รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 146 ฉันจำเขาได้แน่นอน

บทที่ 146 ฉันจำเขาได้แน่นอน
กลุ่มนี้ทยอยลงมาที่ชั้นล่าง ย้าวเป่าขับรถโตโยต้าปราโดเข้ามา แม่ซุนและส้งเส่นเอ๋อเข้าไปนั่งก่อน ขณะที่ย้าวเป่าและซุนจิงยังยืนอยู่นอกรถ คุณฉินยังไม่ได้ขึ้นรถ พวกเขาจะกล้าขึ้นไปได้อย่างไร
“เยว่เยว่ขึ้นรถไปกับคุณฉินสิ” ย้าวเป่าพูดอย่างสุภาพและซุนจิงก็ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
แม้ว่าซุนเยว่จะแปลกๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่พี่สาวและพี่เขยของเธอจะมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อตัวเองและฉินหลั่ง เธอและฉินหลั่งกำลังจะขึ้นรถ
“ลงไปนะ คุณช่างหน้าหนาจริงๆ รถของคุณก็ไม่ใช่จะเข้ามาได้ยังไง” แม่ซุนพูดพร้อมกับจ้องมองไปที่ฉินหลั่ง
“แม่ อย่าพูดสิ่งที่น่ารังเกียจแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่มีที่นั่งในรถ” ย้าวเป่าพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเขาแอบเหลือบมองฉินหลั่ง เพราะกลัวว่าฉินหลั่งจะโมโหแล้วพูดเรื่องที่ตนไปเช่าวิลล่าของเขาออกมา
“คนไร้ยางอายแบบนี้ ถึงมีที่ก็ไม่ให้นั่ง ถ้าให้เขาชินกับการนั่งในรถดีๆบางทีเขาอาจจะคิดเรื่องอะไรไม่ดีมาอีก” แม่ซุนยังคงพูดกับฉินหลั่งอย่างรุนแรง และเธอก็หันไปหาเกาเฉียงที่ด้านนอกรถ กวักมือเรียก “เสี่ยวเกาขึ้นรถไปกินข้าวด้วยกันเถอะ”
“ได้ครับ”” เกาเฉียงตอบและผลักฉินหลั่งอย่างตั้งใจและเข้าไปในรถ
“… ” ย้าวเป่ามองไปที่ฉินหลั่งด้วยสีหน้าน่าเกลียด ยิ้มเขินอย่างไม่เต็มใจ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่นั่ง” ฉินหลั่งตบที่ไหล่ของย้าวเป่าให้เขาวางใจ ยิ้มเบา ๆ แล้วเดินจากไป
“ไปให้ไวเลย ชาตินี้อย่าให้ฉันเจอแกอีกนะ” แม่ซุนมองตามหลังฉินหลั่งและพูดอย่างโมโห จากนั้นก็มองไปที่ซุนเยว่อีกครั้ง “ยังยืนทำอะไรอยู่ ขึ้นรถมานั่งด้วยกันกับเสี่ยวเกา สิ”
ซุนเยว่มองไปที่แม่ของเธอและไม่พูดอะไรตอบ แล้วเธอก็หันและไล่ตามฉินหลั่งไป
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะ”แม่ซุนร้องเรียกซุนเยว่เสียงดัง แต่ซุนเยว่ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ ทำให้แม่ซุนโกรธมากๆ
ในท้ายที่สุด ย้าวเป่าขับรถพาแม่ซุนและคนอื่น ๆ ไปที่ชุ่ยเต่าหัวถิง ระหว่างทางย้าวเป่าและซุนจิงรู้สึกกังวลในใจ พวกเขายืมบ้านพักของคุณฉินมา เมื่อแม่ยายของเขาทำแบบนี้กับฉินหลั่ง พวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะตดออกมา
ในไม่ช้าย้าวเป่าขับรถไปถึงชุ่ยเต่าหัวถิง และกลุ่มคนก็ลงมาจากรถ
“ ผมไม่รู้ว่าคุณซุนจะมาที่นี่หรือเปล่า” เกาเฉียงพึมพำอย่างกังวล
“ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณน้าจะมาค่ะ” ส้งเส่นเอ๋อพูดเบา ๆ กับเกาเฉียง วันนี้เป็นครบรอบการตายของคุณตา ต้องมีคนหนึ่งคนจากลูกสาวทั้งสามคนมา ไม่เช่นนั้นจะเป็นการไม่กตัญญูต่อคุณตา ถึงคุณน้าจะโกรธแต่ก็ต้องมาค่ะ
“อย่าพาไอ้โกหกนั้นมาก็แล้วกัน” แม่ซุนพูดด้วยดวงตาเศร้าสร้อย
“จิงจิง คุณพาแม่คนอื่นๆกลับบ้านก่อนนะ ผมจะไปซื้อกับข้าวที่ตลาด วันนี้ผมจะแสดงฝีมือเอง” ย้าวเป่าพูดพร้อมกับยิ้มขณะมองไปที่คนอื่น ๆ
“โอเค แม่คะพวกเราไปก่อนเถอะค่ะ” ซุนจิงพาแม่ซุนและคนอื่น ๆ เข้าไปในหมู่บ้านขณะที่ย้าวเป่าไปที่ตลาดสดใกล้ ๆ
ก่อนที่จะซื้อผัก ย้าวเป่าได้จงใจโทรหาซุนเยว่ เมื่อได้ยินว่าเธอและฉินหลั่งมุ่งหน้ามาที่ชุมชนชุ่ยเต่าหัวถิงแล้ว ย้าวเป่าก็รู้สึกโล่งใจ และเดินเข้าไปในตลาดสดเพื่อซื้อผัก
ซุนจิงพาแม่ซุนและคนอื่น ๆ กลับไปที่วิลล่า เมื่อเขาจะใช้กุญแจเปิดประตู มือของซุนจิงก็ยังสั่นอยู่เพราะนี่ก็ไม่ใช่บ้านของเขา เมื่อประตูของวิลล่าเปิดออก เมื่อเธอได้ยินเสียง “ป๊อก”ซุนจิงถอนหายใจอย่างโล่งอกในที่สุด
“เข้ามาค่ะแม่ เส่นเอ๋อ” ซุนจิงเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเธอเบา ๆ และทำท่าเชิญให้แม่ซุนและคนอื่น ๆเข้ามา “เชิญค่ะเกาเฉียง”
กลุ่มคนเดินเข้าไปในวิลล่า และพวกเขาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นการตกแต่งภายในวิลล่า
ภายในวิลล่าตัวหลักเป็นสีขาว ราวบันไดเป็นเหล็กดัดแฟนซีสีดำทั้งหมด ด้านข้างเป็นหน้าต่างโค้งสูงจากพื้นจรดเพดาน ด้านหน้าของหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานเป็นห้องรับแขกขนาดเล็กที่หรูหรา ทั้งสองด้านของห้องนั่งเล่น มีซุ้มประตูแบบตะวันตกอยู่ที่ผนังแต่ละด้าน ด้วยรูปแบบเดียวกันบูธสูงวางอยู่ด้านหน้าของแต่ละคูหาและรูปปั้นครึ่งตัววางอยู่บนแต่ละคูหา โดยอี้จ้าว(รูปปั้นหินช้าง)อยู่ทางซ้ายและพระพุทธรูปอยู่ทางด้านขวา
ห้องรับแขกมีพื้นที่ขนาดใหญ่และได้รับการตกแต่งอย่างมีศิลปะ ด้วยของตกแต่งต่างๆ ได้แก่ โต๊ะกาแฟไม้มะฮอกกานี โซฟาหนัง ขาตั้งดอกไม้พร้อมดอกแดฟโฟดิล บันไดที่คดเคี้ยวกลางห้องนั่งเล่นและชั้นสองด้านบน โคมระย้าคริสตัลขนาดใหญ่บนหลังคา ทำให้วิลล่าดูเรียบง่ายและหรูหรา
เมื่อเห็นการตกแต่งในวิลล่า ดวงตาของแม่ซุนของพวกเขาก็เปล่งประกาย ทุกสิ่งในห้องนั่งเล่นทำให้พวกเขาตื่นตา ราวกับว่าพวกเขาเข้าไปในพระราชวัง
“ มันสวยงามมาก” ส้งเส่นเอ๋อมองทุกสิ่งในห้องรับแขก ด้วยดวงตาที่สดใสและภาพในนั้นเกินจินตนาการของเธอ
“มันน่าทึ่งจริงๆ ต้องเสียเงินมากมายในการตกแต่งนะเนี่ย” แม่ซุนหันมายกนิ้วหัวแม่โป้งให้ซุนจิง
“อ่อ … ” ซุนจิงชะงักไป เธอตกใจมากในขณะนี้ เธอมองไปที่แม่ของเธอและจำได้ว่าตอนนี้วิลล่านี้เป็นของเธอ เธอยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ก็ …ก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากค่ะ!”
“ใช้เงินไม่เยอะเหรอ ดี ฉันคิดว่าพวกเธอทั้งคู่คงหาเงินได้มากจริงๆในช่วงสองปีที่ผ่านมา” แม่ซุนพูดด้วยรอยยิ้มและเยี่ยมชมห้องรับแขกกับส้งเส่นเอ๋อต่อ ดูจากการตกแต่งวิลล่าแล้ว ยายหลานก็ถอนหายใจว่า วิลล่านี้ไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะมีปัญญาได้อยู่นะเนี่ย
หลังจากผ่านไปสองสามรอบ ส้งเส่นเอ๋อและแม่ซุนก็นั่งบนโซฟา เกาเฉียงและซุนจิงก็นั่งลงเช่นกัน และขณะที่ทุกคนเริ่มคุยกัน ฉินหลั่งและซุนเยว่ก็เพิ่งจากแท็กซี่และเดินเข้าไปในหมู่บ้านชุ่ยเต่าหัวถิงเช่นกัน
ฉินหลั่งไม่ต้องการมาที่นี่อีก แต่ซุนเยว่ขอให้เขาไปกับเธอด้วย เพราะถ้าแม่ซุนเห็นว่าฉินหลั่งหนีไป เขาก็จะมีเหตุผลที่จะผลักเกาเฉียงมาให้ตน ฉินหลั่งเลยจำเป็นมากับซุนเยว่
“ฉันขอโทษ แม่ของฉันก็เป็นคนแบบนี้ … ” ซุนเยว่เสียใจมากกับคำพูดที่แรงเกินไป ที่แม่ของเธอพูดที่บ้าน
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ใส่ใจ” ฉินหลั่งยิ้มจาง ๆ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนใจร้าย แต่ฉินหลั่งเคยเจอกับการวิ่งมากพอในอดีต มันทำให้ภูมิคุ้มกันของเขาเองก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
“ขอบคุณ … ” ซุนเยว่รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ สายตาของเธอพึมพำอย่างว่างเปล่า “ฉันไม่รู้ว่าบ้านของพี่เขยอยู่หลังไหน”
“ตามฉันมา” ฉินหลั่งยิ้มอย่างเฉยเมย และเดินไปที่บ้านพักของเขาก่อน จากนั้นซุนเยว่ก็เดินตามไปด้วยความสับสน
“ติ๊งต่อง”เสียงออดดังขึ้น และซุนจิงก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที
“ซุนเยว่ ฉินหลั่ง พวกเธอมาแล้วเหรอ” ซุนจิงเปิดประตู มันคือพวกเขาจริงๆด้วย ซุนเยว่มองกลับไปที่ฉินหลั่ง เธอไม่เข้าใจว่าฉินหลั่งรู้จักบ้านของพี่เขยได้อย่างไร ซุนจิงเชิญให้พวกเขาเข้ามาในบ้าน
“ฮึ่ม ฉันคิดว่าเธอจะมีสปิริตซะอีก ถ้าเธอไม่มาที่นี่ ฉันก็ยังชื่นชมความเป็นลูกผู้ชายของเธอ ฉันไม่คิดว่าเธอยังตามมาอีก หน้าด้านจริงๆ” เมื่อเห็นฉินหลั่งตามซุนเยว่เข้ามา แม่ซุนก็พูดอย่างเย็นชา
ซุนเยว่กลัวว่าฉินหลั่งจะโกรธ โชคดีที่ได้เห็นหน้าของเขาค่อนข้างสงบและซุนเยว่จึงไม่ได้โต้ตอบ เธอดึงฉินหลั่งเพื่อหลีกเลี่ยงแม่ของเขา โดยจงใจเดินไปรอบ ๆ ในห้องนั่งเล่น แต่ไม่ใกล้กับโซฟาที่แม่และคนอื่น ๆ นั่งอยู่ เมื่อเห็นเช่นนี้แม่ซุนก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา
“ใช่แล้ว เส่นเอ๋อ ครั้งที่แล้วแก้ปัญหาในครอบครัวกันยังไง ทำฉันกังวลแทบตาย” แม่ซุนไม่สนใจฉินหลั่งชั่วขณะ แล้วหันไปถามส้งเส่นเอ๋อ ครั้งที่ส้งเส่นเอ๋อมีเรื่องกับบริษัทเทียนซีกรุ๊ป ทำให้เกิดการทะเลาะครั้งใหญ่ในครอบครัวขึ้น ตอนที่ทุกคนก็หมดหนทางกับเรื่องนี้ พวกเขาก็บอกว่าได้แก้ไขปัญหาจบแบบเพอร์เฟ็คแล้ว เมื่อแม่ซุนถามลูกสาวคนโตของเธอ เธอก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนถึงตอนนี้ครอบครัวยังกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
“อ๋อ … คราวนั้นได้รับการแก้ไขโดยชายนิรนามคนนึง ได้เชิญประธานสหพันธ์ธุรกิจชื๋อหยินจ้งมาจึงแก้ไขได้” ส้งเส่นเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ชายนิรนาม?” แม่ซุน ซุนจิงและเกาเฉียงเหลือบมองหน้ากัน และพวกเขาก็เงิบ “เธอหมายความว่าครอบครัวของเธอก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร?”
“ใช่” ส้งเส่นเอ๋อยิ้มอย่างเชื่องช้า “แต่อาจไม่เกี่ยวข้องกับพ่อของฉัน เขาอาจจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยจีนหลิงของฉันก็ได้ … ”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนแรกส้งเส่นเอ๋อก็ไม่รู้ จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่ไนท์มาร์เก็ตบนถนนตานเฟิ่ง ตอนที่ถูกหม่าเก๋อจับตัวไป เธอก็ได้รับการช่วยเหลืออีกครั้งโดยชายนิรนาม ส้งเส่นเอ๋อค่อยๆรู้สึกว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอทั้งสองครั้งนี้เป็นคนคนเดียวกัน! คนที่เธอคุ้นเคยก็มีแต่เพื่อนจากมหาวิทยาลัยจีนหลิง ดังนั้นเธอจึงมั่นใจว่า อีกฝ่ายอาจเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยจีนหลิงของเธอเอง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ส้งเส่นเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉินหลั่ง ที่กำลังนั่งคุยกับคุณน้าอยู่ในห้องรับแขก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอเกือบจะคิดว่าฉินหลั่งเป็นนายหนุ่มรวยผู้ลึกลับคนนั้น แต่เมื่อนึกถึงก็น่าขำเลยเกิน
เพียงแค่เห็นฉินหลั่งนั่งอยู่กับน้าของเธอ พูดคุยและหัวเราะกัน ส้งเส่นเอ๋อก็โกรธอย่างอธิบายไม่ถูก
“โอ้ เช่นนี้เองเหรอ” แม่ซุนก็ฟังแบบผ่านๆ เขาตบบนมือของส้งเส่นเอ๋อ “ถ้าแน่ใจว่าเพื่อนคนไหนที่ช่วยเหลือเธอ ต่อไปเธอควรแสดงความขอบคุณต่อเขา และถ้าเหมาะสมก็ลองคบหากันดูได้…..”
“คุณยายกำลังพูดถึงอะไร” ใบหน้าของส้งเส่นเอ๋อแสดงสีหน้าเขินอายแบบหาได้ยาก
“แหม ดูขี้อายสิ ยายกำลังพูดความจริง เธอลองคิดดูนะ คนที่สามารถทำให้หม่าวั่นถังแห่งบริษัทเทียนซีกรุ๊ปก้มหัวได้ ครอบครัวนั้นต้องไม่ธรรมดา เธอควรใส่ใจกับมันมากกว่านี้” แม่ซุนขยับเข้ามาหาส้งเส่นเอ๋อและพูดเสียงต่ำ เมื่อเห็นสีหน้าเขินอายของส้งเส่นเอ๋อแย่ลง ยายของเธอก็หัวเราะเสียงดัง “โอเค โอเค ยายไม่พูดแล้ว…..”
คุณยายและคนอื่น ๆ คุยกันสักพัก และเมื่อเห็นฉินหลั่งและซุนเยว่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา และพูดคุยและหัวเราะเสียงดัง ยายก็โกรธขึ้นมาอีก
“เออใช่ เส่นเอ๋อ คนโกหกนั่นบอกว่าเขามาจากมหาวิทยาลัยจีนหลิงเหมือนกัน เธอเคยได้ยินชื่อคนนี้ในโรงเรียนไหม” คุณยายพูดเสียงดังอย่างตั้งใจเพื่อขัดจังหวะฉินหลั่งและซุนเยว่
“เขา … “ ส้งเส่นเอ๋ออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉินหลั่ง และพบว่าเขากำลังมองดูตัวเองอยู่ เห็นฉินหลั่งนั่งอยู่ด้วยกันกับน้าของเธอ และดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี หัวใจของส้งเส่นเอ๋ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย เธอพึงพำอย่างเฉยชาออกมา
“หนูจำเขาได้แน่นอนค่ะ เคยเจอเขาครั้งหนึ่งตอนไปทำธุรกรรมกับพ่อที่ธนาคารซิตี้แบงก์ เขาไม่มีบัตรด้วยซ้ำ แต่เขาก็แซงเราเข้าไปและชนหัวหนูอย่างไม่ใส่ใจ คน ๆ นี้ขี้โม้มาก เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับครอบครัวของหนู เขาแกล้งบอกว่าครอบครัวของเราจะไม่มีปัญหา แต่เขาไม่ทำอะไรเลย สัปดาห์ที่แล้ว หนูกับเพื่อนสนิทไปชอปปิ้งที่ตลาดกลางคืนบนถนนตานเฟิ่ง แฟนของเพื่อนขอให้เขาปกป้องเรา แต่เมื่อเราเจออันตราย ผู้ชายคนนี้วิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายซะอีก และหลังจากนั้นเขาก็ไม่แสดงความขอโทษหรือเป็นห่วง ไม่มีอะไรสักอย่าง … ”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset