ตอนที่ 200 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (9)
เกล็ดหิมะดูเหมือนจะปลิวลงมาบนจุดที่อ่อนไหวที่สุดภายในใจของทั้งสองก่อนจะระเหยกลายเป็นไอ
กระเช้าเคลื่อนขึ้นมาสู่จุดสูงสุดของวงล้อ ที่ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุดและเงียบสงบที่สุด ทั้งหมดที่เขาและเธอได้ยินก็คือเสียงหัวใจที่กำลังเต้นตึกตัก ซึ่งดังก้องอยู่ภายในพื้นที่แคบๆ แห่งนี้
อันซย่าซย่าพูดอะไรไม่ออก
เซิ่งอี่เจ๋อลูบไล้ปลายนิ้วของเธอ-มันมนและมีปลายสีชมพูระเรื่อ
เขาเอ่ย “ซย่าซย่า เธอรู้ไหม ถึงแม้ว่าเธอจะคิดว่าฉันน่ารำคาญ แต่ฉันก็ยังชอบเธอมากอยู่ดี ฉันคงบ้าไปแล้วที่ตกหลุมรักเธอเข้า”
“เธอทำให้ฉันเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นเธอเลิกวิ่งหนีฉันได้แล้ว ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่เข้าใจความรู้สึกของฉันดีกว่าใคร”
ในชั่วขณะนั้นเอง โลกทั้งใบดูเหมือนจะหยุดหมุนแล้วหัวใจเธอก็เต้นสะดุด
เมื่อกระเช้าของทั้งคู่เริ่มเคลื่อนลงอย่างเชื่องช้าราวกับตัวทาก อันซย่าซย่าก็รู้สึกว่าหัวใจเธอเต้นแรงขึ้น
หญิงสาวได้ยินเสียงสั่นสะท้านของตัวเอง “เซิ่งอี่เจ๋อ นายกำลังสารภาพรักกับฉันเหรอ”
“แล้วยังไง คิดว่าฉันพามาที่นี่เพื่อคุยเล่นงั้นเหรอ” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้ม ไฝเม็ดเล็กใต้ตาเขาดูช่างเย้ายวนใจมากขึ้นเมื่อรวมกับรอยยิ้มนั้น
อันซย่าซย่าตกตะลึงพรึงเพริด เธอทำอะไรไม่ถูกเลยเมื่อเซิ่งอี่เจ๋อประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
เมื่อตอนที่เซียวเหยี่ยนพยายามจะจูบเธอ ปฏิกิริยาตอบโต้แรกของเธอคือหนี
เมื่อเธอไม่สามารถหนีได้ เลยคิดว่าจะตอบโต้เขาอย่างน่ารังเกียจด้วยการถ่มน้ำลายใส่
แต่สำหรับจูบของเซิ่งอี่เจ๋อนั้น สมองของเธอดูเหมือนจะหยุดทำงาน ทุกอย่างมืดดับไปหมดและภายในใจกับสมองของเธอไม่มีอะไรอย่างอื่นอยู่เลยนอกจากเขาเท่านั้น
ทั้งหมดมีแต่เขา
เขาเท่านั้น
ผู้ชายที่จูบเธออยู่ ประกาศตัวอย่างบริสุทธิ์ใจว่าเนื้อตัวของเขาเป็นสิทธิ์ของเธอ
คนที่ทั้งปากแข็ง เหลือทน เทพบุตรหรือปีศาจ
ลิ้นเขาแทรกเข้าไปภายในโพรงปากเธอและกระหวัดพัวพันกับของเธอ ที่เหลืออยู่คือเสียงริมฝีปากชื้นๆ ที่สัมผัสกันของทั้งคู่
หิมะยังคงโปรยปรายอยู่ข้างนอกและวิวทิวทัศน์ก็สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ
บรรยากาศโรแมนติกเบาสบายถูกทำลายด้วยเสียงร้องโอดครวญของอันซย่าซย่า—
“เซิ่งอี่เจ๋อ… ฉัน ฉันกำลังจะตาย…”
ชายหนุ่มซึ่งกำลังดื่มด่ำอยู่กับรสจูบนิ่วหน้าก่อนจะรีบปล่อยเธอในทันทีพลางถามอย่างร้อนรน “เกิดอะไรขึ้น ไม่สบายเหรอ”
เขาถูกสยบด้วยคำตอบของเธอ—
“ฉันหายใจไม่ออก…ข้างบนนี้อากาศเบาบางเหรอ” อันซย่าซย่าเอ่ยถามพร้อมกับย่นหน้า
เซิ่งอี่เจ๋อเหลือบมองไปที่หน้าต่างอย่างช่วยไม่ได้ หึ เขาน่าจะเปิดมัน แล้วโยนเธอออกไปเลยดีไหม
อันซย่าซย่าบ่นพลางหายใจเข้าลึกๆ ใช้เวลาครู่หนึ่งทีเดียวกว่าแก้มจะหายแดง
เซิ่งอี่เจ๋อเฝ้าดูท่าทางประดักประเดิดของเธอแล้วเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที
อันซย่าซย่า… ไม่รู้วิธีหายใจตอนจูบ!
เขาไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดีกับสิ่งที่ได้รับรู้นี้
ชายหนุ่มถอนหายใจและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี เมื่อครู่เขาไม่เพียงแค่สารภาพรักเพราะแรงกระตุ้นเท่านั้น แต่ยังจูบเธออีกด้วย ยัยตัวจิ๋วจะโกรธอีกไหมนะ
แต่อย่างไรก็ตาม อยู่ๆ เธอก็ยื่นมือออกมาพร้อมกับกรงเล็บน้อยๆ อันชั่วร้ายก่อนจะหยิกใบหน้าหล่อเหลาของเขาเข้าอย่างแรง
โอ๊ย—
เซิ่งอี่เจ๋ออดทนไม่ยอมแสดงออกแม้ว่ามันจะเจ็บเพียงใด เขาได้แต่ขมวดคิ้วเพื่อแสดงความไม่พอใจ
“เจ็บไหม” อันซย่าซย่าขยับเข้ามาใกล้เขาอย่างกระตือรือร้น เธอเห็นว่าแก้มเขาแดงขึ้นจากการหยิกของเธอ!
“อยากลองโดนเองไหมล่ะ” เซิ่งอี่เจ๋อหยัน
หญิงสาวรีบจิ้มปลายนิ้วชี้เข้าหากัน ทำท่าไร้เดียงสา “ฉันแค่อยากจะรู้ว่าฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า…”
“อ้อ ถ้าเป็นความฝันจริงๆ แล้วเธอจะทำยังไง แล้วถ้ามันเป็นความจริงล่ะ” เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วขึ้นถาม
หญิงสาวเงียบงันไป จากนั้นก็กัดริมฝีปากแล้วความเจ็บก็ทำให้หน้าของเธอย่นขึ้นเล็กน้อย
มันเป็นจูบที่เจ็บปวด…
“ฉันก็จะบอกตัวเองว่าหมามันกัดฉัน ถ้ามันเป็นความฝันน่ะสิ…” ใบหน้าเซิ่งอี่เจ๋อเครียดขึ้นมากับคำตอบของเธอทันที!
ให้ตายเถอะ เธอเพิ่งว่าเขาเป็นหมางั้นเรอะ!
ตอนที่ 201 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (10)
เมื่อสัมผัสได้ถึงสีหน้าน่ากลัวสุดๆ ของเซิ่งอี่เจ๋อ อันซย่าซย่าก็ยกมือป้องศีรษะตัวเองเพราะกลัวว่าเขาจะเขกหัวเธอ
“ว่าต่อไปซิ” เขาบอกด้วยเสียงเคร่งเครียด
อันซย่าซย่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยดวงตาที่มีน้ำตารื้น “เซิ่งอี่เจ๋อ นายสติไม่ดีหรือเปล่า”
ใบหน้าชายหนุ่มในตอนนี้มืดทะมึนเหมือนหน้ากากดาร์ธเวเดอร์เลยทีเดียว
“อะไรไปดลใจนายให้มาชอบฉัน ฟังนะ ฉันมีข้อเสียมากมายขนาดนี้ แล้วนายก็ชอบว่าฉันว่าซื่อบื้ออยู่ตลอดเวลา แต่มาตอนนี้กลับมาบอกว่าชอบฉัน นายบ้าหรือยังไง” อันซย่าซย่าพูดอย่างจริงจัง
เซิ่งอี่เจ๋อเคาะกระจกหน้าต่างด้วยนิ้วเรียวยาวของเขา ในใจก็เริ่มนึกสงสัยว่าจะโยนหัวหรือขาเธอออกไปก่อนดี
“ฉัน… ฉันจะถือว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องตลกก็แล้วกันนะ นายนี่ช่างร้ายจริงๆ แต่ฉันเป็นคนใจกว้างและฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอภัยให้นาย! แต่ได้โปรด…อย่าทำแบบนี้อีก” อันซย่าซย่าหลับตาลงหลังจากพูดจบ ขนตายาวๆ ของเธอสั่นไหวและการกะพริบแต่ละครั้งก็ดูเหมือนจะจี้ใจเขา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ไม่อาจทนได้
ชายหนุ่มรู้สึกอยากจะฆ่าใครสักคนขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเอง
การสารภาพรักของเขาถูกทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขัน!
แล้วเธอยังมาบอกว่าจะยกโทษให้เขาอีก เมื่อไหร่กันที่เขาต้องการความเห็นใจจากเธอ!
“อันซย่าซย่า เลิกอ้อมโลกวนไปวนมาเสียทีเถอะ เธอจะล้อเล่นกับความรู้สึกฉันไปถึงไหน” เซิ่งอี่เจ๋อเค้นถ้อยคำเหล่านั้นออกมาทีละคำๆ ราวกับว่าเขาพร้อมจะสับใครสักคนให้เป็นชิ้นๆ ในเสี้ยวนาทีถัดไป
หญิงสาวตกใจกลัว ทว่าก็รวบรวมความกล้าเพื่อจะอธิบาย “ฉันเปล่านะ…นายคิดไปเองทั้งนั้น”
คิดไปเองทั้งนั้น คิดไปเอง!
คิดไปเองนรกน่ะสิ!
เกิดมาเขายังไม่เคยรู้สึกคับข้องใจขนาดนี้มาก่อนเลย
ความอดทนอดกลั้นของเขาหมดสิ้นลง เขาบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองจ้องเธออย่างเย็นชา “เธอคอยแต่จะหนีหลังจากที่มาทำให้ฉันว้าวุ่น และทำมาเป็นไม่รู้อีโหน่อีเหน่ในขณะที่ทำให้ใจฉันปั่นป่วน อันซย่าซย่าเธอจะเล่นเกมหัวใจแบบนี้ไม่ได้”
ด้วยความตกตะลึง อันซย่าซย่าเบิกตาโตและจ้องหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเคยเห็นเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แววตาของเขานั้นแทบจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกให้ราพณาสูร มันช่างน่ากลัวจริงๆ!
“ฉัน…ฉัน…” พอยิ่งประหม่าเธอก็ยิ่งพูดจาตะกุกตะกักอีกทั้งไม่รู้จะทำอย่างไรดี ไม่มีความอบอุ่นอยู่ในดวงตาของเขาเลย “ทั้งหมดที่ฉันต้องการรู้ก็คือ เธอชอบฉันหรือเปล่า”
ถึงแม้ท่าทางของเขาจะดูคุกคาม ทว่าหัวใจนั้นก็รู้สึกราวกับกำลังถูกเข็มทิ่มแทง
ทุกอย่างคงจะดีถ้าเธอชอบเขา
แต่ถ้าไม่…แหม เขาจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีกนอกจากทำให้เธอชอบเขากลับ
เขาไม่อาจลงไม้ลงมือกับเธอได้ นับประสาอะไรกับจะโยนเธอออกนอกหน้าต่าง เขาจะทนกับความคิดพวกนั้นได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม อันซย่าซย่างงงันไปโดยสิ้นเชิง หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ตอบอย่างครุมเครือ “ฉันบอกไม่ได้ว่าชอบนายหรือเปล่า…แต่ฉันก็ไม่ได้รังเกียจเหมือนกัน…เอ่อ ฉันคิดว่าน่าจะชอบละมั้ง…”
โธ่เอ๊ย เธอไม่รู้จริงๆ!
ในฐานะคนคนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลยเรื่องความรู้สึก ไม่เคยคบหาเป็นแฟนกับใครเลย ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำและสมองช้า คำถามนั้นมันยากเกินไปสำหรับเธอที่จะตอบ!
ต่อให้ถ้าหากเป็นหรงเช่อ ถึงแม้เธอจะประกาศปาวๆ ทุกวันว่ารักเขา แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเชิดชูไอดอลขวัญใจ
เธอบอกได้ว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อคังเจี้ยน เซียวเหยี่ยน และฉีเหยียนซีคืออะไร
แต่เธอบอกไม่ได้จริงๆ เมื่อมันกลายเป็นเซิ่งอี่เจ๋อ
และเธอก็กลัวเกินกว่าจะพูดออกไป
ตึ้ก—
กระเช้าของทั้งสองกลับลงมาสู่พื้น
ด้วยความยังโกรธอยู่ เซิ่งอี่เจ๋อออกมาก่อนโดยมีอันซย่าซย่าผู้ยังคงเป็นประเด็นตามมาข้างหลัง
ภายนอก มีเสียงพูดคุยจากคู่รักคู่หนึ่งดังขึ้น “นี่ ตัวรู้ไหมว่าคู่รักที่จูบกันที่จุดสูงสุดของชิงช้าสวรรค์น่ะจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”
อันซย่าซย่าก็รู้สึกว่ารังสีที่แผ่ซ่านออกมาจากชายหนุ่มข้างตัวเธอนั้นเย็นยะเยือกขึ้นมาโดยฉับพลัน