รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 107 อธิบายมาสิ 34 ล้านหมายความว่าอย่างไร

บทที่ 107 อธิบายมาสิ 34 ล้านหมายความว่าอย่างไร
เผิงเมิ่งกัดฟันแน่น แต่หยุดก้าวในที่สุด
ฉินหลั่งไอสองสามครั้ง เผิงเมิ่งลูบหลังฉินหลั่งเบาๆ
“ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง”
“ฉันคิดไม่ออกจริงๆว่า เมิ่งเมิ่งคบเขาไปได้อย่างไร”
“ดูหน้าตาคนแบบนี้สิ ดูก็รู้ว่าเขาคงอายุไม่ค่อยยืน”
…….
“เตรียมตัวกินข้าวเถอะ!” หลิ่วเหวินฮัวมองไปทางเผิงเมิ่งด้วยท่าทีโกรธ เอ่ยขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วเดินจากไป
ตอนนี้ คนรับใช้เริ่มจัดเก็บเตียงผ้าใบ จัดเรียงเครื่องดื่มต่างๆ อาหารว่างไว้ที่โต๊ะ จัดวางโต๊ะอาหารสไตล์ตะวันตกสี่เหลี่ยมยาวสามตัวเอาไว้ที่ลานบ้านอีกครั้ง สมาชิกในตระกูลเผิงนั่งลงตามที่นั่ง ซึ่งถูกแบ่งไว้ตามสถานะด้วย โต๊ะตัวนั้นที่อยู่ตรงกลาง เป็นของหลิ่วเหวินฮัวและคนสำคัญที่สุดในตระกูลเผิงนั่ง
บรรดาผู้ชายในตระกูลเผิงต่างก็กลับมาจากข้างนอก รวมถึงพ่อของเผิงเมิ่งที่ชื่อเผิงกาง และเผิงเหล่ยพ่อของเผิงหนานด้วย ความจริงพวกเขามาถึงกันนานแล้ว เพียงแต่พวกผู้ชายตระกูลเผิงสองสามคนพากันไปนั่งตกปลาอยู่ที่ทะเลสาบจื่อเสีย
มองไปเห็นพวกเขาคุยกันไปหัวเราะเฮฮา แต่ความจริงแล้วพวกเขากำลังแข่งขันกันอย่างลับๆ เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจในตระกูลเผิงมากขึ้น
เผิงกางเดินเข้าไปหาภรรยาและลูกสาวหานเยว่และเผิงเมิ่ง เขาสังเกตเห็นฉินหลั่ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับเผิงเมิ่ง
ตามลำดับที่นั่งเมื่อสองปีก่อน เผิงกางภรรยาและลูกสาวนั่งในตำแหน่งที่นั่งที่ใกล้หลิ่วเหวินฮัวที่สุดทางซ้ายมือ
“แม่ครับ” เผิงกางเอ่ยทักทายหลิ่วเหวินฮัวทีหนึ่ง แล้วพาภรรยาและลูกนั่งลง ในใจของเขารู้สึกแปลกใจ รู้สึกว่าหลิ่วเหวินฮัวมีบางอย่างผิดปกติ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินที่ตัวเองพูด
“อย่าเพิ่งนั่ง” หลิ่วเหวินฮัวไม่มองหน้าเผิงกาง พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“อ่อ….ครับ….” เผิงกางกำลังหย่อนก้นลงแตะเก้าอี้ ก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมยิ้มแหย
วันนี้มีแขกมาด้วย ครอบครัวเธอไปนั่งหลังๆหน่อยไป” หลิ่วเหวินฮัวท่าทางสง่างามหลังพูดจบ แล้วมองไปทางเผิงหยู่กับฟางหลุนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนที่สามและสี่ด้านขวามือของเธอ : “เผิงหยู่ เธอกับฟางหลุนมานั่งตรงนี้”
“คะ!” เผิงหยู่ตอบรับอย่างอ่อนหวานหนึ่งคำ จับแขนฟางหลุนไว้ แล้วเดินไปยังหน้าที่นั่งของเผิงกางอย่างอารมณ์ดี เธอแกล้งไอเบาๆ : “คุณลุงคะ คุณ…..ช่วยหลบหน่อยได้ไหมคะ”
“ตอนนี้สมองของเผิงกางสับสนไปหมด เขายังแกล้งทำเป็นบ่นว่า “อารมณ์ของคนวัยทองเนี่ยนะ” พลางส่งยิ้มยกที่นั่งให้เผิงหยู่พวกเขา
เผิงกาง หานเยว่ และเผิงเมิ่งขยับออกไปนั่งไกลออกไปหน่อย ตอนนี้เขาจึงสังเกตเห็นว่า ผู้ชายที่ไม่สุงสิงกับใครเลยเป็นคนที่ติดตามเผิงเมิ่งอยู่ เขาตระหนักดีอย่างยิ่ง เป็นไปได้ว่าเขาคือต้นเหตุ
ตั้งแต่ตำแหน่งที่นั่งตัวที่สามของทางซ้ายมือของหลิ่วเหวินฮัว เผิงกางและครอบครัวนั่งลง เขาได้ฟังจากหานเยว่เข้าใจได้ทันทีว่า เกิดอะไรขึ้นกับฉินหลั่ง
หลังจากฟังหานเยว่เล่าจบแล้ว เผิงกางส่งสายตาพิฆาตไปยังเผิงเมิ่ง เขากระซิบบอกให้เผิงเมิ่งรีบเข้าไปสำนึกผิดกับคุณย่าเดี๋ยวนี้ และบอกให้ฉินหลั่งออกไปจากที่นี่เสีย แต่ผลลัพธ์ก็รู้ๆกันอยู่
เวลานี้ คนรับใช้ได้นำอาหารและอุปกรณ์ทานอาหารมาเสริฟ์ที่โต๊ะ เผิงกางไม่กล้าอาละวาดใส่เผิงเมิ่ง ได้แต่รอให้ถึงบ้านก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ปัญหานี้กับเผิงเมิ่ง
เห็นสองข้างของหลิ่วเหวินฮัวต่างก็เป็นคนของตระกูลเผิงเหล่ยทั้งนั้น อีกอย่างหลิ่วเหวินฮัวดูพอใจกับหลายเขยที่เผิงหยู่หามาอย่างมาก ในใจของเผิงกางยิ่งไม่เป็นสุข มันน่าอับอายราวกับกินแมลงวันเข้าไป
“ขอโทษค่ะ ฉันต้องขอโทษแทนคนในตระกูลฉันด้วยนะ” เผิงเมิ่งกระซิบบอกฉินหลั่ง เธอรู้สึกเสียใจที่ชวนฉินหลั่งมาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลตัวเอง เห็นหน้าฉินหลั่งขาวซีด ในใจของเผิงเมิ่งก็กังวลมากทีเดียว : “คุณเป็นอย่างไรบ้างคะ? เจ็บคอมากเลยใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากดื่มน้ำอุ่นสักหน่อย” ฉินหลั่งไม่ได้กล่าวโทษเผิงเมิ่งเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกคันคอนิดหน่อย
“พี่จาง ฉันขอน้ำอุ้นสักแก้วคะ” เผิงเมิ่งรีบกวักมือเรียกคนรับใช้อย่างเร่งด่วนพลางเอ่ยปาก
“ไปทำงานของเธอก่อน” เมื่อคนรับใช้ตอบรับ และกำลังจะรินน้ำให้เผิงเมิ่ง หลิ่วเหวินฮัวส่งสายตาเย็นชามาทางคนรับใช้แล้วพูดขึ้น เมื่อพูดจบ ก็พูดคุยกับครอบครัวของเผิงเหล่ยต่อ
เผิงเมิ่งมองหลิ่วเหวินฮัวด้วยความขุ่นเคือง ตอนนี้ ในใจของเผิงเมิ่งแสนเจ็บปวด เธอจำได้ว่าเมื่อก่อน คุณย่าเป็นคนกุลีกุจอหาเครื่องดื่มมาให้เธอ
“ไปคะ เราไปดื่มน้ำในบ้านกัน ในบ้านคุณย่าของฉันมีใบชา ฉันจะไปชงให้นะคะ คุณจะได้รู้สึกดีขึ้นหน่อย…..” เผิงเมิ่งพูดไป พลางประคองฉินหลั่งลุกขึ้น เพื่อพาฉินหลั่งลุกออกจากที่นั่งไปรินน้ำในบ้าน
“เผิงเมิ่ง นั่งลง!” เผิงกางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม จนทำให้ฉินหลั่งใจคอไม่ดี เขาไม่อยากให้เผิงเมิ่งลำบากใจ จึงพูดเบาๆว่า : “ผมไปเองดีกว่าครับ”
“ไม่เป็นไรคะ คุณไม่รู้หรอกว่ารินน้ำได้ที่ไหน ฉันไปด้วยดีกว่า” เผิงเมิ่งทำเหมือนไม่ได้ยินที่คุณพ่อพูด เวลานี้ ดูเหมือนว่าคนทั้งบ้านต่อต้านไม่ให้เธอคบกับฉินหลั่ง เผิงเมิ่งไม่สนใจ ตรงกันข้าม เธอจะทำให้พวกเขาเห็นว่า ตัวเธอต้องการเป็นอริกับพวกเขา!
“ช้าๆค่ะ……” ท่ามกลางสายตาญาติมิตรที่นั่งอยู่ในโต๊ะทานอาหารสามตัว เผิงเมิ่งประคองฉินหลั่ง ค่อยพากันเดินเข้าไปในบ้าน หลิ่วเหวินฮัวแสดงสีหน้าเฉยเมยต่อเผิงเมิ่ง แต่พอเผิงเมิ่งเดินผ่านมาข้างๆเธอ หลิ่วเหวินฮัวส่ายหน้า อุทานออกมาเบาๆ
“ให้ตายสิ!” หลิ่วเหวินฮัวกำลังเล่าเรื่องของครอบครัวพวกเขาให้ฟางหลุนฟัง เผิงเหล่ย หลีหยิงสองสามีภรรยาก็ตั้งใจฟังอยู่เงียบๆ มีเพียงเผิงหยู่ที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเธอเห็นอะไรเข้า เบิกตาโพลงร้องเอะอะด้วยความตื่นเต้น
“ผู้หญิงคนนี้…..” หลิ่วเหวินฮัวยิ้ม เธอพอใจฟางหลุนเป็นพิเศษ จากนั้น มองเผิงหยู่ด้วยสายตาชื่นชม เธอแตะหลังมือของฟางหลุนเบาๆพลางกล่าวว่า : “ฟางหลุน เธออย่าไปถือสา ผู้หญิงคนนี้ชอบทำเรื่องเรียกร้องความสนใจ”
“อะไรนะ คุณย่า” เผิงหยู่ยิ้มเล็กน้อย เธอเอาโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ : “พวกคุณเห็นข่าวนี้แล้ว พวกคุณไม่ตกใจกันเลยหรือ?”
“คุณคาทูโร่ประธานใหญ่บริษัทเฟอร์รารี่ชาวอิตาลีมาที่ประเทศจีน…..” ฟางหลุนหยิบโทรศัพท์ของเผิงหยู่มาด้วยท่าทางสง่างาม แล้วอ่านให้หลิ่วเหวินฮัวกับคนอื่นๆฟัง
เนื้อหาในข่าวนี้คือ ท่านประธานชาวอิตาลีเดินทางมาที่ประเทศจีนเป็นการส่วนตัว เพื่อส่งมอบรถหรูเฟอร์รารี่รุ่นใหม่ที่มีราคาแพงที่สุดมูลค่า 68 ล้านให้กับชาวจีนผู้ไม่ประสงค์ออกนามท่านหนึ่ง!
“โห ข่าวนี้ช่างน่าตกใจจริงๆ บริษัทเฟอร์รารี่ก่อตั้งโดย EnzoFerrari ในปี 1929 เป็นผู้ผลิตรถแข่งฟอร์มูล่าวันและซุปเปอร์คาร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก รถที่เฟอร์รารี่เป็นผู้ผลิตล้วนเป็นงานฝีมือทั้งนั้น กำลังการผลิตจึงต่ำมาก จนถึงปี 2018 เพิ่งส่งมอบรถไปได้เพียง 14,628 คันเท่านั้น…..” ฟางหลุนพูดอย่างเรียบเฉย
ข่าวทั่วไปเพียงเรื่องเดียว ก็สามารถเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องได้มากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรู้รอบตัวของฟางหลุน มีค่อนข้างมาก นี่ทำให้แววตาของหลิ่วเหวินฮัวเปล่งประกาย
“ฟางหลุน เธอมีความรู้เรื่องเฟอร์ร่รี่มากเลยนะนี่…” เผิงเหล่ยยิ้มพลางมองไปทางฟางหลุน หลีหยิงก็มองฟางหลุนด้วยสายตาพึงพอใจเช่นกัน
“คุณลุงชมเกินไปแล้ว ความจริงก่อนหน้านี้ไม่นานผมซื้อรถเฟอร์รารี่มาคันหนึ่ง ตอนที่ซื้อจึงได้ข้อมูลมาจากบริษัทเฟอร์รารี่น่ะครับ…..” ฟางหลุนกล่าวขึ้นเบาๆ
“อะไรนะ! เธอซื้อรถเฟอร์ร่รี่หรือ? ทำไมไม่เคยเห็นเลยล่ะ? หรือว่าลุงไม่ทันได้สังเกต? ลุงเคยเห็นแต่เพื่อนขับ ยังไม่เคยลองด้วยตัวเองเลย” เมื่อได้ยินว่าฟางหลุนก็ซื้อรถเฟอร์รารี่ด้วยหนึ่งคัน เผิงเหล่ยทำท่าตกตะลึงมาก ถูมือแล้วทำท่าเหมือนอยากลอง
“อ๋อ อย่างนั้นหรือ วันนี้ผมไม่ได้ขับมาด้วย ถ้าคุณลุงอยากลองขับละก็ ผมจะให้คนขับรถมาส่งให้ที่นี่ครับ”
ฟางหลุนกล่าวอย่างสุภาพ ครั้งนี้เขามาที่จีนหลิง มีจุดประสงค์ที่สำคัญมากก็คือ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตระกูลเผิง เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการแต่งงานของทั้งสองครอบครัว
ทีแรกเฟอร์รารี่เป็นแค่แผนสำรองของเขา วันนี้ไม่ได้เตรียมจะมาเปิดตัว แต่ว่าตอนนี้กลับมีประเด็นให้พูดถึงเฟอร์รารี่ขึ้นมา ฟางหลุนจึงถือโอกาสเอา “แผนสำรอง” ขึ้นมาพูดก่อน
“ได้หรือ? ถ้างั้นก็ดี เธอให้คนขับรถของเธอมาสิ ลุงจะได้ลองสักหน่อย รถซุปเปอร์คาร์ที่สุดยอดในโลกนี้จะให้ความรู้สึกแบบไหนนะ” เผิงเหล่ยอยากจะอาศัยจังหวะนี้โอ้อวดลูกเขยที่ดีคนนี้สักหน่อย ต่อหน้าคนทั้งตระกูล
ครอบครัวอื่นๆตอนนี้ยังไม่มีใครใช้รถเฟอรร์รารี่เลยสักคน รอให้รถหรูของฟางหลุนปรากฏขึ้นก่อน เขาจะได้คุยโม้ต่อหน้าคนทั้งตระกูลสักครั้ง
“ครับ” ฟางหลุนพยักหน้า รีบโทรไปหาผู้ช่วยของเขา ให้เขาคนนั้นขับรถตัวเองออกมา
เห็นท่าทางฟางหลุนสงบและมั่นใจ หลิ่วเหวินฮัวแอบพยักหน้าเล็กน้อย มีรอยยิ้มที่น่าพึงพอใจในดวงตาที่ไม่โกรธของเขา
อาหารเสิร์ฟครบแล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นสไตล์ตะวันตก อาหารแต่ละจานวางอยู่ตรงกลางโต๊ะยาว ทุกคนต่างมีอุปกรณ์ส่วนตัว อยากทานอะไรก็ทานได้ตามสบาย
เผิงเมิ่งและฉินหลั่งเดินออกมาจากบ้านด้วยกัน ในมือของเธอถือถ้วยใส่ชามาหนึ่งใบให้ฉินหลั่ง ฉินหลั่งดื่มน้ำอุ่นจากในบ้านมานิดหน่อยแล้ว รู้สึกดีขึ้นมาก
เผิงเมิ่งประคองฉินหลั่งนั่งลงที่เก้าอี้ ทุกคนเริ่มทานกันแล้ว ทานไปพูดคุยกันไป
ฉินหลั่งรู้สึกหิวขึ้นมาบ้างเล็กน้อย เขาใช้ตะเกียบส่วนกลางคีบสลัดผัก แล้ววางมันลงในจานของตัวเอง ก็พลันเห็นสายตาของสมาชิกในครอบครัวเผิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองมาด้วยสายตารังเกียจ พลางซุบซิบนินทา
“ตัวเองก็ไม่สบายยังซี้ซั้วคีบอาหาร ไม่กลัวแพร่เชื้อใส่คนอื่นบ้างหรือไง จริงๆเลย”
“เพราะป่วยน่ะสิผมจึงทานอาหารที่ปกติไม่ได้ทาน ถ้าหนักไปกว่านี้จะทำอย่างไรครับ?”
……
เผิงเมิ่งได้ฟัง รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่เธอรู้ว่าตอนนี้ญาติมิตรทุกคนไม่ชอบฉินหลั่งเลย จึงทำอะไรไม่ได้
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา คุณอยากทานอะไรคะ ฉันช่วยคีบให้” เผิงเมิ่งคีบเนื้อตุ่นใส่จานฉินหลั่งไป พลางพูดเสียงเบาๆ
เริ่มทานอาหารกันอย่างเงียบสงบ ญาติมิตรต่างพูดคุยกันเอง ส่วนครอบครัวเผิงกางที่เคยเป็นจุดสนใจในอดีต กลับไม่มีใครพูดคุยกับพวกเขาเลย
เวลานี้ โทรศัพท์ของฉินหลั่งดังขึ้น ญาติมิตรไม่น้อยหันมามองที่เขา
เพราะว่าพวกเขาฟังออกว่าเสียงโทรศัพท์ของฉินหลั่งเป็นเสียงของ vivo โทรศัพท์ของทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่ใช่ iphone ก็เป็น Huawei 8848 ถึงแม้การใช้แบรนด์ระดับสูงจะไม่ได้บ่งบอกถึงระดับความร่ำรวย แต่การใช้แบรนด์ระดับกลางถึงล่างมันแสดงถึงตัวตนที่ต่ำต้อย พวกเขายิ่งดูถูกฉินหลั่งไปกันใหญ่
พอฉินหลั่งมองเบอร์โทรที่ขึ้นหน้าจอ เป็นสายของผู้จัดการสวีแห่งศูนย์Auto showจีนหลิง หรือว่ามีข่าวอะไรเรื่องเฟอร์รารี่ของตน?
ฉินหลั่งรับสาย
“สวัสดีครับ คุณฉิน” ผู้จัดการสวีท่าทางดีใจมาก : “ให้คุณรอนานเลย เฟอร์รารี่ซุปเปอร์คาร์ที่คุณจองไว้เดินทางมาถึงจีนหลิงแล้วครับ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ พวกเราจะเอาไปส่งคุณถึงที่เลยครับ”
“รถมาแล้ว? แต่ว่าผมยังเหลือค่ารถที่ยังไม่ได้จ่ายอีกครึ่งหนึ่งไม่ใช่หรือ? พวกคุณรอก่อนนะ เดี๋ยวผมจะให้ผู้จัดการชือของธนาคารซิตี้แบงก์ โอนเงินให้พวกคุณ ทั้งหมด 34 ล้านใช่ไหมครับ?”
“อ้อ ท่านคงยังไม่ทราบ? เมื่อ 5 วันก่อนผู้จัดการชือได้โอนเงินที่เหลือทั้งหมดให้ครบแล้วครับ” ก่อนหน้านี้ เพราะฉินหลั่งป่วยหนัก พักฟื้นอยู่ที่จื่อซวนเกสท์เฮ้าส์ตลอด เพราะการหายตัวไปของจงยู่ทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นๆ เมื่อบริษัทเฟอร์รารี่โทรเข้ามา โข่งลิ่งเสียนจึงจัดการแทนฉินหลั่งไป
“อย่างนี้นี่เอง งั้นก็ดี ตอนนี้ผมอยู่ที่คฤหาสน์สไตล์ตะวันตกแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบจื่อเสีย หาง่ายมากครับ พวกคุณมาส่งที่นี่ละกัน” ฉินหลั่งพูดเบาๆ เขาก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
“ครับ คุณฉิน ท่านรอสักครู่นะครับ พวกเราจะไปส่งให้ครับ…..” ผู้จัดการสวีกล่าวอย่างสุภาพ แล้ววางสายไป
ฉินหลั่งวางสายแล้ว พบว่าคนอื่นๆต่างมองเขาด้วยรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ฉินหลั่ง เมื่อกี้คุณพูดว่า 34 ล้านอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น เล่าให้พวกเราฟังหน่อยสิ” เผิงหนานลูบที่คางพลางส่งยิ้มและมองพร้อมเอ่ยถามฉินหลั่ง
“ไม่มีอะไรครับ ก็แค่ซื้อรถคันหนึ่ง” ฉินหลั่งตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ใช้ตะเกียบคีบกับข้าวทาน เมื่อฉินหลั่งพูดจบ บรรยากาศก็เงียบสงบลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะขึ้นมา

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset