ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 452 ที่ว่าเกินไปนั้น มันพึ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก

สองมือของเยี่ยเฉินชุ่มโชกไปด้วยเลือด กระทั่งด้ามจับของง้าวมังกรก็ยังถูกย้อมจนแดงฉาน
 
 
เขาเคยปราบกระทั่งสัตว์อสูรบรรพกาล ถูซี[1] ด้วยกำลังของตนเองเพียงผู้เดียวมาแล้ว  ตอนนั้นถึงจะต้องกระดูกหักสะบั้นไปครึ่งร่างแต่ก็สามารถเอาชนะถูซีได้ในที่สุด ปลายแหลมของง้าวเล่มนี้ใช้เขาของถูซีสร้างขึ้นมา จึงแข็งแกร่งกว่ากระบี่ผงาดฟ้าของเขามากมาย
 
 
เพียงทิ่มแทงออกไป แม้แต่ภูเขาทั้งลูกก็ต้องทะลายกลายเป็นที่ราบ
 
 
แต่ว่าครั้งนี้พอแทงออกไป ดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
 
 
ดาบยักษ์เล่มนั้น……มองดูจากวัสดุที่ใช้ ก็เป็นเพียงแค่อาวุธธรรมดาของพวกมนุษย์เท่านั้น……
 
 
แต่ว่าเมื่ออยู่ในมือของตู๋กูซิงหลัน ไม่เพียงแต่จะสามารถดูดซับพลังของกระบี่ผงาดฟ้าไป เมื่อเผชิญกับง้าวมังกรของเขาก็ไม่ตกเป็นรอง ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนด้วยซ้ำ!
 
 
เยี่ยเฉินกุมง้าวมังกรเอาไว้อย่างแนบแน่น มองดูสาวน้อยที่มีท่าทางอหังการอย่างที่สุด ในใจก็พลันบังเกิดความปรารถนาขึ้นมาอีกครั้ง!
 
 
สตรีผู้นี้….คือน้องสาวต่างมารดาของเขา ย่อมไม่อาจให้กำเนิดบุตรกับเขาได้
 
 
           แต่ว่าพวกเขาสามารถร่วมกันฝึกฝนวิชาซวงซิวได้นี่….ถึงแม้ว่านางจะเกิดจากเผ่ามนุษย์  แต่ดูแล้วยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสี่ยวอิงหลายเท่าตัว
 
 
           ขอเพียงยามที่ฝึกฝนวิชาซวงซิว ให้นางกระทำเช่นเดียวกันกับเสี่ยวอิงถ่ายทอดขุมพลังมาไว้ที่เขา….บางทีเพียงไม่นาน เขาอาจจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าก็เป็นได้
 
 
พอถึงตอนนั้น ไหนเลยจะยังต้องการพลังของราชามังกรทมิฬอีก! เขาย่อมกลายเป็นเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยตนเอง!
 
 
แววตาของเยี่ยเฉินเปล่งประกาย ตอนนี้เขายิ่งทียิ่ง ‘ชื่นชอบ’น้องสาวผู้นี้ขึ้นมาแล้ว!
 
 
เยี่ยอิงติดตามเขามานานหลายปี นางย่อมเข้าใจเขาอย่างที่สุด เพียงแค่ได้เห็นแววตาของเขา นางก็รู้สึกได้ว่าแย่แล้ว
 
 
“พี่ชาย ท่านอย่าได้ถูกนางแพศยาน้อยนั่นล่อลวงนะ!” นางร้องอย่างเกรี้ยวกราด “หากท่านไม่ฆ่านาง นางก็จะฆ่าพวกเรา!”
 
 
ยามนี้ตู๋กูซิงหลันแข็งแกร่งถึงเพียงไหน นางไม่รู้ชัด นางรู้แต่ว่าตนเองเกือบจะต้องตายใต้น้ำมือของนังแพศยาน้อยนั่นแล้ว
 
 
พี่ชายรับดาบเดียวของนางที่ฟันลงมายังถึงกับง่ามมือฉีกขาด
 
 
นังตัวร้ายนี่ จะต้องไปได้รับอะไรมาจากใต้หุบเหวไร้ก้นเป็นแน่ ถึงได้อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเข้มแข็งขึ้นมาขนาดนี้ได้
 
 
เพราะเมื่อครึ่งเดือนก่อน ยามที่มันเผชิญหน้ากับองค์หญิงเผ่ามังกรทมิฬอย่างตนก็ยังไม่ใช่คู่มือของตนเลย
 
 
ไม่เพียงแต่แค่นั้น ยังต้องให้บุรุษชาวมนุษย์ผู้หนึ่งมาคอยปกป้องนางด้วยซ้ำ!
 
 
“พี่ชาย ฆ่านางเสีย ค่อยยึดครองขุมกำลังในร่างของนางมา จะได้ลดทอนเวลาฝึกฝนไปอีกหลายพันปี!” เยี่ยอิงว่าต่อไป
 
 
นางรู้ดี เยี่ยเฉินกำลังรู้สึกเสียดาย ไม่อยากจะฆ่านังแพศยาผู้นี้!
 
 
เพราะว่ามันงดงามเกินไป!
 
 
เรื่องนี้เยี่ยอิงจำต้องยอมรับ….พี่ชายชื่นชอบสตรีโฉมงาม นางเข้าใจกระจ่างอยู่แล้ว
 
 
แต่ว่านางก็รู้ดีว่า พี่ชายไม่ใช่คนที่หลงใหลงมงายในความงาม เขายังให้ความสำคัญกับความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจมากกว่า
 
 
“หนวกหู!” ตู๋กูซิงหลันคร้านจะทนฟังพวกนางพูดพล่ามอีกต่อไป  นางถือดาบยักษ์เอาไว้ ร่างลอยอยู่กลางอากาศ สองมือกุมด้ามดาบมั่น พลังของจิตมังกรขับเคลื่อนออกมาทางฝ่ามือ
 
 
นั่นเป็นคลื่นพลังสีดำจากจิตวิญญาณมังกรที่แข็งแกร่งก่อตัวจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
 
 
มันถ่ายทอดลงไปในตัวดาบยักษ์ จากนั้นระเบิดออกพร้อมกับสองมือของนางที่ฟันลงมา!
 
 
เป้าหมายนั้นชัดเจนที่สุด คือเยี่ยอิง!
 
 
บัญชีของชือหลี!
 
 
ทำร้ายนางไปหนึ่ง ก็ต้องเอาความตายมาชดใช้!
 
 
ดาบนี้พอฟันลงมาก็ทำให้ภูเขาถูกเขย่า แผ่นดินสะท้านสะเทือน ตำหนักทะลายลง ปฐพีแยกเป็นช่องแตกยาว
 
 
รอยแยกบนพื้นดินลากยาวถึงสิบกว่าเมตร ตำหนักที่เยี่ยเฉินอาศัยยืนอยู่พังทะลายลงมาทั้งหลัง!
 
 
ฝุ่นละอองที่ลอยคละคลุ้งขึ้นมา ถูกพลังของดาบยักษ์ขับดันออกไปจนไกล
 
 
เยี่ยเฉินไหนเลยจะยอมให้นางสมใจได้ง่ายๆ เขาขับพลังของจิตมังกรไปทั่วร่าง ที่ด้านหลังของเขาปรากฏร่างของมังกรสีครามตัวหนึ่ง
 
 
เมื่อเขาอ้าปากคำราม มังกรตัวนั้นก็ส่งเสียงคำรามเช่นกัน แสดงพลังที่สามารถสั่นสะเทือนตั้งแต่ภูเขาไปยังท้องทะเลออกมา
 
 
เขาเคลื่อนไหวง้าวในมือ เข้ารับดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันอย่างตรงๆ
 
 
ยามเมื่อทั้งสองปะทะกัน ทั้งฝุ่นดินและก้อนหินก็ฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า!
 
 
ตำหนักต่างๆถูกพลังที่รุนแรงบดขยี้จนย่อยยับลงไปราวกับสร้างด้วยกระดาษ ชั่วขณะนั้น ทั้งหินและดินปลิวกระจายไปทั่วทุกทิศทาง วังมังกรกว่าครึ่งถูกทำลายลงไป!
 
 
คนที่อยู่ใกล้ล้วนกลายเป็นเนื้อแหลกเหลว!
 
 
พี่รองที่คุ้มคลั่งกระหายเลือดยังคงไล่คว้าเหยื่อของเขาต่อไป แต่ละคนหากมิใช่ว่าถูกบดขยี้จนเนื้อแหลกเหลว ก็ต้องถูกเขาดูดเลือดจนเป็นศพแห้งกรัง!
 
 
ขณะที่เยี่ยเฉินรับดาบนั้นของตู๋กูซิงหลันไว้ คนก็ร่วงไปทั้งร่าง ตกลงไปกระแทกพื้นจนกลายเป็นหลุมลึกหลายเมตร
 
 
กระดูกทั่วร่างของเขาส่งเสียงเลื่อนลั่นออกมา ถูกตู๋กูซิงหลันกดดันจนหายใจไม่ออก
 
 
ทำเอาเขาคาดไม่ถึงเลยว่า น้องสาวต่างมารดาผู้นี้จะแข็งแกร่งถึงระดับนี้ได้!
 
 
มือข้างหนึ่งของเขายังคงโอบอุ้มเยี่ยอิงเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะใช้จิตมังกรมาเป็นเกราะกำบัง แต่ว่าเยี่ยอิงก็ยังคงถูกพลังที่แข็งแกร่งนั่นกระแทกจนเลือดทะลักทั้งเจ็ดทวาร
 
 
ตัวดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันไม่ได้กระทบถูกนาง แต่ว่าเสื้อผ้าบนร่างของนางฉีกขาดจนรุ่ยร่าย ผิวเนื้อก็แตกจนมีเลือดออกทั่วทั้งตัว
 
 
นางเจ็บปวดจนกรีดร้องออกมาสุดเสียง เกือบจะสลบตายไปแล้ว
 
 
ดวงตาทั้งคู่ที่มีเลือดไหลออกมามองออกไป ยังเบื้องบนเหนือศีรษะ เห็นสาวน้อยที่ควงดาบยักษ์เอาไว้อยู่บนนั้น ในใจของนางหวาดผวาขึ้นมา
 
 
เมื่อครู่นี้……หากว่าเกิดขึ้นในดินแดนของมนุษย์ พลังนั่นเพียงพอที่จะทำลายเมืองทั้งเมืองให้พินาศ!
 
 
พี่ชายที่รับพลังนั้นเข้าไป ต้องการเวลาพักหายใจ
 
 
แต่ว่านางกลับบุกเข้ามาอีกครั้งแล้ว?
 
 
ทันใดนั้นเยี่ยอิงก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายส่งเสียงเย็นชาออกมาคำหนึ่ง ดาบยักษ์เปล่งประกายฟาดฟันลงมาอีกครั้ง
 
 
ยังคงเล็งมาที่นางเช่นเดิม!
 
 
“ตู๋กูซิงหลัน เจ้าทำเกินไปแล้วนะ!” เยี่ยเฉินขุ่นเคืองนางขึ้นมาจริงๆแล้ว
 
 
เขาเป็นถึงไท่จื่อผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรแห่งเผ่ามังกรทมิฬ มีหรือที่จะถูกลูกสาวนอกสมรสของบิดาไล่บี้จนไม่อาจโต้ตอบกลับไปได้?
 
 
เขาก็แค่เกรงว่าจะควบคุมพลังของตนเองไม่ได้ พลั้งมือฆ่านางไปเท่านั้น?
 
 
เพราะว่า…..เขาต้องการเก็บ “น้องสาว” ผู้นี้เอาไว้ฝึกฝนซวงซิว จึงไม่อาจดับชีวิตของนางไปง่ายๆ
 
 
แต่ว่าเมื่อถูกไล่บี้อยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่อาจอดทนต่อไปได้แล้ว
 
 
เขาคือองค์ไท่จื่อ หากว่าแม้แต่น้องสาวแท้ๆของตนเองก็ยังไม่อาจปกป้องได้ เช่นนั้นมิกลายเป็นที่ขำขันของผู้อื่นหรือ?
 
 
เยี่ยเฉินพึ่งจะสิ้นเสียง ดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันก็ฟาดลงมาเหนือศีรษะของเขาแล้ว
 
 
ดาบที่เฉียดผ่านปลายจมูกของเขาลงไปยังเยี่ยอิงที่อยู่ในอ้อมอกของเขา
 
 
บนตัวดาบยักษ์แฝงด้วยพลังดำมืดสุดหยั่ง พอดาบนี้กวาดลงมา เยี่ยอิงก็ไร้หนทางหลบหนี
 
 
 ดาบนี้ทิ่มแทงลงไปกลางกระโหลก
 
 
โชคดีที่เยี่ยเฉินปฏิกริยาว่องไว เขาอุ้มเยี่ยอิงถอยหลังไปก้าวหนึ่งได้ทัน เยี่ยอิงจึงรอดจากศีรษะระเบิดไป เพียงถูกกรีดใบหน้ายาวลงมา
 
 
ทันใดนั้นก็เห็นด้านบนเหนือศีรษะ มีพายุยันต์สีเหลืองจำนวนนับไปถ้วนพุ่งลงมายังพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขา
 
 
ทันทีที่ยันต์สีเหลืองสัมผัสพื้นดิน ก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กำแพงยันต์สีเหลืองผุดขึ้นมาจากพื้นดินในทันที กลายเป็นสนามพลังกระหายเลือดที่รายล้อมเยี่ยเฉินและเยี่ยอิงเอาไว้ภายใน
 
 
ตู๋กูซิงหลันเป็นเสมือนดั่งผู้สูงส่งจากฟากฟ้า ดาบของนางฟาดลงมาจากสวรรค์สะเทือนจนถึงปฐพี สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่คนทั้งสองอย่างไร้ความรู้สึก
 
 
พลังของจิตมังกรบนฝ่ามือถ่ายทอดลงไปในตัวดาบยักษ์อีกครั้ง ฟาดฟันลงไปยังเยี่ยเฉินอย่างโหดเ**้ยม
 
 
พลังนี้ทำลายเกราะจากจิตมังกรของเยี่ยเฉิน ดาบมังกรผ่ากลางกระโหลกของเยี่ยอิงลงไป ฉีกร่างออกเป็นสองส่วน!
 
 
จากนั้น นางค่อยขยับริมฝีปากสีแดง มองดูเยี่ยเฉินที่ตกตะลึงจนแข็งค้างไปแล้วด้วยสายตาเย็นชา “ที่ว่าเกินไปนั้น ตอนนี้พึ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก!”
 
 

 
 

 
 
——
 
 
[1] สัตว์ในชีวบรรพกาล (ยุคไดโนเสาร์) ที่มีลักษณ์คล้ายแรดขนาดใหญ่
 
 
……………………………..
 
 
ไรท์: โฮก! คนเขียนก็ไม่ได้เกรงใจคนแปลเลย ดุเดือดเลือดพล่านขนาดนี้ แล้วที่เหลือจะเป็นยังไง
 
 
ตอนต่อไป “ในใจของนางมีทั้งส่วนที่ห่วงใยสรรพชีวิตใต้หล้า และจอมมารที่โหดเ**้ยม”

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset