ไม่มีเหลือ!  
 
 
มันคือสถานที่ต้องห้ามที่แม้แต่วิญญาณยังต้องถูกกลืนกิน!  
 
 
สำหรับคนเผ่ามังกรทมิฬแล้ว หากถูกโยนลงไปที่นั่น ย่อมถือเป็นการลงโทษขั้นสูงสุด!  
 
 
บุรุษผู้นั้นมิได้กล่าวอะไรให้มากความ พอโยนหญิงสาวที่อยู่บนบ่าลงไปแล้ว ก็เดินจากไปในทันที  
 
 
เขาเดินพลางก็ถอดเสื้อผ้าท่อนบนทิ้งไปตลอดทาง  
 
 
กระทั่งเหลือแต่ร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่า และมีแต่มัดกล้ามเนื้อ  
 
 
เส้นผมสีดำที่ยาวสลวยของเขาปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง จึงช่วยปิดกล้ามเนื้อนั้นไว้กว่าครึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ ดูมั่นคง ทำให้คนที่ได้เห็นเป็นต้องสูดลมหายใจยาวเข้าไป  
 
 
พอถอดถึงชิ้นสุดท้าย ก็ได้ยินเสียงเขาเอ่ยขึ้นมาว่า “เสื้อผ้าชุดนี้เปื้อนเลือดแล้ว เอาไปทิ้งเสีย”  
 
 
“เพคะ ฝ่าบาท!” นางกำนัลสองคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียง แล้วกุลีกุจอวิ่งไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาจากพื้น  
 
 
อาภรณ์สีดำแม้ว่าเปรอะเปื้อนเลือด แต่ก็มองเห็นได้ไม่ชัด  
 
 
แต่พอหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา ถึงได้เห็นว่าเลือดซึมลงไปถึงบนพื้น เป็นวงสีแดงๆ  
 
 
บุรุษผู้นั้นมิได่กล่าวอะไรอีก เพียงเดินตรงไปยังห้องบรรทมที่อยู่ด้านข้าง  
 
 
เตียงของเขาเป็นเปลือกหอยสีดำขนาดใหญ่  
 
 
เขาตะแคงร่างนอนลงไปบนเปลือกหอย ถึงแม้ว่าจะถอดเสื้อผ้าออกไปแล้ว แต่ว่าบนร่างกายก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของตู๋กูซิงหลันอยู่  
 
 
เขาก้มลงมองท่อนแขนที่เปื้อนเป็นสีแดง เลือดนั่นยังไม่แห้ง  
 
 
เขายื่นปลายนิ้วก้อยออกมา แตะไปเบาๆ ก็นำมาสูดดมใต้จมูก  
 
 
จากนั้นค่อยงอนิ้วก้อย วางลงบนริมฝีปากใช้ปลายลิ้นชิมดูเล็กน้อย  
 
 
อืม….เลือดนี่รสชาติไม่เหมือนเหล่าอนุที่ผ่านมา มีรสหวานน้อยๆ  
 
 
เขาหรี่ตาลงครุ่นคิดไปว่าอนุคนที่สองร้อยห้าสิบนี้ หากว่าไม่สามารถตอบสนองให้เขาพึงพอใจได้ละก็ เลี้ยงเอาไว้รอเลือดก็ไม่เลว  
 
 
……………………….  
 
 
ในสระน้ำ ตู๋กูซิงหลันยังไม่ทันรู้สึกตัวร่างกายก็ถูกเหล่านางกำนัลขัดถูจนสะอาดสะอ้านเรียบร้อยแล้ว  
 
 
พวกนางช่วยกันทำแผลบนศีรษะให้อย่างละเอียดลออ ใส่ยา ปิดปากแผลจนเรียบร้อย  
 
 
เมื่ออยู่ในตำหนักของไท่จื่อนานเข้า ความสามารถในการรักษาพยาบาลย่อมต้องเป็นอยู่บ้าง  
 
 
เหล่าอนุก่อนหน้านี้ ล้วนเคยมีการบาดเจ็บยิ่งกว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้ามามากมายนัก…..  
 
 
หักแขน ตัดขาล้วนมีให้เห็น แม่นางผู้นี้เพียงแค่ศีรษะแตกเท่านั้น ขอเพียงยังมีลมหายใจ ล้วนไม่หนักหนา  
 
 
จะอย่างไรนางก็เป็นถึงองค์หญิงทะเลตะวันตก …..เปรียบเทียบกับคนก่อนๆหน้านี้แล้วยังมีฐานะสูงส่งกว่ามาก ทั้งยังมีร่างเป็นมังกรทอง บางทีนางอาจจะสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้?  
 
 
ดังนั้นยามที่เหล่านางกำนัลปรนนิบัตินางอาบน้ำต่างก็กระทำด้วยความระมัดระวัง  
 
 
พอเลือดบนใบหน้าถูกชะล้างออกไปจนหมดสิ้นแล้ว ทุกคนต่างก็ต้องสูดลมหายใจเข้าไปจนเย็นวาบ  
 
 
พวกนางเคยได้ยินมาว่า องค์หญิงจากทะเลตะวันตกผู้นี้งดงามอย่างยิ่ง ถือเป็นโฉมงามระดับต้นๆของเผ่ามังกรทั้งสี่ทะเล  
 
 
แต่คิดไม่ถึงว่า …..จะงดงามจนถึงเพียงนี้?  
 
 
เดี๋ยวนี้คุณสมบัติด้านความงามของสตรีเผ่ามังกรทั้งสี่ทะเลถึงกับมีข้อกำหนดเข้มงวดเพียงใดกันแล้ว?  
 
 
รูปโฉมของผู้ที่อยู่ตรงหน้า เป็นเพียงแค่แนวหน้าเท่านั้นหรือ มิใช่ว่าเป็นระดับสุดยอด?   
 
 
เช่นนั้นพวกนางก็คิดไม่ออกแล้วว่า สตรีที่ยังจะงดงามไปกว่าคนผู้นี้จะมีรูปโฉมเลิศเลอถึงเพียงใด!  
 
 
เพราะแค่…..รูปโฉมของแม่นางผู้นี้ เมื่อเปรียบเทียบกับองค์หญิงเยี่ยอิง ก็ต้องนับว่าไม่อ่อนด้อย ซ้ำยังออกจะเหนือล้ำกว่าด้วยซ้ำ  
 
 
หลายปีมานี้ เหล่าอนุทุกนางล้วนเป็นโฉมสะคราญดุจบุปผาและจันทราด้วยกันทั้งนั้น ไม่เคยมีผู้ใดที่น่าเกลียดมาก่อนเลย  
 
 
ดังนั้นเหล่านางกำนัลจึงยิ่งปรนนิบัติตู๋กูซิงหลันด้วยความขยันขันแข็งยิ่งกว่าเดิม  
 
 
พวกนางช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อย่างละเอียดลออ แม้แต่ซอกเล็บก็ยังจัดการจนสะอาดสะอ้าน  
 
 
กลิ่นเลือดบนร่างของแม่นางผู้นี้เข้นข้นมาก ยังดีที่พวกนางมิได้มีคนเดียว  
 
 
จนกระทั่งคราบเลือดบนร่างของตู๋กูซิงหลันถูกขจัดไปจนหมดแล้ว พวกนางถึงได้หยุดมือ  
 
 
จากนั้นก็ยกนางขึ้นมาจากน้ำ ให้นางสวมใส่ชุดนอนสีดำที่มีลวดลายงดงาม  
 
 
ชุดนอนนี้มีเนื้อผ้าแวววาว ขับผิวให้ดูขาวนวลละเอียดเนียน  
 
 
ก่อนหน้านี้ พวกนางรู้สึกว่าประโยชน์ของเสื้อผ้าชุดนี้มีไว้เพื่อส่งเสริมความงามของเหล่าอนุ  
 
 
แต่ตอนนี้พอสวมชุดลงไปบนร่างของตู๋กูซิงหลัน พวกนางถึงได้เข้าใจว่า….ผู้ที่งดงามล้ำเลิศเช่นนี้ แม้แต่เสื้อผ้าที่เป็นประกายงดงามก็ยังถูกนางข่มจนดูหมองลงไป  
 
 
แวบแรกพอมองไป สิ่งที่เข้าสู่สายตาก็ยังคงเป็นนางเท่านั้น มิใช้เสื้อผ้าอาภรณ์  
 
 
เหล่านางกำนัลทั้งหลายต่างก็พากันอ้ำอึ้งไป  
 
 
“พวกเจ้าว่า องค์หญิงทะเลตะวันตกผู้นี้…จะเป็นที่โปรดปรานขององค์ไท่จื่อหรือไม่?”  
 
 
มีคนตอบคำถามขึ้นมาว่า  
 
 
“ต่อให้ไม่อาจคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ได้ เพียงแค่รูปโฉมนี้ ไท่จื่อก็คงจะทรงโปรดปรานมากแล้วกระมัง?”  
 
 
“จริงด้วย พวกเรารับใช้ไท่จื่อมาเนิ่นนาน ไม่เคยเห็นใครจะงดงามเช่นนางมาก่อนเลย”  
 
 
ต่างก็กระซิบกระซาบต่อกัน กระทั่งเห็นสตรีที่เป็นหัวหน้านางกำนัลนำผงไข่มุกเข้ามา  
 
 
“พวกเจ้าอย่าพึ่งรีบร้อนดีใจ”  
 
 
หัวหน้านางกำนัลเอ่นขึ้นมา “ฟังมาว่าก่อนหน้านี้องค์หญิงมังกรตะวันตก มีเหล่ามังกรมากมายเฝ้าติดตามอยู่ไม่ขาด อายุก็พันกว่าปีแล้ว …..ยากที่จะรับประกันได้ว่านางไม่เคยมีความสัมพันธ์กับบุรุษใดมาก่อน”  
 
 
“หากว่านางมิได้มีร่างกายที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เช่นนั้นก็คงจะถูกโยนลงไปในหุบเหวไร้ก้นก็ได้”  
 
 
ขณะที่นางกำนัลผู้นั้นพูด นางกำนัลอีกสองคนก็ช่วยกันยกแขนของตู๋กูซิงหลันขึ้นมา เผยผิวบนเรียวแขนขาวนวลละเอียด  
 
 
ทั้งหมดต่างก็กลั้นลมหายใจเข้าไป มองดูหัวหน้านางกำนัลใช้ไม้สีทองแตะแต้มผงไข่มุก  
 
 
 
 
 
จากนั้นก็ประทับผงไข่มุกลงไปบนข้อมือของนาง  
 
 
นี่เป็นวิธีที่เผ่ามังกรทมิฬของพวกนางใช้พิสูจน์ความบริสุทธ์ของร่างกาย  
 
 
หากว่ายังเป็นพรหมจรรย์ ผงไข่มุกก็จะติดอยู่บนนั้นไม่หลุดออก  
 
 
หากว่านางเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับบุรุษใดมาก่อน  
 
 
จนสูญเสียพรหมจรรย์ไปแล้ว เช่นนั้นมิว่าทำอย่างไรผงไข่มุกก็จะไม่ติด  
 
 
เพื่อเป็นการรับประกันว่าทารกที่เกิดมาเป็นสายเลือดที่บริสุทธิ์ เหล่าอนุทุกนางของไท่จื่อจะต้องเป็นสตรีพรหมจรรย์เท่านั้น  
 
 
องค์หญิงจากทะเลตะวันตกผู้นี้…..ก็ไม่อาจนอกเหนือไปได้เช่นกัน  
 
 
หัวหน้านางกำนัลกดลงไปอยู่เป็นนาน จึงค่อยๆคลายมือออกช้าๆ  
 
 
พอเห็นบนข้อมือของตู๋กูซิงหลันมีแต้มสีแดงเข้มเพิ่มขึ้นมา ทั้งหมดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก  
 
 
“แม่นางน้อย ขอเพียงเจ้าสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ออกมา ก็จะกลายเป็นผู้มีบุญญาบารมีสูงส่งแล้ว” หัวหน้านางกำนัลส่งยิ้มให้ขณะที่พูดกับตู๋กูซิงหลันที่ยังคงสลบไสลอยู่  
 
 
ถึงร่างกายของตู๋กูซิงหลันยังคงสลบไสลอยู่ แต่ที่จริงนางรู้สึกตัวบ้างแล้ว  
 
 
ที่คนอื่นๆพูดกันนั้นนางล้วนได้ยินอย่างชัดเจน แต่เพราะว่าถูกพิษ ทั้งยังถูกแมงกระพรุนตัวนั้นโยนทิ้งออกมา กระแทกจนศีรษะแตก นางจึงยังต้องการเวลาพักฟื้นอีกช่วงหนึ่ง  
 
 
ขณะที่ถูกเหล่านางกำนัลจับอาบน้ำ แล้วส่งเข้าไปในห้องบรรทมของไท่จื่อ นางก็รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา  
 
 
เยี่ยเฉินคุ้นเคยกับภาพที่มีสตรีถูกแบกมาส่งอยู่แล้วเขาจึงมิได้เหลือบแลแม้แต่น้อย  
 
 
กระทั่งเมื่อสาวน้อยผู้นั้นถูกวางลงบนเตียง เผยให้เห็นดวงหน้าที่งดงามจนหน้าตื่นตะลึง  
 
 
แววตาของเขา จึงเปลี่ยนไป…….  
 
 
………………………………….  
 
 
 
 
 
ไรท์: หลันๆของแม่จะถูกปอกแล้ว!!! กองหนุนอยู่ไหน? หรือมีแต่กองเชียร์? (ปอกเลยๆๆ)  
 
 
ตอนต่อไป “เยี่ยเฉิน”  

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset