รถเมล์สาย 18 บทที่ 29 เส้นทางเดินรถที่เปลี่ยนไป
บทที่ 29 เส้นทางเดินรถที่เปลี่ยนไป
เย่ปินกับทีมเริ่มทําการตรวจสอบเส้นทางเดินรถ รถเมล์ “สาย 18″ เวอร์ชั่นก่อนหน้าเส้นทางเดินรถฉบับปรับปรุงที่หนิงหวาค้นพบ
“ถูกต้อง ถนนสายเหนือตรงนี้คือเขตหยิงเจ๋อในปัจจุบัน” จางหลานชี้ไปยังแผนที่เส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18” เวอร์ชันก่อนกับฉบับปรับปรุง เพื่อเปรียบเทียบ
“สถานที่เกิดเหตุอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งที่แล้ว ก็เหมือนกัน มันคือป้ายรถเมล์ “สาย 18” ก่อนการปรับปรุง” เย่ปินทําการเปรียบเทียบอุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนหน้านี้กับแผนที่เวอร์ชั่นเก่า แล้วพบว่ามีสถานที่หนึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุมาก
เมื่อรวมการค้นพบของทั้งสองคนเข้าด้วยกัน ในที่สุดทั้งสามก็ได้ข้อสรุปที่น่าทึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นการฆาตกรรมที่แปลกประหลาดหรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สถานที่เกิดเหตุของทั้งสองเหตุการณ์ล้วนเกี่ยวข้องกับรถเมล์ “สาย 18” พวกมันอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางเดินรถเวอร์ชั่นเดิม และหนึ่งในนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมล์
“สรุปว่าทั้งสองเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับรถเมล์ “สาย 18” จางหลานมีสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่คิดว่าในที่สุดทั้งสองคดีจะเกี่ยวข้องกับรถเมล์ “สาย 18″
“ถ้ามันเกี่ยวข้องกับเส้นทางเดินรถ “สาย 18” งั้นก็แสดงว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองคดีได้เห็นรถเมล์ “สาย 18″ อย่างแน่นอน”
ทั้งเย่ปินและจางหลานต่างเพิกเฉยต่อคําพูดของหนิงหวาเย่ปินหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเดินออกไปด้านข้างกดโทรออก ขณะที่จางหลานจับคางมองดูแผนที่เส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18” ที่เปลี่ยนไปแล้วจมอยู่กับความคิด
“อืม ผมเข้าใจแล้ว” เย่ปินวางสายหลังจากพูดคุยทางโทรศัพท์สองสามคํา ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เป็นคนขับรถแท็กซี่ชื่อ เยว่เผิง”
“เนื่องจากเป็นคนขับรถแท็กซี่ ผู้ตายจึงมีโอกาสสูงมากที่จะเห็นรถเมล์ “สาย 18” หนิงหวาสรุป
เย่ปินพยักหน้า เห็นด้วยกับหนิงหวา
“หลานเกอ คิดว่าไง?” เย่ปินมองจางหลานด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่แรก จางหลานก็จ้องมองแผนที่เส้นทางเดินรถบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วนิ่งเงียบไป
“จากเบาะแสที่มีในตอนนี้ สรุปว่า ตราบใดที่เราเห็นรถเมล์ “สาย 18″ เราจะถูกสาป แต่ที่เราไม่รู้มาก่อนก็คือ ระยะเวลาการให้ผลของคําสาปนั้นจะนานแค่ไหน” จางหลานพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว และคิดในใจว่า จากคดีต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันยังไม่ชัดเจนว่าคําสาปจะมีผลเมื่อใด
เมื่อได้ยินสิ่งที่จางหลานพูด เย่ปินก็ขมวดคิ้ว “จริงด้วย เราไม่รู้ว่าคําสาปจะมีผลตอนไหนจริงๆ”
“ตั้งแต่หัวหน้าเหล่าหวัง เด็กที่ตาย จนถึงหลิวเจียซิ่ง ซุนสี่เทา และคนอื่นๆ นับจากเวลาที่พวกเขาเห็นรถเมล์ “สาย 18” จนถึงเวลาเสียชีวิต การเสียชีวิตของทุกคนอยู่ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นฉันขอเดาว่า การส่งผลของคําสาปอาจไม่เกี่ยวข้องกับระยะเวลา แต่อาจเกิดจากอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้”
เย่ปินไม่ตอบ แต่พยักหน้ารับ เขาสังเกตเห็นเบาะแสบางอย่างจากการวิเคราะห์ของจางหลาน
“เฉียนฉิง ยังไม่ติดต่อกลับมาอีกเหรอ?” จางหลานรู้สึกว่าลู่เฉียนฉิงอาจรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคําสาป เขาจึงอยากถาม อย่างไรก็ตามตั้งแต่ลู่เฉียนฉิงออกไป เย่ปินก็ยังไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย
เย่ปินส่ายหน้า “โทรศัพท์ของเฉียนฉิงปิดไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ปิดโทรศัพท์?” สีหน้าของจางหลานดิ่งลงทันทีที่ได้ยิน “หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?” การฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้น ทําให้จางหลานกลายเป็นคนอ่อนไหวเล็กน้อย
“คงไม่ยั้ง ก่อนออกไป เขาบอกว่ามีเรื่องบางอย่างที่ต้องไปทํา และจะกลับมาอย่างช้าที่สุดก็ในวันพรุ่งนี้” แม้ว่าเย่ปินจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจก็เป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลู่เฉียนฉิง
“อืม ถ้าเป็นแบบนั้น ที่ทําได้ก็มีเพียงรอให้เฉียนฉิงกลับมาเท่านั้น”
“เจ้าอ้วนหลาน เย่จื่อ มาดูนี่!” ขณะที่เย่ปินกําลังคุยกับจางหลาน หนิงหวาก็ค้นพบบางอย่างอีกครั้ง
“นี่มันอะไร!” บนหน้าจอคอมพิวเตอร์มีโพสต์ชื่อ “รถเมล์แห่งความตาย” ปรากฏขึ้น
“นี่เป็นโพสต์ตั้งแต่ห้าปีก่อน คนโพสต์ชื่อ “ฉางเซิง” หนิงหวาเลื่อนเม้าส์ไปยังเวลาที่โพสต์ถูกเผยแพร่ ซึ่งก็เป็นเวลาของเมื่อ 5 ปีก่อน
“รถเมล์ที่เดินทางมุ่งไปสู่นรก บรรทุกดวงวิญญาณของผู้วายชนม์ แล่นไปบนถนนอันเงียบสงบ มองหาคนบาปที่ต้องตกลงสู่ขุมนรก กักขังดวงวิญญาณและนําพาไปลงนรก”
หนิงหวาอ่านข้อความบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมกับรู้สึกเย็นเยียบที่ด้านหลัง
“รถเมล์ในโพสต์น่าจะเป็น รถเมล์ “สาย 18!!” หนิงหวาขมวดคิว หันมามองเย่ปินกับจางหลานที่ยืนนิ่งอยู่
ทั้งสองคนไม่ตอบ ได้แต่จ้องมองข้อความบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และจมอยู่ในความคิด
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่ตอบ หนิงหวาก็หันกลับไปเลื่อนเม้าส์ไป ยังข้อความถัดไปที่อยู่ด้านล่าง
“รถเมล์สู่นรกออกเดินทางแล้ว มันนําพาคนบาปลงสู่ก้นบึงของขุมนรกที่ลึกล้ำไร้จุดสิ้นสุด ด้วยเปลวไฟแห่งการล้างบาปที่ไม่มีวันดับ คนบาปเหล่านั้นได้แต่ร่ำร้อง ดิ้นรน อย่างสิ้นหวัง ”
“ต่อไป” หลังจากอ่านย่อหน้านี้ เย่ปินก็เร่งให้หนิงหวาเลื่อนไปหน้าถัดไป
“วิญญาณของคนบาปถูกชําระล้าง แต่ปีศาจที่แท้จริงยังคงอยู่ เขายังคงขับรถเมล์เอาวิญญาณ “คนบาป” ไป เพื่อทําให้ตนเองเป็นอมตะ ”
“หมดแล้ว! มีแค่นี้” เมื่อหนิงหวาเลื่อนเม้าส์ต่อไป ก็พบว่าข้อความสิ้นสุดลงแล้ว
“คนบาป, ปีศาจ” เย่ปินพึมพํา คิดนึก “คนบาป” และ “ปีศาจ” ที่ถูกกล่าวถึงในโพสต์
“ถ้าคนบาปหมายถึงเหยื่อทั้งหมดที่เสียชีวิตไปแล้ว ปีศาจตัวนี้ก็น่าจะเป็นคนขับรถเมล์ “สาย 18” หรือไม่ก็ฆาตกร?” หนิงหวากล่าวตามความเข้าใจของตัวเอง
เย่ปินนิ่งคิดไม่ตอบ ในขณะที่จางหลานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำลึกว่า “หรือว่าผู้เขียนโพสต์จะเป็นตัวฆาตกรเอง” จางหลานหันไปมองเย่ปิน
เย่ปินยังคงนิ่งคิด และดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนพูด ผ่านไปนานเย่ปินก็พูดขึ้นว่า “ดูที่ย่อหน้าสุดท้าย คนบาปคําแรก กับคําที่สองที่อยู่ในเครื่องหมายคําพูด คิดว่ามันต่างกันไหม?” เย่ปินพูดพร้อมกับชี้ไปที่ข้อความ
เมื่อได้ยินคําพูดของเย่ปิน ทั้งคู่ก็ตกตะลึง เพราะพวกเขาไม่ทันสังเกตถึงสิ่งนี้ แต่พอได้ยินสิ่งที่เย่ปินพูด ทั้งคู่ก็นึกขึ้นได้ว่าทั้งสองคํามีความแตกต่างกัน ถ้าเช่นนั้นคนบาปที่อยู่ในเครื่องหมายคําพูดจะมีความหมายพิเศษอย่างไร?
“ตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าสุดท้าย วิญญาณของคนบาปถูกชําระล้าง คนบาปคําที่สองอาจหมายถึงวิญญาณหลังจากการชําระล้าง ไม่มีความหมายที่ลึกซึ้งอะไร” จางหลานแสดงความเห็นของตัวเอง
“อันที่จริงมันก็สามารถอธิบายได้แบบนี้เหมือนกัน เพราะในย่อหน้าแรก ได้กล่าวถึง เปลวไฟแห่งการล้างบาป” หนิงหวามีความเห็นสอดคล้องกับจางหลาน