รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 109 โลกนี้บ้าไปแล้ว

บทที่ 109 โลกนี้บ้าไปแล้ว
“จริงหรือนี่?” ทุกคนต่างลุกขึ้นจากที่นั่ง บางคนเดินเข้าไปที่หน้าประตูเหล็ก มองรถคันนั้นค่อยๆแล่นเข้ามาใกล้
“เป็นเฟอรร์รารี่จริงๆด้วย!” รถเฟอร์รารี่สีน้ำเงินขับมาที่หน้าประตูเหล็ก พวกเขามองไปที่ยี่ห้อรถอยู่
“สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงไม่ใช่หรือ?”
“นี่เป็นเฟอร์รารี่ของเขาหรือ? เขาเป็นเศรษฐีระดับล่างรุ่นที่สองจริงๆหรือ?”
ตอนนี้ หลายคนเริ่มสงสัยในใจและตกตะลึงอยู่
“พวกคุณไม่ต้องเดาให้เสียเวลา นี่มันเฟอร์รารี่ของฟางหลุนต่างหาก!” เผิงหยู่พูดเสียงดังใส่พวกเขา ทันใดนั้นทุกคนจึงคิดได้ ชื่นชมฟางหลุนมากขึ้นอีก
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่น่าใช่รถของไอ้กระจอกนี่หรอก เขาแอบอ้างเสแสร้งอยู่ที่นี่ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะขับรถเฟอร์รารี่?”
“ผู้ชายคนนี้ที่เผิงหยู่เอามาเป็นแฟนใช้ได้ทีเดียว อายุแค่ 20 กว่าๆก็ขับเฟอร์รารี่แล้ว”
“จริงด้วย หน้าตาก็ดี ความรู้ก็มาก เงินทองเหลือเฟือ มีโอกาสก้าวหน้า รากฐานมั่งคง ถ้าเผิงหยู่ได้แต่งงานกับเขา ความเข้มแข็งของตระกูลเผิงคงจะเติบโตได้มาก”
……
“คุณย่าหลิ่ว คุณลุงครับ นี่ก็คือรถของหลายชาย พวกท่านอยากไปดูหน่อยไหมครับ?” ฟางหลุนเชิญชวนอย่างสุภาพ ฟางหลุนและเผิงหยู่เดินนำหน้า หลิ่วเหวินฮัว เผิงเหล่ย และหลีหยิงเดินออกมาที่ประตูเหล็กแฟนซีด้วยกัน มาถึงหน้ารถเฟอร์รารี่
ผู้ช่วยของฟางหลุนเดินลงมาจากรถ เอากุญแจรถเฟอร์รารี่ส่งให้ฟางหลุน
“รถคันนี้ผมจองซื้อมาเมื่อปีก่อน เพิ่งส่งมอบเมื่อ 6เดือน ทั้งหมดมูลค่า 7.5 ล้าน ในกระบวนการผลิตของบริษัทเฟอร์รารี่ ผมร้องขอเพิ่มเติมไปหลายอย่าง จนกลายมาเป็นรถคันนี้ ผมเคยถามบริษัทเฟอร์รารี่มา รถคันนี้เป็นรถใน 30%แรก ของบริษัทเฟอร์รารี่ที่จำหน่ายให้ลูกค้าทั้งหมด…..” ฟางหลุนยืนอยู่หน้าเฟอร์รารี่ แนะนำให้หลิ่วเหวินฮัวและคนอื่นๆฟังเรื่องรถแสนรักของตัวเองโดยละเอียด จากนั้นเขย่ากุญแจรถในมือ : “ผมจะลองให้พวกคุณดู”
ฟางหลุนกดรีโมทกุญแจ ก็เห็นประตูรถทั้งสองข้างของเฟอร์รารี่สีน้ำเงิน ค่อยๆยกขึ้นช้าๆ ขณะเดียวกันช่องหลังคาและด้านหลังค่อยๆยกลอยขึ้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงราวกับภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ หลังคาก็ถูกซ่อนไว้ที่เก็บด้านหลัง รถกลายเป็นเพดานแหว่ง ประตูรถทั้งสองข้างกางออกค้างในอากาศราวกับปีก
ภายใต้การส่องสว่างของของไฟจากตัวรถ เฟอร์รารี่สีน้ำเงินคันนี้สวยงามเหลือเกิน เต็มไปด้วยความหรูหราและเทคโนโลยีล้ำสมัย ดึงดูดให้คนในตระกูลเผิงที่อยู่รอบๆตื่นตาตื่นใจ
“คุณลุงครับ คุณบอกว่าอยากลองไม่ใช่หรือ? เชิญเลยครับ” ฟางหลุนแสดงท่าทางเชื้อเชิญ
“อ้อ…ไม่ไม่ดีกว่า….. คนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอเชิญตามสบายเถอะ ลุงก็พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง” เผิงเหล่ยไม่กล้า เขากลัวว่าตัวเองขับไม่เป็น ถ้าไม่ระวังอาจทำรถเฟอร์รารี่เป็นรอยได้ เดี๋ยวจะขายหน้าเปล่าๆ แต่ในใจของเขาก็อยาก รถหรูราคา 7.5 ล้าน มีใครบ้างไม่อยากลอง?
“เผิงหยู่ ให้ ฟางหลุน พาขับวนรอบทะเลสาบจื่อเสียสักรอบสิ” เผิงเหล่ยโยนไปให้ลูกสาวของตัวเอง
“จริงด้วย เผิงหยู่ รีบขึ้นรถสิ! ลองนั่งดูสักหน่อยสิ” หลีหยิงพูดด้วยแววตาเป็นประกาย
“เสี่ยวหยู่ คุณลุงคุณป้าพูดขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่รีบขึ้นรถอีก?” ฟางหลุนพูดแซว เผิงหยู่ยิ้ม แล้วก้าวขึ้นไปนั่ง เธอเพิ่งคบกับฟางหลุนได้ไม่นาน นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งรถเฟอร์รารี่ เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก
ขณะที่ฟางหลุนกำลังจะนั่งในรถ เห็นที่ลานบ้าน มีเพียงเผิงเมิ่งและฉินหลั่งยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เขาตะโกนเสียงดังไปทางฉินหลั่งว่า : “เฮ้ ไอ้น้อง ผมไปขับวนทะเลสาบจื่อเสียสักรอบก่อนนะ หวังว่าตอนที่ผมกลับมา จะได้เห็นเฟอร์รารี่ราคา 68 ล้านของคุณนะ”
พูดจบ ฟางหลุนก็โบกมือให้หลิ่วเหวินฮัวเพื่อทักทาย ขับรถเฟอร์รารี่ออกไปชมวิวของทะเลสาบจื่อเสีย เมื่อเห็นไอพ่นออกจาก4 ช่องด้านท้ายเฟอร์รารี่ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
ทุกคนกลับมาที่ลานบ้าน กล่าวเยาะเย้ยฉินหลั่งอีกครั้ง บอกว่าฟางหลุนสิถึงจะเป็นเศรษฐีรุ่นที่สองโดยแท้จริง ส่วนเขาเป็นได้แค่ตัวตลกที่เล่นกล
“คุณย่าคะ ให้ผมหาคนมาจัดการไอ้กระจอกนี่ออกไปดีไหม!” เผิงหนานมองไปทางฉินหลั่ง แล้วพูดกับหลิ่วเหวินฮัว
“เขาบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า จะมีคนเอารถเฟอร์รารี่ราคา 68 ล้านมาส่งให้ เราจะทำแบบนั้นกับ “คนรวย” ลงหรือ?” หลิ่วเหวินฮัวตั้งใจพูดให้ฉินหลั่งกับเผิงเมิ่งได้ยิน
หลายคนต่างพากันพูดถึงฉินหลั่งผู้ไร้ยางอาย ตะโกนใส่เขาบ้างเป็นระยะ ให้เขารีบออกไปเร็วๆ บ้างก็พูดถึงเฟอร์รารี่คันนั้นของฟางหลุน ชื่นชมไม่ขาดปาก
“ฉินหลั่ง ให้ฉันไปส่งคุณกลับดีไหมคะ?” เผิงเมิ่งพูดกับฉินหลั่งเบาๆ เธอคิดว่าฉินหลั่งพูดถึงเฟอร์รารี่ราคา 68 ล้านเพราะความโมโห
“ผมไม่ได้พูดโกหกนะครับ เดี๋ยวจะมีคนเอารถมาส่งให้ผม” ฉินหลั่งพูดด้วยสีหน้าปกติ เผิงเมิ่งถอนหายใจเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่อ
“ใช่สิ มีคนจะมาส่งรถหรูเฟอร์รารี่ราคา 68 ล้านให้คุณสินะ! ยังไงเผิงเมิ่งก็อับอายขายหน้าเพราะคุณไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ถูกสบประมาทไม่น้อย เหลือแค่เรื่องนี้อีกเรื่องเดียว?” กู่ซาพูดไปพลางมองฉินหลั่ง เวลานี้เผิงเมิ่งไม่มีอารมณ์จะคุยกับกู่ซา
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็มีไฟสว่างส่องมาแต่ไกล มีคนยืนมองอยู่ที่หน้าประตู รถคันใหญ่มาก ที่รถยังเปิดไฟกระพริบสลับไปมาระหว่างน้ำเงินขาวแดง
“ดูเหมือนรถคุ้มกัน” คนที่คอยสอดส่องอยู่ที่หน้าประตูพูดกับคนอื่นๆ
“จริงด้วยสิ!”
“รถคุ้มกันติดอาวุธคันนี้ใหญ่มาก ใหญ่กว่าของธนาคารเยอะเลย แต่ว่าดูน่าเกรงขามไม่น้อยเลย”
ขณะที่กำลังถอนหายใจ ทุกคนต่างนึกสงสัยในใจ รถคุ้มกันติดอาวุธทำไมผ่านมาแถวนี้ได้? รู้ทั้งรู้ว่า ทะเลสาบจื่อเสียอยู่ห่างไกลจากเขตชุมชนตั้งเยอะ รถคุ้มกันติดอาวุธนี้ปกติใช้คุ้มกันการขนส่งธนบัตร โบราณวัตถุอันล้ำค่า เอกสารและอื่นๆที่เป็นสมบัติของชาติ
ที่นี่ห่างไกลขนาดนี้ และไม่ใช่ถนนสายหลักในการคมนาคม รถคุ้มกันติดอาวุธมาปรากฏตัวที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือไง?
สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งแปลกใจก็คือ รถคุ้มกันติดอาวุธคันนั้นขับตรงมาทางคฤหาสน์ของพวกเขา! และหยุดลงตรงหน้าประตูเหล็ก ทันใดนั้นผู้ชายติดอาวุธร้ายแรงทั้งคู่ก็กระโดดลงมาจากรถ ในมือของพวกเขาถือปืนกลน่าเกรงขามเอาไว้ด้วย! ต่างคนต่างยืนอยู่ข้างรถ คอยคุ้มกันรถคันนี้
เมื่อเห็นฉากนี้เข้า คนในตระกูลเผิงต่างตกใจขวัญเสีย พวกเขาคิดกันว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือเปล่า เด็กบางคนตกใจร้องไห้ออกมาเพราะเห็นฉากนี้ตรงหน้า
ในฐานะผู้นำครอบครัวหลิ่วเหวินฮัว เดินออกไปเปิดประตูเหล็ก คนในตระกูลเผิงหลบอยู่ข้างหลังหลิ่วเหวินฮัว เธอมองไปที่รถคุ้มกันติดอาวุธด้วยใจที่หวาดหวั่น
เวลานี้ คนในตระกูลเผิงเพิ่งสังเกตเห็นว่า ด้านหลังรถคุ้มกันติดอาวุธคันนั้น ยังมีรถFiatสีดำคันหนึ่งตามมาด้วย
เมื่อรถFiatหยุดลง มีชายสองคนผู้หญิงหนึ่งคนลงมาจากรถ ชายทั้งสองคนนั้น คนหนึ่งอายุราว 40 ปีกว่าเป็นชายชาวจีน ส่วนอีกคนเป็นชาวต่างชาติผมหยักศก แต่งตัวแบบทางการ
พอพวกเขาลงมาจากรถ ก็รีบเดินเข้าไปในบริเวณลานบ้าน
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ถึงตอนนี้คนในตระกูลเผิงต่างมึนงง ชายสองคนนี้ดูจากภายนอก ท่าทางมีฐานะดี พวกเขามาเยี่ยมบ้านของเราหรือ?
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือ…..” หลิ่วเหวินฮัวรีบเข้าไปทักทาย เธอไม่รู้จักทั้งสามคนนี้เลย พวกเขามาหาถึงที่ด้วยเรื่องอะไรกันแน่? รถคุ้มกันติดอาวุธคันนี้เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วยหรือไม่?
“สวัสดีครับ…..” ชายชาวจีนจับมือกับหลิ่วเหวินฮัว แต่ก็ไม่ได้กล่าวแนะนำใดๆ เขามองหาอะไรบางอย่างท่ามกลางฝูงชน
คนในตระกูลเผิงมองหน้ากันและกัน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“ผู้จัดการสวี สวัสดีครับ! มาถึงที่นี่เลยหรือครับ” เผิงหนานมักจะไปแถวศูนย์Auto showจีนหลิง เขาจำได้ว่านี่คือผู้จัดการสวี ที่อยู่ศูนย์Auto showจีนหลิง ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปหาผู้จัดการสวี ผู้จัดการสวีสัมผัสเขาแบบไม่ได้ตั้งใจนัก สายตาของเขายังคงสอดส่องหาใครบางคนอยู่
“คุณย่าครับ นี่คือผู้จัดการสวี ผู้จัดการของศูนย์Auto showจีนหลิง” เผิงหนานกล่าวแนะนำกับหลิ่วเหวินฮัวให้รู้จักคนแปลกหน้า รถหรูราว 80% ของจีนหลิงล้วนจำหน่ายโดยเขา ในแวดวงชนชั้นสูงของจีนหลิง ผู้จัดการสวีเป็นหนึ่งในคนที่ทุกคนต้องการผูกมิตรด้วย
ทุกคนจ้องมองผู้จัดการสวี ด้วยสายตาเป็นประกาย เพียงแต่สายตาของผู้จัดการสวี กลับค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ พวกเขาก็ไม่กล้าขัดจังหวะ
ชายชาวต่างชาติเจรจาผ่านล่ามผู้หญิงพูดกับผู้จัดการสวี สองสามประโยค ดูท่าแล้ว ชายชาวต่างชาติน่าจะมีตำแหน่งที่สูงกว่าผู้จัดการสวี อีก ยิ่งทำให้คนในตระกูลเผิงสงสัยมากขึ้น
“รอสักครู่นะครับ” ผู้จัดการสวีบอกกับชายชาวต่างชาติ จากนั้นมองไปทางครอบครับเผิง กล่าวเสียงดังว่า : “คุณฉินครับ คุณอยู่ที่นี่ไหม?”
“คุณฉิน? ผู้จัดการสวี คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นี่เป็นงานเลี้ยงอาหารของตระกูลเผิงของพวกเรา ไม่มีคุณฉินอะไรนั่นหรอก” หลิ่วเหวินฮัวบอกกับผู้จัดการสวี คนในตระกูลเผิงต่างก็พยักหน้าสมทบ พวกเขาไม่ได้นึกถึงฉินหลั่งเลย เพราะสถานะของผู้จัดการสวีคนนี้ ช่างแตกต่างจากฉินหลั่งราวฟ้ากับดิน
คนในตระกูลเผิงต่างปิดกั้นประตูเหล็กแน่นหนาผู้จัดการสวี จึงมองไม่เห็นภาพเหตุการณ์ในลานบ้าน เขาตะโกนเรียกเสียงดังถึงสองครั้ง แต่ไม่มีใครตอบรับ
“แปลกจริง ที่นี่ก็น่าจะถูกแล้วนะ?” ผู้จัดการสวี กล่าวอย่างตื่นเต้นและสงสัย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรเบอร์โทรออก แล้วเอาโทรศัพท์แนบหู สายตาเต็มไปด้วยความกังวล คนอื่นๆก็รู้ว่าผู้จัดการสวี กำลังโทรหา “คุณฉิน” คนนั้นอยู่ จึงรอคอยอยู่อย่างเงียบๆ
เวลานี้ มีเพียงเสียงเรียกเข้าดังขึ้น เป็นเสียงเรียกของ vivo
คนในตระกูลเผิงนึกถึงว่าเป็นเสียงเรียกเข้าของนายยาจกคนนั้นที่เผิงเมิ่งพามา พวกเขาก็พากันกร่นด่าฉินหลั่งในใจ ให้ตายสิเสียงโทรศัพท์ดังอะไรในเวลานี้เนี่ย พวกเขาคิดไม่ถึงว่า โทรศัพท์ของฉินหลั่งมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้จัดการสวีที่กำลังโทรอยู่
แต่ว่าผู้จัดการสวีและชายชาวต่างชาติต่างก็ดีใจ เขาเปิดทางคนในตระกูลเผิง เดินเข้าไปในลานบ้านตามเสียงโทรศัพท์ที่ได้ยิน ชายชาวต่างชาติและล่ามผู้หญิงก็เดินตามมาข้างหลังด้วย
คนในตระกูลเผิงเวลานี้เริ่มตระหนักถึงอะไรบางอย่าง เดินตามหลังไป เข้าไปที่ลานบ้าน
เห็นเพียงโต๊ะอาหารยาวๆ มีวัยรุ่นคนหนึ่งและสาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่ ทั้งสองคนต่างนั่งหันหลังให้ผู้จัดการสวี สีหน้าประหลาดใจของผู้จัดการสวี ยิ่งชัดเจนขึ้น เขากดปิดโทรศัพท์ เขารู้สึกคุ้นเคยกับเบื้องหลังของฉินหลั่งเป็นอย่างดี วันนั้นฉินหลั่งอยู่ที่ศูนย์Auto showจีนหลิง สั่งโอนเงิน 34 ล้านเข้าบัญชีของตัวแทนจำหน่ายรถเพียงคำเดียว ผู้จัดการสวี จดจำภาพลักษณ์ของฉินหลั่งได้ขึ้นใจ ต่อให้ฉินหลั่งกลายเป็นเถ้าถ่านเขาก็ยังจำได้
“คุณฉิน!” ผู้จัดการสวีพุ่งตัวเข้ามา รีบก้าวเข้าไปข้างๆฉินหลั่ง ชายชาวต่างชาติก็รีบก้าวตามเข้าไป
ตอนนี้ เผิงเมิ่งประคองฉินหลั่งลุกขึ้น ค่อยๆหันตัวกลับมา
ตอนที่คนในตระกูลเผิงมองฉินหลั่งอีกครั้ง ในใจของพวกเขาเข้าใจอะไรบางอย่างที่คลุมเครือ ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่าฉินหลั่งไม่ใช่เหลือขออย่างที่พวกเขารู้สึกในตอนแรก จนถึงรู้สึกว่ามีออร่าอันสูงส่งและสงบไหลออกมาจากร่างของฉินหลั่ง
“สวัสดีครับ” ผู้จัดการสวียิ้มให้อย่างเป็นมิตรพลางจับมือฉินหลั่งด้วยมือทั้งสองข้าง เขาแนะนำฉินหลั่งให้รู้จักชายชาวต่างชาติ : “ท่านนี้คือคุณคาทูโร่ประธานใหญ่แห่งบริษัทเฟอร์รารี่ ครั้งนี้เขามาประเทศจีนเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงความเคารพต่อคุณครับ…..”
“อ้อ…” ฉินหลั่งมองไปที่คุณคาทูโร่ คาทูโร่รีบยื่นมือออกมา จับมือกับฉินหลั่ง กล่าวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นภาษาอิตาลี ประมาณว่าขอบคุณฉินหลั่งที่ให้ความไว้วางใจกับบริษัทเฟอร์รารี่ หวังว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้รับใช้ฉินหลั่งอีก จนกระทั่งล่ามผู้หญิงแปลเสร็จ คาทูโร่จึงได้ปล่อยมือของฉินหลั่ง
เห็นฉากนี้ คนในตระกูลเผิงแทบจะทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนโดนกระแสไฟฟ้า มีเสียงคำรามในใจของพวกเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ท้าทายความรู้ความเข้าใจของพวกเขาอย่างมาก “คุณฉิน”ที่ผู้จัดการสวี ตามหาก็คือฉินหลั่ง? นายยาจกคนนี้ซื้อเฟอร์รารี่จริงๆ? แถมประธานใหญ่ของเฟอร์รารี่ยังมาส่งมอบรถให้ฉินหลั่งด้วยตัวเอง? เป็นพวกเขาที่บ้าไปแล้ว หรือว่าโลกใบนี้บ้าไปแล้วกันแน่?
เผิงเมิ่งตกตะลึงแทบช๊อค เธอมองฉินหลั่งด้วยตาที่เบิกโพรง และในใจของเธอนั้นว่างเปล่า ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าฉินหลั่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นเหมือนคนแปลกหน้า ดูลึกลับ แต่ก็มีเสน่ห์
“คุณคาทูโร่เกรงใจแล้ว” ฉินหลั่งส่งยิ้มให้คาทูโร่พลางพยักหน้า แล้วหันไปมอง ผู้จัดการสวี : “รถของผมมาถึงหรือยังครับ?”
“มาแล้วครับ อยู่ด้านนอก คุณฉินเชิญเลยครับ” ผู้จัดการสวีทำท่าเชื้อเชิญฉินหลั่ง ฉินหลั่งเดินออกไปทางประตูก่อน คนในตระกูลเผิงที่อยู่รอบๆรีบหลีกทางให้ฉินหลั่งด้วยความยำเกรง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset