ตอนที่ 401 ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา (6)
ภายในใจเหมือนทะเลสาบอันเงียบสงบที่มีก้อนหินโยนลงมาจนเกิดระลอกคลื่น…
ผู้ชายคนนี้…ทำไมถึงทำแบบนี้นะ…
อันซย่าซย่าเงยหน้าขึ้นฮัมเสียงเย็นชา
“อย่าโกรธฉันเลยได้ไหม…” เซิ่งอี่เจ๋อพูดเสียงอ่อน ฉือหยวนเฟิงที่ได้ยินก็หนาวสั่นขนลุกไปทั่วทั้งตัว
“เอ่อ…ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่จยาอวี๋ต้มบะหมี่ไว้ ฉันกลับไปกินข้าวแล้วนะ!” ฉือหยวนเฟิงส่งสายตาให้เซิ่งอี่เจ๋อพร้อมกับผละตัวออกไป
จุ๊จุ๊ พี่อี่เจ๋อเป็นคนฉลาดจริงๆ พอป่วย ซย่าซย่าก็วิ่งมาดูแล!
แต่ว่า…ทำไมเหมือนรู้สึกโดนหยิกที่แก้มนะ?
╮ ( ╯ _ ╰ ) ╭
–
ภายในห้อง เซิ่งอี่เจ๋อยังคงกุมมืออันซย่าซย่าเหมือนกับเด็กที่ทำตัวไม่ถูก
อันซย่าซย่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อตอนเที่ยง เมื่อกี้ยังกังวลอยู่เลยว่าเซิ่งอี่เจ๋อจะเป็นอย่างไรบ้าง ในเมื่อตอนนี้ดีขึ้นแล้วเธอก็สบายใจได้แล้ว แต่เธอยังรู้สึกทรมานร่างกายอยู่มาก
เซิ่งอี่เจ๋อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ เขาขยับไปข้างเตียงและตบที่ว่างข้างๆ “ซย่าซย่านอนเถอะ”
อันซย่าซย่าไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเซิ่งอี่เจ๋อในยามป่วยถึงได้ทำตัวเหมือนเด็กน้อย
อืม แล้วยังน่ารักกว่าเซิ่งเสียวเป่าอีกด้วย~
เธอนอนลงข้างๆ เขา สักพักอันซย่าซย่าก็ถูกรวบตัวเข้าสู่อ้อมกอดที่ร้อนผ่าว เธอบ่นเสียงเบา “นายจะแพร่เชื้อให้ฉันหรือเปล่าเนี่ย?”
เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปสองวิแล้วส่ายหน้า “ไม่หรอก”
“อ้อ…” อันซย่าซย่าเหลือบตามองเขา “คิดๆ ดูแล้ว นายก็สุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอดนี่? ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นไข้ขึ้นมาได้ล่ะ หรือว่าจะติดโรคระบาดอะไรนั่นหรือเปล่า…”
เซิ่งอี่เจ๋อร้อนตัวไปสองวิ
การอาบน้ำเย็นในเดือนมีนาคมเพื่อทำให้ตัวเองเป็นไข้ถือว่าติดโรคระบาด? แค่กๆๆ
“ซย่าซย่า ฉันง่วง” เซิ่งอี่เจ๋อขายความน่ารักอีกครั้ง
อันซย่าซย่าจนปัญญา เธอยกมือลูบหัวเขาเหมือนลูบขนสุนัข “เด็กดี หลับเถอะ นายดูนายสิ เป็นไข้สูงถึงขนาดนี้…คงเลอะเลือนแล้วล่ะ ตอนนายมีสติ ไม่เห็นจะน่ารักแบบนี้เลย”
ในที่ที่เธอมองไม่เห็น เซิ่งอี่เจ๋อกระตุกมุมปาก
แม้จะเป็นไข้ร้ายแรง แต่อาการป่วยนี้ยังถือว่าทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะตอนนี้สติปัญญาของเขายังสามารถทำโจทย์คณิตศาสตร์โอลิมปิกได้…
แต่เพื่อที่จะเกลี้ยมกล่อมอันซย่าซย่าให้กลับมา ด้านมืดก็ยังคงต้องเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอต่อไป เขาเอาอันซย่าซย่ามาเป็นหมอนแล้วผลอยหลับไป
เขารู้สึกว่าตัวเองฝันเป็นเวลาอันยาวนาน ในความฝันเขากำลังเล่นเพลงแสงจันทร์ของบีโธเฟนอยู่ในคฤหาสน์ที่เมืองลั่วรื่อโดยมีซ่งซ่งเล่นไวโอลินอย่างงุ่มง่ามอยู่ข้างๆ เสียงแสบหูของไวโอลินกับเสียงไพเราะของเปียโนก่อให้เกิดข้อเปรียบเทียบอย่างชัดเจน
เมื่อเพลงจบ ซ่งซ่งก็ตะโกนด้วยความโมโห “ฉันไม่อยากฝึกไวโอลินแล้ว! ฮือออ….”
เขาปลอบใจอย่างช่วยไม่ได้ “นี่ เธอดูในทีวีแล้วบอกว่าคนที่เล่นเปียโนเป็นเจ้าชาย ส่วนคนที่เล่นไวโอลินเป็นเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอ เธอถึงได้เรียนมันไง แล้วตอนนี้จะร้องไห้อีกทำไม…”
“แต่ฉันเล่นไม่เก่งนี่นา” ซ่งซ่งร้องไห้ปวดใจ ทั้งยังสะอึกสะอื้น
“ไม่เป็นไร ค่อยๆ ฝึก ต่อไปพวกเราจะได้เล่นด้วยกัน”
“จริงเหรอ? งั้นพี่ก็อย่าทิ้งฉันนะ…”
เดิมทีความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควรจะเลือนลางไปแล้ว แต่ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีต่อจากนั้นกลับปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
ในเวลานั้นเซิ่งอี่เจ๋อคิดเสมอว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่คิดว่าคำสัญญาที่ทั้งสองจะร่วมเล่นดนตรีด้วยกันจะไม่เคยเกิดขึ้นจริงจนถึงตอนนี้
ในช่วงครึ่งหลังของความฝัน อันซย่าซย่าก็ปรากฏตัวขึ้น
ตัวเขาร้อนมาก แต่ตัวอันซย่าซย่าทั้งเย็นและนุ่มนิ่ม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกดลงไปใต้ล่าง…
เสียงหอบหายใจ เสียงร้องไห้ เสียงคำรามสอดประสานเข้าด้วยกัน…
ตอนที่ 402 เป็นหรือตาย (1)
หญิงสาวถูกเขากดลงใต้ล่าง เธองอแงด้วยความไม่พอใจ มือของเขาที่กอดเอวเธอไว้เพิ่มแรงหนักขึ้น เขาอยากกักเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนาราวกับชีวิตนี้จะไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนอีก
ความฝันเป็นเหมือนดอกป๊อปปี้พิษ ดึงดูดให้คนยิ่งถลำลึกเข้าไป…
ท้องฟ้าสว่างสดใส เซิ่งอี่เจ๋อตื่นขึ้นมาก่อน
อันซย่าซย่ายังหลับอยู่ในอ้อมแขนด้วยความสงบ ใบหน้าของเธอยามหลับดูบอบบางและงดงาม ผิวขาวราวกับกระเบื้องเคลือบชั้นดีจนทำให้คนอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้
สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อทั้งดูอ่อนโยนและฉลาด เขายื่นนิ้วมือเรียวยาวสะกิดที่ใบหน้ารูปไข่ของอันซย่าซย่า
ยังนุ่มนิ่มเช่นเคย
เมื่อเทียบกับความฝันเมื่อคืน เธอดูเป็นความจริงกว่าตั้งเยอะ
พอนึกถึงความฝันไร้สาระเมื่อคืน เซิ่งอี่เจ๋อก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเองได้ทันที ในหัวเหมือนว่างเปล่าไปไม่กี่วิ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เขาลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ เหงื่อที่ไหลท่วมตัวเป็นสัญญาณว่าไข้ใกล้จะหายแล้ว
สุดท้ายเขาโยนเสื้อผ้าสกปรกลงในตะกร้าซักผ้าและซักกางเกงในไปด้วย
ให้ตายเถอะ นี่ฉันฝันหวานว่าทำอะไรกับอันซย่าซย่าเหรอเนี่ย!
เซิ่งอี่เจ๋อเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ อันซย่าซย่ายังคงหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง เธอน่าจะกำลังฝันดี ทั้งยังฮัมเพลงอย่างสบายอกสบายใจ
ยัยบ๊อง!
เขาได้รับความทรมานมาตลอดทั้งคืน แต่เธอยังมีใจนอนหลับได้ลง!
แม้จะไม่พอใจ แต่หลังจากเห็นหน้าเล็กๆ ของอันซย่าซย่าแล้ว ก็พลันนึกถึงเธอที่ดูแลเขาอย่างสุดชีวิตด้วยความเป็นห่วง ผ่านไปได้สักพักความโกรธก็มลายหายไป
เมื่อลงมาชั้นล่างเพื่อเริ่มเตรียมอาหารเช้าก็ได้ยินเสียงคนกดกริ่งที่หน้าประตู
เขาเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นซ่งชิงเฉินยืนอยู่หน้าประตู รอยบนใบหน้ายังคงดูน่ากลัว หลังจากลังเลอยู่นานเธอก็พูดว่า “พี่อาเจ๋อ…ฉันจะเข้าร่วมแข่งขันรอบคัดพิเศษที่งานเทศกาลดนตรี คุณไปเล่นดนตรีคู่กับฉันได้ไหมคะ?”
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้ว ยังไม่ยอมตอบตกลง
ซ่งชิงเฉินยิ้ม “ไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร…คำสัญญาของพวกเรา มีแค่ฉันที่จำได้คนเดียว…”
เธอกำลังจะจากไปด้วยความอ้างว้าง แต่เซิ่งอี่เจ๋อกลับเรียกเธอไว้
“รอเดี๋ยว”
เธอย้อนกลับมามองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยความแปลกใจ
อาจเป็นเพราะความฝันเมื่อคืนสามารถโน้มน้าวเซิ่งอี่เจ๋อได้ ท้ายที่สุดความสงสัยในใจของเขาที่มีต่อซ่งชิงเฉินก็ถูกปกคลุมด้วยความรู้สึกผิด
“ฉันจะช่วยเล่นเป็นคู่เธอ แต่เธอก็ต้องตกลงกับฉันเรื่องหนึ่ง ต่อไปอย่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับซย่าซย่า” นี่เป็นเรื่องที่เขาขีดเส้นไว้
ซ่งชิงเฉินพยักหน้าติดต่อกัน “ได้ค่ะ ตราบใดที่คุณช่วยฉันเติมเต็มความปรารถนานี้ ฉันจะจากไป” ราวกับกลัวเซิ่งอี่เจ๋อไม่เชื่อ เธอจึงหยอกเล่น “แต่ว่า การชดเชยที่คุณเคยพูดถึงยังนับอยู่ไหม?”
“ไม่เป็นไร”
“ฉันได้ยินมาว่าบริษัททัวร์ที่อยู่ในเครือตระกูลเซิ่งได้เปิดตัวแผนการท่องเที่ยว แค่มีบัตร VIP ก็เดินทางเที่ยวรอบโลกได้แล้ว พี่อาเจ๋อ ฉันขอหนึ่งใบสิ ฉันอยากพักจากการเรียนไปเที่ยวรอบโลกสักช่วงแล้วค่อยกลับประเทศM” ซ่งชิงเฉินพูดด้วยความจริงใจ
ที่แน่ๆ นี่คือความฝันของเธอ
เซิ่งอี่เจ๋อพยายามจับสังเกตการโกหกผ่านนัยน์ตาเธอ แต่แววตาของซ่งชิงเฉินยังคงสว่างสดใส เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้า “โอเค”
ซ่งชิงเฉินเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจออกมา เธอกระโดดโลดเต้นเดินออกไปราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา
เหมือนความอบอุ่นที่อยู่ในความทรงจำของเขา
เขากลับไปที่ห้องครัวด้วยสีหน้าเย็นชาพลางขบคิดปัญหาข้อหนึ่ง
ทอดไข่ดาวให้ซย่าซย่าเป็นรูปหัวใจ? หรือจะเป็นรูปพระอาทิตย์ดี?
อืม นี่เป็นปัญหาสำคัญมาก
บ้านตระกูลหลี
หลีฝานซิงมองเจี่ยนซินเอ๋อร์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตากระวนกระวาย เธอสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น มีคราบสกปรกบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณหนูตระกูลเจี่ยนในอดีตจะตกอับกลายมาเป็นคนเก็บขยะในวันนี้!
“เธอตามหาฉัน…ต้องการอะไร?”