ตอนที่ 298 การเปลี่ยนข้าง (4)
“ฉันไม่มีเงินไปจ้างใครหรอก” เซิ่งอี่เจ๋อไม่มีอารมณ์เล่นด้วย เขาเลยตอบอย่างเมินเฉย
ฉือหยวนเฟิงหัวเราะออกมาเมื่อได้ฟัง ประทานโทษนะ ทายาทตระกูลเซิ่งเพิ่งบอกว่าเขาไม่มีเงิน อยากโดนซ้อมหรือไง!
“ตอนนี้พี่ละทางโลกสินะ ซย่าซย่าเป็นคนเดียวที่พี่ห่วงเหรอ”
“ห่วงแฟนตัวเองมันผิดตรงไหน” เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างไร้เยื่อใย
เขาวางสายทันทีหลังจากนั้น ทิ้งให้ฉือหยวนเฟิงร้องกระซิกๆ อยู่คนเดียวกลางสายลมราวกับลูกสุนัขไร้คู่
อ๊ากกก…พี่อี่เจ๋อ แกล้งคนโสดแบบนี้ผิดกฎหมายนะ!
–
เซิ่งอี่เจ๋อขับรถสปอร์ตของเขาด้วยความเร็วแสงและไปถึงบ้านของครอบครัวอันในเวลาอันรวดเร็ว
บนชั้นสอง ทั้งครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าบริเวณหน้าห้องของอันซย่าซย่า พวกเขากำลังพยายามทุกวิถีทางให้เธอเปิดประตู…
ฉือหยวนเฟิงกระแอมในลำคอ “ซย่าซย่า ข้ามาเพื่อแจ้งให้เจ้าทราบว่าตอนนี้พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว! เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นนักรบเสี่ยวไป๋จะบุกเข้าไปใต้ผ้าห่มของเจ้า!”
เสี่ยวไป๋ผู้กินดีอยู่ดีจนตัวอ้วนพีร้องเหมียวๆ และทำหน้าดุเท่าที่ลูกแมวตัวหนึ่งจะทำได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ยังดูน่ารักมากกว่าน่ากลัวอยู่ดี
น่าแปลกที่อันซย่าซย่าผู้กลัวแมวมาโดยตลอด ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
ป่าป๊าอันถอนหายใจ “ซย่าซย่า ป๊าทำของอร่อยมาให้ด้วย เป็นซี่โครงหมูรสเปรี้ยวหวาน อยากชิมไหม”
ยังคงไม่มีคำตอบ
อันอี้เป่ยพ่นลมหายใจ “เลิกลีลาแล้วเตะประตูให้เปิดเลย!”
ทุกคนมองเขาด้วยความนับถือทันที
“เอาเลย เธอคงจะหิวโซแล้ว เป็นลมไปหรือยัง” ป่าป๊าอันเป็นห่วงมาก
ทันใดนั้นเอง เซิ่งอี่เจ๋อเข้ามาใกล้ๆ อย่างใจเย็น เขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าหลังและสอดมันเข้าไปในรูกุญแจ จากนั้นประตูก็เปิดออก
ไม่มีใครส่งเสียงอะไรไปช่วงหนึ่ง
อันซย่าซย่าทำกุญแจห้องไว้เพียงดอกเดียวเท่านั้น เธอบอกว่าเธอต้องการความเป็นส่วนตัว แม้แต่ป่าป๊าอันกับอันอี้เป่ยยังไม่สามารถเปิดประตูห้องของเธอได้!
ทำไมเซิ่งอี่เจ๋อถึงเปิดได้ล่ะ!
“อธิบายมาเลยนะ…ทำไมนายถึงมีกุญแจห้องน้องสาวฉัน…” อันอี้เป่ยกัดฟันพูด เป็นไปได้ไหมว่าไอ้หมอนี่แอบเข้าห้องน้องสาวของเขามาโดยตลอด…
เซิ่งอี่เจ๋อกลายเป็นคนเลวและต่ำช้าในความคิดในของเขาเสียแล้ว!
เซิ่งอี่เจ๋อกระแอม “เธอลืมกุญแจไว้ในกระเป๋าผม…”
อันซย่าซย่าเป็นคนขี้ลืมจริงๆ และอันอี้เป่ยก็เห็นว่าคำอธิบายนั้นสมเหตุสมผล เขาพ่นลมหายใจ ก่อนแย่งกุญแจคืนมา “ตั้งแต่นี้ไป นายจะไม่ได้เข้าห้องนอนน้องสาวฉันอีก…เฮ้! ไอ้นี่! ใครอนุญาตให้แกเข้าไปวะ!”
ในขณะที่เขากำลังตะโกนโหวกเหวก เซิ่งอี่เจ๋อก็สาวเท้าเข้าไปในห้อง ข้างในห้อง อันซย่าซย่ากำลังนอนกางแขนกางขาอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่มที่ยุ่งเหยิงของเธอ เขาส่ายหัวและถอนหายใจ
ข้างนอกห้อง เมื่อทุกคนเห็นว่าอันซย่าซย่าแค่นอนหลับ พวกเขาก็คิดได้ว่าพวกเขาทำให้เป็นเรื่องใหญ่จนเกินไป จากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกัน
เซิ่งอี่เจ๋อเดินเข้าไปที่เตียงของอันซย่าซย่า เขาปรับท่าทางการนอนของเธอและห่มผ้าให้เธอดีๆ
มีเสียง “ติ๊ง” ดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงข้อความจากเว่ยป๋อที่เข้ามา
เขามองไปทางต้นเสียงและพบว่าเสียงนั้นดังมาจากโทรศัพท์ของเธอที่อยู่ข้างเตียง เขาหยิบมันขึ้นมาเพื่อที่จะเปลี่ยนเป็นโหมดสั่น แต่ทว่าเขาเห็นว่ามันเป็นแอพเว่ยป๋อ…
ในแอพนั้นปรากฏทุกๆ คอมเมนต์ที่เธอคอมเมนต์ไป
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วและมองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นโทรศัพท์มือถือรวมถึงแท็บเล็ตอีกหลายเครื่องบนโต๊ะ…
เขาตรวจสอบแต่ละเครื่องและพบว่าทั้งหมดเป็นบัญชีที่คอยแก้ต่างให้เขา!
หัวใจของเซิ่งอี่เจ๋อหยุดเต้น อันซย่าซย่าทำถึงขนาดนี้เพื่อช่วยเขาเชียวหรือ
ตอนที่ 299 กัดฉันสิ!
ตั้งแต่พวกเขาพบกันครั้งแรก เซิ่งอี่เจ๋อก็รู้ได้ว่าอันซย่าซย่าไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉลาดที่สุดในห้อง
หลังจากที่เขาเริ่มชอบเธอ เขาก็ชอบทุกๆ อย่างเกี่ยวกับเธอ แม้กระทั่งข้อเสียของเธอด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าลักษณะส่วนตัวพวกนั้นไม่ได้สลักสำคัญอะไร ไม่ว่าเธอจะฉลาดหรือไม่ฉลาด เขาก็จะยังอยู่ข้างๆ เธอ เขาจะดูแลและแสดงความรักต่อเธอ เพื่อที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวล ในขณะที่เขาปกป้องเธอจากเรื่องร้ายๆ ทั้งปวง
แต่ตอนนี้ เขากลับคิดว่าเขาไม่ได้รู้จักอันซย่าซย่าดีขนาดนั้น
เธอจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยก็ได้…แต่เธอก็ทำทุกอย่างเพื่อเขา…
เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ จากนั้นเขาปัดเกลียวผมหลวมๆ ออกจากใบหน้าของเธอด้วยนิ้วเรียวยาวของเขา
บนใบหน้าอันอ่อนหวานของเธอ มีวงกลมสีดำคล้ำปรากฏใต้ตา แม้กระทั่งยามหลับ เธอก็ยังดูเหนื่อยล้า
ฉือหยวนเฟิงคิดว่าเขาจ้างคนมาคอมเมนต์ให้เขา ไม่เช่นนั้นคงไม่มีคนมากมายคอยสนับสนุนเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา
มันไม่ใช่คนที่ถูกจ้างมาเลย หากแต่เป็นยัยซื่อบื้อคนนี้คนเดียวที่คอยดูแลเขาด้วยวิธีของเธอเอง
เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังขึ้นภายในห้อง
อันซย่าซย่ารู้สึกตัว ขนตายาวเป็นแพของเธอกะพริบเข้าหากัน ขณะที่ดวงตาคู่โตของเธอเปิดขึ้น เธอถามด้วยความง่วง “เซิ่งอี่เจ๋อ นายเองเหรอ”
“ใช่ ฉันอยู่นี่แล้ว”
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมกลับมาล่ะ พวกนักข่าวอาจจะตามนายมาที่นี่นะ…อืมมม…” เธอง่วงมากเสียจนเธอหาวและคลานกลับเข้าไปใต้ผ้าห่ม
เซิ่งอี่เจ๋อพยายามยิ้มเพื่อปกปิดอารมณ์ว้าวุ่นข้างใน “ฉันไม่เป็นไร…ทุกอย่างโอเค ซย่าซย่า”
“แล้วสัญญาล่ะ…” เสียงของเธอแผ่ว
“จำครั้งแรกที่ฉันพาเธอไปบริษัทได้ไหม ฉันไปรับสำเนาของสัญญาพวกเราน่ะ สัญญาสิ้นสุดแล้วแต่พวกเรายังไม่ได้เซ็นฉบับใหม่ ก็เลยถือว่าจบแล้วน่ะ…” เขาอธิบายอย่างใจเย็น ตอนนั้น ผู้บริหารลัวมั่นใจมากว่าวงสตาร์รี่ไนต์จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ เขาขู่ว่าเขาจะเขี่ยวงทิ้งด้วย
ความจริงแล้ว เขาทำจริงๆ เขาเพียงแค่ไม่รู้ว่าวงสตาร์รี่ไนต์ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเขา
เซิ่งอี่เจ๋อเล่าต่อ แต่ทว่าไร้เสียงตอบรับ
เขาหันไปจ้องอันซย่าซย่าและพบว่าเธอผล็อยหลับไปอีกแล้ว ใบหน้าของเธอยามหลับนั้นช่างสงบสุขและสวยงาม
เขาก้มตัวลงไปจูบเธอที่แก้ม
อันซย่าซย่า หลับฝันดีนะ
อันซย่าซย่าที่รักของฉัน
–
เซิ่งอี่เจ๋อเดินออกมาจากห้องของอันซย่าซย่า เขาค่อยๆ ปิดประตูอย่างเงียบเชียบ จากนั้นเขาชนเข้ากับอันอี้เป่ย
อันอี้เป่ยฟึดฟัด “จากนี้ไปอย่าอยู่ในห้องน้องสาวฉันนานขนาดนี้นะ! ใครจะรู้ว่านายจะทำเรื่องไร้ศีลธรรมอะไรในนั้น!”
เซิ่งอี่เจ๋อไม่รู้จะตอบว่ายังไง เขาได้แต่พยักหน้ารับด้วยความเขินอาย
เขายังคงมีบางปัญหาที่ยังไม่ได้แก้และเขาต้องออกไปอีกครั้ง เขารีบเดินลงบันไดไป ก่อนจะได้ยินเสียงที่คุ้นเคย…
“ขอบคุณครับคุณลุง ผมจะตั้งใจทำงานครับ!” ฉีเหยียนซียิ้มอย่างร่าเริงยิ่งเสียกว่าดอกไม้บาน ถ้านิสัยของเขาไม่แย่ เขาก็ดูเหมือนเด็กผู้ชายข้างบ้านนิสัยดีทั่วไป
ป่าป๊าอันยิ้มให้เขา ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ
เซิ่งอี่เจ๋อเดินไปหาเขาพร้อมเลิกคิ้ว “อะไรอีกล่ะ”
ฉีเหยียนซียิ้มอย่างมีรู้ทัน “ร้านกาแฟของคุณลุงอันต้องการพนักงานพาร์ทไทม์ตลอดวันหยุดยาวฤดูหนาว…ฉันก็เลยอยู่นี่ไง~”
ใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อบูดบึ้งทันที ในขณะที่ฉีเหยียนซีวางท่าโตและโบกมือให้เขา “ฉันหวังว่าเราจะเข้ากันได้ดีนะ”
หลังจากนั้น เขาส่ายสะโพกมาทางเซิ่งอี่เจ๋อโดยตั้งใจยั่วยุให้โมโห
เขาทำท่าทางเป็นการบอกว่า “กัดฉันสิ!”
เขาอารมณ์ดีเสียจนไม่เห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋อเดินเข้ามาและเตะเขาเข้าอย่างจังที่ก้น
บ้าเอ๊ย! ถามจริง?