รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 108 ก้าวร้าว

บทที่ 108 ก้าวร้าว
“ฮ่าๆ ขี้โม้ ไอ้ขี้โม้!” เผิงหนานชูนิ้วหัวแม่มือให้ฉินหลั่ง : “ผมถามหน่อยสิรถอะไรน่ะ ราคาตั้ง 34 ล้าน? ไม่ใช่สิ 34 ล้านก็แค่ครึ่งราคาใช่ไหม? ไหนลองบอกพวกเรามาสิ”
“นั่นสิ บอกมาหน่อย”
“68 ล้าน โลกนี้มีรถที่ราคาแพงขนาดนี้ด้วยหรือ? ต่อให้มี คุณเนี่ยะนะขับมัน?
“รวยขนาดนี้ยังมีหน้ามาทานข้าวที่บ้านเรา?”
……
ญาติมิตรในตระกูลเผิงคนอื่นๆเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ แต่ฉินหลั่งเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารเงียบๆ ทำไมเขาต้องรายงานพวกเขาด้วยว่าตัวเขาซื้อรถอะไรมา?
“ฉินหลั่งใช่ไหม? อย่ามัวแต่กินอยู่สิ เธออยากจะคบหากับหลานสาวของฉันไม่ใช่หรือ? ก็ควรจะให้ตระกูลเผิงของพวกเราได้รู้จักตัวเธอด้วย ที่เธอซื้อรถน่ะ มีตรงไหนที่บอกพวกเราไม่ได้ล่ะ” ตอนนี้ หลิ่วเหวินฮัวเอ่ยขึ้น เธอมองไปที่ฉินหลั่งอย่างไว้ตัว เธอรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ทำให้เผิงเมิ่งรู้ว่า ผู้ชายคนนี้ที่เธอปกป้องอยู่นั้นไร้ความสามารถมากแค่ไหน
ฉินหลั่งยังคงนิ่งเงียบ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหลิ่วเหวินฮัวมีจุดประสงค์อะไร บอกตามตรง เท่าที่เขาดู ตระกูลเผิงภายใต้การบริหารของหลิ่วเหวินฮัว ไม่มีอะไรมากไปกว่าการดำรงอยู่แบบซอมซ่อ ถ้าเขาไม่ไว้หน้าเธอ เธอจะทำอะไรเขาได้?
การแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินของฉินหลั่งในสายตาของหลิ่วเหวินฮัวและคนในตระกูลเผิง ถือเป็นการดูหมิ่น และไม่เห็นตระกูลเผิงอยู่ในสายตา
“ฉินหลั่ง คุณกับคุณย่า….” เผิงเมิ่งรู้ว่า การกระทำของฉินหลั่งทำให้คุณย่ายิ่งไม่พอใจมากขึ้น ไม่ว่าฉินหลั่งจะซื้อรถอะไร ตอนนี้ควรจะตอบอะไรออกไปสักคำเป็นการดีที่สุด ไม่เช่นนั้นแล้วสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงไปกว่านี้อีก
“ปัง!”
หลิ่วเหวินฮัวเอามือตบโต๊ะอาหาร ทำให้ทุกคนตกตะลึง
“เผิงเมิ่ง เธอดูเอาเองแล้วกัน หาผู้ชายแบบนี้มาได้ยังไง!” หลิ่วเหวินฮัวพูดด้วยความโกรธ สายตาของเธอจ้องเขม็งตรงมาที่ตัวเผิงเมิ่ง : “ถ้าไม่คิดจะเปิดปากพูด ก็ไสหัวออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเผิงของฉันเดี๋ยวนี้!”
ตอนนี้ ฉินหลั่งวางตะเกียบลง เขาหันไปสบสายตาของหลิ่วเหวินฮัว เผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวในสายตาของหลิ่วเหวินฮัว ฉินหลั่งไร้ซึ่งความกลัวใดๆ ท่าทางสงบนิ่งและสำรวม
“เฟอร์รารี่ รถที่ผมซื้อคือเฟอร์รารี่ครับ” ฉินหลั่งพูดอย่างเรียบเฉย
สีหน้าของหลิ่วเหวินฮัวยิ่งดูเคร่งขรึมมากขึ้นอีก เธอยังคงจ้องมองฉินหลั่งอยู่เช่นนั้น มือที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารกำหมัดแน่น ส่งเสียง “แซ่บๆ” ออกมาเบาๆ เห็นได้ชัดว่าฉินหลั่งไม่มีปัญญาซื้อเฟอร์รารี่ได้ ถ้างั้นเขาจงใจหลอกตัวเองงั้นหรือ?
“ฉินหลั่ง เธอซื้อรถเฟอร์รารี่มาในราคาเท่าไหร่?” ตอนนี้ฟางหลุนมองฉินหลั่งอย่างสบายๆ ถามด้วยเสียงเรียบๆ
เขาดูออกว่า ตอนนี้ทุกคนในตระกูลเผิง โดยเฉพาะหลิ่วเหวินฮัวรู้สึกไม่พอใจฉินหลั่งอย่างมาก ตอนนี้ถ้าเขาช่วยตระกูลเผิงทำให้ฉินหลั่งขายหน้าได้ หรือทำให้ฉินหลั่งไสหัวออกไปจากคฤหาสน์โดยเร็ว เขาคงจะได้ใจของคนในตระกูลเผิงอย่างมากทีเดียว
ฉินหลั่งคนนี้ดูเหมือน “พวกหนีหนี้” ที่หน้าด้านเหลือเกิน บังเอิญว่า ฟางหลุนมีวิธีจัดการกับ“พวกหนีหนี้” พวกนี้
“68 ล้าน” ฉินหลั่งมองฟางหลุน แล้วกล่าวด้วยเสียงเรียบง่าย
“อ้อ….” ฟางหลุนคิดไม่ถึงว่าเวลาที่ฉินหลั่งพูดโกหก ไม่มีท่าทีที่เสแสร้งเลย ที่แท้ก็เป็นพวกต้มตุ๋นที่มากประสบการณ์ มิน่าเล่าเผิงเมิ่งถึงได้เชื่อสนิทใจ : “แล้วรถเฟอร์รารี่ที่คุณจองซื้อเป็นรุ่นไหนล่ะ? จ่ายเงินมัดจำไปกี่เปอร์เซ็นต์? ระบบความปลอดภัยของรถคุณมีถึงระดับไหน? เร่งความเร็วสูงสุดได้ภายในกี่วินาที?
ฟางหลุนเคยจองซื้อรถเฟอร์รารี่มาก่อน เขารู้ว่าถ้าคนที่จองรถเฟอร์รารี่ ต้องผ่านกระบวนการต่างๆมากมาย คนที่ไม่เคยซื้อรถเฟอร์รารี่ไม่มีทางรู้แน่นอน
“อะไรนะ? ผมไม่รู้ว่าคุณถามผมแบบนี้ต้องการอะไร?” ฉินหลั่งขมวดคิ้วมองหน้าฟางหลุน : “ตอนแรกที่ผมซื้อรถมันง่ายมาก ก็แค่ให้พวกเขาประกอบรถตามมาตรฐานสูงสุดของในปัจจุบันของบริษัทเฟอร์รารี่ เอาเทคโนโลยีล่าสุดและงานฝีมือใส่ลงไป ก็เท่านั้นเอง”
ฉินหลั่งพูดจบ คนทั้งตระกูลเผิงที่นั่งอยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกลียดชังและดูหมิ่นฉินหลั่งมากขึ้น ฉินหลั่งกล้ามากที่พูดแบบนั้นออกมา
“แปะ แปะ แปะ” ฟางหลุนลุกขึ้นปรบมือให้ฉินหลั่ง : “ผมถามคุณในสิ่งที่บริษัทเฟอร์รารี่ต้องถามลูกค้าในการจองซื้อรถในรายละเอียด ถ้าคุณไม่ทราบ นั่นแสดงว่าความจริงแล้วคุณไม่เคยจองซื้อรถเฟอร์รารี่ล่ะสิ แต่ว่าผมจำเป็นต้องยอมรับ คำตอบของคุณสมบูรณ์แบบมาก จริงสิ คุณให้พวกเขาประกอบตามมาตรฐานขั้นสูงสุด แล้วผมควรจะถามอะไรต่ออีก?”
ถึงแม้ว่าฟางหลุนจะเอ่ยชื่นชมฉินหลั่ง แต่ใครๆก็ฟังออกว่าเขาพูดเสียดสีต่างหาก!
“ไอ้กระจอกนี่ช่างเสแสร้งเป็นเศรษฐีเก่งจังนะ! ซื้อรถเฟอร์รารี่ไม่พอ ยังให้คนของบริษัทเฟอร์รารี่ประกอบแบบใช้มาตรฐานสูงสุดให้ตัวเองอีก นายยิ่งใหญ่มาจากไหนหรือ? ถ้ามีเงินมากขนาดนั้น ผมแนะนำให้คุณไปซื้อเสื้อผ้าสักสองชุดให้ตัวเองก่อนดีกว่าไหม” เผิงหนานกล่าวอย่างเหยียดหยาม
“เฮ้ พี่เผิงอย่าพูดอย่างนั้น บางทีฉินหลั่งเขาอาจจะมีทรัพย์สมบัติหลายร้อยล้านก็ได้? อีกอย่างมันอาจจะอยู่ที่ “ธนาคารฟ้าดิน (เงินที่เผาให้คนตาย)” ก็ได้นะ” ฟางหลุนพูดไปพลางยิ้มๆ พอเขาพูดจบ ทุกคนต่างหัวเราะเฮฮากันลั่น
“เออใช่ ถูกต้อง เขาเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน อยู่ใน “ธนาคารฟ้าดิน (เงินที่เผาให้คนตาย” โน่น” เผิงหนานหัวเราะท้องแข็ง เขายกนิ้วโป้งให้กับฟางหลุน : “ชัวร์อยู่แล้ว พี่เขย!”
สายตาของฉินหลั่งคมชัดขึ้น และลมหายใจของเขาก็แรงขึ้น
“ฉินหลั่ง……” เผิงเมิ่งเรียกเสียงเบา เธอรู้สึกว่าฟางหลุนและคนในครอบครัวของเธอทำเกินไปแล้ว ฉินหลั่งปรับอารมณ์เล็กน้อย แล้วหันไปยิ้มให้เผิงเมิ่งพลางกล่าว่า : “ไม่เป็นไรครับ”
ถ้าพวกเขาอย่างสนุก ถ้างั้นตัวเขาก็จะขอเล่นด้วยละกัน ฉินหลั่งจับมือเผิ่งเมิ่งเอาไว้ พวกเขากลัวว่ายาจกอย่างเขาจะกัดเผิงเมิ่งไม่ปล่อยไม่ใช่หรือ? ถ้างั้นผมจะดูสิว่า พวกคุณจะทำอะไรผมได้
เผิงเมิ่งถูกฉินหลั่งจับไว้ กลับหน้าแดงฉาน ความกังวลต่อฉินหลั่งที่มีอยู่ในใจ กลับกลายเป็นความอบอุ่นและตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว
หลิ่วเหวินฮัวมองเห็นฉากนี้ เธอแทบอยากจะฆ่าฉินหลั่งซะเดี๋ยวนี้
“เอาล่ะ ไหนๆนายก็บอกว่าซื้อรถเฟอร์รารี่ราคา 68 ล้านมา ถ้างั้นผมขอถามคำถามง่ายที่สุดหนึ่งคำถาม ได้ยินนายคุยโทรศัพท์เมื่อกี้ รอคนเอารถมาส่งใช่ไหม งั้นนายจองซื้อรถไปตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฟางหลุนลุกขึ้น เดินไปข้างๆ ฉินหลั่ง มองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย : “ถ้าตอบไม่ได้ ก็ขอให้คุณมีสามัญสำนึก ลุกออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้น ผมจะไม่เกรงใจ “เชิญ” คุณออกไปเองนะครับ!”
“ฟางหลุนเป็นนักกีฬาเทควันโด้เอเชี่ยนเกมส์อันดับสาม จัดการขยะแค่นี้สบายมาก!” เผิงหยู่ถือโอกาสพูดเสียงดังขึ้นมา
“นายกล้าดียังไง…..” เผิงเมิ่งต้องการปกป้องฉินหลั่งจากความไม่ยุติธรรม ฉินหลั่งดึงเธอไว้ แล้วยิ้มให้ : “ไม่เป็นไรหรอก”
เผชิญหน้ากับไพ่ใบสุดท้ายของฟางหลุน ฉินหลั่งไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวหรือคิดถอยหนีเลย ดูแล้วเขาได้เปรียบฟางหลุนมากกว่า
“ไม่เกินสองเดือนก่อน” ฉินหลั่งพูดเรียบๆ
“เหอะ……” ฟางหลุนได้ยินคำพูดของฉินหลั่ง ก็หัวเราะอย่างดูถูก แล้วมองที่ฉินหลั่งอีกครั้ง ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม : “ไอ้น้องเอ้ยจนป่านนี้แล้วยังคิดจะเสแสร้งอยู่อีกหรือ? ผมจะบอกอะไรให้คุณฟัง การจองรถสักคนของบริษัทเฟอร์รารี่ในประเทศ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือน ถึงจะได้รถมา ไม่ต้องสงสัยผมหรอก ถ้าไม่เชื่อคุณลองหาจากในอินเตอร์เน็ตก็ได้ แต่ว่ารถของคุณต้องทำตามมาตรฐานระดับสูงสุด แถมยังเป็นซุปเปอร์คาร์เฟอร์รารี่ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยด้วย? จะเร็วกว่าสามเดือนได้อย่างไรกัน คุณอธิบายให้ทุกคนฟังสิ ถ้าอธิบายไม่ได้ ก็กรุณารีบออกไปจากที่นี่ซะเดี๋ยวนี้”
“พูดสิ!”
“บอกความจริงออกมาเลย!”
“ฉันหาในอินเตอร์เน็ตแล้ว เร็วที่สุดก็สามเดือนจริงๆด้วย ของคุณไม่ถึงสองเดือน ก็ได้รถที่ได้มาตรฐานสูงสุดมาไว้ในมือ คุณไปหาจากสวรรค์มาหรือ?”
บรรดาญาติมิตรตระกูลเผิงที่อยู่รอบๆต่างมุ่งเป้าไปที่ฉินหลั่ง
“ผมจ่ายเพิ่มไป 10 ล้าน ให้พวกเขาทำงานล่วงเวลาเพื่อประกอบรถให้ผม คำตอบนี้พวกคุณพอใจหือยัง?” ฉินหลั่งจิบน้ำชาอึกหนึ่ง พูดอย่างใจเย็น
“เหอะ ทีแรกผมคิดว่าจะให้คุณออกไปจากที่นี่อย่างลูกผู้ชาย คิดไม่ถึงเลยว่า หนังหน้าของคุณจะหนาขนาดนี้!” ฟางหลุนยิ้มไปพูดไป เขาพูดกับญาติพี่น้องตระกูลเผิงว่า : “ทุกท่านครับ ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคนๆนี้ถึงได้พูดเช่นนั้น เพราะว่าล่าสุดมีข่าวเรื่องหนึ่งว่า ประธานของบริษัทเฟอร์รารี่มาที่ประเทศจีนเพื่อส่งมอบรถเฟอร์รารี่มูลค่า 68 ล้านให้กับลูกค้ารายหนึ่ง เขาคงจะได้อ่านข่าวนี้แน่ๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าตัวเขาเป็นคนรวยระดับล่างคนหนึ่ง จึงสร้างเรื่องโกหกต่อหน้าทุกคนเช่นนี้”
“จริงด้วย พวกคุณลองค้นคำว่า “ประธานของเฟอร์รารี่” สิ ก็จะเห็นข่าวนี้แล้ว” เผิงหยู่พูดกับพวกเขาอย่างกระตือรือร้น คนอื่นๆจึงลองค้นหาในโทรศัพท์ เป็นอย่างที่ฟางหลุนพูดไว้จริงๆด้วย
“เขาคงคิดว่าตัวเองฉลาดมาก ความจริงแล้วนี่กลับพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาโง่มากขนาดไหน รถสปอร์ตราคา 68 ล้าน ในประเทศจีนจะมีสักกี่คนที่ซื้อมันได้ ทุกคนลองคิดดูก็จะรู้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเป็นเขาผู้ซึ่งไม่มีชื่อเสียงเรียงนาม? ไม่รู้ว่าเขากำลังดูถูกไอคิวของทุกคนในที่นี้ หรือว่าดูถูกไอคิวของตัวเองกันแน่” ฟางหลุนพูดค่อนแคะ สายตาของเขาพุ่งตรงไปที่ฉินหลั่ง : “ให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย รีบออกไปจากที่นี่ซะ”
“ทั้งหมดที่พูดมาคุณคิดเอาเองทั้งนั้น คุณไม่ได้เชื่อคำพูดผมเลย แล้วจะให้ผมออกไปจากที่นี่ มันไม่ยุติธรรมเกินไปหน่อยหรือ?”
ฉินหลั่งพูดจบ ก็ไอเบาๆสองที
“หน้าด้านเกินไปแล้ว!”
“ฉันไม่เคยเห็นใครหน้าด้านขนาดนี้มาก่อนเลย”
“พี่เขย จับมันโยนออกไปซะ ใช้เทควันโด้ของคุณเลย”
…..
“ได้ ไหนๆแกก็ไม่ยอมออกไปดีๆ ถ้างั้นฉันจะสงเคราะห์แกให้เอง! แต่ว่าพอแกออกไปแล้วคงต้องไปโรงพยาบาลก่อนเลยนะ” พูดไป ฟางหลุนก็เตรียมหมัดของเขาและคอ เสียงกระดูกลั่นดัง “แก๊บ” เดินเข้าไปหาฉินหลั่ง
“ไสหัวไป ลองแตะต้องเขาดูสิ!” เผิงเมิ่งไม่พูดไม่จา กางแขนออก เอาตัวกันฉินหลั่งไว้
“ไม่เป็นไร” ฉินหลั่งดึงเผิงเมิ่งไว้ ให้นั่งลง ในใจของเผิงเมิ่งกังวลแทบตาย ถ้าตอนที่ฉินหลั่งแข็งแรงดี เธอรู้ว่าฟางหลุนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินหลั่งแน่ แต่ว่าตอนนี้ฉินหลั่งไม่ค่อยสบาย อาจจะได้รับบาดเจ็บได้
“ผมเตือนคุณแล้วนะว่าอยู่ห่างๆผมไว้ดีกว่า ไม่เช่นนั้น ผมรับรองว่าคุณจะต้องเสียใจ” ฉินหลั่งนั่งลงที่เก้าอี้ ระหว่างคิ้วของเขาดูไม่กังวล ไร้ซึ่งความตื่นเต้นและความกลัวใดๆต่อภัยที่จะมาถึง
ทำไมเขาถึงได้ใจเย็นขนาดนี้? เวลานี้ ฟางหลุนลังเล ก่อนหน้านี้เขาเป็นนักกีฬาเทควันโด้มืออาชีพ เขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว
ดูจากภายนอกของฉินหลั่ง เขาไม่ได้รู้สึกถึงการฆาตกรรม หรือแม้แต่ความรู้สึกกดดันใดๆ แต่จากคำพูดของฉินหลั่งที่ไม่สะทกสะท้านกลับทำให้เขากลัวอะไรบางอย่างโดยไม่มีเหตุผล นั่นเป็นเหตุให้เขารู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรง
“คุณก็ได้ยินแล้วนี่ อีกสักครู่ก็จะมีคนมาส่งรถให้ผม ที่ผมพูดเป็นความจริงหรือเท็จ ถึงเวลาก็จะได้เห็นเอง ทำไมต้องรีบร้อนในเวลานี้ด้วยล่ะ?” ท่าทางของฉินหลั่งตั้งแต่ต้นจนจบสงบนิ่ง
“ได้ อย่างนั้นก็ดี จะได้ไม่หาว่าพวกเรารังแกนาย ถ้ารอแล้วรถนายไม่มา นายคงจะรู้ตัวแล้วนะ ไสหัวออกไปจากที่นี่เอง ไม่เช่นนั้น ผมคงไม่เหลือความเมตตาให้คุณอีก” ฉินหลั่งให้โอกาสฟางหลุนถอยห่าง เขาตอบตกลงทันที เมื่อเขาพูดคำดูถูกว่า “ไสหัวไป” ออกมา ในใจของเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดหวั่น รู้สึกได้ว่านี่เป็นการหาเรื่องใส่ตัว ฉินหลั่งทำให้เขารู้สึกเกรงกลัวแบบไร้เหตุผล เขาต้องให้เวลาตัวเองสักหน่อย เพื่อสงบสติอารมณ์
เวลานี้ แสงไฟสาดส่องเข้ามาในบริเวณบ้าน รถสีน้ำเงินเข้มคันหนึ่งขับเข้ามา
“ดูเหมือนว่าจะเป็น…..เฟอร์รารี่!” คนงานที่เฝ้าประตูคนหนึ่งเฝ้าสังเกตอย่างระมัดระวังสองสามวินาที แล้วร้องตะโกนออกมา

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset