ตอนที่ 126 ลักพาตัว (1)
ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในสมองเธอก็คือ ‘โอ้โฮ นี่ฉันมาเจอเข้ากับพวกค้ามนุษย์เข้าเหรอเนี่ย ดูท่าทางมือโปรกันมากเลย!’
หญิงสาวถอยหลังอย่างลังเล “อย่ามายุ่งกับฉันนะ ฉันไม่ไปด้วยหรอก!”
แล้วเธอก็แอบกดหมายเลขหนึ่งหนึ่งศูนย์ในโทรศัพท์…
นายตัวหัวหน้ากระชับแว่นกันแดดก่อนฉวยเอาโทรศัพท์มือถือของเธอไปด้วยความไวดุจสายฟ้าแลบ
“เฮ้! ฮึบ…” อันซย่าซย่าไม่มีเวลามาห่วงเรื่องโทรศัพท์แล้วตอนนี้ เธอรีบวิ่งหนีทันที
แต่โชคไม่ดีที่พวกนั้นจับตัวเธอไว้ได้เกือบจะทันที แล้วผู้ชายคนหนึ่งก็ปิดปากเธออย่างหยาบคายจากนั้นก็อุ้มเธอไปขึ้นคาเยนน์ราวกับกำลังหิ้วไก่ตัวหนึ่ง
“ปล่อยฉันนะ! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” อันซย่าซย่ากัดผู้ชายคนนั้น เขาปล่อยตัวเธอเพราะความเจ็บปวด หญิงสาวฉวยโอกาสนั้นร้องเรียกให้คนช่วย
แต่อย่างไรก็ตาม คนที่เดินผ่านมาเพียงแค่มองเธอเฉยๆ แต่กลับไม่มีใครทำอะไรเลย
เธอต้องดิ้นเอาตัวรอดอีกครั้งก่อนตัวหัวหน้าจะโบกมือ จากนั้นคนที่เธอกัดก็พยักหน้า สันมือข้างหนึ่งก็ปะทะเข้าที่หลังต้นคอเธอ
อันซย่าซย่าหมดสติไปในทันที
–
เซิ่งอี่เจ๋อนั่งนับเวลารออยู่ที่บ้าน ผ่านไปครึ่งตอนแล้วแต่อันซย่าซย่าก็ยังไม่กลับบ้าน
เขาโทรศัพท์หาเบอร์เธอ มีการกดรับสาย แต่แล้วก็ตัดไปในทันที
เขากดโทร.อีกครั้งแล้วโทรศัพท์ก็ถูกปิดเครื่องไปเลย
เซิ่งอี่เจ๋อเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
เขาเข้าไปในครัวซึ่งอันอี้เป่ยกำลังทำอาหารค่ำอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนวินนี่เดอะพู แววตาเขาแสดงออกอย่างเย็นชาเมื่อเห็นเซิ่งอี่เจ๋อเดินเข้ามา
เจ้าหมอนี่คิดจะจีบน้องสาวตัวน้อยของเขา! เชอะ!
“ปกติแล้วซย่าซย่าไปซื้อของกินที่ไหน” เซิ่งอี่เจ๋อถาม
อันอี้เป่ยกำมีดในมือแน่นขึ้นนิดหนึ่ง เซิ่งอี่เจ๋อถอยหลังโดยสัญชาตญาณ
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าพี่ชายเธอกำลังจะสับเขาเป็นชิ้นๆ ในอึดใจต่อมานะ…
“ของกินอะไรล่ะ” อันอี้เป่ยกัดฟันตอบ
เซิ่งอี่เจ๋อกระแอม “เกี๊ยวครับ เขาจะหลงทางหรือเปล่า ผมคิดว่าจะออกไปตามหาเขาหน่อย”
อันอี่เป่ยร้องฮึก่อนจะบอกชื่อย่านที่ขายอาหารทานเล่น แต่พอมาคิดดูอีกที เขาก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วไปกับเซิ่งอี่เจ๋อ
ชายหนุ่มเปลี่ยนมาใส่เสื้อฮู้ด สวมหน้ากากผ้า ไม่นานนักทั้งสองก็มาถึงถนนเส้นนั้น
อันอี้เป่ยบังเอิญรู้จักกับผู้หญิงเจ้าของร้านขายเกี๊ยวพอดี เขาจึงเข้าไปทักทายพลางถาม “วันนี้ซย่าซย่ามาที่ร้านหรือเปล่าครับ”
“อ้อ… เธอหมายถึงน้องสาว คนที่น่ารักๆ น่ะเหรอ” ป้าเจ้าของร้านตอบพลางยิ้มให้ “ไม่นี่ ไม่เห็นได้มา”
สีหน้าอันอี้เป่ยเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็กดเบอร์โทรของอันซย่าซย่าและได้รู้ว่าเครื่องถูกปิดไป
เขาแลกเปลี่ยนสายตากับเซิ่งอี่เจ๋อขณะที่เริ่มตระหนักทั้งคู่ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
เซิ่งอี่เจ๋อกดโทรศัพท์ทันทีเพื่อสั่งให้คนออกไปตามหาตัวอันซย่าซย่า ระหว่างที่อันอี้เป่ยโทร.หาเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ทำงานอยู่ในบริษัทโทรคมนาคม
ไม่นานนัก เพื่อนสมัยเรียนของเขาก็ส่งรูปบันทึกการโทรศัพท์ล่าสุดของอันซย่าซย่ามาให้
หมายเลขสุดท้ายที่เธอโทรออกคือหนึ่งหนึ่งศูนย์!
ท่าไม่ดีเสียแล้ว! อันซย่าซย่าต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ!
–
เมื่ออันซย่าซย่ารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง เธอก็รู้สึกปวดหนึบที่ท้ายทอย
ไอ้พวกค้ามนุษย์พวกนี้! ลักพาตัวเธอมายังไม่พอ ยังลงไม้ลงมือกับเธออีก! หลังจากถูนวดที่ต้นคอแล้วเธอก็ลุกขึ้นนั่ง
เธออยู่บนเตียงนุ่มๆ ที่รู้สึกสบายจนอยากจะกลิ้งไปกลิ้งมา
เดี๋ยวนะ…เดี๋ยวนี้พวกค้ามนุษย์เขาปฏิบัติกับสินค้าดีขนาดนี้เชียวเหรอ
พอมองไปรอบๆ เธอก็ต้องทึ่งกับการตกแต่งห้อง
มันดูเรียบง่ายแต่ก็หรูหรา การออกแบบภายในซึ่งสะอาดและเป็นระเบียบส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสีขาวกับดำและเทา มีกลิ่นอายความเป็นผู้ชายที่ทำให้เธอนึกถึงห้องของเด็กวัยรุ่นผู้ชาย
นี่ต้องเป็นพวกค้ามนุษย์ที่รวยมากๆ แน่เลย…
พอก้มลงมองที่ตัวเอง อันซย่าซย่าก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก
ใครเอาชุดเดรสสั้นสีดำมาเปลี่ยนให้เธอกัน!
ตอนที่ 127 ลักพาตัว (2)
นี่มันกลางเดือนตุลาคมเข้าไปแล้ว อันซย่าซย่าต้องสวมเสื้อแจ็กเกตทับเครื่องแบบนักเรียนด้วยซ้ำ เธอไม่มีทางสวมอะไรเบาบางขนาดนี้หรอก
แต่ว่า ชุดนี้ก็ตัดเย็บอย่างประณีตและให้ความรู้สึกสบาย เธอบอกได้ทันทีเลยว่ามันเป็นอะไรที่เธอไม่มีปัญหาหาซื้อได้…
หญิงสาวกระโดดลงจากเตียง และพบกับรองเท้าสองคู่
มีส้นสูงคู่หนึ่ง กับส้นแบนคู่หนึ่ง ซึ่งมันสวยมากทั้งคู่และมีสีดำ
อันซย่าซย่าเลือกสวมรองเท้าส้นแบน เธอคิดว่าจะลองมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าจะมีทางหนีไหม
เธอลองดูที่ประตูแต่ว่ามันถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา เธอไม่มีทางเลือกนอกจากมองหาทางออกอื่น—ระเบียงห้อง
ระเบียงนั้นกว้างขวางมากและถูกล้อมไว้ด้วยรั้วสีขาว มีกระถางต้นไม้เขียวๆ ตกแต่งอยู่สองสามกระถาง
อันซย่าซย่าเขย่งปลายเท้าดูและเห็นว่าไม่ได้สูงมากนัก ห้องนี้อยู่บนชั้นสองเท่านั้นเองแต่ว่าเบื้องล่างนั้นเป็นสนามหญ้าโล่งๆ ขนาดใหญ่
เอ่อ เธอคงไม่เป็นอะไรมั้งถ้าจะกระโดดลงไปข้างล่าง อันซย่าซย่าเธอทำได้!
หญิงสาวจัดแจงปีนขึ้นไปบนขอบระเบียง แต่ก่อนที่เธอจะกระโดดนั้น แข้งขาก็แทบสิ้นเรี่ยวแรงด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ “คุณอัน กรุณากลับเข้าไปในห้องและรอนายน้อยในนั้นด้วยครับ”
เธอมองไปรอบๆ และตกใจแทบสิ้นสติ
ที่ระเบียงห้องถัดไปมีผู้ชายในชุดสูทสีดำยืนอยู่ เขายืนแบบแทบจะกลมกลืนไปกับเงามืด
“แหะๆ … ข้างนอกนี้อากาศดีน่ะฉันก็เลยออกมาชมวิว…” อันซย่าซย่าฝืนยิ้ม พยายามจะกระโดดลงไปในตอนที่เขาเผลอ
แต่อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวต่อมาของเขานั้นช่างเหนือจินตนาการของเธอจริงๆ เขากระโจนอย่างสบายๆ ข้ามมาที่ระเบียงของเธอ แล้วลากตัวเธอออกห่างจากรั้วระเบียง
“โอ๊ย… เจ็บนะ! ปล่อยฉัน!” ผู้ชายคนนั้นจับไหล่เธอไว้ เขาบีบไหล่เธอจนกระดูกแทบร้าว
“คุณอัน กรุณารอนายน้อยในห้อง” ชายคนนั้นพูดอย่างสุภาพ
อันซย่าซย่าตวาดแว้ด “นรกเหอะ! ไอ้พวกค้ามนุษย์น่ารังเกียจ! โอย…เบาๆ หน่อยสิ…” เธอรู้สึกว่าเขาจับเธอแน่นขึ้น หญิงสาวจำกลยุทธ์การเอาตัวรอดที่เธอเคยอ่านในอินเทอเน็ตได้ มันบอกไว้ว่าอย่าขัดขืนผู้ร้าย เธอจึงเปลี่ยนมายิ้มทันที “ก็ได้ ฉันจะรอ โอ๊ยตายแล้ว ปล่อยฉันก่อนได้ไหม จับซะแรงจนกระดูกจะแหลกคามือแล้ว…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายคนนั้นก็ฉุกคิดก่อนจะคลายมือ
อันซย่าซย่าใช้โอกาสนั้นพยายามวิ่งหนีอีกครั้ง!
คราวนี้นายคนนั้นเหวี่ยงตัวเธอพาดบ่าไว้อย่างไร้ความปรานี และไม่ยอมปล่อยไม่ว่าเธอจะเตะจะร้องยังไงก็ตาม
จากนั้นเขาก็โยนเธอลงบนเตียง— สาบานเลยว่าเธอเห็นดาวจากแรงปะทะนั้นพลางสบถด่าโคตรเหง้าของเขาอย่างเงียบๆ ในใจ
ในตอนนั้นเอง บานประตูก็ถูกผลักเปิดออก
อันซย่าซย่าเห็นรองเท้าหนังสีดำเงาวับคู่หนึ่ง กับขายาวๆ ที่อยู่ในชุดสูทสีดำ และ…ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอนึกอยากจะเห็นเป็นหน้าสุดท้ายในเวลานี้
“ฉีเหยียนซี!” หญิงสาวงงเป็นไก่ตาแตก
หมอนี่มาทำอะไรที่นี่
ฉีเหยียนซีขยับเนกไท มุมปากข้างหนึ่งแสยะยิ้มนิดๆ กับสภาพวุ่นวายโกลาหลภายในห้อง
ยัยนี่ไม่ยอมอยู่เฉยแฮะ
“ออกไปได้” เขาสั่งชายคนนั้น
อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ
อันซย่าซย่ากระโดดลงจากเตียงและจ้องมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ นายก็โดนลักพาตัวเหมือนกันเหรอ”
อย่างไรก็ตาม ในสูทเนี้ยบๆ กับทรงผมดูดี เขาก็ดูเท่อยู่ไม่น้อยเลย
แล้วเธอก็อ้าปากหวอขณะที่พูดในสิ่งที่สงสัยออกมาอย่างดัง “เป็นไปไม่ได้ นายคงไม่ใช่คนที่ลักพาตัวฉันมาใช่ไหม”
ฉีเหยียนซีขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์กับการเลือกใช้คำของเธอ
“เธอหมายความว่ายังไงที่ว่าลักพาตัว เป็นการเชิญต่างหากล่ะ!” ฉีเหยียนซีตอบอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็พูดต่ออย่างกระดากๆ “อืม…เธอดูสวยมากเลยนะในชุดนั้น”