รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 121 ชายสวมหน้ากาก

บทที่ 121 ชายสวมหน้ากาก
“อ๊ะ! ปล่อยฉัน… …” เมื่อเห็นใบหน้าของเหลียงฮุยเข้ามาทาบใบหน้าตัวเอง อู๋ยี่หยวนตกใจจนหลับตา และดิ้นสุดแรงขณะ
อยู่ในอ้อมแขนของเหลียงฮุย ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แต่ยังมีผู้หญิงอีกสี่คน พวกเขาก็กำลังดิ้นรนอย่างสุดแรงขณะอยู่ใน
อ้อมแขนของผู้ติดตามทั้งสี่คนของเหลียงฮุย
ฉากนั้นวุ่นวายมาก และ “สะเทือนใจ” มาก และมันก็ยั่วประสาทของคนอื่นอย่างมาก
“แม่ง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ให้เกียรติพวกแกมากเกินไปใช่ไหม”
“ ไอ้คนไร้ยางอาย”
ฉากนี้ทำให้รู้สึกโกรธมากๆ สำหรับคนหนุ่มสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ ยกเว้นอู๋ยี่หยวนกับหยูจิ้ง แฟนของผู้หญิงอีกสามคนก็อยู่
ในที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นแฟนของตนถูกคนอื่นรังแก พวกเขาจะไม่โกรธได้ไง? ผู้ชายที่เหลือ พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ชายที่อาย
ยี่สิบกว่าปีที่เลือดร้อน อีกฝ่ายดูหมิ่นและเหยียดหยามผู้หญิงในผับต่อหน้าพวกเขา พวกเขารู้สึกโกรธกับความไม่ชอบ
ธรรมนี้มาก?
ผู้ชายสิบกว่าคนไม่รอช้า ตะวาดพร้อมพุ่งเข้าหาเหลียงฮุยและคนอื่นๆ
เหลียงฮุยและคนอื่นๆตกตะลึง รีบปล่อยผู้หญิงที่อยู่ในมือทันที ลูกน้องทั้งสี่คนอยู่ข้างหน้าคอยปกป้องเหลียงฮุย พวกเขา
คิดจะตะวาดใส่เพื่อข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม แต่พวกเขายังไม่ทันพูด ขวดเหล้า เก้าอี้ เก้าอี้ฟาดมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ตีจนทำให้
พวกเขาหมดแรงที่จะโต้ตอบ
ลูกน้องทั้งสี่คน แต่ละคนถูกทุบตีจนหมดสภาพ และเสียงกรีดร้องดังออกมาจากปากของพวกเขาเป็นระยะๆ สำหรับคน
หนุ่ม มีไม่กี่คนที่อยู่ด้านหน้าถูกเหลียงฮุยและคนอื่นๆทุบตีสองที แค่บาดเจ็บเล็กน้อย
ผ่านไปเพียงนาทีเดียว ลูกน้องทั้งสี่คนถูกทุบตี ในเวลานี้พวกเขาไม่สามารถปกป้องเหลียงฮุย ทุกคนใช้มือปิดหัวหมอบลง
กับพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้โดนตีหัว
“ตีหัวพวกมันเลย!”
“ลากพวกปัญญาอ่อนสี่คนนี้ออกไป แล้วจัดการกับไอ้ขี้ขลาดที่อยู่ด้านใน!”
กลุ่มชายหนุ่มต่างพูดว่าต้องการตีเหลียงฮุย
“อาส้วย! ช่วยฉันด้วย!”
เหลียงฮุยกลัวแทบตาย เขากุมหัวและตะโกนเสียงดัง
ชายหนุ่มพวกนี้ไม่สนใจว่าเขาจะเรียกใคร ตีเพื่อระบายความโกรธก่อน หมัดหนึ่งได้ชกไปที่หัวของเหลียงฮุย
“อ๊ะ….อ๊ะ” ในขณะนี้ ฝูงชนที่รุมล้อมเหลียงฮุยก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด คนอื่นๆหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ
และเห็นคนสองคนล้มลงกับพื้น และก็ค่อยๆล้มลงทีละคน เมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนส่วนมากได้ล้มลงกับพื้น และ
พวกเขาก็เห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
มันคือชายร่างเล็กสวมหน้ากาก!
เห็นว่าเขาลงมืออย่างโหดเหี้ยม ทั้งเตะ และตีหัว และดูเหมือนเขาจะเคยฝึกวิทยายุทธิ์มา มีทักษะในการเคลื่อนไหว ออก
หมัดทุกครั้ง เตะจนเข่าอ่อน คล่องแคล่วว่องไว อานุภาพความแรงเกินกว่าที่จะหลบหลีกและต้านทาน เขาเหมือนสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถหยุดยั้งได้
ในเวลาไม่ถึง 2 นาที
อาส้วยได้ทุบตีทุกคนนอนกองอยู่บนพื้น และบางคนก็ยังคร่ำครวญไม่หยุด แต่บางคนไม่ได้สาหัสขนาดนั้น แต่ความรู้สึกที่
พวกเขามีต่ออาส้วยทั้งหวาดกลัวและนับถือ ล้อมรอบเขา จับบริเวณที่ถูกทำร้าย ดูเขาอย่างระแวดระวังไม่มีใครกล้าที่จะ
ก้าวไปข้างหน้า
“เจ้านาย” อาส้วยเดินไปที่ด้านข้างของเหลียงฮุยแล้วถาม พร้อมกับเรียกชื่อที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“นายปัญญาอ่อนเหรอ? ฉันโดนคนอื่นทุบตี แกยังมัวยืนดูความสนุกอยู่ข้างๆทำไม? แม่ง” เหลียงฮุยตบหัวอาส้วยอย่าง
แรง โดยไม่ยั้งมือ
อาส้วยก้มหัวลงเล็กน้อย รูปร่างเขาไม่ค่อยสูงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูเตี้ยมากกว่าเดิม เมื่อกี้หนึ่งคนสามารถจัดการ10 กว่าคน
เป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่ต่อหน้าเหลียงฮุยกลับต่ำต้อยและไร้ค่า ทำให้คนรอบข้างประหลาดใจมาก
ในเวลานี้ฉินหลั่งที่อยู่ในฝูงชนได้มองอาส้วยอย่างระมัดระวัง เห็นว่าเขาสวมชุดสูทสีน้ำตาล เป็นแบบทรงหลังปีสองพัน ดู
แล้วเก่ามาก และใส่มีกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ซึ่งดูเหมือนเหลียงฮุยจะเป็นคนให้ ซึ่งค่อนข้างทันสมัย ใส่รองเท้าหนังระบาย
อากาศสีขาว ไม่รู้เป็นเพราะอาส้วยไม่รู้จักถนอม หรือรองเท้าเป็นแบบนี้อยู่แล้ว หนังที่พื้นสึกไปแล้ว ถ้าจะพูดอย่างน่า
เกลียด รองเท้าแบบนี้ก็ควรทิ้งลงถังขยะได้แล้ว
เสื้อผ้าสามชิ้นที่ไม่เหมาะ ถ้าสวมใส่กับใครคนใดคนหนึ่ง ก็จะแตกต่างออกไป อีกอย่าง อาส้วยยังสวมหน้ากากสีขาว
ฉินหลั่งยังสังเกตเห็นว่า มือของอาส้วยเหี่ยวและเหลือง เล็บของเขาก็ยาวมาก แต่เห็นได้ชัดว่าได้ทำความสะอาดเล็บของ
เขามาแล้ว แต่ล้างไม่สะอาด ดูแล้วยังสกปรก ดูเหมือนกรงเล็บนกอินทรี
เขามีหัวแบน และไม่มีเส้นผมสองแห่งบนหัว ซึ่งให้รู้สึกเหมือนคนป่วย
นี่เป็นคนแบบไหนกันแน่? ไม่เพียงแต่ฉินหลั่ง แต่ทุกคนในสถานที่นี้ต่างมีคำถามเช่นนี้อยู่ในใจ
“แต่นายก็ค่อนข้างใช้ได้เหมือนกัน ในยามวิกฤตก็มีประโยชน์ จำไว้ทีหลัง เมื่อใดที่เห็นฉันตกอยู่ในอันตราย รีบออกมา
ปกป้องฉันทันที! ใครก็ตามที่ทุบตีฉันนายก็ทุบตีคืนไป เข้าใจไหม!” เหลียงฮุยก้มหัวมองอาส้วยและตวาดเสียงดัง
“เข้าใจแล้ว” อาส้วยตอบเสียงเบา เมื่อคนอื่นได้ยินเสียงของเขา มันก็ยากที่จะจินตนาการได้ว่า เขาเป็นคนเดียวกับคนที่
ดุร้ายคนนั้น
“พวกแกทั้งหมด มาตีฉันอีกสิ? ตีสิ แม่งเอ้ย” เหลียงฮุยมองชายหนุ่มที่อยู่รอบๆในผับ และพูดอย่างหยิ่งยโส เมื่อเห็นคน
กลุ่มนี้อิจฉาเขา เหลียงฮุยก็เดินมาหาพวกเขา และตบใบหน้าของชายหนุ่มสองคน ชายหนุ่มทั้งสองไม่กล้าขัดขืน
“ไอ้พวกขี้ขลาด” ใครยังกล้ามาเสือกเรื่องของฉัน ฉันจะขอพูดไว้ตรงนี้เลย ฉันจะตีพวกแกจนตายก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ใครไม่
กลัวตายก็ออกมา แม่ง” เหลียงฮุยพูดอย่างเด็ดขาดและโหดเหี้ยมกับชายหนุ่มกลุ่มนี้
ชายหนุ่มที่อยู่เหตุการณ์โกรธมาก พวกเขาตะลึงจนทำให้ออร่าในตัวของพวกเขาหายไปหมด ในสังคมนี้มีตัวอย่างการฆ่า
คนโดยไม่ต้องชดใช้มากมาย อีกฝ่ายเป็นทายาทเศรษฐีที่ร่ำรวยและหยิ่งผยอง แล้วยังมีลูกน้องอีกคนที่โหดเหี้ยม ใครจะ
กล้าออกมาเป็นตัวแทน?
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าที่จะออกมา เหลียงฮุยจึงจ้องมองไปที่อู๋ยี่หยวนอีกครั้ง อู๋ยี่หยวนตัวสั่น และถอยหลังไปหนึ่งก้าว
รอยยิ้มที่แฝงร้ายของเหลียงฮุย เดินไปหาอู๋ยี่หยวนทีละก้าว
ทุกคนรู้ว่าเหลียงฮุยกำลังจะทำอะไร แต่ไม่มีใครกล้าวุ่นวาย พวกเขารู้สึกไม่พอใจ ได้แต่ก้มหน้าลง ราวกับว่าพวกเขาไม่
มองก็จะรู้สึกสบายใจขึ้น
อู๋ยี่หยวนพิงโต๊ะเหล้า มือของเธอวางอยู่บนโต๊ะโดยไม่รู้ตัว มองไปที่เหลียงฮุยด้วยความหวาดกลัว เธอกำลังคิดหาวิธี
แก้ปัญหา แต่เมื่อเหลียงฮุยที่กำลังยิ้มได้เข้ามาใกล้เรื่อยๆ เหลือเพียงความตื่นตระหนกในใจของเธอ
ฉินหลั่งที่มองดูฉากนี้ ก็รู้สึกกังวลมากเช่นกัน ตอนนี้ถ้าเดินออกไป ก็คงจะหาที่ตาย และก่อนหน้านี้เขาเคยทำร้ายเหลียงฮุย
ก่อกวนเขากับเผิงเมิ่ง ถ้าให้เขาเห็นตัวเอง ข้างกายเขาก็มีอาส้วยที่ดุร้าย ตัวเองคงถูกทุบตีจนตายแน่ๆ
ในขณะที่คุยกัน เหลียงฮุยได้เดินมาถึงตรงหน้าอู๋ยี่หยวน เขาจับมือทั้งสองข้างของอู๋ยี่หยวน และมองไปที่ใบหน้าตื่น
ตระหนกของอู๋ยี่หยวนด้วยรอยยิ้มที่แฝงร้าย “แม้ว่าโต๊ะเหล้านี้จะไม่นุ่มเท่าเตียง แต่ความสูงก็ค่อนข้างเหมาะสม เธอจะขึ้น
ไปนั่งเอง หรือจะให้ฉันอุ้มขึ้นไปนั่ง… …”
“ไสหัวออกไป อ๊ะ ช่วยด้วย… …” เมื่อเหลียงฮุยจับเอวของเธอแล้ววางเธอลงบนโต๊ะเหล้า อู๋ยี่หยวนก็ตะโกนเสียงดัง และ
ต่อต้านอย่างรุนแรง
“มาเถอะ ที่รัก… …” เหลียงฮุยได้วางอู๋ยี่หยวนบนโต๊ะเหล้า และกำลังจะปลดเสื้อผ้าของอู๋ยี่หยวน
ในขณะนี้ มีร่างหนึ่งลอยออกมาจากฝูงชน เขาลากไหล่ของทั้งสองคน และโยนขึ้นสูง เหมือนบรู๊ซลีที่เหาะได้ และเตะที่หัว
ของเหลียงฮุย เหลียงฮุยกรีดร้องและล้มลงกับพื้น อู๋ยี่หยวนก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับโต๊ะเหล้า และคนที่ถูกโยนขึ้นไปก็
กระแทกลงพื้นอย่างแรง
“พี่อู๋ คุณเป็นอย่างไรบ้าง?” คนที่ช่วยอู๋ยี่หยวนคือฉินหลั่ง เมื่อกี้เห็นเหลียงฮุยกำลังจะข่มขืนอู๋ยี่หยวน ฉินหลั่งไม่คำนึงว่าผล
จะเป็นยังไง รีบพุ่งออกจากฝูงชน หลังจากเตะเหลียงฮุยล้มลง เขาก็รีบลุกขึ้นจากพื้นทันที และพยุงอู๋ยี่หยวนที่อยู่บนพื้น
เพื่อดูอาการของเธอ
“ไม่เป็นไร” อู๋ยี่หยวนแค่บอบช้ำที่แขนเล็กน้อย ฉินหลั่งพยุงเธอเข้ามาในอ้อมกอด เหมือนกับฉินหลั่ง รีบมองไปที่เหลียงฮุย
ด้วยความกลัวทันที
เมื่อกี้เหลียงฮุยล้มลงกับพื้น เห็นเขาครวญครางและลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับรอยรองเท้าที่ชัดเจนบนใบหน้าขาวของเขา
เขาขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าของฉินหลั่งที่เพิ่งเตะเขา
“คุณชายเหลียง เป็นไอ้ผู้ชายที่ชนคุณในวันนั้น”
“ใช่ เป็นมันนี่เอง”
ลูกน้องทั้งสี่คนของเหลียงฮุยจำฉินหลั่งได้ และรายงานให้เหลียงฮุยอย่างตื่นเต้น
“ไอ้คนบ้าที่แท้ก็เป็นแกนี่เอง!” เหลียงฮุยพูดด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาเหมือนจะลุกเป็นไฟออกมาเผาไหม้ฉินหลั่ง คน
อย่างเหลียงฮุยไม่เคยให้ใครมารังแกซ้ำๆ
“อาส้วย!” เหลียงฮุยจ้องไปที่ฉินหลั่งและตะวาด
“ครับ เจ้านาย” อาส้วยเดินไปที่ด้านข้างของเหลียงฮุย
“แม่งแกทำไมโง่อย่างนี้” เหลียงฮุยด่า และตบหัวอาส้วยอย่างแรง แต่แขนของเขาบาดเจ็บ และเจ็บแขนขึ้นมาทันที
“โอ้ย” ร้องสองครั้ง “เมื่อกี้แกเห็นใครตีฉัน ก็ตีเขาให้ตายทันที เข้าใจไหม?”
“เข้าใจครับเจ้านาย” อาส้วยตอบอย่างอ่อนแรง
“ตอนนี้ไปต่อยมันเลย! ไม่ต้องกลัว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นฉันจะให้ครอบครัวของฉันประกันนายออกมา… …” เหลียงฮุยหยิบกริช
มาจากลูกน้องของเขา และส่งให้อาส้วย สิ่งนี้พวกเขาพกไว้เพื่อข่มขู่คนอื่น
“ไป… …” เหลียงฮุยชี้ไปที่ฉินหลั่ง และผลักอาส้วย
อาส้วยดึงกริชออกมา ดวงตาทั้งสองข้างที่จ้องออกมาจากหน้ากาก จ้องมองฉินหลั่ง และเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าว
คนอื่นๆต่างพากันตื่นตระหนก สาวๆจับมือของกันและกัน และพวกผู้ชายก็มีสีหน้าวิตกกังวล พวกเขาทุกคนต่างก็อยากจะ
ช่วยฉินหลั่ง แต่กริชที่สะท้อนแสงในมือของอาส้วยทำให้พวกเขาต้องอยู่ห่างๆ .
“จะทำอย่างไงดี… …” อู๋ยี่หยวนตกใจมาก เธอจับเสื้อผ้าของฉินหลั่งไว้แน่น พูดด้วยความสิ้นหวัง
ฉินหลั่งไม่พูดอะไร เขาจ้องไปที่อาส้วยที่กำลังเดินเข้ามา และค่อยๆดึงอู๋ยี่หยวนอยู่ข้างหลังเขา
“นายจะทำอะไร… …” อู๋ยี่หยวนก็ยังคงพูดอย่างสิ้นหวัง ในขณะนี้ เธอถูกฉินหลั่งผลักอย่างแรง และผลักไปตรงที่พนักงาน
ยืนอยู่ เธออยากจะเดินกลับไปที่ด้านข้างของอาส้วย แต่ถูกคนอื่นจับไว้แน่น
ฉินหลั่งยืนดูอาส้วยที่เดินเข้ามาทีละก้าว สายตาของเขานอกจากหวาดกลัว ยังมีความรู้สึกสองอย่าง หวาดกลัวนับถือและ
สงสาร นับถือเป็นเพราะฝีมือของอาส้วย และสงสารเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจ เห็นได้ชัดว่าอาส้วยเป็นคนที่น่าสงสาร ทำไม
เขาต้องถูกทารุณกรรม และกลายเป็นขี้ข้าของเหลียงฮุย
อีก2 เมตรอาส้วยก็เดินมาถึงหน้าฉินหลั่ง ฉินหลั่งสังเกตเห็นดวงตาของเขา ดวงตาที่สดใสคู่หนึ่ง เขาสังเกตเห็นว่าดวงตา
ของอาส้วยนิ่งอึ้ง ในขณะนี้ ฉินหลั่งแทงอาส้วยจากด้านหลัง ในมือของเขามีมีดที่ส่องแสงเป็นประกาย
ตอนที่ช่วยอู๋ยี่หยวน เขาแอบหยิบมีดขึ้นมาจากเคาน์เตอร์ผับ เพื่อจัดการกับอาส้วย
เขาเข้าใจความสามารถของอาส้วย เมื่อเขาลงมือ ก็จะไม่ยั้งมือแม้แต่น้อย
อาส้วยเอียงตัวหลบ แต่ฉินหลั่งลงมือเร็วเกินไป เขาถูกฟันที่ไหล่ เลือดสีแดงไหลออกมา และกริชในมือของอาส้วย
“เคว้ง” ก็มีเสียงตกลงที่พื้น

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset